กว่าสองวันเต็มๆ ที่ชื่อของฉันกับยัยเนตรดาว กลายเป็นข่าวดังคึกโครม จนติดเทรนด์ในทวิตเตอร์
#นางแบบตบกัน
#ทีมเนตรดาว
#ทีมครองขวัญ
#ไฮโซภัทรติณ
รูปฉันในวันเดินแบบชุดชั้นในเด่นหราเต็มหน้าฟีดข่าวไปหมด ตอนนี้คนไทยทั้งประเทศเห็นทรวดทรงองค์เอวของฉันกันหมดแล้ว
โชคดีที่วันนั้นฉันหุ่นแซ่บ หน้าสวย ถือว่าคุ้มกับการที่อดข้าวสามวันเพื่องานในวันนั้น
นักสืบโซเชียลทำงานกันเก่งมาก ตอนนี้หลายคนรู้จักฉันดีกว่าตัวฉันจริงๆ ซะอีก บางคนถึงกับไปหาขุดรูปในอดีตของเราสองคนมาแฉ
ซึ่งตรงนี้เนตรดาวค่อนข้างเสียเปรียบเพราะยัยนั่นทำศัลกรรมเยอะ ไม่ตรงปก เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่านี่คือรูปของยัยนั่นจริงๆ เหรอ
จากที่ฉันดูก็วิเคราะห์ได้ว่าคงมีแค่ตาขาวเท่านั้นแหละ ที่ยัยนั่นไม่ได้ทำ ต่างจากฉันที่สวยเป๊ะมาตั้งแต่เกิด สิ่งที่จะทำให้ฉันขี้เหร่ได้ก็คือความกากของกล้องในอดีตเท่านั้น
ในขณะที่หลายคนรุมด่าเราสองคนว่าไร้สาระแย่งผู้ชาย อีคิวต่ำ ไม่มีวุฒิภาวะการควบคุมอารมณ์ ทางด้านอีตาภัทรติณกลับตรงกันข้าม เขากลายเป็นผัวแห่งชาติคนใหม่ไปโดยบัดดล
ช็อตที่เขาเข้าไปห้ามเรากลายเป็นที่ฮือฮาว่าเท่ระเบิด ยิ่งขุดประวัติของเขาก็เจอแต่ความรวย รวย รวย และรวย!
ทำให้เขากลายเป็นหนุ่มฮอตที่สาวๆ ต่างก็พากันเทใจโหวตให้ว่าเป็นคนที่อยากได้เป็นแฟนมากที่สุดในเวลานี้
ดังยิ่งกว่าลุงพลซะอีก!และเมื่อข่าวทั้งหมดเริ่มซาลง ก็มีงานเข้าฉันทันที ออแกไนซ์รายหนึ่งทักมาจ้างฉันให้ไปรับหน้าที่เป็นแคดดี้ดูแลนักกอล์ฟ โดยให้บัทเจ็ทห้าหมื่นบาท!
ทำงานหนึ่งวันได้ครึ่งแสน ไม่มีเหตุผลอะไรต้องปฏิเสธ!
และแล้วในที่สุดฉันมาก็ยืนสวยอยู่ที่สนามกอล์ฟตามเวลานัดหมายเป็นที่เรียบร้อย
ชุดทำงานในวันนี้ก็เป็นชุดแคดดี้สีขาวเอวลอยกระโปรงจับจีบสั้นน่ารักๆ มีหมวกบังแดดพอกรุบกริบ
นอกจากฉันแล้วก็ยังมีแคดดี้อีกสามคม ซึ่งเป็นคนที่ฉันเคยเห็นผ่านจอทีวีแทบทั้งหมด คนแรกเป็นดาราราสาวสวยชื่อดังนามว่าปานวาด
ละครเรื่องล่าสุดที่เธอแสดงคือเรื่องบุพเพสันนิบาท ที่ดังเป็นพลุแตกคนดูกันทั่วบ้านทั่วเมือง
คนที่สองเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนล่าสุด นามว่ามารีน่า ส่วนอีกคนก็เป็นนางแบบชื่อดังค่าตัวแพงชื่อว่าลูกชุบ
โปรไฟล์แต่ละคนทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ควรมาอยู่ที่นี่ แต่อาจจะเป็นเพราะพักหลังๆ มานี้ฉันเริ่มดังเพราะคลิปตบตีเลยอาจจะเป็นที่รู้จัก นี่ฉันต้องไปขอบใจยัยเนตรดาวปะเนี่ย ที่เป็นคนมอบชื่อเสียงนี้ให้กับฉัน
คนที่จ้างฉันบอกว่าลูกค้าของเขาวันนี้เป็นไฮโซที่รวยมาก ก็แน่ล่ะ ขนาดแค่ค่าจ้างนางแบบโนเนมอย่างฉันมาเป็นแคดดี้ยังตั้งห้าหมื่น
แล้วค่าจ้างอีกสามคนที่เหลือนี่จะแพงขนาดไหน ไหนจะค่าเช่าสนามกอล์ฟและอะไรอื่นๆ อีกล่ะ ไม่รวยจริงจ้างไม่ได้นะเนี่ย
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งเซลฟี่กับปานวาดอยู่ในห้องรับรองแอร์เย็นฉ่ำเพื่อจะเอาไปอวดเพื่อนในเฟส พี่ไมค์คนที่จ้างฉันก็เดินเข้ามาบอกว่าลูกค้าของเขามาถึงแล้ว ให้เตรียมตัวออกไปต้อนรับ
“จะได้เจอคุณติณตัวจริงแล้ว ตื่นเต้นจังเลยเนอะ”
ปานวาดระริกระรี้
ว่าแต่...เมื่อกี้เธอพูดชื่อใครนะ
“ติณ? ภัทรติณน่ะเหรอ?” ฉันถามเพื่อความแน่ใจ
“ใช่น่ะสิ” ปานวาดเบิกตาโต “นี่เธอรับงาน โดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนจ้างเหรอ?”
ขุ่นพระ!!
นั่นสิ ทำไมฉันถึงรับงานโดยที่ไม่ดูก่อนว่าใครเป็นคนจ้าง ฉันผิดที่ไม่รอบคอบหรือเพราะพี่ไมค์ไม่ได้บอกรายละเอียด
อิทธิฤทธิ์ของเงินคงทำให้ฉันกลายเป็นคนโง่ไปชั่วขณะ เพราะถ้าฉันรู้ว่าเจ้าของงานที่แท้จริงคือภัทรติณ
ฉันจะไม่มีทางรับงานนี้แน่นอน!
ว่าแล้วเชียวว่าฉันพึ่งตกเป็นข่าวไม่ดีแบบนี้จะมีใครจ้าง ที่แท้ก็เป็นคนที่อยากจะแกล้งฉันนี่เอง!
ภัทรติณเดินเข้ามาในห้องรับรองพร้อมกับลูกน้องคนสนิทและเพื่อนอีกสองคนที่ฉันคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี
วันนี้เขามาในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงสามส่วนสีกากีสบายๆ ใส่แว่นกันแดดและหมวกแก็ปราคาแพง ดูเป็นลุคของไฮโซที่มาตีกอล์ฟจริงๆ
ปานวาด มารีน่า ลูกชุบ ต่างก็พากันดี๊ด๊าเข้าไปทักทาย มีแค่ฉันคนเดียวที่ยืนนิ่งอยู่กับที่
ภัทรติณเดินตรงมาที่ฉัน ทันทีที่เขาเข้ามาใกล้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่โชยออกมาจากตัวเขาก็เริ่มทำงานได้อย่างคุ้มราคา ฉันชอบผู้ชายตัวหอม แต่ฉันจะไม่มีทางหลงเสน่ห์เขาแน่นอน!
“วันนี้น่ารักดีนะ” เขาพูด
ฉันเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ตะลึงกับความหล่อระดับสิบไปชั่วขณะแต่ก็เรียกสติตัวเองกลับมาได้ทัน ผู้ชายอะไรหน้าใสเป็นบ้า
“คุณไปอยู่กับปานวาดเถอะค่ะ” ฉันพูด “เดี๋ยววันนี้ฉันจะดูแลลูกน้องคุณเอง”
ติณเลิกคิ้ว
“พายุเป็นคนรีเควสปานวาดมา ผมจะไปแย่งมันได้ไง”
“งั้นก็มารีน่ากับลูกชุบ”
“มารีน่าก็เป็นเด็กมาวิน ส่วนภูมิลูกน้องผมก็ปลื้มลูกชุบอยู่ เหลือแค่คุณนี่แหละที่ต้องดูแลผม”
กะแล้วเชียวว่าต้องเป็นแบบนี้
“แล้วแฟนคุณล่ะ?” ฉันหมายถึงยัยเนตรดาว
นี่ถ้ายัยนั่นรู้ว่าติณจ้างฉันมาจะหัวเสียแค่ไหนนะ คงจะตามมาตบฉันถึงสนามกอล์ฟเลยมั้ง
“ผมไม่มีแฟน หรือถ้ามีผมก็คงไม่ยอมให้แฟนผมต้องมาลำบากกางร่มให้ผมหรอก”
อ้าว แล้วยัยเนตรดาวคืออะไร เด็กในสังกัดเหรอ?
“นี่คุณจงใจจ้างฉันมาแกล้งใช่ไหมฮะ?” ฉันถามตรงๆ
ติณยักไหล่ “เปล่า ผมจ้างคุณมาเพราะผมชอบคุณ”
คำตอบของเขาทำเอาฉันไปต่อไม่ถูก ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากเขา ทำไมเขาถึงพูดคำว่า ผมชอบคุณ ออกมาได้ง่ายๆ นะ คนเจ้าชู้ก็งี้
“ฉันนึกว่าเราเป็นศัตรูกันซะอีก”
“คุณคิดงั้นเหรอ? ผมไม่เคยคิดนะ”
เชื่อตายแหละ เจอกันครั้งที่แล้วเขาพูดดูถูกอะไรฉันไว้บ้างฉันจำได้หมดนะ
“ถ้าฉันรู้ว่างานนี้คุณเป็นคนจ้างนะ ฉันไม่มาหรอก”
ติณทำเป็นไม่ได้ยินที่ฉันพูด เขาหยิบร่มจากพี่ไมค์แล้วยื่นให้ฉัน
“ไปข้างนอกกันเถอะ ผมอยากตีกอล์ฟแล้ว”
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนนี้ฉันกำลังมายืนกางร่มให้กับผู้ชายที่ฉันไม่ชอบขี้หน้าอยู่กลางสนามกอล์ฟ
ในขณะที่คนอื่นๆ พากันหัวเราะสนุกสนาน มีแค่ฉันคนเดียวที่ยืนหน้าบึ้งเหมือนไก่ย่างถูกเผา
“ทำไมแคดดี้มึงหน้าบึ้งจังเลยวะไอ้ติณ เขาเต็มใจมาจริงปะเนี่ย ฮ่าๆ” พายุแซว
“สงสัยเพราะแดดร้อน” ติณตะโกนตอบกลับไป
แดดร้อนก็ส่วนหนึ่ง แต่เกลียดเขาน่ะส่วนใหญ่เลยจ่ะ