สองวันผ่านไปนับจากที่เขาได้รับแหวนมาจากพ่อจอมทุกอย่างก็ยังเป็นปกติ จากคำพูดแปลกๆ ของพ่อที่ไม่เข้าใจสักนิดทำให้เขาพยายามถามหารายละเอียดเพิ่มเติม พ่อก็ได้แต่ตอบว่า...
"อีกสองวันจะถึงคืนเดือนดับ พ้นคืนนั้นลูกก็จะรู้เอง"
จนมาวันนี้เขาเข้าพบกับพ่อจอมในห้องทำงานที่บริษัท พ่อในชุดสูทสากลนั่งประจำหัวเรือประธานบริษัทใหญ่ยังดูน่าทึ่งเหมือนเคย เขายืนมองอยู่ตรงหน้าโต๊ะเงียบๆ รอจนพ่อเซ็นต์เอกสารเสร็จถึงเริ่มได้คุยกัน
"เดี๋ยวเย็นนี้มีนัดดีลงานกับมาดามหลิน เจ้าของโรงเหล็กที่จะเป็นซัพพลายให้กับคอนโดใหม่ของเรา... แกไปจัดการแทนพ่อทีนะ"
"หา!?... เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมพ่อ... ท่านประธานไม่ไปเองล่ะครับ"
"ไม่มั่นใจเหรอ?"
"......ไม่ครับ"
"ซัพเจ้าเก่าเค้าเขียนสัญญามาขูดเลือดเรามากไปหน่อย พ่อเลยตัดสินเปลี่ยนไปดีลกับโรงงานของหลินแทน... ถ้าดีลนี้ผ่าน เราจะลดต้นทุนได้อย่างมีนัยยะสำคัญ... เข้าใจใช่มั้ย?"
"เรื่องนั้นเข้าใจครับ ผมอ่านเอกสารที่ท่านให้มาเมื่อวานแล้ว แต่เรื่องที่ให้ผม.."
"ถ้าเป็นเรื่องธุรกิจ พ่อไม่เคยตัดสินใจอะไรพลาดเลยสักครั้ง... รวมถึงการเลือกให้แกไปดีลงานครั้งนี้ก็เหมือนกัน ยังไงแกก็ทำได้แน่"
"........."
สิ่งที่จอมทัพอ้างขึ้นมาทำให้ลูกชายหาคำพูดปฏิเสธไม่ได้เลย แต่การจะดีลงานระดับพันล้านแบบนี้เขารู้สึกว่ามันดูจะเกินตัวไปหน่อย เขาเลยได้แต่ยืนทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ตรงนั้นซึ่งดูเหมือนผู้พ่อจะมองออกจึงบอกลูกชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"เหนือ... ฟังพ่อนะ... งานนี้มันสำคัญกับบริษัทมาก พ่อควรจัดการเอง อันนี้พ่อรู้ดีเลยล่ะ... แต่งานนี้มันสำคัญกับแกสองอย่าง..."
"อย่างแรก... ถ้าแกทำสำเร็จ มันจะเป็นเครดิตให้ตัวแกเองในฐานะรองประธานบริษัท... แกคงไม่อยากให้คนอื่นมองว่าไม่มีความสามารถ ที่ได้ตำแหน่งเพราะแค่เป็นลูกพ่อหรอก... จริงมั้ย?"
ดาวเหนือฟังแล้วก็พยักหน้าเบาๆ เพราะพ่อพูดถูกทุกอย่าง
"...แล้วอย่างที่สองล่ะครับ?"
"ถึงเวลาที่แกต้องเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว..."
"หะ?... เอ่อออออ ยังไงนะพ่อ"
"หมายถึง...... แกต้องหัดทำอะไรเองได้แล้ว อย่าอยู่ใต้เงาพ่อมาก... แค่นี้แหละ"
ลูกชายแอบเห็นพ่ออมยิ้มมุมปากเลยคลายกังวลขึ้นมาบ้าง แล้วทั้งคู่ก็กลับมาคุยกันสบายๆ แบบเดิม
"เฮ้อออออ เอาก็เอาวะ... หวังว่าพ่อจะคิดถูกละกัน... ผมก็แค่ไปสรุปข้อตกลงให้เค้าฟัง แล้วโค้งสวยๆ ขอให้เขาเซ็นต์แค่นั้นใช่มั้ย?"
