“โซ่ นายช่วยอธิบายมาสิว่าถุงยางที่ใช้แล้วในถังขยะนี่เป็นของใคร?
“ห้องนี้มันเป็นห้องฉัน ของทุกอย่างมันก็เป็นของฉันเธอจะถามเพื่อ?”
“นายมีผู้หญิงที่นอนด้วยอีกคนหรือหลายๆคนใช่ไหมไหนนายว่าโสด?”
“ก็โสดเลยมาคบกับเธอนี่ไงเฟื่อง ยังต้องการอะไรอีก…หืม?”
“ฉันขอถามนายครั้งสุดท้าย….นายเอาใครมานอนที่ห้องนอกจากฉัน?”
“พิมพ์มาดา”
“ไอ้เคนโซ่…ไอ้คนสารเลวฉันไม่ใช่ตัวแทนของใครอย่ามายุ่งกับฉันอีก นายมันคนเห็นแก่ตัว”
“เพี๊ยะ!!…” มือบางที่สั่นเทาตบไปที่ใบหน้าหล่อเหลาเฟื่องนิมมานเจ็บปวดแสนสาหัด แฟนคนแรกที่เขาเข้ามาจีบและเธอก็รักเขามากเพราะแอบชอบมาตั้งแต่ปีหนึ่ง หักหลังเธอโดยการพาสาวสวยดาวคณะมาร่วมหลับนอนบนเตียงทิ้งหลักฐานไว้ให้ดูต่างหน้า มันเป็นความอัปยศที่เกินจะรับไหว
“ตบทำไมวะ… เธอก็รู้ดีว่าฉันไม่ใช่ผู้ชายที่นอนกับผู้หญิงเพียงแค่คนเดียว ตอนแรกเหมือนจะรับได้แต่ตอนนี้เป็นบ้าอะไรขึ้นมาวะเฟื่อง?”
“เหอะ!…รับได้เหรอใครว่าฉันรับได้ล่ะโซ่ การที่นายยังไม่มีแฟนจะนอนกับใครมันก็ไม่ผิด แต่ตอนนี้ฉันคือแฟนนายและนายก็ควรหยุด”
“ไม่มีทาง…ฉันมันก็เป็นแบบนี้ สามเดือนที่ผ่านมาฉันก็นอนกับเธอมาตลอด เธอก็เป็นแฟนเพียงคนเดียวคนอื่นฉันไม่เคยให้สถานะ เธออย่ามาล้ำเส้นกันให้มากเลยเลิกงี่เง่าสักทีเถอะ”
“กรอด~ ~” เฟื่องนิมมานขบฟันแน่นด้วยความโกรธที่แฟนหนุ่มวิศวะไม่รู้สึกผิดและยังด่าเธอว่าล้ำเส้น ไม่มีแม้แต่คำว่าขอโทษ เธอทำได้เพียงกำหมัดแน่นและร้องไห้ออกมาเพื่อระบายเท่านั้น
“ชอบมันมากใช่ไหม…พิมพ์มาดา ทำไมถึงไม่ไปคบกับมันล่ะนายมาขอคบกับฉันทำไมโซ่?” ใบหน้าหวานที่ตอนนี้กลั้นน้ำตาไม่อยู่เอ่ยถามเขาไปตรงๆ
“อืม…ใช่”
“ถ้าชอบเขาขนาดนั้นก็ไปอยู่กับเขาสิ อย่ามายุ่งกับฉันอีกเราเลิกกันเถอะ”
“เธอคิดดีแล้วใช่ไหมที่พูดคำนั้นออกมาเฟื่อง?” ร่างสูงยืนกอดออกคิ้วหนาเลิกขึ้นดันลิ้นในกระพุ้งแก้ม แล้วถามแฟนสาวที่เพิ่งจะคบได้เพียงสามเดือนให้แน่ใจ
“เออ!”
