5 ปีผ่านไป...
ดาวเหนือเรียนจบปริญญาโทก็ได้เข้ามาทำงานในบริษัทของจอมทัพเพื่อเรียนรู้งานใกล้ชิดกับพ่อ เขาเติบโตขึ้นเป็นหนุ่มเต็มตัวที่แม้ว่าจะดูมีความมั่นใจมากขึ้นแต่สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนคือรูปร่างผอมสูงดูไม่สง่างามและยังครองความซิงมาได้จนถึงอายุ 25 ปี
เขาลุกจากโต๊ะทำงานในห้องส่วนตัว ติดกระดุมเสื้อสูทอย่างเรียบร้อยแล้วเดินออกไปตามโถงทางเดินที่ต้องผ่านห้องทำงานหลากหลายแผนก ด้วยความที่เป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของธุรกิจใหญ่และหน้าตาสะอาดแต่งตัวเนี้ยบดูหล่อเหลาทำให้ทุกคนต่างก็เหลียวมองเขาไม่วางตา
"สะ สวัสดีค่ะท่านรอง จะไปพบท่านประธานเหรอคะ?"
"ครับ... เอ่อ... เรียกผมคุณเหนือก็พอนะครับ"
"ไม่ได้หรอกค่ะ คำสั่งแต่งตั้งออกมาแล้วนี่นา..."
"ครับ... ขอบคุณครับ... เอ่อ... คุณนุชใช่มั้ย?"
"ชะ ใช่ค่ะ! นุชเอง... อยู่ฝ่าย.."
"การตลาดใช่ไหมครับ ผมจำได้... ขอบคุณที่ทำงานหนักนะครับ"
นุช - พนักงานสาวสวยตัวท็อปประจำฝ่ายการตลาดที่เป็นหน้าเป็นตาของบริษัท หุ่นผอมเพรียวสูงยาว มีใบหน้าสวยหวาน นิสัยเงียบๆ ขี้อาย เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ในตึกรวมถึงบริษัทละแวกข้างเคียงก็แวะเวียนมาจีบเป็นประจำแต่เธอก็ยังไม่ตกลงกับใครเพราะแอบชอบดาวเหนืออยู่
แม้ว่าดาวเหนือจะเติบโตขึ้นทั้งด้วยวัยและหน้าที่การงาน แต่เขาก็ยังทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้าสาวๆ เหมือนเคย
"วันนี้... คือ... ท่านรองจะไปฉลองที่ไหนไหมคะ?"
"เอ่อ... ผม... ยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยครับ..."
"คือ... นอกจากได้รับตำแหน่งแล้ว วันนี้ยังเป็นวัน.."
"ขอบคุณมากนะครับคุณนุช แต่ผมต้องไปแล้ว"
ดาวเหนือพูดตัดบทพร้อมกับโค้งลาแล้วรีบเดินผ่านนุชออกไปจนเธอต้องแอบพูดตามหลังเขาเบาๆ
"สุขสันต์วันเกิดนะคะ... คุณเหนือ..."
เขารีบเดินจ้ำเพื่อหนีสาวสวยประจำบริษัทเพราะไม่รู้จะวางตัวยังไง จนมาถึงหน้าห้องท่านประธานใหญ่ก็หยุดถอนหายใจตั้งสติก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
"อ้าววว ว่าไงท่านรองคนใหม่ โอเคไหมลูก"
"มันจะเร็วไปมั้ยพ่อ ผมเพิ่งเข้าบริษัทได้ปีเดียวเองนะ"
"ไม่หรอกน่า แกเคยเห็นพ่อตัดสินใจอะไรพลาดไหมล่ะ?"
"นั่นสิ...... ขอบคุณนะครับ"
ลูกชายโค้งขอบคุณผู้พ่อที่นั่งประจำโต๊ะบัญชาการขนาดใหญ่ จอมทัพนั่งมองดูลูกชายด้วยแววตาอ่อนโยนแล้วลุกขึ้นเดินไปโอบไหล่เขาด้วยความรัก
"สุขสันต์วันเกิดลูกรัก... ครบ 25 แล้วใช่มั้ย?"
