สัปดาห์ต่อมา
“พวกแกปีนี้งานเลี้ยงรุ่นที่มหาลัยจะไปกันรึเปล่า?” แพมนำบัตรเข้างานคืนสู่เหย้าที่จะมาถึงในอีก สามวันข้างหน้าให้นุ๊กและเฟื่องเพราะแพมเป็นประธานรุ่นของคณะ
“อ่ะนี่บัตรเข้างานได้มาสามใบพอดี ฉันได้โซน VIP เพราะเป็นประธานรุ่น”
“ไปสิจ๊ะ ปีที่แล้วสนุกมากคิดถึงเพื่อนๆและอาจารย์จะแย่” นุ๊กรีบหยิบบัตรเชิญมาดูทั้งสามเพื่อนซี้จะไปด้วยกันเสมอซึ่งปีนี้นับว่าเป็นปีที่สองของพวกเธอ
“เค้ามีธีมให้ใส่ชุดสีอะไรปะ?”
“ไม่นะอีเฟื่องเอาชุดที่คิดว่ามึงสวยที่สุดในงานแหล่ะปีที่แล้วมึงก็สร้างตำนานเริสสแมนแตน” นุ๊กเบ้ปากยืนกรอกตาใส่เฟื่องเพราะปีที่แล้วเธอเป็นคนแบกร่างของเฟื่องกลับคอนโดเพราะเพื่อนสาวเมาจนร่วง
“ปีนี้มึงก็แบกกูกลับอีกนะอีนุ๊ก ฮ่าๆๆ”
“โอ๊ย! ไม่ๆๆๆถ้ามึงจะเมาเละขนาดนั้นกูจะทิ้งมึงเลยค่า”
“แพมอีนุ๊กมันจะทิ้งเรา”
“เบาได้เบานะเฟื่อง” แพมอีกคนที่เตือนให้เพื่อนสาวกินแต่พอดี เพราะกว่าจะพากันกลับคอนโดได้มันไม่ง่ายเลย
“เหอะ! ปีนี้ฉันไม่เมาหรอกเชื่อปะ?” ร่างบางหยักไหล่พร้อมกับประกาศไปว่าจะไม่เมาเหมือนปีที่แล้ว
“ชิ! คออ่อนแต่เสือกอยากดื่ม”
“โหย! อีแพมอย่าบูลี่”
งานเลี้ยงรุ่นที่มหาวิทยาลัย
บรรยากาศภายในงานรื่นเริงเหล่าบรรดาศิษย์เก่าต่างตบเท้าเข้ามาร่วมโต๊ะตามโซนและบัตร เสียงดนตรีและการแสดงบนเวทีเริ่มขึ้น วันนี้เป็นวันแห่งการคืนสู่เหย้าร่างบางที่วันนี้แต่งตัวในชุดเดรทเว้าหลังเปลือยถึงเอวรัดรูปสีขาวสะอาด เธอสวยและสง่าใบหน้านั้นถูกเติมแต่งแต่ทว่าไม่ได้หนักแต่ละมุนสวยฉ่ำเข้ากับผมสีน้ำตาลอ่อนลอนสวย เสื้อผ้าหน้าผมนั้นถูกเพื่อนสาวสองอย่างนุ๊กนั้นเป็นคนเนรมิตจัดหาและแต่งให้ และแพมเองก็สวยไม่แพ้กันเธอมากับแฟนหนุ่มที่เป็นรุ่นเดียวกันคณะบริหาร
“สวัสดีเลือดสีฟ้าขาวศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยBAทุกท่าน วันนี้จะมีโชว์พิเศษจากศิษย์เก่าหนุ่มๆคณะวิศวกรรมศาสตร์ รับรองว่าจะทำให้สาวๆเซอร์ไพรส์ไปกับพวกเค้า” พิธีกรหนุ่มหล่อบนเวทีได้กล่าวเปิดงานและเตรียมการแสดงไฮไลต์เอาไว้
“แปะ! แปะ! โฮ่วๆๆๆ…กรี๊ดดด!!” เสียงปรมมือและเสียงโฮ่ร้องกรี๊ดสนั่นเมื่อผ้าม่านที่ปิดกั้นฉากบนเวทีเลื่อนออก ปรากฏภาพนักร้องหนุ่มหล่อในชุดสูทสุภาพและวงของเขาหน้าตาดีกันทุกคน
“กรี๊ดๆๆๆ!…พี่เคนโซ่พี่ปกป้องพี่ภูริพี่ดรีมวิศวะโยธา”