“ได้งั้นฉันเอาตามที่เธอต้องการ”
สัปดาห์ต่อมาที่ไนท์คลับใกล้มหาลัย
“เฟื่องมึงโครตสวยเลยใครจะไปคิดว่ามึงจะซ่อนรูปขนาดนี้”
“ฉันต้องสวยค่ะและต้องฉลาดด้วย ที่สำคัญต้องหน้าด้านด้วยนะผู้ชายชอบ… เฟื่องคนเดิมที่นิ่งๆเรียบร้อยๆมองโลกในทุ่งหญ้าลาเวนเดอร์มันตายไปแล้วจ๊ะ”
“กรี๊ดด!!…โคตรเพี้ยวเลยว่ะแก เอ้าเพื่อนอกหักต้องฉลอง”
“อีนุ๊กมึงก็ชนแก้วอยู่นั่นอีเฟื่องมันคอแข็งซะที่ไหนกันละ มึงเป็นกะเทยควายก็แบกมันกลับห้องด้วยนะ”
“ชิ!…อีแพมอีชะนีที่เอาเปรียบกะเทยตัวน้อยๆอย่างกู”
เฟื่อง แพม และนุ๊ก สามเพื่อนซี้คณะอักษรศาสตร์วันนี้มารวมตัวกันที่คลับดังใกล้มหาลัย หลังจากที่เฟื่องเลิกกับเคนโซ่เธอก็เปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ สบัดลุคใสใสกลายเป็นสาวเปรี้ยวจนเข็ดฟัน
วันนี้เธอแต่งตัวได้ยั่วยวนละลายหนุ่มๆในคลับมาก ผิวขาวๆร่างบางแต่ก็ไม่ได้ผอมจนเกินไปมีสัดส่วนโค้งเว้าน่าดึงดูดใจชาย ขาเรียวยาวขับกับชุดเปิดหน้าเปิดหลังสั้นจนเกือบจะเห็นบั้นท้ายขาวเนียน เธอแต่งหน้ากรีดตาจนสวยเฉี่ยวกลายเป็นสาวแซ่บละลายใจผู้ชายไปแล้ว
“เฮ้ย!..โซ่นั่นใช่เฟื่องเมียมึงรึเปล่าวะ?”
“อืม”
“เชี่ย!…อย่างกับคนละคนแน่”
“โซ่คะ..พิมพ์อยากไปเข้าห้องน้ำค่ะ โซ่ช่วยไปเป็นเพื่อนพิมพ์หน่อยจะได้มั๊ย?”
“ครับ”
หลังจากเดินตามพิมพ์มาดาหญิงสาวที่เคนโซ่ชอบและหลงรักนั้น แม้ว่าเธอจะนอนกับเขาแต่เธอก็ไม่ได้ให้สถานะแฟนกับเขา ระหว่างทางไปห้องน้ำเขาต้องเดินผ่านโต๊ะของเฟื่องและเพื่อนๆของเธอไป ระหว่างที่เดินตามหลังพิมพ์มาดาไปนั้น เขาก็เห็นเฟื่องนั้นคลอเคลียกับหนุ่มๆที่เข้ามาขอร่วมโต๊ะ
“หึ!…เป็นเอามากนะเฟื่อง เลิกกับฉันแค่ หนึ่งอาทิตย์จ้องจะหาผัวใหม่แล้ว” สายตาคมมองไปที่ร่างบางที่กำลังกอดคอชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง หัวเราะร่าด้วยกันท่าทางสนิทสนมถึงเนื้อถึงตัว เคนโซ่ทำได้เพียงมองและส่งสายตาดุดัน แล้วคิดในใจเพียงเท่านั้น
“อีเฟื่องๆ… เมื่อกี้ผัวเก่ามึงเดินผ่านมานางมากับยัยพิมพ์มาดา มองมึงกับผู้ด้วยแหละ” นุ๊กเพื่อนสาวสองสะกิดเพื่อนสาว และบอกให้รู้ว่าเคนโซ่มองเธออยู่
“เหรอ?… ดีงั้นจะได้รู้กันไปเลยว่ากูไม่ได้สนใจมันแล้ว คอยดูนะคืนนี้กูจะทำให้โลกรู้ว่ากูไม่แคร์ผู้ชายเชี่ยๆแบบมันแล้วจ้า”
เมื่อพูดจบเฟื่องนิมมานและเพื่อนๆที่กำลังกรึ่มๆเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ได้เต้นโยกย้ายตามจังหวะเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มภายในร้าน ร่างบางเต้นโชว์สเตปเซ็กซี่นัวชายหนุ่มที่มาสนใจมือหนาของเขาก็โอบเอวบางของเธอเอาไว้ตลอด เฟื่องเธอสวยและมีเสน่ห์ดึงดูดใจมาก
“กรี๊ดดดด!… เฟื่องแกขึ้นไปทำอะไรระวังเดี๋ยวตกนะ” แพมและนุ๊กร้องเสียงหลงที่จู่ๆร่างบางก็ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ แล้วลุกขึ้นยืนเธอเต้นเซ็กซี่โดยอีกมือหนึ่งก็จับมือหนาของชายหนุ่มเอาไว้ นาทีนี้ทุกคนที่มองเห็นต่างอ้าปากค้าง บางคนหยิบมือถือขึ้นมาแล้วถ่ายเอาไว้
“ตัวแม่จะแคร์เพื่อ?… อีเฟื่องกูจะบ้าตายลูกสาวฉันลอกคราบ จากดักแด้กลายเป็นผีเสื้อแล้วค่ะ” นุ๊กถึงกับอุทานออกมาในความเผ็ดของเพื่อนสาว เฟื่องใจเด็ดและเปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อเคนโซ่และกลุ่มเพื่อนๆเห็นโต๊ะด้านหน้าที่มีสาวสวยคนหนึ่งเต้นอยู่ เขาถึงกับขยี้ตาตัวเองเฟื่องนิมมานทำเขาหัวใจกระตุก ในใจนั้นอยากจะไปกระชากเธอให้ลงมาจากโต๊ะแล้วลากกลับคอนโดแทบขาด แต่เขาเองทำไม่ได้เพราะมากับพิมพ์มาดาสาวที่เขาคลั่งรักหนักหนา
“เชี่ย!..ไอ้โซ่เฟื่องเธอเด็ดว่ะ ใครจะไปคิดว่าเลิกกับมึงแล้วจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ได้ข่าวว่ารุ่นพี่รุ่นปู่เราตามจีบกันทั้งนั้น เอาจริงๆนะกูยังชอบเลย” ภูริเพื่อนสนิทในกลุ่มแก็งค์วิศวะเขาก็หล่อโปรไฟล์ดีไม่แพ้เคนโซ่ ชมและมองดูเฟื่องนิมมานไม่วางตา
“ไอ้โซ่… มึงไม่ได้คบกับเฟื่องจริงแล้วนะ งั้นกูไม่เกรงใจแล้วนะโว้ย!” ปกป้องเพื่อนอีกคนที่มาด้วยเขาก็อยู่กลุ่มเดียวกัน เป็นหนุ่มหล่อดีกรีลูกชายนายแพทย์คนดังที่มีคลินิกใหญ่รวยและหล่อเรียนเก่งมาก ทั้งสามคนเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยม เลือกเรียนวิศวะโยธาเหมือนกัน และอยู่ห้องเดียวกันมีนิสัยคล้ายๆกันจึงคบกันได้ยาว
“ชิ!..แฟนเก่าโซ่ทรงนี้นี่เอง ตอนแรกพิมพ์คิดว่าโซ่ชอบแต่ตอนนี้ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงได้เลิก” พิมพ์มาดาเบะปากมองดูเฟื่องนิมมานที่ยังสนุกสนานออกลีลาร้อนแรง ยั่วยวนชายหนุ่มที่อยู่กับเธอ
“พิมพ์โซ่รู้สึกไม่ค่อยสบาย เรากลับกันก่อนไหมพรุ่งนี้โซ่มีเรียนเช้า”
“ก็ได้ค่ะคืนนี้ให้พิมพ์ไปนอนเป็นเพื่อนไหมคะ?”
