ตอนที่ 4

1512 Words
ตอนที่ 4 “ข้อหนึ่งไปทานอาหารกับผมหรือเปล่า และสอง...พูดกับผมเพราะๆ ด้วย ไม่เช่นนั้นทุกอย่างเป็นโมฆะ” “ไป....ไปแล้ว....ฉันไปทานอาหารกับนายแล้ว...ค่ะ” ไม่ได้อยากยอมแพ้ แต่สัมผัสของภีมะทำให้เธอหมดเรี่ยวแรง ไหนจะรู้สึกแปลกๆ เวลาที่อีกฝ่ายไล้ฝ่ามือไปบนร่างกาย ใบหน้าขาวสวยแดงระเรื่อ ดวงตากลมโตแวววาวเป็นประกายมองชายหนุ่มอย่างวิงวอนโดยไม่รู้ตัว ภีมะยิ้มกว้าง เมื่อได้รับคำตอบที่พอใจ ตอนนี้เพียงแค่นี้ก่อน เพราะยังมีเวลาให้เขาจัดการกับโรสรินทร์อีกเยอะแยะ ถ้ารีบมากไปเดี๋ยวก็ไม่อร่อยกันพอดี ค่อยๆ ตะล่อมล้อมไก่ให้ติดอยู่ในเล้าสนุกกว่ากันเยอะ “โอเค งั้นก็ไปกันได้เลยครับ” “นายจะให้ฉันไปทั้งสภาพแบบนี้เลยหรือไง” โรสรินทร์กระแทกเสียงถามด้วยความกระดากอายระคนโกรธ ในขณะที่เธอเกือบจะเปลือยเปล่า แต่ชายหนุ่มกลับมีเครื่องแต่งกายครบ ร่างกายทุกส่วนของเธอ ถูกเขามองและแตะต้องจนเกือบจะหมดแล้ว นี่ถ้าใครรู้เข้า เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน อยู่ดีไม่ว่าวิ่งแร่มาให้เขาเห็นเป็นของเล่น “ผมคงคิดผิดอย่างมหันต์ ถ้าสั่งอาหารมาทานกันในห้องนี้” ชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงยิ้มๆ ขณะกวาดสายตามองกายโปร่งบางอย่างมีความหมาย “มีทั้งอาหารตาและขนมหวานให้กินโดยไม่มีเบื่อ” “บะ...บ้าแล้ว นายรีบถอยไปเลยนะ ฉันจะแต่งตัว” ขืนอยู่อย่างนี้ เผลอๆ อีตาภีมะบ้าก็หาเรื่องลากเธอขึ้นเขียงเอานะซิ แค่นี้ก็รับมือแทบไม่ไหวอยู่แล้ว “ในเมื่อผมเป็นคนถอด ไงก็ต้องเป็นคนใส่คืนซินะ” “มะ...ไม่ต้อง ฉันจัดการเองได้” ขืนให้อีตาภีมะบ้านี่ทำให้ มีหวังไม่ต้องออกจากห้องนี้กัน “ไม่น่าเชื่อ คุณหนูโรสผู้เก่งกล้าจะกลัว ว่าแต่...คิดช้าไปหรือเปล่า” “ฮึ! ใครว่าฉันกลัว แค่รำคาญไอ้ขี้หลีมันก็เท่านั้น แล้วเมื่อไหร่จะถอยไปสักที น่าเบื่อจริงๆ ไอ้คนพูดไม่รู้เรื่องนี่” ภีมะหัวเราะกลั้วคอ รีบลุกเดินไปเก็บเสื้อผ้าที่เขาเหวี่ยงทิ้งมาสวมใส่ให้สาวเจ้าจนเรียบร้อย ก่อนจะโอบประคองหญิงสาวที่ยังมีอาการขัดขืนไปยังห้องอาหารส่วนตัวที่เขาจะสามารถทำอะไรกับโรสรินทร์ก็ได้ดังใจต้องการ ภีมะรู้ว่าโรสรินทร์ต้องไม่ยอมนั่งรับประทานอาหารด้วยง่ายๆ แน่นอน หญิงสาวจะต้องหาเรื่องกลั่นแกล้งและเอาคืนที่เขาล่วงเกินไปเมื่อครู่ ดังนั้นชายหนุ่มจึงดักทางด้วยการดึงเธอมานั่งบนตัก โดยมีแขนแกร่งโอบรัดกายบางเอาไว้ไม่ยอมปล่อย “ปล่อยฉันนะไอ้บ้า แกจะมาจับฉันไว้แบบนี้ทำไมห๊า...” โรสรินทร์ด่าแว๊ดๆ ทว่ายิ่งเธอส่งเสียงก่นด่ามากเท่าไหร่ ภีมะก็จะตอบคำถามด้วยการลูบไล้มือไปตามเรือนร่างเนียนและนุ่มมากขึ้นเท่านั้น “โธ่...