“เอาละในเมื่อมีทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว และคุณกายกับฝันหวานรู้เรื่องรายละเอียดและขั้นตอนทุกอย่างแล้ว เราก็มาเริ่มกันเลย”
“ฉันพร้อมจ้ะ” วินิทราบอกเพื่อนสาว
“แต่แกยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนใช่ไหม”
“บ้าน่ะสิ ฉันจะไปมีกับใคร ฉันจิ้นอยู่นะ”
“นั่นแหละ มันจะต้องมีการตรวจภายใน แกจะตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยไหม”
“ตรวจ” เธอสูดลมหายใจเข้าปอดแรง ๆ ลึก ๆ ตัดสินใจที่จะตรวจ
“อือฮึ งั้นก่อนตรวจมาดูผลการตรวจอสุจิของคุณกายกันก่อน” แล้วกชนิภาก็เลื่อนหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้สองหนุ่มสาวดู
ภาพอสุจิตัวเล็ก ๆ ที่เคลื่อนไหวไปมาดุกดิกทำให้วินิทรารู้สักจั๊กจี้แปลกๆ
“นี่น้องชายแกเหรอนี่ ขี้เหร่ชะมัด” วินิทรายังมีแก่ใจหันไปล้อกายสิทธิ์ คนฟังถึงกับหน้าแดง พลางเข่นเขี้ยว ล้อเขาดีนัก เป็นเมียเขาเมื่อไหร่จะปล่อยน้องชายเข้าไปในตัวเธอให้หมดแมกซ์เลย
“งั้นมาฟังผลการตรวจเชื้อกัน จะสรุปให้ฟังคร่าว ๆ ดังนี้นะคะ” กชนิภานำเอกสารมาให้พี่ชายและเพื่อนรักของเธอได้ดู เป็นผลการตรวจอสุจิของกายสิทธิ์นั่นเอง
“นี่คือปริมาณอสุจิ คนปกติเท่านี้ แต่ของคุณกายอยู่ตรงกลางระหว่างคนที่มีน้อยกับมีเยอะถือว่าโอเคค่ะ” ประโยคนั้นทำให้กายสิทธิ์ถอนใจออกมาอย่างหนักหน่วงคล้ายโล่งใจ ทำเอาสองสาวถึงกับยิ้มขำออกมาในทันที
“ไม่เครียดค่ะ เราไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ ชิลล์ ๆ กันดีกว่า” ประโยคของกชนิภาทำให้ทั้งสองผ่อนคลายลงไปได้เยอะมาก
“ดูปริมาณกันแล้ว ก็ต้องดูหน้าตากันด้วย มีหน้าตาผิดปกติอยู่บ้าง แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้ยาไปกิน”
“หน้าตาผิดปกติเหรอ” กายสิทธิ์เอ่ยถาม
“ใช่ แต่ไม่มีผลอะไรหรอก คราวนี้ก็มาตรวจภายในฝันหวานกัน พร้อมหรือยัง”
“พร้อม” ฝันหวานบอกว่าพร้อมแต่เสียงสั่น เธอเดินไปขึ้นเตียงขาหยั่งแบบงงๆ
“ค่อยๆ นะแก ฉันกลัว ฉันไม่เคย”
“ฉันจะค่อย ๆ สอดเครื่องมือเข้าไปนะ ถ้าแกเจ็บหรือไม่โอเคก็บอกได้เลยนะ” กชนิภาบอกเพื่อนรัก ก่อนจะค่อย ๆ สอดเครื่องมือเข้าไปเพื่อที่จะตรวจมะเร็งปากมดลูกก่อน
“เจ็บ ๆ ๆ ไม่ไหวแล้ว เจ็บ” วินิทราร้องลั่นห้อง กชนิภาเองก็ตกใจ ก่อนจะรีบยุติทุกอย่าง และเอ่ยถามเพื่อนอย่างห่วงใย
“แกเป็นไงบ้าง”
“เจ็บจะตาย ไม่เอาแล้ว” วินิทราลงจากเตียงร่างของเธอก็ถึงกับเซ เหมือนจะเป็นลม กชนิภารีบพยักหน้าให้พยาบาลซึ่งเป็นผู้ช่วยของเธอไปนำแอมโมเนียมาให้เพื่อนของเธอดม หลังจากประคองไปนั่งบนเก้าอี้อีกด้านของห้องตรวจ
“แกไหวไหมเพื่อน”