“ผมกลัวพิมพ์จะติดไข้ไว้ วันหลังนะครับเดี๋ยวโซ่ไปส่งนะ”
“ก็ได้ค่ะงั้นเราไปกันเถอะ”
หลังจากไปส่งพิมพ์มาดาเคนโซ่จึงโทรเช็คกับเพื่อนๆว่าเฟื่องเธอยังอยู่ในร้าน เขารีบตีรถกลับแล้วมาที่คลับมานั่งดื่มต่อที่โต๊ะเดิมเขาโกหกพิมพ์มาดาว่าป่วยขอตัวกลับคอนโด อันที่จริงเขากำลังคิดแผนร้ายในใจบางอย่าง
“เฮ้ย! นึกว่ามึงจะกลับไปนอนกับพิมพ์มึงยังมาอยู่เนอะ?”
“เรื่องของกูไอ้ภูมึงชงเหล้ามาดิขอเข้มๆ”
“หึ!..กูไปชนแก้วโต๊ะเฟื่องมาแล้วน่ารักว่ะ วันนี้เป็นดาวเด่นในคลับเลย” ปกป้องแกล้งแหย่เคนโซ่เล่น เพราะเขาพอจะมองออกว่าเพื่อนกำลังโกรธและหวงก้าง
“แรด…ผู้หญิงอะไรวะร้าย”
“ร้ายๆนี่แหละเอาคนเชี่ยๆอย่างมึงอยู่ไอ้โซ่” ภูริยกแก้วขึ้นมาดื่ม พร้อมกับเอามือตบไปที่ไหล่ของเคนโซ่อย่างพอใจ
“แต่ทำไมกูมองดูท่าทางอาการของเฟื่องเหมือนเธอฝืนๆวะ อย่างกับไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง ดูดื่มก็ไม่เก่งเมาซะขนาดนั้นถ้าคืนนี้ยังอยู่ต่อกูเดาได้เลยอีกไม่กี่นาทีร่วง”
“ยัยนั่นดื่มเหล้าเป็นซะที่ไหน ใจแตกตอนปีสามหัดเที่ยวหัดอ่อยผู้ชาย ชิ!..ไร้สาระ”
“ไอ้โซ่แล้วที่มึงกลับมาเนี่ย มึงอยากจะดื่มกับพวกกูหรือจะมาเฝ้าเมีย?”
“ก็ต้องอยากดื่มกับพวกมึงสิวะ ใครจะอยากเฝ้ายัยนั่นกันเล่า”
“เออดีงั้นให้ไอ้ตี๋หน้าหล่อนั่นพาเฟื่องกลับดูสภาพแล้วคงกลับเองไม่ไหว เพื่อนๆแต่ละคนก็เมาขนาดนั้น”
“ไม่ต้องถึงมือไอ้ห่านั่นหรอกดูท่าทางก็รู้ว่ามันต้องการเคลมยัยเฟื่อง ดูไม้ดูมือมันสิอย่างกับปลาหมึกถ้ามันสิงร่างเฟื่องได้มันคงสิงไปนานแล้ว”
“ชิ!..ปากดีนะมึงไอ้เคนโซ่หึงเค้ามึงก็บอกกูมา”
“กูแค่ช่วยดูแลความปลอดภัยในฐานะแฟนเก่าที่หวังดีมันก็แค่นั้นปะไอ้ป้อง”
“สัด!…เถียงกันอยู่ได้ โน้นเฟื่องโดนไอ้ตี๋หน้าหล่อลากไปจากโต๊ะออกไปแล้ว”
“หึ!..ไอ้เชี่ยเผลอไม่ได้เลยนะไวยิ่งกว่าแสง”
@ลานจอดรถ
“เฟื่องครับคอนโดอยู่แถวไหนสาวๆทุกคนด้วยเดี๋ยวผมไปส่งเอง”
“อยู่คอนโดโมเมนตัมค่ะพวกเราอยู่คอนโดเดียวกัน” แพมที่เมาน้อยที่สุดเธอยังพอมีสติจึงบอกชายหนุ่มไป เพราะเขาอาสาไปส่งทุกคน
“งื้อ!…โจเฟื่องยังไม่เมาค่าเราไปดื่มกันต่อที่คอนโดไหม?”
“แฮร่ๆๆ…เฟื่องนี่น่ารักดีจังโสดจริงๆปะเนี่ย?”