ก็ผมคิดถึงคุณหนูโรสนี่ครับ” ตอบด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง “ไอ้บ้าอย่างนาย มีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลัง วิ่งไล่ตามอย่างกับแมลงวันตอมขยะเน่าเหม็น กลับมาบอกว่าคิดถึงฉัน ต่อให้อมพระมาพูด ฉันก็ไม่เชื่อหรอกย่ะ” หญิงสาวตอบกลับ มือก็ไม่หยุดทำการประทุษร้ายภีมะ หยิกบ้าง ตีแรงๆ บ้าง ยังมีเท้าที่ร่วมแรงกระทืบลงไปบนเท้าใหญ่อย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่ดูเหมือนสิ่งที่ทำลงไป นอกจากจะไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับไอ้ตัวร้ายแล้ว มันยังสร้างความสำราญให้เขาเสียมากกว่า “จะสาวจะสวยแค่ไหน แต่ไม่มีใครสุดยอดเท่าคุณหนูโรสอีกแล้วล่ะครับ ผมร้อรอวันที่จะได้กอด...จูบ” ปากอุ่นแนบลงบนลำคอระหง ขบกัดแผ่วเบาก่อนเคลื่อบขึ้นไปสอดเรียวลิ้นแหย่ช่องหูนุ่ม จนโรสรินทร์ถึงกับขนลุกซู่ ปั่นป่วนและร่างกายอ่อนแรงอย่างกะทันหัน “หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับคุณหนูจะแย่ เมื่อไหร่คุณหนูจะใจอ่อนยอมเปลื้องผ้าแล้วขึ้นไปยั่วยุ...นอนรอผมบนเตียงล่ะครับ” อ๊าย...ไอ้บ้า ใครมันจะกล้าไปทำอย่างนั้นล่ะยะ “รอให้ฉันเอาเลือดหัวนายออกก่อนซิย่ะ เผื่อจะมีวันที่นายฝันถึง” ภีมะหัวเราะกลั้วคอ “ถือเป็นคำท้าหรือเปล่าครับคุณหนูโรส ผมจะได้รีบจัดการให้เราสองคนรวมเป็นหนึ่งเร็วๆ ” ภีมะส่งมือไปป้วนเปี้ยนแถวสะเอวเล็กคอด ก่อนที่จะเคลื่อนขึ้นไปด้านบนอย่างเชื่องช้า จนถึงดอกบัวอวบอิ่มและเขาก็ไม่รอช้า รีบดันชั้นในขึ้นแล้วส่งมือเข้าไปกอบกุมมันไว้แทน “อุ้ย!! ปล่อยฉันนะไอ้ภีมะ” โรสรินทร์ตกตะลึง เพราะไม่คิดว่าภีมะจะหน้าหนา ถึงขั้นลวนลามเธอต่อหน้าพนักงานที่คอยบริการเสิร์ฟอาหารหวานคาว และรอคอยรอรับคำสั่งจากชายหนุ่มอยู่ไม่ไกลด้วย ภีมะไล้ปลายนิ้วปัดผ่านจะงอยถันที่หดเกร็ง “จะรีบปล่อยทำไมล่ะครับคุณหนูโรส อยู่แบบนี้สบายดีที่สุดแล้วนะครับ” จากจูบแก้มนุ่ม ปากหนาไถลลงไปขบกัดลำคอระหง ขณะมือก็ฟอนเฟ้นเต้าอวบอิ่ม ปลายนิ้วหยอกเย้ากับปลายยอดถัน โรสรินทร์ถึงกับหายใจรอบแรง รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดวงตากลมโตเป็นประกาย ขณะหัวใจก็เต้นแรงเร็ว ซึ่งเธอเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงได้ไม่ยอมขัดขืนสัมผัสของภีมะ แล้วยังอยากที่จะปล่อยตัวปล่อยใจให้กับสัมผัสร้อนๆ นี่อีก “นาย...นายปล่อยฉันก่อนนะนายภีมะ เอ่อ...เอ่อฉันอายนะ” โรสรินทร์รีบหันเหความสนใจของชายหนุ่มจากกายตัวเอง “เอ่อ...ฉันก็เริ่มจะหิวขึ้นมาแล้วเหมือนกัน เรารีบทานอาหารกันดีกว่านะ” หญิงสาวบอกเสียงสั่น กลิ่นหอมของอาหารหวานคาวที่วางอยู่บนโต๊ะ ยั่วความอยาก จนกระเพาะเธอส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าอาย “ก็ได้ครับ” ภีมะตอบตกลง เพราะกลัวว่าถ้าขืนยังใกล้ชิดกับโรสรินทร์อยู่แบบนี้ เขาจะเปลี่ยนรายการอาหารบนโต๊ะ เป็นการกลืนกินหญิงสาวแทนเสียก่อน “แต่คุณหนูโรสต้องให้สัญญากับผมก่อน จะไม่ดื้อและนั่งทานอาหารกับผมดีๆ ตกลงไหมครับ” “อือ...” โรสรินทร์รีบรับคำ พลางจับมือที่ยังไม่ยอมปล่อยปทุมถันออก อีกมือก็ยกขึ้นยันใบหน้าที่ยังคงคลอเคลียบริเวณลำคอ ปลุกอารมณ์บางอย่างที่ทำให้กายของเธอปวดร้าวและป่วนปั่น จนหายใจไม่ทั่วท้อง ภีมะปัดมือเรียวออก ก่อนจับรั้งปลายคางมนเอาไว้ และเคลื่อนใบหน้าไปแนบจุมพิตลงบนปากอิ่ม ปลายลิ้นสากร้อนเกลี่ยไกล่เส้นทาง เพื่อเข้าไปควานหาความหวานนุ่มจากโพรงปากเล็ก มือเขาก็จับร่างโปร่งบางให้หันมารับจุมพิตหวานๆ อย่างถนัดถนี่ ในขณะที่มือก็ยังทำการฟอนเฟ้นยอดอก ก่อนจะยอมปล่อยให้โรสรินทร์ได้นั่งทานอาหารอย่างสงบ ทั้งๆ ที่กายเขาปวดร้าวด้วยความต้องการเป็นยิ่งนัก “จะมานั่งใกล้ๆ กันทำไมนี่ ถอยออกไปหน่อยได้ไหมเล่า” “โธ่...ผมก็แค่อยากนั่งใกล้ๆ ขอให้ได้กลิ่นกายคุณหนูพอชื่นใจหน่อยก็ไม่ได้ ใจดำจัง” ไม่รู้ทำไมคำพูดโอดครวญของภีมะ ถึงได้ทำให้เธอรู้สึกผิด มันไม่ควรเป็นอย่างนี้ซิ...เขากำลังเอาเปรียบ ทำร้ายเธออยู่นะ “อย่าพูดบ้าๆ นะ นายคิดจะเอาความรู้สึกของคนอื่นมาล้อเล่นถึงเมื่อไหร่กัน เราสองคนจะต้องเป็นศัตรูกัน ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมให้นายทำอะไรตามใจตัวเองง่ายๆ หรอกนะ” “ผมชอบที่คุณหนูเป็นอย่างนี้ แม้จะเพลี่ยงพล้ำ แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ ยังต่อสู้จนสุดความสามารถ สุดกำลังที่ตัวเองมี ทำให้คุณหนูมีเสน่ห์ พลังทำให้คุณหนูมีออร่า จนผมอยากใกล้ชิด...ได้ครอบครองเป็นเจ้าของ” ในความเป็นหญิง เธออดที่จะรู้สึกดีไม่ได้ ที่มีคนต้องการ แต่ในความเป็นจริงคือ... “แต่ฉันอยากจะกะซวกนายด้วยช้อนส้อม แทงสองทีแปดรู” “แหม...คุณหนูโรสนี่โหดจริงๆ แต่...ยิ่งโหดยิ่งน่ารักนะครับ” ดวงตาคมมองใบหน้าขาวนวลที่เอ่อแดงระเรื่ออย่างชอบใจ พร้อมกับคิดถึงค่ำคืนที่เขาจะมีหญิงสาวอยู่ใกล้ใต้เรือนกายคอยมอบสัมผัสแสนวิเศษให้ ภีมะถึงกับร้อนรุ่ม อยากเร่งเร้าเวลาให้ถึงยามค่ำคืนเร็วๆ “อ๋อ...ผมมีข้อเสนอให้คุณนะครับ” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD