บทที่1

1116 Words
“อ๊ะๆ อย่ากรีดร้องเหมือนคนไร้สติแบบนั้นสิจ๊ะดาวเพื่อนรัก ภาพลักษณ์ที่อุตส่าห์สร้างมาจะหายหมด จริงๆ แล้วฉันต้องขอบใจเธอด้วยซ้ำนะที่ช่วยพาผู้ชายคนนี้ออกไปจากชีวิตฉัน พากันมาเปิดตัวแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน คนอื่นเขาจะได้เข้าใจเสียทีว่าที่จริงแล้วเธอมันเป็นเพื่อนแบบไหนกันแน่!” พิณรัมภาทิ้งท้าย เธอแสยะยิ้มให้คนทั้งคู่เป็นการปิดท้ายก่อนจะเดินชนไหล่พวกเขาสองคนออกมา ปล่อยให้ภาพเพื่อนสนิทกับอดีตคนรักหนุ่ม เป็นตัวบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยตัวมันเองต่อไป กว่าจะเดินผ่านสายตาของผู้คนนับร้อยๆ คู่มาถึงตรงนี้ได้พิณรัมภาแทบหมดเรี่ยวแรง หญิงสาวเลือกมานั่งดื่มตามลำพังที่บาร์เครื่องดื่มภายในห้องอาหารของโรมแรม ที่มันทั้งเงียบและปลอดผู้คน “ขออะไรที่พอดื่มเข้าไปแล้วทำให้ฉันลืมผู้ชายเลวๆ กับเพื่อนทรยศออกไปจากหัวมาสักแก้วสิคะ!” บริกรหนุ่มเพียงแต่อมยิ้มรับ ก่อนจะแนะนำเหล้า ที่คิดว่าน่าจะเข้ากับสถานการณ์ของหญิงสาวมากที่สุด “ดื่มมากๆ ระวังจะเมานะครับ” ทว่าไม่นานเสียงเข้มคุ้นหูที่ดังขึ้นพร้อมๆ กับแก้วเหล้าแก้วที่ห้าที่ถูกแย่งไปจากมือทำให้คนที่กำลังได้ที่ตวัดสายตาไปมอง จนพบว่าเขาคือเจ้านายสุดหล่อของตัวเองจึงให้อภัย “ของเขามีไว้ดื่มนี่คะ ไม่ได้มีไว้นั่งดูเสียหน่อย!” พิชญะเพียงแต่ยิ้มรับ รู้ได้โดยทันทีว่าเลขาของเขาน่าจะเมาได้ที่แล้ว เพราะหากเป็นเวลาปกติ เขาคงไม่มีโอกาสได้ยินคำตอบยียวนแบบนี้จากปากเธอแน่ “คุณไม่เป็นไรแน่นะครับ” ชายหนุ่มเลือกที่จะถามก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ เธออย่างถือวิสาสะ เขาลงจากเวทีทันที่ได้ยินบทสนทนาระหว่างเธอกับชายหญิงคู่นั้น มันไม่ยากที่จะเดาเรื่องราวอื่นๆ ต่อไปได้ “ท่านประธานคิดว่าไงล่ะคะ จู่ๆ คนที่คิดว่าเป็นเพื่อนก็พาแฟนเก่าที่เพิ่งจะบอกเลิกกันไปหยกๆ มาเย้ยต่อหน้า ฉันควรต้องยิ้มไหม!” พิณรัมภาถามกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดที่จู่ๆ ก็มีคนเดินมานั่งจี้จุดเจ็บของเธอ ทั้งๆ ที่เขาจะปล่อยให้เธอมีความสุขกับการดื่มเหล้าเงียบๆ ก็ย่อมทำได้แท้ๆ ขอแค่เดินผ่านเลยไป ทำเป็นมองไม่เห็นเธอไปเลยก็ได้ “มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ อย่างน้อยคุณก็ไม่ต้องทนอยู่กับผู้ชายที่ไม่จริงจังคนนั้น ผู้หญิงที่ทั้งเก่งทั้งสวยอย่างคุณ…ผมเชื่อว่าสักวันคงได้เจอคนดีๆ แน่ครับ” แม้จะปลอบใจใครไม่ค่อยเก่งแต่พิชญะก็พยายามเต็มที่เพราะถือว่าพิณรัมภาเป็นคนของเขา เวลามีปัญหาก็มักจะเป็นเธอที่วิ่งเข้ามาช่วยเหลือไม่เคยปริปากบ่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ยิ่งโดยเฉพาะเรื่องงานเธอเก่งและไม่เคยทำผิดพลาดให้ได้ติติงเลยสักครั้ง ไม่แปลกที่เขาจะเป็นห่วง อยากจะได้เลขาคนเก่งคนเดิมของตัวเองกลับมา “พูดมากแถมยังปากหวานอีกด้วย! เจ้านายใครเนี่ยน่ารักจัง น้อง! นี่เจ้านายพี่เอง! เป็นไงหล่อไหม สาวๆ นี่ติดเพียบเลยนะจะบอกให้ แต่อย่าฝันว่าจะได้แอ้มเพราะว่าเขาน่ะมีคนในหัวใจอยู่แล้ว! ผู้หญิงในรูปที่อยู่ลิ้นชักบนโต๊ะทำงานนั่นไง..หน้าตางี้สวยอย่างกับนางฟ้าแน่ะ!” คำบอกเล่าของคนที่สติเริ่มจะเลื่อนลอยทำให้พิชญะตกใจไม่น้อย เพราะไม่คิดว่าจะมีคนได้เห็นรูปถ่ายของใครบางคนเข้าโดยบังเอิญ ทั้งยังเป็นคนที่ไม่เคยมองเขาเหมือนกับผู้หญิงทั่วไปชอบมอง “มีคนเคยบอกไหมครับว่าคนเราไม่ควรจะไปแอบดูของๆ คนอื่น” “ฉันแอบดูที่ไหนกัน! ก็คุณดันมาใช้ให้ฉันหาเอกสารให้ไม่ใช่รึไงเล่า…คนเขาก็แค่แอบเห็น ใครอยากจะไปรู้เรื่องของคุณไม่ทราบ” คำตอบนั้นแม้จะทำให้หายโกรธไปบ้าง แต่กระนั้นก็ยังหงุดหงิดอยู่ดีเพราะว่าเขาไม่ชอบให้ใครก้าวล้ำความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่าง มันจะเป็นข้อยกเว้นสำหรับผู้หญิงข้างกายคนนี้ “ทิ้งเรื่องเครียดๆ ไปแล้วเรามาดื่มกันดีกว่าค่ะ! แก้วนี้ขอดื่มให้กับนังเพื่อนทรยศ! หมดแก้ว!!” เพราะนอกจากเธอจะไม่มีท่าทีสำนึกเลยสักนิดแล้วนั้น ยังชวนเขาชนแก้วได้หน้าตาเฉย ทั้งภาพและเสียงที่ได้เห็นทำให้มั่นใจได้เกินครึ่ง ว่านาทีนี้เลขาของเขาไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป ไม่นานร่างบอบบางในชุดราตรีแสนสวยก็ฟลุบลงที่ไหล่ อาการที่จู่ๆ ก็แน่นิ่งไปของหล่อนทำพิชญะถึงกลับลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ “คุณเดือน! คุณเดือนครับตื่นก่อน!” “ดื่มเข้าไปหลายแก้วแบบนี้ไม่ตื่นง่ายๆ หรอกครับ” บริกรหนุ่มผู้ซึ่งคุ้นเคยกับคนในสภาพนี้เป็นอย่างดี อดที่จะเอ่ยแสดงความเห็นไม่ได้ คำพูดนั้นเห็นจะเป็นจริงจนเขาเถียงไม่ออก สุดท้ายจึงตัดสินใจช้อนอุ้มร่างบอบบางของเลขาสาวขึ้นแนบอก ก่อนจะขอร้องให้บริกรหนุ่มช่วยตามคนสนิทของตนเองมาให้เพื่อจัดการบางเรื่อง ที่จำเป็นต้องทำมัน “คืนนี้คุณนอนที่นี่ก็แล้วกันนะครับ” พิชญะเอ่ยบอกเมื่อวางร่างของคนที่ตอนนี้เมาไม่ได้สติลงบนเตียง เพราะเขาไม่รู้ว่าเธอพักที่ไหน ครั้นจะให้วิสุทธคนสนิทกลับไปดูข้อมูลที่บริษัทมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำแบบนั้น สุดท้ายเลยเลือกที่จะเปิดห้องให้ อย่างน้อยเลขาของเขาจะได้ไม่เสี่ยงต่อการถูกใครหิ้วไปต่อที่ไหนสักแห่ง เพราะเธอเมาจนพูดไม่รู้ศัพท์ “ผมไปก่อนนะครับคุณเดือน ถ้าพรุ่งนี้ลุกไม่ไหวผมอนุญาตให้ลางานได้หนึ่งวัน” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมจัดการห่มผ้าให้อย่างอ่อนโยน ความสงสารทำให้เขาไม่อาจนิ่งเฉยมองเธออยู่ห่างๆ สุดท้ายเรื่องก็เลยมาจบลงแบบนี้โดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องสนใจทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องของเขาเลยสักนิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD