นั่งคุยกัน

1828 Words
“มีแฟนหรือยัง” สองมือโอบรอบต้นคอของเด็กหนุ่มไม่ห่างไปไหนเพื่อเป็นหลักให้เธอนั้นยืนเต้นตามจังหวะเพลงไปได้ ด้วยสองขาของเธอยืนเองแทบจะไม่ไหวแล้วคงเป็นเพราะพวกแก้วเล็กๆ นั้นมันออกฤทธิ์แล้วพาลให้แข้งขาอ่อนแรงไปหมด ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบบจัดเต็มซบลงไปกับแผงอกกว้างของเด็กหนุ่มที่เธอเพิ่งจะรู้จักไม่ห่างไปไหน เพราะเนื้อหนังของเด็กหนุ่มมันช่างหอมหวนชวนให้คลอเคลียได้ตลอดเวลา และด้วยความไปใกล้ชิดเขามากจนดูจะเกินคู่เต้นทั่วไปนั้นทำให้เธอจำต้องระวังตัวเอาไว้ให้มาก เพราะถ้าเกิดเขามีเจ้าของอยู่แล้วเธอจะซวยเอาได้ ถึงเธอจะเก่งกล้าสามารถลากเข้ามาเต้นได้ถึงตรงนี้ แต่เธอก็ไม่เก่งพอจะไปตบแย่งเขากับใครหรอกนะ เธอไม่ถนัดงานต่อสู้อะไรแบบนั้น หลีกเลี่ยงได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยง “อะไรนะครับ” ใบหล่อเหลาและแสนจะเกลี้ยงเกลาราวตูดเด็กของเด็กหนุ่มนั้นโน้มลงมาหาหญิงสาวที่กำลังนัวเนียอยู่กับอกของเขา เมื่อหูของเขานั้นได้ยินสิ่งที่เธอพูดไม่ถนัดนัก พร้อมกันนั้นก็พยายามใช้สองมือดันร่างของหญิงสาวที่เขาไม่รู้จักเธอเลยแม้แต่น้อยให้ออกห่างจากตัวเขาสักนิด ไม่ใช่มาทำตัวรุ่มร่ามกับเขาแบบนี้ เขาแค่ต้องการมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ไม่ได้จะต้องการมาเจอกับอะไรแบบนี้ “อืม หอมจัง” พราวมุกเงยหน้าขึ้นไปพอดีกับที่เด็กหนุ่มนั้นก้มหน้าลงมา เธอก็เลยเขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อเสริมความสูงให้กับตัวเธอเอง แล้วเธอก็หอมแก้มเขาฟอดใหญ่ กลางฟอร์เต้นรำตรงนั้นที่มีกลุ่มคนยืนอยู่กันมากมายจนนับไม่ถ้วนนั้น พร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มแทบจะเป็นน้ำเชื่อมไปหาเขา หวังให้เขาหอมแก้มตอบกลับสักฟอดให้ได้ชื่นใจ “ทำไมต้องทำหน้าดุแบบนั้นด้วย แค่หอมแก้มเอง” แต่เด็กหนุ่มนั้นกลับตอบกลับเธอด้วยแววตาที่แสนดุราวกับจะจับเธอตีก้นลงโทษเสียกลางฟอร์ตรงนั้น ทำเอาเธอนั้นต้องรีบซบหน้ากลับสายตาดุๆ ของเขาลงกับอกของเขาในทันที ด้วยความหวาดกลัวเล็กๆ ที่สร้างขึ้นมาเองเพื่อหวังว่าตัวเธอเองจะได้ดูน่ารักขึ้นมาอีกนิด “ขอโทษด้วยครับ” สองมือหนาของสกายนั้นผลักเบาๆ ไปที่ร่างบอบบางของหญิงสาวตรงหน้าจนตัวเธอนั้นหลุดห่างออกไปจากตัวเขา แล้วเขาก็รีบกลับหลังหันเดินหนีเธอออกมาในทันที ไม่ได้หันกลับไปมองเธออีกว่าเธอจะทำอะไรต่อที่ตรงกลางลานเต้นตรงนั้น “เราไปคุยกันข้างบนก่อนไหม ไปนะ” พราวมุกเดินตามเด็กหนุ่มที่เธอหมายตาเอาไว้แล้วในคืนนี้ไปอย่างรวดเร็วจนแทบจะตกส้นสูงที่ใส่อยู่ลงมาตาย เธอเข้าไปดักหน้าเขาเอาไว้ทันเพราะถูกชนจากด้านหลังจะถลามาด้านหน้าพอดิบพอดี บวกกับเมาจนขาพันกันก็เลยทำให้ถลามาได้ไกลมากพอสมควร เธอกางปืนด้วยสองแขนอย่างกว้างจนเกาะอกที่เกาะอยู่บนหน้าอกคัพเอของเธอแทบจะล่วงลงไปกองอยู่ที่เอวเพื่อดักหน้าเขาเอาไว้ไม่ให้เขาเดินต่อไป “ถ้าพี่เมาแล้วเดี๋ยวผมไปส่งที่โต๊ะ” สกายเดินหลีกหญิงสาวไปทางอื่น ด้วยเขานั้นตั้งใจมาเที่ยวเพื่อดื่มสักแก้วสองแก้ว ไม่ใช่มาเพื่อหวังได้ผู้หญิงกลับไป เพราะเขายังต้องเรียนหนังสืออีกสองเดือนถึงจะจบ เขาไม่อยากมีพันธะอะไรทำนองชู้สาวแบบนั้นกับใคร อีกอย่างผู้หญิงตรงหน้าอายุมากเกินไปไม่ใช่สเปคของเขา เขานั้นชอบคนที่มีอายุใกล้เคียงกันและต้องไม่ใช่สาวเอเชีย “ใครเมา ไม่เมาหรอก” พราวมุกไม่ลดละความพยายามของเธอลง เธอลากเขาไปขึ้นบันไดไปหาเพื่อนๆ ของเธอที่อยู่ตรงชั้นสองจนได้ แต่ทว่าเธอนั้นขึ้นบันไดไม่ไหว พอก้าวไปได้ขึ้นหนึ่งเธอก็เซตกลง และไหนยังจะต้องลากเขาอีกเธอก็ยิ่งไม่ไหวเข้าไปใหญ่ เธอทำได้แค่ฉุดกระชากเขาอยู่ตรงหน้าบันไดขั้นแรกตรงนั้น โดยไม่ยอมปล่อยให้เขาไปไหน “โต๊ะอยู่ตรงไหนครับ” สกายจำใจต้องพาหญิงสาวขึ้นบันไดไปตามที่เธอต้องการเพื่อหวังว่าเธอจะได้กลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองและเลิกยุ่งกับเขา เขาไม่อยากจะทำอะไรที่มันรุนแรงลงไป เพราะที่เมืองไทยนี่เขายังคงดูเด็กสำหรับการใช้อำนาจที่มีอยู่อย่างล้นมือ ก็เลยจำต้องจำใจทำหลายอย่างเพื่อให้จบเรื่องของผู้หญิงคนนี้โดยที่ไม่ต้องทำให้เรื่องมันใหญ่โต “นั้นไง มีเพื่อนนั่งอยู่ตรงนั้น” พราวมุกเดินขึ้นบันไดไปได้ขั้นหนึ่งก็ถอยหลังกลับไปอีกหนึ่งขั้นวนอยู่แบบนั้น แต่โชคดีที่มีเด็กหนุ่มเนื้อแน่นทั้งตัวนั้นรองรับอยู่ตรงด้านหลัง มีเขาช่วยดันเธอเลยขึ้นบันไดมาถึงชั้นสองได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงตกบันไดตายไปแล้วถ้าไม่มีเขาคอยช่วยเหลือ “พราว” เพื่อนทั้งสองของพราวมุกรีบควักมือเรียกพราวมุกให้กลับมาที่โต๊ะ ด้วยตอนนี้เหตุการณ์ที่โต๊ะมันไม่ค่อยจะปกติแล้ว เพราะกชมนและญาณีไม่ได้นั่งกันอยู่สองคนอีกต่อไปแล้ว เธอทั้งสองมีสามีมานั่งเฝ้าเอาไว้ “นี่พี่รุ้ง และนี่สามีของพี่รุ้ง และนี่ก็พี่จูน นี่ๆ คนนี้สามีพี่จูน ทำความรู้จักกันไว้ซิ” พราวมุกพอตั้งตัวยืนบนพื้นของชั้นสองได้ก็รีบลากเด็กหนุ่มที่เธอรู้จักในชื่อของฟ้าไปที่โต๊ะ เธอจัดการแนะนำทุกคนที่โต๊ะที่เธอพอจะจำหน้าได้จากจิตสำนึกของเธอให้เขานั้นได้รู้จัก “กลับบ้านกันเถอะยัยพราว อยู่ไม่ได้แล้ว” กชมนและญาณีรีบลุกขึ้นไปหาเพื่อนอย่างพราวมุกพร้อมทั้งกระซิบกระซาบให้อีกฝ่ายเบาๆ ไฟร่านในตัวลงหน่อยเพื่อเธอสองคน เพราะตอนนี้สามีของเธอทั้งสองนั้นมานั่งร่วมโต๊ะอยู่ในตอนนี้ด้วย ถ้าเกิดเห็นว่าพราวมุกทำอะไรแบบนี้ลงไปแล้วละก็ครั้งหน้าคงไม่มีการนัดรวมตัวแบบนี้แน่นอน “ฉันยังสนุกอยู่เลยนะ พวกแกอยากกลับก็กลับไปก่อนได้เลย” พราวมุกหันไปซบตาหวานกับเด็กหนุ่มที่เธอลากมาที่โต๊ะด้วย ไม่ได้สนใจเพื่อนทั้งสองในตอนนี้แม้แต่นิดเดียว “แล้วแกจะอยู่ยังไง” ทั้งกชมนและญาณีต่างรู้ดีว่าพราวมุกนั้นเมามากแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปลากใครกลับโต๊ะมาแบบนี้หรอก ปกติพราวมุกเป็นสาวนักล่าก็จริง แต่ไม่เคยลากใครกลับมา มีแต่ทอดสะพานให้เขาเดินมาหาเอง นี่คงเป็นเพราะพวกเหล้าผสมแก้วเล็กๆ นั้นมันออกฤทธิ์อย่างแน่นอน และแบบนี้เธอทั้งสองจะทิ้งเพื่อนไปได้ยังไง เพื่อนเธอต้องไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอนถ้าต้องอยู่คนเดียว “ฉันอยู่กับน้องเขาได้ ใช่ไหมฟ้า” พราวมุกสลัดเพื่อนของเธอทิ้งแล้วโผเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่เธอลากมา ซบหน้าลงกับอกเขา แนบชิดเขาประหนึ่งว่ารู้จักกันมาแรมปี “ฝากด้วยนะสกาย พาเพื่อนพี่กลับบ้านด้วย” แซมหรือภวัตผู้เป็นสามีของกชมนลุกขึ้นเดินไปหาภรรยาของตนเองพร้อมกันนั้นก็หันไปพูดกับเด็กหนุ่มที่เขานั้นพอจะรู้จักอยู่บ้างเพราะเป็นคนวงการเดียวกัน แล้วก็ลากภรรยาตัวแสบที่กล้าหนีเขากับลูกมานั่งเหล่เด็กหนุ่มในผับกลับบ้านไป ส่วนญาณีนั้นก็ถูกสามีของเธอลากกลับบ้านไปด้วยเช่นกันด้วยข้อหาเดียวกันกับกชมน จบงานการเลี้ยงฉลองวันเกิดไปอย่างรวบรัดและก็ไม่มีใครกล้าขัดเพราะกลัวว่าครั้งหน้าอาจจะไม่ได้ออกมาเที่ยวกันตามประสาสาวๆ อีก “ครับ” สกายจำต้องรับปากรุ่นพี่ของเขานั้นออกไป เพราะเขาเป็นเด็กสุดในวงการเจ้าของพวกผับบาร์ที่เปิดตอนกลางคืน มีอะไรที่รุ่นพี่ขอให้ทำมาก็จำต้องยอมตามนั้นไปก่อน “บายนะ” พราวมุกโบกมือลาเพื่อนๆ ของเธอด้วยรอยยิ้มที่ออกจะมีความสุขเกินหน้าเกินตาไปมาก และก็ยังคงซบอกของเด็กหนุ่มไม่ห่าง ด้วยสองขาของเธอนั้นยืนเองแทบไม่ไหวก็จำต้องหาหลักพักพิงไป “เดี๋ยวผมให้เพื่อนผู้หญิงมาพาพี่ลงไปข้างล่าง จะได้กลับบ้านกัน” พอทุกคนเดินลับสายตาไปแล้ว สกายก็หาทางสลัดหญิงสาวเจ้าปัญหาทิ้งไป ด้วยเขาไม่อยากมาเสียเวลากับเธออีกต่อไป เขาอยากจะไปสนุกกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันมากกว่า “ผับยังไม่ปิดเลยจะรีบกลับไปไหน นั่งคุยกันก่อนซิ” หญิงสาวในชุดล่อแหลมแทบจะเห็นไปทั้งตัวนั้นยังคงใช้แรงที่มีอยู่อย่างน้อยนิดเข้าไปฉุดกระชากลากถูเด็กหนุ่มให้ลงไปนั่งที่โต๊ะของเธอ และเธอก็รีบกระโดดขึ้นไปนั่งบนตักของเขาอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ปฏิเสธออะไรออกมา “อืม ชั้นบนมีห้องว่างอยู่นะ สนใจไปต่อไหม” เธอเป็นฝ่ายส่งริมฝีปากบางเข้าไปประกบริมฝีปากหนาของเขาก่อนอย่างไม่อาย ดูดดื่มความหวานของเด็กหนุ่มอย่างช้าๆ เพื่อสัมผัสรสชาติของเขา ก่อนจะขยับมาดูดตรงต้นขอของเขาเบาๆ เพื่อประกาศไปเลยว่าเธอต้องการอะไร “พอเถอะครับ” สกายนั่งนิ่งเป็นท่อนไม้อยู่สักพักแล้วก็ผลักหญิงสาวให้ขยับตัวออกไป “เดี๋ยวพี่จ่ายค่าห้องเอง อืม” พราวมุกยังคงทำตัวติดหนึบกับเขาไม่ยอมไปไหนแม้จะถูกผลักอยู่หลายครั้ง และเธอก็ส่งมือบางเข้าไปในกางเกงของเขาเพื่อจับเขามัดมือแล้วขึ้นชกในคืนนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD