อีตาบอสติณฉุดกระชากลากถูและพาฉันขึ้นลิฟท์มาจนถึงชั้นที่สิบ ลางสังหรณ์ที่แม่นยำของฉันบอกว่าจะต้องมีห้องเชือดสาวๆ อยู่ที่ชั้นนี่แน่นอน
ไม่ใช่ฉันไม่รู้นะว่าเขาพาฉันมาทำอะไร ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใสๆ แบบนั้นหรอก ถึงแม้ว่าฉันจะยังเวอร์จิ้นอยู่แบบไม่น่าเชื่อ
แต่ประสบการณ์เรื่องผู้ชายฉันแน่นนะขอบอก เพราะว่าคนรอบตัวฉันโดนหลอกกันมาอย่างโชคโชนน่ะสิ
แต่ใครจะคิดล่ะว่าพอถึงตาตัวเองเราจะกลายเป็นคนโง่ ความรักมันทำให้คนตาบอดจริงๆ
ผู้ชายอีกคนที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นบอดี้การ์ดเพราะเดินตามติดมากับเราด้วยตลอดตั้งแต่แรกเดินนำหน้ามาเปิดห้องให้แล้วผายมือให้ติณพาฉันเข้าไปในห้อง
ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้าไปไฟในห้องก็เปิดกันพรึ่บพั่บโดยมิได้นัดหมาย เผยให้เห็นการตกแต่งภายในสุดหรูหราประหนึ่งโรงแรมสิบดาว
เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างคุมโทนเข้าชุดดูแพงเป็นที่สุด... นี่สินะห้องของคนรวย
“โอ๊ยย!”
พอมาถึงเตียงอีตาติณก็อาการบ้ากำเริบ เขาผลักฉันลงไปนอนกลิ้งบนเตียงอย่างไม่ใยดี นี่ถ้าลงผิดท่าคอหักขึ้นมาจะทำไงฮะ
“วันนี้คุณโชคดีมากนะ” เขาแสยะยิ้ม “ได้ทั้งกินเหล้าฟรี... และก็ได้นอนกับผม”
มั่นหน้ามาก!
หน้าตาฉันตอนนี้ดูแฮปปี้เหมือนคนที่รู้สึกว่าตัวเองโชคดีอย่างนั้นเหรอ!? ใครอยากจะนอนกับเขากัน หลงตัวเองชะมัด ฉันจะจดวันนี้ไว้ในปฏิทินเลยว่าเป็นวันที่โชคร้ายที่สุด
“ทำขนาดนี้แล้วอย่าเสแสร้งพูดจาสุภาพกับฉันเลยดีกว่า”
“แต่ให้พูดมึงกูมันไม่ใช่สไตล์ผม”
แบบนั้นก็หยาบเกินไป
“งั้นเรามาคุยกันดีๆ แบบคนที่มีศีลธรรมกันดีกว่านะ” ฉันเปิดประเด็น “ยังไงวันนี้ฉันก็ไม่นอนกับคุณแน่นอน”
เขายิ้ม “คุณต้องการเท่าไหร่?”
ฉันมองหน้าเขา แค่นหัวเราะ
“โทษที ฉันไม่รับงานขาย ตัวฉันไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้ ถ้าคุณอยากได้ผู้หญิง เชิญไปหาใหม่ข้างล่าง ไม่น่าเสียเวลาพาฉันขึ้นมาเลย”
และเมื่อฉันทำท่าจะลุก เขาก็เดินมาขวางไว้แล้วโน้มตัวลงมาโดยเอามือทั้งสองข้างพิงกับเตียง
กลายเป็นว่าฉันถูกขังอยู่ในกรงอ้อมแขนแข็งแรงของเขาโดยทันที กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อนๆ มีเสน่ห์จากตัวเขาลอยมาแตะจมูก
สายตาคมกริบของเขาที่กำลังจ้องมาที่ฉันเหมือนมีเวทมนต์ที่ทำให้ฉันไม่สามารถขยับตัวได้
บอกได้คำเดียวว่า ช็อค!
“แค่ได้นอนกับผมก็คุ้มแล้ว...”
เสียงกระซิบเบาๆ ของเขา ทำให้ฉันขนลุกวาบขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ผู้ชายคนนี้อันตรายกว่าทุกคนที่ฉันเคยเจอ
อันตรายที่สุด!
ฉันจะต้องไม่เป็นผู้หญิงโง่ที่โดนเขาหลอกง่ายๆ ต้องทำอะไรสักอย่างให้เขารู้ว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ยอมพลีกายเพื่อเงินหรืออะไรแบบนั้น ไอ้พวกผู้ชายที่ชอบหลอกฟันผู้หญิงมันต้องได้รับกรรม!
ฉันจะไม่ยอมเป็นทาสคุณหรอกค่ะ!!
“หึ ใครบอกคุณว่าคุ้ม” ฉันแกล้งยั่วเขาตอบโดยการฝืนจ้องตาเขากลับไปตรงๆ “ไม่ใช่ว่าคุณคิดไปเองเหรอ?”
แต่เหมือนว่าแผนฉันจะใช้ไม่ได้ผล เมื่อคนที่สะทกสะท้านดันไม่ใช่เขาแต่กลับเป็นฉัน ใจฉันไหววูบเมื่อเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกจนจมูกเราแทบจะชนกัน
“ถ้าอยากรู้ก็ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง”
ประโยคที่เขาเอ่ยออกมานั้นแทบจะทำให้ฉันหยุดหายใจ ถ้าเขาขยับเข้ามาใกล้อีกแค่เซ็นต์เดียวเราต้องจูบกันแน่นอน ก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ ฉันว่าฉันควรจะหยุดมัน!
“ไม่ค่ะ” ฉันผลักหน้าอกเขาออกไป
อื้อหือ เห็นผอมเพรียวแบบนี้แต่เนื้อแน่นเหมือนกันนะเนี่ย
เดี๋ยวนะ ไม่สิ ฉันไม่ควรคิดถึงกล้ามเนื้อของเขา
ไม่ๆๆ ! สติ!
แต่ยิ่งฉันออกแรงปฏิเสธเขาก็ยิ่งโถมตัวเข้ามาใกล้ เขาจับแขนฉันทั้งสองข้างแล้วตรึงไว้กับเตียง
บ้าจริง! ท่านี้ขยับไม่ได้เลย ฉันจะรอดไหมเนี่ย เริ่มเครียดแล้วนะ ฉันไม่ควรจะถูกผู้ชายคุกคามติดต่อกันในเวลาอันรวดเร็วแบบนี้สิ
“ถ้าคุณไม่ปล่อยฉันจะตะโกนเรียกให้คนมาช่วยนะ” ฉันขู่
“ก็ลองดูสิ”
เขายิ้ม ไม่มีท่าทีกลัวคำขู่ของฉันแม้แต่น้อย
“ชั้นนี้มีแค่ห้องของผมกับเพื่อน และเพื่อนๆ ผมก็อยู่ข้างล่าง อ่อ ถึงพวกมันจะอยู่บนนี้พวกมันก็คงไม่มาช่วยคุณหรอก”
ว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นแบบนี้!
“เราสองคนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน ฉันว่าคุณปล่อยฉันไปดีกว่านะ คนอย่างคุณจะหาผู้หญิงที่สวยกว่าฉันอีกกี่คนก็ได้ ทำไมต้องบังคับกันด้วยล่ะ แค่เพราะฉันไม่มีเงินจ่ายค่าเหล้าเนี่ยนะ”
“เงินแค่นั้นผมไม่เอามาเป็นประเด็นหรอก ลืมไปได้เลย”
“อ้าว ถ้างั้นก็ปล่อยฉันไปสิ คุณจะพาฉันมาทำอะไรทุเรศๆ ตามอำเภอใจแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่ยินยอม!”
“ถ้ายอมง่ายๆ ก็ไม่สนุกสิ”
พูดจบเขาก็ล็อคแขนฉันแล้วก้มหน้าลงมามอบจูบอย่างเร่าร้อนโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว อยากจะเบือนหน้าหนี อยากจะกรีดร้องแต่ก็ทำได้แค่อดทนเพราะแรงเขามีมากเหลือเกิน ขยับไปไหนไม่ได้เลย
นี่ฉันหนีเสือมาปะจระเข้งั้นสินะ แถมยังเป็นจระเข้ตัวใหญ่ด้วย โดนผู้ชายสวมเขาตอนเย็น พอดึกมาก็โดนผู้ชายที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกขืนใจอีก ให้มันได้อย่างนี้สิ ไอ้พวกผู้ชายเฮงซวย!!
คิดว่าหล่อแล้วจะเปิดซิงใครก็ได้เหรอ เลว!!!
ทันทีที่เขาถอนจูบออกเพื่อจะใช้ริมฝีปากไล่ชิมตรงส่วนอื่นของฉันต่อฉันก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ว่า
“ฉันเกลียดผู้ชายแบบคุณที่สุด ขอให้มันจบที่ครั้งนี้ครั้งเดียวแล้วฉันจะไม่ขอพบเจอคุณอีกเลย!!”
“...”
เขาหยุดชะงักแล้วมองหน้าฉัน คิ้วเข้มค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน แปลว่าประโยคเมื่อสักครู่นี้ของฉันได้ผล มันคงกระทบเขาบ้างไม่มากก็น้อย
ฉันรวบรวมสติอาศัยจังหวะตอนที่เขากำลังเผลอเตะผ่าหมากเขาอย่างแรงแล้วสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของเขาทันที
“โอ๊ย นี่เธอ!!”
ติณกุมเป้ากางเกงของเขาไว้ด้วยความเจ็บปวด
หึ!… สมน้ำหน้า!
ฉันรีบลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วหยิบรองเท้าส้นสูงของตัวเองที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมา
“ฉันจะไม่ขอโทษคุณหรอกนะ”
ฉันหันหลังเดินไปที่ประตู แต่พอเปิดก็ต้องตกใจที่เห็นว่าลูกน้องเขายังคงยืนรออยู่ข้างนอก เวรละ ถ้ารู้ว่ายังไงก็ออกไปไม่ได้แบบนี้ฉันคงไม่เตะเขาหรอก ทีนี้จะโดนแก้แค้นคืนยังไงบ้างก็ไม่รู้
ฮือออ
“หยุดนะ! ถ้าคุณเข้ามาฉันขว้างรองเท้าจริงๆ ด้วย”
ฉันขู่เมื่อติณเดินเข้ามาใกล้ สีหน้าเขายังคงแสดงความเจ็บปวดไม่หาย ไมใช่ว่าไข่แตกไปแล้วหรอกนะ
“คุณเกลียดผมจริงๆ เหรอ?”
“ฉันบอกว่าอย่าเข้ามาไง!”
แต่การกระทำไวกว่าคำพูด เมื่อเขาก้าวเท้ามาข้างหน้าเพียงหนึ่งก้าว รองเท้าของฉันก็บินเข้าไปตกอยู่บนหัวของเขาเรียบร้อย
กรี๊ดดด ฉันไม่ได้ตั้งใจอะ! นับว่าเป็นอุบัติเหตุ