“มีแฟนหรือยัง”
สองมือโอบรอบต้นคอของเด็กหนุ่มไม่ห่างไปไหนเพื่อเป็นหลักให้เธอนั้นยืนเต้นตามจังหวะเพลงไปได้ ด้วยสองขาของเธอยืนเองแทบจะไม่ไหวแล้วคงเป็นเพราะพวกแก้วเล็กๆ นั้นมันออกฤทธิ์แล้วพาลให้แข้งขาอ่อนแรงไปหมด
ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบบจัดเต็มซบลงไปกับแผงอกกว้างของเด็กหนุ่มที่เธอเพิ่งจะรู้จักไม่ห่างไปไหน เพราะเนื้อหนังของเด็กหนุ่มมันช่างหอมหวนชวนให้คลอเคลียได้ตลอดเวลา
และด้วยความไปใกล้ชิดเขามากจนดูจะเกินคู่เต้นทั่วไปนั้นทำให้เธอจำต้องระวังตัวเอาไว้ให้มาก เพราะถ้าเกิดเขามีเจ้าของอยู่แล้วเธอจะซวยเอาได้
ถึงเธอจะเก่งกล้าสามารถลากเข้ามาเต้นได้ถึงตรงนี้ แต่เธอก็ไม่เก่งพอจะไปตบแย่งเขากับใครหรอกนะ เธอไม่ถนัดงานต่อสู้อะไรแบบนั้น หลีกเลี่ยงได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยง
“อะไรนะครับ”
ใบหล่อเหลาและแสนจะเกลี้ยงเกลาราวตูดเด็กของเด็กหนุ่มนั้นโน้มลงมาหาหญิงสาวที่กำลังนัวเนียอยู่กับอกของเขา เมื่อหูของเขานั้นได้ยินสิ่งที่เธอพูดไม่ถนัดนัก
พร้อมกันนั้นก็พยายามใช้สองมือดันร่างของหญิงสาวที่เขาไม่รู้จักเธอเลยแม้แต่น้อยให้ออกห่างจากตัวเขาสักนิด ไม่ใช่มาทำตัวรุ่มร่ามกับเขาแบบนี้
เขาแค่ต้องการมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ไม่ได้จะต้องการมาเจอกับอะไรแบบนี้
“อืม หอมจัง”
พราวมุกเงยหน้าขึ้นไปพอดีกับที่เด็กหนุ่มนั้นก้มหน้าลงมา เธอก็เลยเขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อเสริมความสูงให้กับตัวเธอเอง
แล้วเธอก็หอมแก้มเขาฟอดใหญ่ กลางฟอร์เต้นรำตรงนั้นที่มีกลุ่มคนยืนอยู่กันมากมายจนนับไม่ถ้วนนั้น
พร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มแทบจะเป็นน้ำเชื่อมไปหาเขา หวังให้เขาหอมแก้มตอบกลับสักฟอดให้ได้ชื่นใจ
“ทำไมต้องทำหน้าดุแบบนั้นด้วย แค่หอมแก้มเอง”
แต่เด็กหนุ่มนั้นกลับตอบกลับเธอด้วยแววตาที่แสนดุราวกับจะจับเธอตีก้นลงโทษเสียกลางฟอร์ตรงนั้น
ทำเอาเธอนั้นต้องรีบซบหน้ากลับสายตาดุๆ ของเขาลงกับอกของเขาในทันที ด้วยความหวาดกลัวเล็กๆ ที่สร้างขึ้นมาเองเพื่อหวังว่าตัวเธอเองจะได้ดูน่ารักขึ้นมาอีกนิด
“ขอโทษด้วยครับ”
สองมือหนาของสกายนั้นผลักเบาๆ ไปที่ร่างบอบบางของหญิงสาวตรงหน้าจนตัวเธอนั้นหลุดห่างออกไปจากตัวเขา
แล้วเขาก็รีบกลับหลังหันเดินหนีเธอออกมาในทันที ไม่ได้หันกลับไปมองเธออีกว่าเธอจะทำอะไรต่อที่ตรงกลางลานเต้นตรงนั้น
“เราไปคุยกันข้างบนก่อนไหม ไปนะ”
พราวมุกเดินตามเด็กหนุ่มที่เธอหมายตาเอาไว้แล้วในคืนนี้ไปอย่างรวดเร็วจนแทบจะตกส้นสูงที่ใส่อยู่ลงมาตาย
เธอเข้าไปดักหน้าเขาเอาไว้ทันเพราะถูกชนจากด้านหลังจะถลามาด้านหน้าพอดิบพอดี บวกกับเมาจนขาพันกันก็เลยทำให้ถลามาได้ไกลมากพอสมควร
เธอกางปืนด้วยสองแขนอย่างกว้างจนเกาะอกที่เกาะอยู่บนหน้าอกคัพเอของเธอแทบจะล่วงลงไปกองอยู่ที่เอวเพื่อดักหน้าเขาเอาไว้ไม่ให้เขาเดินต่อไป
“ถ้าพี่เมาแล้วเดี๋ยวผมไปส่งที่โต๊ะ”
สกายเดินหลีกหญิงสาวไปทางอื่น ด้วยเขานั้นตั้งใจมาเที่ยวเพื่อดื่มสักแก้วสองแก้ว ไม่ใช่มาเพื่อหวังได้ผู้หญิงกลับไป เพราะเขายังต้องเรียนหนังสืออีกสองเดือนถึงจะจบ เขาไม่อยากมีพันธะอะไรทำนองชู้สาวแบบนั้นกับใคร
อีกอย่างผู้หญิงตรงหน้าอายุมากเกินไปไม่ใช่สเปคของเขา เขานั้นชอบคนที่มีอายุใกล้เคียงกันและต้องไม่ใช่สาวเอเชีย
“ใครเมา ไม่เมาหรอก”
พราวมุกไม่ลดละความพยายามของเธอลง เธอลากเขาไปขึ้นบันไดไปหาเพื่อนๆ ของเธอที่อยู่ตรงชั้นสองจนได้
แต่ทว่าเธอนั้นขึ้นบันไดไม่ไหว พอก้าวไปได้ขึ้นหนึ่งเธอก็เซตกลง และไหนยังจะต้องลากเขาอีกเธอก็ยิ่งไม่ไหวเข้าไปใหญ่
เธอทำได้แค่ฉุดกระชากเขาอยู่ตรงหน้าบันไดขั้นแรกตรงนั้น โดยไม่ยอมปล่อยให้เขาไปไหน
“โต๊ะอยู่ตรงไหนครับ”
สกายจำใจต้องพาหญิงสาวขึ้นบันไดไปตามที่เธอต้องการเพื่อหวังว่าเธอจะได้กลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองและเลิกยุ่งกับเขา
เขาไม่อยากจะทำอะไรที่มันรุนแรงลงไป เพราะที่เมืองไทยนี่เขายังคงดูเด็กสำหรับการใช้อำนาจที่มีอยู่อย่างล้นมือ
ก็เลยจำต้องจำใจทำหลายอย่างเพื่อให้จบเรื่องของผู้หญิงคนนี้โดยที่ไม่ต้องทำให้เรื่องมันใหญ่โต
“นั้นไง มีเพื่อนนั่งอยู่ตรงนั้น”
พราวมุกเดินขึ้นบันไดไปได้ขั้นหนึ่งก็ถอยหลังกลับไปอีกหนึ่งขั้นวนอยู่แบบนั้น แต่โชคดีที่มีเด็กหนุ่มเนื้อแน่นทั้งตัวนั้นรองรับอยู่ตรงด้านหลัง
มีเขาช่วยดันเธอเลยขึ้นบันไดมาถึงชั้นสองได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงตกบันไดตายไปแล้วถ้าไม่มีเขาคอยช่วยเหลือ
“พราว”
เพื่อนทั้งสองของพราวมุกรีบควักมือเรียกพราวมุกให้กลับมาที่โต๊ะ ด้วยตอนนี้เหตุการณ์ที่โต๊ะมันไม่ค่อยจะปกติแล้ว
เพราะกชมนและญาณีไม่ได้นั่งกันอยู่สองคนอีกต่อไปแล้ว เธอทั้งสองมีสามีมานั่งเฝ้าเอาไว้
“นี่พี่รุ้ง และนี่สามีของพี่รุ้ง และนี่ก็พี่จูน นี่ๆ คนนี้สามีพี่จูน ทำความรู้จักกันไว้ซิ”
พราวมุกพอตั้งตัวยืนบนพื้นของชั้นสองได้ก็รีบลากเด็กหนุ่มที่เธอรู้จักในชื่อของฟ้าไปที่โต๊ะ
เธอจัดการแนะนำทุกคนที่โต๊ะที่เธอพอจะจำหน้าได้จากจิตสำนึกของเธอให้เขานั้นได้รู้จัก
“กลับบ้านกันเถอะยัยพราว อยู่ไม่ได้แล้ว”
กชมนและญาณีรีบลุกขึ้นไปหาเพื่อนอย่างพราวมุกพร้อมทั้งกระซิบกระซาบให้อีกฝ่ายเบาๆ ไฟร่านในตัวลงหน่อยเพื่อเธอสองคน
เพราะตอนนี้สามีของเธอทั้งสองนั้นมานั่งร่วมโต๊ะอยู่ในตอนนี้ด้วย ถ้าเกิดเห็นว่าพราวมุกทำอะไรแบบนี้ลงไปแล้วละก็ครั้งหน้าคงไม่มีการนัดรวมตัวแบบนี้แน่นอน
“ฉันยังสนุกอยู่เลยนะ พวกแกอยากกลับก็กลับไปก่อนได้เลย”
พราวมุกหันไปซบตาหวานกับเด็กหนุ่มที่เธอลากมาที่โต๊ะด้วย ไม่ได้สนใจเพื่อนทั้งสองในตอนนี้แม้แต่นิดเดียว
“แล้วแกจะอยู่ยังไง”
ทั้งกชมนและญาณีต่างรู้ดีว่าพราวมุกนั้นเมามากแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปลากใครกลับโต๊ะมาแบบนี้หรอก
ปกติพราวมุกเป็นสาวนักล่าก็จริง แต่ไม่เคยลากใครกลับมา มีแต่ทอดสะพานให้เขาเดินมาหาเอง นี่คงเป็นเพราะพวกเหล้าผสมแก้วเล็กๆ นั้นมันออกฤทธิ์อย่างแน่นอน
และแบบนี้เธอทั้งสองจะทิ้งเพื่อนไปได้ยังไง เพื่อนเธอต้องไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอนถ้าต้องอยู่คนเดียว
“ฉันอยู่กับน้องเขาได้ ใช่ไหมฟ้า”
พราวมุกสลัดเพื่อนของเธอทิ้งแล้วโผเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่เธอลากมา
ซบหน้าลงกับอกเขา แนบชิดเขาประหนึ่งว่ารู้จักกันมาแรมปี
“ฝากด้วยนะสกาย พาเพื่อนพี่กลับบ้านด้วย”
แซมหรือภวัตผู้เป็นสามีของกชมนลุกขึ้นเดินไปหาภรรยาของตนเองพร้อมกันนั้นก็หันไปพูดกับเด็กหนุ่มที่เขานั้นพอจะรู้จักอยู่บ้างเพราะเป็นคนวงการเดียวกัน
แล้วก็ลากภรรยาตัวแสบที่กล้าหนีเขากับลูกมานั่งเหล่เด็กหนุ่มในผับกลับบ้านไป
ส่วนญาณีนั้นก็ถูกสามีของเธอลากกลับบ้านไปด้วยเช่นกันด้วยข้อหาเดียวกันกับกชมน
จบงานการเลี้ยงฉลองวันเกิดไปอย่างรวบรัดและก็ไม่มีใครกล้าขัดเพราะกลัวว่าครั้งหน้าอาจจะไม่ได้ออกมาเที่ยวกันตามประสาสาวๆ อีก
“ครับ”
สกายจำต้องรับปากรุ่นพี่ของเขานั้นออกไป เพราะเขาเป็นเด็กสุดในวงการเจ้าของพวกผับบาร์ที่เปิดตอนกลางคืน มีอะไรที่รุ่นพี่ขอให้ทำมาก็จำต้องยอมตามนั้นไปก่อน
“บายนะ”
พราวมุกโบกมือลาเพื่อนๆ ของเธอด้วยรอยยิ้มที่ออกจะมีความสุขเกินหน้าเกินตาไปมาก
และก็ยังคงซบอกของเด็กหนุ่มไม่ห่าง ด้วยสองขาของเธอนั้นยืนเองแทบไม่ไหวก็จำต้องหาหลักพักพิงไป
“เดี๋ยวผมให้เพื่อนผู้หญิงมาพาพี่ลงไปข้างล่าง จะได้กลับบ้านกัน”
พอทุกคนเดินลับสายตาไปแล้ว สกายก็หาทางสลัดหญิงสาวเจ้าปัญหาทิ้งไป
ด้วยเขาไม่อยากมาเสียเวลากับเธออีกต่อไป เขาอยากจะไปสนุกกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันมากกว่า
“ผับยังไม่ปิดเลยจะรีบกลับไปไหน นั่งคุยกันก่อนซิ”
หญิงสาวในชุดล่อแหลมแทบจะเห็นไปทั้งตัวนั้นยังคงใช้แรงที่มีอยู่อย่างน้อยนิดเข้าไปฉุดกระชากลากถูเด็กหนุ่มให้ลงไปนั่งที่โต๊ะของเธอ
และเธอก็รีบกระโดดขึ้นไปนั่งบนตักของเขาอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ปฏิเสธออะไรออกมา
“อืม ชั้นบนมีห้องว่างอยู่นะ สนใจไปต่อไหม”
เธอเป็นฝ่ายส่งริมฝีปากบางเข้าไปประกบริมฝีปากหนาของเขาก่อนอย่างไม่อาย
ดูดดื่มความหวานของเด็กหนุ่มอย่างช้าๆ เพื่อสัมผัสรสชาติของเขา
ก่อนจะขยับมาดูดตรงต้นขอของเขาเบาๆ เพื่อประกาศไปเลยว่าเธอต้องการอะไร
“พอเถอะครับ”
สกายนั่งนิ่งเป็นท่อนไม้อยู่สักพักแล้วก็ผลักหญิงสาวให้ขยับตัวออกไป
“เดี๋ยวพี่จ่ายค่าห้องเอง อืม”
พราวมุกยังคงทำตัวติดหนึบกับเขาไม่ยอมไปไหนแม้จะถูกผลักอยู่หลายครั้ง
และเธอก็ส่งมือบางเข้าไปในกางเกงของเขาเพื่อจับเขามัดมือแล้วขึ้นชกในคืนนี้