“สบายอะไร กดดันตัวเองสุดๆ ให้เสร็จเร็วๆ” คนฟังหน้าแดงแต่ก็สนิทกันจนกลบเกลื่อนความเขินอายได้ระดับหนึ่ง
“ก็ไม่ต้องเจ็บตัวไง แต่แกสามารถทำให้เสร็จเร็ว ๆ ได้เหรอ”
“ทำได้”
“แล้วในห้องมันเป็นยังไงเหรอ”
“ก็เป็นห้องกว้าง ๆ โล่ง ๆ มีอ่างน้ำอะไรประมาณนั้น” คนฟังหน้าแดงเล็กน้อย
“แล้วไงอีก”
“ก็มีหนังให้ดู”
“หนังอะไรเหรอ”
“หนังผู้ใหญ่ไง”
“หนังโป๊น่ะเหรอ”
“อืมฉันพูดอ้อมแล้วนะแก” พอเขาพูดแบบนั้นเธอก็หัวเราะคิกคัก ตอนแรกที่ตีโพยตีพายบอกว่าเจ็บตัวเหมือนโดนเปิดซิงก็หายไปในทันที
คบกันมานานเพื่อนของเธอแม้จะยังไม่เคยมีแฟน ไม่เคยเสียตัวให้ใคร และไม่คิดจะแต่งงานแต่ก็มีความทะลึ่งประมาณหนึ่ง แต่เขาคิดว่านี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเพราะพูดกันขำๆ ก็ทำให้หัวเราะได้บ้าง
“มีหนังโป๊แนวไหนบ้าง”
“ทุกแนว” คนตอบตอบเสียงขรึม ในขณะที่คนถามเริ่มตื่นเต้นมากกว่าเดิมเสียอีก
“แกดูเรื่องอะไรไปบ้าง”
“ไม่ได้ดู”
“จริงดิ”
“จริงสิ นางเอกพุงกลมยิ่งกว่าฮิบโป”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ประโยคของกายสิทธิ์ทำให้วินิทราหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง ในขณะที่กายสิทธิ์ทำหน้าตูม
“ถามจริงแกเห็นหนังผู้ใหญ่แล้วมีอารมณ์ไหม”
“ฉันไม่สนใจอะไรเลย ฉันเร่งให้เสร็จเร็ว ๆ จะไปเปิดดูทำไมกันเล่า”
“เข้าไปมันก็เล่นอยู่เลยเหรอ”
“เปล่ามีเมนูให้เลือกจะเอาเรื่องอะไร เต็มหน้าจอไปหมด ฉันแทบไม่มองเลย”
“นี่ขนาดแกไม่มองนะ ยังเห็นว่านางเอกหนัง พุงกลมเหมือนฮิบโป ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“แกจะหัวเราะอีกนานไหม”
“ไม่หัวเราะไม่ขำแล้วก็ได้ ใครได้เป็นแฟนแกนี่โชคดีนะ”
“โชคดียังไง”
“หนังโป๊ไม่ยุ่งมุ่งแต่ภารกิจปล่อยน้ำเชื้ออย่างเดียว” สิ้นประโยคนั้นเสียงเบรกรถก็ดังเอี๊ยด... เบียดไปกับพื้นถนน
วนิทราถึงกับกรีดร้อง เธอตกใจใบหน้าเหลอหลา จะหันไปต่อว่าต่อขานเขา แต่เขารวบท้ายทอยของเธอไปกุมเอาไว้ก่อนจะบดจูบเธออย่างดุเดือด
วินิทราตกใจรัวกำปั้นใส่เขาระรัว ก่อนที่เธอจะอ่อนระทวยยอมให้เขาจูบ
เขาถอนจูบออกห่าง ลมหายใจของคนทั้งคู่ปะทะกันถนัดถนี่
เธอกะพริบตาปริบๆ ถึงกับมึนเบลอไปเลยที่โดนเขาจูบอย่างดุเดือดเช่นนี้
“แกทำอะไรของแกนี่” วินิทรายกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเองเบา ๆ มองหน้าเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“ฉันรักแก รักมานานแล้ว ทนไม่ไหวแล้วอกจะแตกตายอยู่แล้วนี่ ฉันต้องบอกแกวันนี้ ไม่งั้นฉันไม่ไหวแล้วจริง ๆ”
“ฉันรู้แล้วว่าแกรักฉัน แกบอกฉันหลายครั้งแล้ว” คนพูดใจสั่น แต่ยังพูดไปอีกทาง
“ฉันบอกรักแกก็คือรักแกจริง ๆ ไม่ได้พูดเล่น”
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าแกพูดเล่น ฉันรับรู้ในสิ่งที่แกพูด”
“ฉันรักแกแบบคนรัก ไม่ใช่รักแบบเพื่อน ฉันรักแกมากนะ รักมานานแล้ว”
“ไอ้กาย” วินิทราถึงกับช็อกไปเลย
“ฉันรู้ว่าแกจะต้องโกรธที่ฉันคิดเกินเลยกับแก ไม่เหมือนแกที่ไม่คิดอะไรกับฉันเลย แต่ฉันอกจะแตกตายอยู่แล้ว ฉันอยากแต่งงานกับแก มีลูกกับแก ดูแลแกกับลูกไปตลอดชีวิต แกเข้าใจไหม”
“แกไม่ได้เป็นเกย์เหรอ”
“ไม่ได้เป็น แต่ที่ฉันต้องโกหกมินตราว่าชอบผู้ชายด้วยกัน บอกว่าเป็นเกย์เพราะฉันไม่ได้รักเขา ก็ควรจะปล่อยเขาไปไม่ใช่เหรอ”
“กาย” วินิทราครางชื่อเพื่อนรักออกมา
“ฉันขอโทษแล้วกันที่ทำให้แกรู้สึกอึดอัดใจ แต่ฉันแค่อยากบอก ถ้าเกิดฉันเป็นอะไรขึ้นมาแล้วไม่ได้บอกแกคงเสียใจไปตลอดชีวิต ฉันแค่บอกให้แกรับรู้ ไม่ได้บังคับให้แกรักตอบฉันหรืออะไรเลย วันนี้รู้สึกโล่งมากเหมือนยกภูเขาออกจากอกที่ได้พูดสิ่งที่เก็บเอาไว้มานานออกมา ต่อจากนี้ไปฉันคงจะหายไปจากชีวิตของแกเพราะแกคงไม่อยากเห็นหน้าฉันอีก แกเคยบอกว่าเป็นเพื่อนกันน่ะดีแล้ว ถ้าเป็นแฟนกันจะมองหน้ากันไม่ติด”
“แกนี่มันโคตรใจร้ายจังเลยว่ะ”
“ฉันใจร้ายเรื่องอะไร”
“ก็จู่ ๆ ก็มาสารภาพรักแล้วมาบอกว่าจะหายไปจากชีวิตของฉัน โคตรใจร้ายจริงๆ”
“แกหมายความว่ายังไง แกหมายความว่าอยากให้ฉันอยู่ในชีวิตของแกต่อไปเหรอ”
“แกคิดเองไม่เป็นเลยหรือไง ผู้ชายแบบแกนี่มันสเปกฉันเลยนะไอ้กาย” เธอตีเขาระรัว ทำเอากายสิทธิ์ยิ้มออก ดึงเธอมากอดหอมอย่างดีใจ
“นี่ปล่อยเลยนะ ทำบ้าอะไรของแก”
“แกตกลงเป็นแฟนกับฉันแล้วใช่ไหม”
“อืม...”
“ไชโย ไชโย ฉันจะได้เป็นแฟนกับแกแล้ว”
“เบา ๆ หน่อยแกอายคนเขา”
“อยู่ในรถใครจะไปได้ยิน” เขาดึงมือเธอมากุมเอาไว้ พลางกดจูบหนักๆ อย่างแสนรัก อาการดีใจออกนอกหน้าของเขาทำให้เธอหมั่นไส้จนต้องบิดหูเขาเบาๆ
“ต้องบอกข่าวดีนี้ให้คุณนิรับรู้” กายสิทธิ์รีบโทร. ไปบอกน้องสาว ทำให้วินิทราต้องค้อนให้เขาเสียวงใหญ่ ที่เขาโอเวอร์เสียเหลือเกิน
กชนิภานั้นดีใจจนแทบกรี๊ดเพราะในที่สุดพี่ชายสุดที่รักของเธอก็ยอมสารภาพรักวินิทราจนได้เป็นแฟนกันสักที ไม่ต้องมาคอยพร่ำเพ้อกับเธอเหมือนสมัยก่อนแล้ว