“งึกๆๆ” ใบหน้าสวยที่แต่งแต้มเครื่องสำอางสวยเฉียบพยักหน้าตอบ เธอเมาและกำลังติดลมอยากจะดื่มต่อ
“เฟื่อง!”
“เสียงใครวะคุ้นๆรึว่ากูหูแว่ว” ร่างบางในอ้อมอกแกร่งของชายหนุ่มได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นหู เธอคิดว่าตัวเองเมาจนหูฝาดไป
“โจขา…เราไปดื่มต่อที่ห้องเฟื่องกันนะแพมนุ๊กมาดื่มด้วยกันสิ”
“ครับเอางั้นก็ได้”
“เฟื่องนิมมานเธอจะไปไหน?”
“เคนโซ่”
แพมและนุ๊กตกใจเมื่อเห็นร่างสูงในชุดแบรนด์เนมทั้งตัว ยืนกอดอกอยู่ด้านหลังของโจและเฟื่อง เขาทำสีหน้าตึงบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
“หึ!..ไงนายมาเที่ยวเหรอ?”
“เออ”
“เคบาย” มือบางโบกลาอดีตคนรักเธอไม่สนใจและเมินเขา
“เธอต้องกลับคอนโดกับฉันเท่านั้นเฟื่อง”
“ไม่กลับไอ้คนหลายใจมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉันออกไปไกลๆเลยนะ…โจขาเฟื่องเมาเดินไม่ไหวแล้วช่วยอุ้มเฟื่องทีค่ะ” ร่างบางออดอ้อนโจชายหนุ่มที่เจอในคลับเธอเมาและพูดเสียงยานๆ แม้ว่าจะเมาแค่ไหนแต่สิ่งที่ไม่เคยลืมในสมองคือความเกลียดชังที่มีต่อเคนโซ่
“ครับๆยืนนิ่งๆนะเดี๋ยวผมอุ้มเอง”
“ไอ้เชี่ยออกไปนะ”
ร่างสูงของเคนโซ่รีบพุ่งเข้ามาผลักร่างของโจออกเขาเซทันที สร้างความตกใจให้กับแพมและนุ๊กรวมถึงเฟื่องมาก เขารีบมาช้อนร่างบางที่อยู่ในชุดวาบหวิวที่มันโป๊รัดรูปจนแทบจะเห็นทุกอย่าง
“กรี๊ด!..ไอ้โซ่ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”
“เหอะ!..ทำไมจะแตะไม่ได้ฉันเป็นผัวเธอนะเฟื่อง”
“ไม่นายไม่ใช่ผัวฉัน”
“ใจเย็นๆนะโซ่ โจคุณกลับไปก่อนนะไว้เราค่อยเจอกันขอบคุณสำหรับวันนี้มากๆค่ะ”
“พวกเธอสองคนกลับกันเองได้ใช่ไหม?” เคนโซ่เอ่ยถามแพมและนุ๊กทั้งสองคนพยักหน้าตอบรับ
“โซ่นายเลิกกับเฟื่องแล้วนี่ทำไมถึงยังตามเธออีกล่ะ?”
“ฉันแค่เป็นห่วงเดี๋ยวเฟื่องหายเมาเมื่อไหร่ฉันจะไปส่งเองไม่ต้องห่วง”
“มันจะดีเหรอ?”
“ทำไมจะไม่ดีล่ะฉันดูแลเฟื่องได้”
“ปล่อยนะไม่ฉันไม่ไป”
“นี่คุณผู้หญิงเขาไม่ไปด้วยเธอปฏิเสธปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ”
“เสือก!..ไอ้ตี๋นี่เมียกู เดี๋ยวกูจัดการเองมึง คนนอกกลับไปอย่าให้เห็นอีกครั้งนะว่ามายุ่งกับคนของกู”
จากนั้นเคนโซ่จึงอุ้มร่างของเฟื่องขึ้นรถของตัวเอง เขาต้องใช้กำลังอย่างมากในการจับเธอมา เพราะเฟื่องนั้นทั้งดิ้นทั้งจิกและกัดเขาตลอดเวลา ในที่สุดเธอจึงเผลอหลับไปในรถเพราะเมาสุดๆและใช้แรงเยอะมาก