"อู้ววววว เข้าใจง่ายดีนี่... แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก มาดามหลินน่ะ เห็นสวยๆ แบบนั้นเขี้ยวลากดินเลยล่ะ ไม่ยอมเสียเปรียบใครง่ายๆ แน่"
"เอ้า! แล้วจะพูดกดดันกันทำไมครับเนี่ย"
"ฮ่าๆๆๆๆ ก็มันน่าสนุกดีไม่ใช่เหรอ เหมือนผลักลูกสิงโตตกเหวไง ฮ่าๆๆๆ"
"พอเลยนะ ผมรู้ว่าพ่อต้องมีวิธีจัดการดีลนี้แน่ๆ บอกมาเลย ผมต้องทำยังไง"
"อืมมม หัวไวเหมือนกันนี่หว่า รู้วิธีโกงข้อสอบซะด้วย... จะบอกให้ก็ได้... เข้ามาใกล้ๆ สิ"
จอมทัพชันศอกขึ้นบนโต๊ะแล้วกวักมือเรียกลูกชายให้โน้มตัวเข้าไปใกล้ๆ เขาเลยพูดเป่าหูเบาๆ ให้ฟัง
"จับมาดามทำเมียซะ"
จะบ้ารึไง! นี่ใช่เรื่องล้อเล่นมั้ย
"ฮ่าๆๆๆ แล้วใครบอกว่าล้อเล่น มาดามหลินสวยนะเว้ย ยังโสดอยู่ด้วย ผิวพรรณงี้เนียนกริบ... ถึงจะดูมีอายุหน่อยๆ ก็เถอะ"
"เหอะ... ถ้าดีขนาดนั้นพ่อทำไมไม่เอาเองล่ะ ถนัดนักไม่ใช่เหรอเรื่องผู้หญิงเนี่ย"
"มันไม่ใช่เวลาของพ่อแล้วอะสิ... นี่มันช่วงเวลาของแก"
"ไม่คุยด้วยละ ผมไปอ่านเอกสารต่อดีกว่า... แล้วถ้ามันไม่สำเร็จอย่ามาโทษผมละกัน!"
พูดเสร็จดาวเหนือก็รีบหันหลังกลับด้วยความหงุดหงิดกับเสียงหัวเราะของพ่อที่ยังดังอยู่ด้านหลัง เขากำลังจะเปิดประตูห้องก็โดนพ่อเรียกให้หันไปอีกรอบ
"เหนือ! ห้ามให้มาดามกลับก่อนหนึ่งทุ่มนะ จะใช้วิธีไหนรั้งไว้ก็ได้แต่ห้ามให้กลับก่อนหนึ่งทุ่มเด็ดขาด... อันนี้พ่อพูดจริงๆ"
อีกแล้ว... คำพูดแปลกๆ ของพ่อที่เขาไม่เข้าใจสักนิด ถึงสีหน้าแววตาของพ่อตอนนี้พอจะมองออกว่าไม่ได้ล้อเล่น แต่สิ่งที่พูดออกมามันดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย นั่นทำให้ดาวเหนือส่ายหัวแล้วเดินออกห้องไป
***************
ณ โรงแรมหรูใจกลางเมือง
ดาวเหนือนั่งกระสับกระส่ายในห้องประชุมส่วนตัวที่พ่อเขาจัดเตรียมให้นัดพบกับมาดามหลิน เขาหยิบเอกสารบนโต๊ะมาอ่านซ้ำไปซ้ำมา หันไปคุยกับทีมที่ปรึกษาอีกสองคนถึงเรื่องแนวทางการตอบคำถามต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด
สักพักประตูห้องก็เปิดออก มาดามหลินพร้อมด้วยทีมเจรจาเดินเข้ามาในห้อง กลุ่มของดาวเหนือลุกขึ้นต้อนรับ
"สวัสดีครับมาดามหลิน ผมดาวเหนือ ยินดีที่.."
"คุณจอมทัพไม่มาเหรอคะ?"
"อะ เอ่อ... ท่านประธานได้มอบ.."