“อร๊ายยย!!!…ผัวกลับมาแล้ว”
เหล่าบรรดาสาวๆต่างเซอร์ไพรส์กันทั้งหอประชุม เพราะแก็งค์วิศวะของเคนโซ่และเพื่อนๆร้องเพลงโชว์บนเวที โดยคนที่เป็นนักร้องนำเสียงเพราะนุ่มทุ้มก็คือเคนโซ่ส่วนมือกลองคือภูริและมือเบสคือปกป้อง ทั้งสามหนุ่มร้องและเล่นดนตรีสด
ในอดีตสมัยเรียนทั้งสามคนคือนักร้องของมหาลัย เนื่องจากต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศถึงสองปีจึงห่างหายไป แต่ทว่าปีนี้พวกเขาได้กลับมารวมตัวกันและมาร่วมงานคืนสู่เย้าในปีนี้
สายตาคมใบหน้าหล่อทรงผมที่เซทมาอย่างดีของนักร้องนำมองตรงมาที่ร่างบางที่นั่งอยู่ เฟื่องนิมมานเผลอสบตาคมคู่นั้นในใจคิดว่าทำไมเขาถึงเลือกร้องเพลงนี้เพราะเป็นเพลงที่เธอนั้นชอบ จึงพยายามหลบสายตาและเลือกที่จะชนแก้วและสนใจเพื่อนๆแทน
~ ฮู้! ฮู้! ~
~ เธอคือหัวใจ เธอคือแสงไฟ เธอคือสายลมที่พัดพา ~
~ ฉันเพิ่งรู้ใจตัวเองว่า….ฉันรักเธอและฉันรักเพียงแค่เธอ ~
~ โปรดกลับมาได้มั๊ย…กลับมาหาฉันคนโง่งมงาย ชีวิตที่ไม่มีเธอมันเหมือนคนที่ใกล้จะตาย วิญญาณแหลกสลายหายไปกับสายลม~
เมื่อเพลงแรกจบลงเคนโซ่และทุกคนจึงทักทายกล่าวคำขอบคุณเหล่าอาจารย์และศิษย์เก่าทุกคน วันนี้เป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้ก้าวออกมารั้วมหาลัยพวกเขาได้คืนสู่เย้าอย่างแท้จริง
“กรี๊ดดด! เพราะมากๆพี่เคนโซ่ พี่ดรีม พี่ป้อง พี่ภู เอาอีกๆ”
“วันนี้พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากครับที่ได้กลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง และผมกับวงก็คิดถึงบรรยากาศและอาจารย์เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน พวกเรากลับมาแล้วครับ”
“อร๊ายยย! ผัวฉันๆกลับมาแล้าค่า”
“ขอบคุณๆครับสำหรับเสียงเชียร์และต้อนรับอย่างอบอุ่น มีอ**บทเพลงหนึ่งที่มีคนๆหนึ่งซึ่งเธอจะชอบขอให้ผมร้องให้ฟัง ผมอยากจะบอกเธอนะครับว่าความหมายของเพลงนี้มันคือเพลงของเรา”
“พี่โซ่หมายถึงใคร แฟนเขาพี่พิมพ์มาดารึเปล่าเธอก็มาด้วยนะ น่าอิจฉาที่สุดโรแมนติกมาก”
“ผมขอมอบเพลงนี้เป็นเพลงที่ผมกับเพื่อนๆในวงซ้อมแล้วเจอกับเธอในวันนั้น เพลงนี้มีชื่อว่า…เธอคือดาวในฝัน”
“อร๊ายยย! กรี๊ดด! ฉันรักพวกเค้า!”
“ว๊าย! แก็งค์วิศวะโยธาอีเฟื่องสามคนนี้โผล่มาได้ไง?”