“ไม่ไหว เจ็บแทบตาย ไม่เอาแล้ว ไม่ตรวจภายในอีกแล้ว” เสียงโวยวายของวินิทราทำให้กายสิทธิ์ตกใจรีบทะลึ่งพรวดเข้ามาในห้องตรวจ ทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง ก่อนที่กชนิภาจะทำหน้าดุใส่พี่ชาย และเดินไปส่งทั้งสองคนขึ้นรถ เพื่อกลับบ้าน
เธอไม่ควรขำเพราะเป็นหมอ แต่นั่นคือพี่ชายกับเพื่อนรักที่คิดจะมีลูกโดยไม่ใช้วิธีธรรมชาติ มันก็ต้องเจอสภาพนี้
เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าสองคนนี่จะลงเอยกันยังไง เธอดูออกว่าทั้งสองคนชอบกัน แต่วินิทรานั้นกลัวเรื่องความรัก กลัวจะเจอผู้ชายไม่ดีเหมือนพ่อ ที่ไม่เอาไหน ไม่เคยหาเลี้ยงครอบครัว สร้างแต่ภาระและปัญหา อีกทั้งยังคอยแต่จะสร้างหนี้ยืมสิน ทำร้ายร่างกายและอะไรอีกสารพัดที่ไม่ควรเอามาเป็นสามี แต่วินิทราก็เป็นคนรักนวลสงวนตัวไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนใกล้ชิดเหมือนพี่ชายของเธอ
เธอก็รู้แหละว่าทั้งสองเป็นเพื่อนกัน แต่สายตาห่วงใยที่มีให้แก่กัน มันทำให้เธอรู้สึกได้ว่าทั้งสองแอบชอบกันมานานแล้ว แต่เพราะไม่อยากเสียเพื่อน และไม่อยากเป็นเหมือนคู่อื่นที่เป็นเพื่อนกันอยู่ดี ๆ พอกลายมาเป็นแฟนกันก็ไปกันไม่รอด แถมจะให้กลับมาเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิมก็ทำไม่ได้อีก เลยทำให้เสียเพื่อนดี ๆ ไป มองหน้ากันไม่ติด
“แกโอเคไหมฝันหวาน” กายสิทธิ์เอ่ยถามขณะขับรถออกมาจากคลินิกของน้องสาวสักระยะแล้ว
“ไม่โอเคเลย ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองโดนเปิดซิงยังไงอย่างงั้น”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เจ็บจะตาย รู้งี้ไม่มา ฉันยังไม่มีสามีคงไม่เป็นหรอกมะเร็งปากมดลูก อีกอย่างก็ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแล้ว” วินิทราโวยวายเสียงดัง
“ไม่เกี่ยวกันป่าววะแก คนที่เป็นก็อาจจะยังจิ้นอยู่ก็ได้”
“ไม่จริงฉันอ่านข้อมูลมาแล้ว คนที่เป็นมะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อ HPV ติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์ ฉันไม่เคยมีแฟนไม่เคยอะไรกับใครไม่ติดแน่ ๆ ไม่น่ารับปากยายนิแบบมึน ๆ งงๆ ตรวจภายในเลย เจ็บจะตาย แทบจะเป็นลม สงสัยฉีกขาด”
“ไม่เป็นไร ถือว่าประสบการณ์ชีวิตเอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง” เขาเห็นว่าเธอทำท่าจะร้องไห้ก็เริ่มปลอบโยน
“ฉันรู้สึกว่าโดนเปิดซิงเสียตัวให้เครื่องมือแพทย์ของยายนิไปแล้วจริง ๆ แก”
“นั่นก็เกินไป”
“แกไม่เข้าใจหรอก” คนพูดทำท่าจะร้องไห้เพราะเจ็บจริง ๆ แต่มันก็ต้องเจ็บแหละ ก็เธอไม่เคยสอดใส่อะไรเข้าไปในช่องคลอดมาก่อนเลย เครื่องมือถึงบอกว่าเล็กนิดเดียวแต่สาวซิงแบบเธอก็เจ็บจนน้ำตาเล็ด
“ไม่เหมือนแกหรอกสบายจะตาย ช่วยตัวเองแล้วเอาอสุจิมาตรวจ”