"ใช่ครับ"
"งั้นเย็นนี้รีบกลับบ้าน เราจะฉลองกันสองคน พ่อจะลงมือเตรียมทุกอย่างให้ด้วยตัวเอง"
"โหพ่อ ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ก็ครบเบญจเพสทั้งทีมันก็ต้องพิเศษหน่อย... แล้วพ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย... แกไม่ได้มีนัดกับใครใช่มั้ย?"
"ครับ เอางั้นก็ได้"
จอมทัพยกมือขึ้นลูบหัวลูกชายด้วยความรัก แม้ว่าเขาจะเป็นหนุ่มเต็มตัวแต่ในสายตาของพ่อ ลูกก็ยังเป็นลูกคนเดิม ดาวเหนือแอบสังเกตเห็นพ่อมีน้ำตารื้นออกมาคลอก็ยิ่งสงสัย กำลังจะอ้าปากถามแต่พ่อก็หันกลับไปนั่งที่โต๊ะเสียก่อน ทำให้เขาต้องลืมเรื่องนี้ไป
.
.
.
"โอ้โห พ่อ... มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ เต็มโต๊ะขนาดนี้จะกินยังไงหมด"
"ฮ่าๆๆ นานๆ ได้เข้าครัวทีพ่อก็อยากทำให้สุดฝีมือ มาๆ นั่งได้แล้ว"
ดาวเหนือลงนั่งที่เก้าอี้กลางบ้านหรู มองดูอาหารบนโต๊ะด้วยความทึ่งที่ทุกจานดูน่าอร่อยจนไม่น่าเชื่อว่าพ่อผู้เป็นนักธุรกิจใหญ่จะเป็นคนลงมือทำด้วยตัวเอง
"โห... สุดๆ... นี่ถ้าไม่อยากขายบ้านขายคอนโด พ่อเปิดร้านอาหารได้เลยนะเนี่ย"
จอมทัพยิ้มกว้างขณะกำลังมองลูกชายกินอย่างเอร็ดอร่อย จนกระทั่งมื้ออาหารผ่านไปสองพ่อลูกก็นั่งดื่มคุยกันไปด้วยความเพลิดเพลิน พ่อได้เล่าเรื่องราวในบริษัทรวมถึงหลักการบริหารงานต่างๆ ให้เขาฟัง ลูกชายก็อดทึ่งในความเก่งไปซะทุกเรื่องของพ่อไม่ได้
"พ่อนี่เก่งทุกอย่างจริงๆ ขนาดทำกับข้าวก็ยังได้... ผมชักเริ่มกลัวที่ต้องทำบริษัทต่อจากพ่อแล้วสิ... เกิดอีกหน่อยผมพาบริษัทไป.."
"อย่าพูดแบบนั้นเด็ดขาด... แกทำได้แน่"
"แต่ผมไม่มั่นใจเลย... พ่อก็รู้นิสัยผม..."
"อืมมม ที่ผ่านมาพ่อก็ไม่ได้ตัวคนเดียวหรอกนะ... แล้วคืนนี้ก็ถึงเวลาที่พ่อจะส่งต่อความลับประจำตระกูลให้แกเป็นคนดูแลแล้ว"
"หะ?... ความลับอะไร?..."
"ตามมาสิ"
จอมทัพลุกออกจากโต๊ะโดยมีลูกชายเดินตามไม่ห่าง เขาพาขึ้นไปชั้นบนเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องพระที่อยู่ติดกับห้องนอนใหญ่ ดาวเหนือจำได้ว่าห้องนี้ล็อกไว้ตลอดเวลาและพ่อเคยพาเขาเข้าไปแค่ไม่กี่ครั้ง ยังไม่กล้าถามอะไรมากเพราะตอนนี้พ่อดูจริงจังเกินกว่าจะเป็นเรื่องล้อเล่น
พ่อจอมกดรหัสลงที่กลอนประตูดิจิตอลพร้อมทาบนิ้วโป้งลงไป พอได้ยินเสียงตัวล็อกดีดออกพ่อก็เปิดห้องพาเข้าไปข้างใน ดาวเหนือมองไปรอบห้องซึ่งมันยังดูเหมือนเมื่อครั้งที่เขาเคยเข้ามาตอนเด็ก เป็นห้องโล่งๆ ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากโต๊ะหมู่บูชาไม้สักทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านใน ซึ่งมีองค์พระและของต่างๆ วางเรียงรายกันอยู่
"นี่พ่อคงจะไม่ได้ยกพระเครื่ององค์หลายสิบล้านให้ผมหรอกจริงมั้ย ฮ่าๆๆ"
"เปล่าหรอก... มันมีค่ามากกว่านั้น... มากจนประมาณค่าไม่ได้"
"อะ เอ่อ... พูดจริงป่ะเนี่ย... ชิ้นไหนล่ะ"
"ชิ้นนั้น... ที่มีแก้วครอบอยู่"
เขามองตามทางที่พ่อชี้นิ้วให้ดู ชั้นล่างถัดจากองค์พระมีพานทองสำริดที่มีผ้าไหมสีสดวางรองเอาไว้ เขาขยับเข้าไปมองใกล้ๆ ก็เห็นว่าบนพานที่มีแก้วใสครอบอยู่คือก้อนดินที่แห้งจนแข็งเป็นหินรูปร่างบิดเบี้ยวและมีทองคำเปลวแปะติดไว้ประปราย
"หะ?... ไอ้นี่เนี่ยนะ?..."