“หึ! ฉันชักจะไม่สนุกแล้วอะแก”
“คนตั้งเยอะไอ้สามตัวนั้นมันไม่เห็นพวกเราหรอกมาๆชนแก้วๆ วู้!!” แพมเลือกที่จะชนแก้วเธอนั้นเริ่มกรึ่มๆ เพราะวันนี้มากับแฟนหนุ่มและเธอเองเป็นประธานรุ่นของคณะจึงสนุกเพราะได้เจอเพื่อนๆและรุ่นพี่
“เออๆ ช่างแมร่งไม่เกี่ยวอะไรกันสักหน่อยอย่าไปสนอะหมดแก้ว” เฟื่องยกแก้วเหล้าขึ้นมาและชนไม่ยั้งเธอเลือกที่จะไม่สนใจวงของนักร้องหน้าหล่ออดีตคนรักบนเวที เพราะกลัวใจตัวเองว่าจะหวั่นไหวไปกับเขาอีกครั้งเนื่องจากเคนโซ่นั้นหล่อเท่ห์และร้องเพลงเก่ง เขาดูดียิ่งกว่าตอนสมัยเรียนขึ้นมาก
“เอ้า! วันนี้ไม่เมาไม่กลับฉันคิดถึงพวกแกมากขอบคุณนะที่มาเฟื่อง นุ๊ก แพม” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มกอดคอและยกแก้วชนเพราะความคิดถึงและดีใจ หลังจากเรียนจบก็ไม่เคยมีโอกาสได้พบกันงานคือสู่เหย้าจึงเป็นงานที่ได้เจอเพื่อนๆ
“อื้อ! ฉันก็ดีใจ”
“อีเฟื่องมึงหน้าแดงแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
“อย่าได้แคร์เดี๋ยวงานเลิกไปต่อกูเลี้ยงพวกมึงเองวู้!!” ร่างบางที่กำลังกรึ่มๆเอ่ยปากชวนกลุ่มเพื่อนเก่าที่ร่วมโต๊ะVIP ไปดื่มต่อเพราะติดลม
“อีแพมบอกผัวมึงอย่าเมานะคืนนี้ ต้องพากูกับอีนุ๊กกลับคอนโดด้วย” ร่างบางพูดเสียงยานเพราะเริ่มเมา
“ตามสบายเลยเฟื่องเราจะไปส่งทุกคนเอง” แฟนหนุ่มของแพมเขาเป็นสุภาพบุรุษอาสาไปส่งทุกคน เขานั้นจะตามแพมกับเพื่อนของเธอไปเที่ยวบ่อยๆจึงชิน
“เฟื่อง”
“อ้าว! ปกป้อง”
“เราขอชนแก้วหน่อยดิพอดีกลับมาจากญี่ปุ่นแล้วอยากจะมาทักทาย” ปกป้องหลังจากลงจากเวทีเขาก็มุ่งตรงมาหาร่างบาง เพราะเวลาอยู่บนเวทีโต๊ะของเฟื่องและเพื่อนๆนั้นมองเห็นชัดเจนวันนี้เฟื่องสวยเซ็กซี่และสง่าออร่ามากที่สุด
“ยินดีนะปกป้องที่เรียนจบ นายต้องได้เกียรตินิยมแน่เลย”
“ไม่พลาดฉันกับไอ้โซ่ได้อยู่แล้ว” ใบหน้าหล่อเหลาแสยะยิ้มปกป้องนั้นชื่นชอบในตัวของเฟื่องมานานแล้ว และเขาก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปทักทาย
“อื้ม! ป้องเก่งอยู่แล้วเฟื่องไม่แปลกใจ” มือบางยกแก้วขึ้นมาและจิบบางๆยืนคุยอย่างออกรสกับเพื่อนของอดีตคนรัก
“โซ่ เคนโซ่ร้องเพลงเพราะจังเลยพิมพ์ไม่ได้ยินโซ่ร้องเพลงมานานมาก” ดาราสาวสวยพิมพ์มาดาก็มางานเลี้ยงรุ่นในวันนี้กว่าเธอจะฝ่าวงจากเพื่อนๆออกมาได้ก็ยาก เธอทั้งโดนขอถ่ายรูปและขอลายเซ็น
“อื้ม! ฉันไม่ได้ร้องมานานไม่ได้ซ้อมด้วยเพิ่งจะมาเตรียมเมื่อเช้านี่เอง” ใบหน้าหล่อทำหน้านิ่งแต่ทว่าสายตาก็แอบมองโต๊ะของเฟื่องที่ยืนคุยสนิทสนมกับปกป้อง เพื่อนสนิทที่ชอบและมีรสนิยมเหมือนกันกับเขา
“ปกป้องล่ะภูริหายไปไหนเมื่อกี้ยังเล่นเบสอยู่บนเวทีอยู่เลยเท่ห์เอาเรื่อง” มือบางยกนิ้วให้กับภูริเพราะวันนี้วงของพวกเขาร้องดีและเท่ห์มากจริงๆ
“นู้น ไปหลีหญิงคณะอักษรโซนVIP” นิ้วเรียวของภูริชี้ไปที่เพื่อนเพราะเขาตัวสูงเด่นและแต่งตัวภูมิฐานยืนอยู่กับเฟื่อง
“นั่น! กลุ่มของเฟื่องนิมมานนี่นาตอนนี้ดังแล้วนะพิมพ์กำลังจะเล่นซีรี่ย์ที่เป็นบทประพันธ์ของเธอ”
“ไม่น่าเชื่อเฟื่องมีอะไรที่น่าเซอร์ไพรส์เสมอ” ภูริยกยิ้มขึ้นมุมปากสายตาเขาก็มองไปที่ใบหน้าของเคนโซ่ที่มันดูครุ่นคิดและดูไม่สบอารมณ์ เพราะปกป้องนั้นเข้าไปหาคนที่เขานั้นหวงมากตั้งแต่ไหนแต่ไร
“โซ่ ไม่สนุกเหรอคะเราไปหาป้องไหม?”
“ดีเหมือนกัน”
ร่างสูงก้าวเท้าเดินตรงไปที่โต๊ะVIPคณะอักษรศาสตร์เขาเดินลิ่วนำหน้าพิมพ์มาดาไม่สนใจเธอ ร่างบางในชุดเดรทสายเดี่ยวรัดรูปโชว์สัดส่วนรีบเดินตามทันที เมื่อมาที่โต๊ะทุกคนต่างมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบนิ่งไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้
“เฮ้ย! ไอ้โซ่มากับพิมพ์เหรอ?”
“อ้าว ปกป้องหวัดดี”
“หวัดดีพิมพ์เดี๋ยวตามไปที่โต๊ะนะไอ้โซ่มึงมาตามกูทำไมวะ?”
“กูจะไปต่อที่ร้านข้างนอกในนี้คนเยอะอึดอัด” ใบหน้าหล่อมองไปที่ร่างบางสายตาคมกริบจ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ เขาไม่ชอบชุดที่ร่างบางสวมใส่มันดูดีแต่มันโชว์เนื้อหนังมากเกินไป ดูแล้วจิตใจเขานั้นไม่สบายว้าวุ้นและขัดสายตาไปหมด
“กูขอไม่ไปกับมึงนะวันนี้เพราะกูจะไปกับกลุ่มของอักษรศาสตร์โต๊ะนี้” ปกป้องปฏิเสธเสียงแข็งเขานั้นอยากจะไปกับสาวสวยแซ่บมากความสามารถอย่างเฟื่องนิมมาน
“ร้านไหน?”
“Memo CIub”
“กูก็จะไปร้านนี้กับไอ้ภูพอดี”
“เหอะ! ร้านมีตั้งเยอะมึงทำไมต้องไปร้านเดียวกับพวกกูปกติมึงไม่ชอบร้านแนวนี้นี่?”
“กูก็อยากเจอเพื่อนเก่าๆแบบมึงไงไอ้ป้อง”
พูดเสร็จร่างสูงก็หันหลังเดินกลับไปก่อนเขาจะไปก็มองไปที่เฟื่องตั้งแต่หัวจรดเท้าสลับกับเพื่อนของเขา เฟื่องแพมและนุ๊กเลือกที่จะเงียบไม่ทักทายหรือพูดคุยกับเขาเพราะไม่อยากมีเรื่อง
“ชิ! ไอ้โรคจิตอย่าเมาแล้วแรดเอากับผู้หญิงแล้วโทรมาหาฉันอีกนะ” เฟื่องได้แต่ด่าเขาในใจเพราะวันนี้เธอดูสีหน้าท่าทางของเคนโซ่เขาดูน่ากลัวและดูดุ ทั้งสีหน้าแววตาและคำพูดมันฟังดูไม่เป็นมิตร