"เสียมารยาทจังนะ... เล่นส่งเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มาคุยธุรกิจแบบนี้"
"........."
ดาวเหนือเริ่มตัวสั่นเมื่อโดนมาดามหลินจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา คำพูดของเธอที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นจนหาทางตอบโต้ไม่ได้ ทีมที่ปรึกษาที่อยู่ข้างๆ ต้องสะกิดเด็กหนุ่มให้ได้สติเขาเลยกลั้นใจฮึดสู้แล้วพูดตอบออกไป
"ถึงท่านประธานจะไม่ได้มาในวันนี้ แต่คำพูดของผมทุกคำในฐานะรองประธานและในฐานะลูกชายคนเดียวของพ่อ สามารถเป็นตัวแทนให้กับบริษัทได้แน่นอน... เชิญนั่งลงก่อนเถอะครับ"
มาดามยิ้มมุมปากเล็กน้อยให้กับความใจกล้าเล็กๆ ของเขา เธอนั่งลงฝั่งตรงข้ามทำให้ทุกคนในห้องนั่งลงตาม การเจรจาเริ่มต้นขึ้นโดยฝั่งของดาวเหนือเป็นผู้ชี้แจงข้อมูลต่างๆ ในเอกสารสัญญาให้ฟังโดยเน้นสาระไปที่ผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย แต่ดูเหมือนยังมีอะไรบางอย่างที่มาดามยังไม่พอใจ
"เหอะ... แปลง่ายๆ ก็คือ ที่ต้องมาขอดีลกับทางเราก็เพราะเจ้าเก่าเค้าคิดแพงกว่าใช่ไหมคะ... ทำไมถึงคิดว่าเราจะยอมลดราคาลงไปสู้ให้ได้งานด้วยล่ะ ฉันไม่มีความจำเป็นต้องรับดีลนี้หรอกนะ"
มาดามปิดแฟ้มเอกสารแล้วโยนลงบนโต๊ะต่อหน้าดาวเหนือ ทำให้เขาต้องถอนหายใจให้หัวโล่งแล้วพยายามตอบอย่างใจเย็น
"ผมต้องขอชี้แจงแบบนี้ครับมาดาม จากที่ผมได้เช็คงบดุลประจำปีของบริษัทมาดามย้อนหลังไป 3 ปี พบว่ามีสต็อคเหล็กคุณภาพสูงคงค้างอยู่ในปริมาณที่สูงมากกว่าผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ดังนั้นมันจะเป็นการดีมากๆ สำหรับบริษัทมาดามถ้าเข้าร่วมดีลนี้ เพราะจะได้ระบายสินค้าในสต็อคเปลี่ยนเป็นเงินหมุนเวียนในบริษัท..."
"...ซึ่งผมขอรับรองว่าดีลนี้จะทำให้เราได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ อย่างเป็นธรรม และทางเราไม่มีเจตนาจะเอาเปรียบหรือมองว่าบริษัทมาดามเป็นตัวเลือกรองจากเจ้าอื่นที่ไหน ...โปรดพิจารณาใหม่ด้วยครับ"
คำพูดของดาวเหนือทำให้ทั้งห้องเงียบกริบไปชั่วขณะหนึ่ง ทีมที่ปรึกษามาดามเอียงตัวเข้าไปพูดกระซิบข้างหูเบาๆ เธอแอบพยักหน้าตอบรับด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเคยแล้วนิ่งคิดไปพักหนึ่งก่อนจะพูดออกมา
"ก็ฟังดูดีอยู่หรอก... แต่ยังไม่น่าพอใจเท่าไหร่... ไว้คุณไปขยับตัวเลขมาใหม่ให้น่าสนใจกว่านี้ รวมถึงคราวหน้าคุณจอมทัพต้องมาด้วยตัวเอง ฉันถึงจะตกลงด้วย... วันนี้ขอตัวก่อนนะคะ"
ติ๊งงงงง......