"ลูกกรอกขุนแผน... มันจะถูกส่งต่อให้ลูกชายในตระกูลของเราเมื่อเขามีอายุครบเบญจเพส... พ่อก็ได้รับช่วงต่อมาจากปู่ของแกตอนอายุครบ 25... เหมือนแกในวันนี้"
"ละ ลูกกรอก!?... พ่อ! คือ... ถ้ามันสำคัญขนาดนี้ ผมรับไว้ไม่ได้หรอกนะ เกิดผม.."
จอมทัพยกมือขึ้นลูบหัวลูกอย่างอ่อนโยน สีหน้าและแววตาที่จริงจังของพ่อทำให้เขาไม่กล้าพูดขัด
"เชื่อพ่อเถอะ นี่คือของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของลูก... พ้นคืนนี้ไปลูกก็จะพบความอัศจรรย์ในชีวิต เหมือนกับผู้ชายทุกคนในตระกูลของเรา..."
"ครับ...... เอ่ออออ ผมรับไว้ก็ได้... แต่ก็แค่ปล่อยให้มัน.. เอ้ย ให้เค้าาาา อยู่ตรงนี้.. ในห้องนี้... ใช่มั้ย?"
พ่อจอมยกมือขวาตัวเองขึ้นมาแล้วบรรจงลูบแหวนที่สวมอยู่ตรงนิ้วชี้ด้วยความทะนุถนอม ดาวเหนือสังเกตเห็นว่ามันเป็นแหวนเงินที่มีหินกลมเกลี้ยงดูไม่มีราคาประดับอยู่ก็ยิ่งสงสัยเพราะพ่อดูจะรักมันมาก
พ่อค่อยๆ ขยับถอดมันออกจากนิ้วด้วยความยากลำบากจนในที่สุดพอหลุดออกมาพ่อก็รีบจับมือขวาลูกชายยกขึ้นแล้วสวมแหวนนั่นเข้าที่นิ้วชี้ ดาวเหนือกำลังจะทำหัวเราะกลบเกลื่อนสถานการณ์ที่เขาไม่เข้าใจแต่ก็ต้องหยุดเพราะพ่อจอมเริ่มสะอึกสะอื้นร้องไห้
"พ่อ......"
"อยู่ด้วยกันมา 30 ปีแล้วนะน้า... ฮือๆๆ จากนี้... ผมขอฝากลูกชายด้วยครับ... ฮือๆๆๆ"
ดาวเหนือยิ่งตกใจหนักเพราะที่ผ่านมาทั้งชีวิตเขาไม่เคยเห็นสภาพพ่อผู้ร่าเริงต้องร้องไห้แบบนี้มาก่อน แม้จะยังไม่รู้เรื่องราวว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่เขาแน่ใจว่าแหวนวงนี้สำคัญกับพ่อมากๆ เขาเลยอยู่นิ่งปล่อยให้พ่อกุมมือที่สวมแหวนไว้โดยที่ยังร้องไห้ไม่หยุด
"ฮือๆๆ รักษาเท่าชีวิตของลูกนะ... ห้ามถอดแหวนเด็ดขาด... พวกเราเรียกเค้าว่า... น้าแผน"