ทันทีที่มาดามพูดตัดบทกำลังจะปิดการประชุม เสียงข้อความเข้าที่เครื่องของดาวเหนือก็ดังขัดจังหวะ เขาลุกลี้ลุกลนหยิบออกมาดูเห็นว่าเป็นพ่อจอมส่งมาเหมือนรู้เวลาพอดีเลยรีบเปิดอ่านทันที
"พ่อจองห้องอาหารชั้นบนสุดของโรงแรมไว้ให้แล้ว รั้งเธอไว้ให้ได้ ห้ามให้กลับก่อนหนึ่งทุ่มเด็ดขาด หาทางไล่คนอื่นกลับให้หมดด้วย ลูกทำได้... จับเธอทำเมียซะ"
"ไอ้พ่อ!...... ขอโทษด้วยครับ..."
ทุกคนต่างก็มองดาวเหนือว่าจะพูดอะไรต่อ แต่ในเมื่อเด็กหนุ่มนิ่งเงียบมาดามเลยยิ้มเยาะแล้วลุกขึ้นพร้อมกับทุกคนในห้องที่ต้องลุกตาม ดีลแรกในชีวิตที่สำคัญกับบริษัทกำลังจะหลุดมือ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อคำแนะนำแปลกๆ ของพ่อ
"อะ เอ่อ.. ผมขอเชิญมาดามทานอาหารเย็นนี้ด้วยกันได้ไหมครับ... ผมหมายถึง...... แค่เราสองคน..."
"เหอะ!... นี่เธอวางแผนอะไรไว้กันแน่ การเจรจาระหว่างสองบริษัทเค้าทำกันแบบนี้เหรอ"
"คือออ... บอกตามตรงว่าผมยังใหม่กับเรื่องพวกนี้มาก... นอกจากพ่อ ผมก็ไม่เคยได้คุยกับนักธุรกิจใหญ่ระดับประเทศคนอื่นเลย... มาดามเป็นคนเก่ง แค่ได้เจอกันแป๊บเดียวผมก็รู้... ดังนั้น ถ้ามาดามจะกรุณา เป็นเพื่อนแลกเปลี่ยนความคิดกับผม.. นะครับ"
การพูดวกไปวนมาของเด็กหนุ่มแบบกล้าๆ กลัวๆ ทำให้มาดามหลินถึงกับกลั้นขำ นั่นทำให้เธอเริ่มสนใจเขาขึ้นมานิดๆ ผิดกับดาวเหนือที่ตอนนี้กัดฟันแน่นพาลคิดโมโหพ่อที่บีบให้เขาต้องพูดอะไรแปลกๆ ออกไป
"ฮ่าๆๆ ถ้าจะยอกันขนาดนี้นะ...... เอางั้นก็ได้... มีเพื่อนคุยใหม่ๆ บ้างมันก็ดีอยู่หรอก... จะไปที่ไหนล่ะ"
"ห้องอาหารชั้นบนสุดนี่เองครับ ผมจองไว้แล้ว" ดาวเหนือยิ้มกว้างตาเป็นประกาย
"อืมมมม นี่ก็ห้าโมงกว่าละ ได้เวลาพอดี... พวกนายกลับไปก่อนละกัน"
มาดามพยักหน้าให้ทีมผู้ติดตามเดินออกห้องไป ดาวเหนือเลยบอกทีมของเขาให้กลับออกไปเช่นกัน เมื่ออยู่กันตามลำพังเขาก็สูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าเต็มปอดแล้วเป่าออกมาด้วยความโล่งอก มาดามถึงกับแอบหัวเราะแล้วทั้งคู่ก็เริ่มคุยกันแบบเป็นกันเองมากขึ้น
พอพวกเขาพากันขึ้นมาถึงห้องอาหารสุดหรูชั้นบนมาดามก็ถอดเสื้อคลุมออกเผยให้เห็นชุดเดรสแหวกอกที่ใส่อยู่ด้านใน ยื่นเสื้อนอกให้พนักงานรับไปแขวนพักไว้ที่บาร์ เธอเห็นเด็กหนุ่มจ้องตาหวานเลยแอบอมยิ้มทำเป็นไม่สนใจปล่อยให้เขาแทะโลมต่อไป
พนักงานสาวอีกคนเข้ามาเดินนำทางพวกเขาเข้าไปด้านในที่เป็นโซนส่วนตัว จนมาถึงโต๊ะที่อยู่ติดกับกระจกบานใหญ่เห็นวิวเมืองได้ทั้งเมืองทั้งคู่ก็นั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน พนักงานอีกชุดตามเข้ามาจัดการเครื่องดื่ม รินไวน์ลงแก้วทรงสูงเสร็จก็ชวนกันยกดื่มเพื่อรออาหาร
ถึงตรงนี้ ดาวเหนือที่หายจากความตื่นเต้นแล้วก็เพิ่งได้มองมาดามหลินเต็มตาชัดๆ เห็นว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ แม้อายุจะย่างเข้าวัยสี่สิบแล้วแต่ยังมีเสน่ห์น่ามองไม่แพ้สาวรุ่น อีกทั้งชุดเดรสแหวกอกที่ใส่ตอนนี้มันเปิดให้เห็นร่องอกขาวดันล้นขึ้นมาจนยากที่เขาจะหลบสายตาหนีได้
"มาดาม...... สวยจังครับ..." บรรยากาศชวนฝันในห้องอาหารทำให้เขาถึงกับหลุดปากเพ้อออกมา
"ฮ่าๆ เหรอ... ขอบใจนะ... จริงๆ ฉันตั้งใจจะใส่ชุดนี้มาอวดพ่อเธอแท้ๆ... พอเค้าไม่มาก็เลยโมโหนิดหน่อย... ขอโทษเรื่องในห้องเมื่อกี้ด้วยนะ"
ดูเหมือนคำชมง่ายๆ ของดาวเหนือจะได้ผล เพราะหลังจากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันได้ลื่นไหลมากขึ้น เวลาผ่านไปจนกระทั่งเขาหันไปมองวิวเมืองด้านนอกที่ฟ้าใกล้จะมืดสนิทเลยนึกถึงเรื่องที่พ่อพูดไว้ เขาเหลือบมองที่นาฬิกาข้อมือของตัวเองเห็นว่าเข็มนาทีวิ่งผ่านเวลาหนึ่งทุ่มไปแล้วนิดหน่อยก็รู้สึกโล่งใจ
"ไม่เห็นมีไรนี่... หลงกลัวอยู่ได้ตั้งนาน" เขาพึมพัมกับตัวเองเบาๆ
"สวัสดี ไอ้หนู..."
อยู่ดีๆ ก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้นในหัว มันเป็นเสียงทุ้มๆ หนาๆ ที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ดาวเหนือสะดุ้งขนลุกวาบไปทั้งตัวหลุดอุทานออกมาเสียงดังด้วยความกลัว
เฮ้ย! ใคร! ใครวะ!!
"เหนือ! เป็นอะไรคะ?"
"ได้ยินเสียงข้าแล้วสินะ... ถึงเวลาสักที"
เขาลุกขึ้นอย่างรีบร้อนหันมองไปรอบตัวแต่ก็ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ ยิ่งทำให้สติแตกมากขึ้น ความรู้สึกกระอักกระอ่วนเหมือนมีมือมาลูบหัวทำให้เขาหลับตาแน่นยกสองมือขึ้นปัดไปทั่ว มาดามหลินเห็นท่าไม่ดีเลยรีบลุกตามเข้าไปจับตัวเขาเขย่าให้รู้สึกตัว
"เหนือ!!! เหนืออออ ลืมตาเดี๋ยวนี้! เป็นอะไรเนี่ย เธอทำฉันกลัวแล้วนะ"
ไม่! ออกไป!! ไม่เอา!!!
"ร่างของเอ็ง ข้าจะดูแลมันอย่างดีเลย... ขอบคุณสำหรับอาหารนะ ยัยหนูคนนี้น่ากินใช้ได้"
หลังเสียงนั่นพูดจบ ก็รู้สึกได้ว่าเหมือนมีมืออุ่นๆ มาจับที่ไหล่ของเขาจากด้านหลังทั้งๆ ที่มีแต่อากาศ เขาหยุดนิ่งอยู่กับที่ตัวสั่นด้วยความกลัวเหงื่อกาฬแตกพลั่กเมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจเข้ามาเป่าที่หลังใบหู เสียงทุ้มหนานั่นกระซิบบอกเขาเบาๆ...
"...สถิตย์ร่าง..."
มาดาม!... หนี... ไป......
เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่มีพูดบอกเตือนมาดามก่อนจะค่อยๆ ทรุดตัวลงแล้ววูบหมดสติ...