รักนี้ต้องยั่วให้สุด (NC นิดหน่อย)

1834 Words
“ฮัลโหล” เสียงปลายสายสะลึมสะลือ “ปลุกตามคำขอค่ะ” คนปลายสายพูด “ขอบคุณนะคะ คนดี เดี๋ยวพี่จะให้รางวัลนะ ฮ่า ๆ ๆ” “จะรอจ้ะ! ตื่น ๆ ค่ะ อาบน้ำ แต่งตัว ไม่งั้นจะเข้างานสายนะคะ” “มาอาบให้พี่หน่อยสิ พี่ขัดหลังไม่ถึง...” เอื้อมพัฒน์หยอดมุข “บ้าน่ะคนเรา” “พักกลางวันพี่จะโทร.หานะ เย็นนี้มาห้องพี่นะทำอะไรกินกันดีกว่า” วันนี้ศรุตาได้แต่นั่งๆ นอนๆ อยู่ห้อง จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ได้แต่คิดวนๆ ไปถึงรุ่นพี่ในฝันที่กำลัง สานสัมพันธ์ด้วย คิดไปก็ตื่นเต้นไปยิ้มคนเดียว เหมือนเด็กน้อยที่ได้อมยิ้มแท่งเป็นของขวัญ แทบจะรอให้ถึงตอนเย็นไม่ไหวแล้ว รถยนต์หรูคันเดิมจอดรอเธอที่หน้าหอพัก ศรุตาชุดสบายๆ เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนขาเดฟ รองเท้าคัทชูส้นแบน แต่เอื้อมพัฒน์รู้สึกถึงความน่าค้นหาภายใต้การปกปิดมิดชิดแบบนี้ (ที่ผ่านมาเจอแบบเปิดเผยสุดๆ) อีกอย่างมันเน้นให้เห็นสัดส่วนได้มากกว่าชุดทำงาน ‘ซ่อนรูปใช่ย่อยนะเรา!’ ที่อยู่ของเอื้อมพัฒน์เป็นคอนโดทำเลทองย่านธุรกิจและติดแนวรถไฟฟ้า จำนวนห้องไม่เยอะในแต่ละชั้น มีความเป็นส่วนตัวสูง เขาประสานนิ้วยาวกับมือเรียวเล็กน่าทะนุถนอมระหว่างเดินนำขึ้นห้อง หัวใจของศรุตาเต้นเกือบไม่เป็นจังหวะ “ห้องพี่เอื้อมสวยจังค่ะ วิวก็สวยเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย” หญิงสาวตื่นเต้นกับทิวทัศน์ “กวางอยากมาเมื่อไหร่ก็ได้นะ อยู่ยาวๆ เลยยิ่งดี” ค่ำนี้เอื้อมพัฒน์เตรียมทำสเต๊กเนื้อสันตามที่ถนัดไวท์แดง และที่ขาดไม่ได้คือ พานาคอตต้า ของหวานล้างปาก การปรุงอาหารเป็นไปด้วยเสียงหัวเราะเฮฮา ศรุตาผู้ไม่เคยเข้าครัวพบกับหัวหน้าเชฟโรงแรมห้าดาว “พี่เอื้อมทำอาหารทานเองประจำเลยสิ” “ไม่นะ พี่ชอบซื้อมาทานมากกว่า เลือกร้านที่อร่อยๆ” “ทำไมล่ะคะ ทำอร่อยขนาดนี้ทำไมไม่ทำ” “คือพี่ก็ทำอาหารมาทั้งวันแล้ว พอเลิกงานมันก็เหนื่อยจนไม่มีแรงจะทำแล้วล่ะ แต่พี่ทำอาหารให้แค่คนพิเศษทานเท่านั้นนะคะ รู้ไว้นะคนดี” ช่วงนาทีนี้เธอคือคนพิเศษกับมื้อพิเศษหรือเอื้อมพัฒน์จะเป็นเพียงผู้ชายเจ้าชู้ คารมดีก็มีถมไป ใครจะไปนึกอะไรซับซ้อน สิ่งที่อยู่ตรงหน้ากำลังดึงความสนใจจากเธอแล้ว เชฟหนุ่มบ่นร้อนทั้งที่แอร์ก็เย็นฉ่ำ จึงตามด้วยการถอดเสื้อยืนเปลือยท่อนบนหน้าเคาน์เตอร์ ระหว่างตีวิปครีมให้เป็นเนื้อขาวเนียน หรือนั่นเป็นแผนการบางอย่างของเขา ศรุตาจึงรีบรับอาสางานง่ายๆ เช่น หั่น ล้างสตอเบอร์รี่ เพื่อแก้เขิน “กวางจ๊ะ ชิมวิปครีมดูสิ ชอบมั้ย” รุ่นพี่ยื่นมือมาพร้อมกับวิปครีมจุดน้อย ๆ บนปลายนิ้วชี้ ศรุตาปาดวิปครีมจิ๋วนั้นด้วยช้อนกาแฟ “อืม โอเคแล้วค่ะ” เอื้อมพัฒน์ส่ายหน้า ถอนหายใจด้วยความไม่ได้ดั่งใจ เขาก้าวขามายืนประกบหลังสาวรุ่นน้อง เธอช่างตัวเล็กจริงๆ เมื่อเทียบกับร่างแกร่งข้างหลัง กล้ามอกแน่นกำยำเบียดชิดแผ่นหลังร่างบาง เขาแตะวิปครีมด้วยปลายนิ้วอีกครั้ง ก้มหน้าช้าๆ ให้ลมหายใจอุ่นรดแก้มใสอันขาวนวลชวนซุกไซ้ “ชิมใหม่! อ้าปากสิกวาง” เอื้อมพัฒน์จ่อปลายนิ้วที่ริมฝีปากเล็กพลางแนบใบหน้าชิดใกล้ สูดกลิ่นหอมจากไรผมของหญิงสาว ศรุตาดูดกลืนเนื้อครีมสีขาวอย่างว่าง่าย ความอบอุ่นจากร่างสูงใหญ่ถ่ายทอดสู่เรือนกายบอบบางจนขนลุกชัน ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนยืนประชิดตัวขนาดนี้มาก่อน เขาเริ่มซุกติ่งหู ซอกคอ ชวนให้เคลิบเคลิ้ม ล่องลอย ทั้งเบียดร่างแนบแน่นยิ่งขึ้น หญิงสาวรู้สึกได้ว่ามีน้ำอุ่น ๆ ซึมออกมาจากที่ลับช่วงล่าง มันคืออารมณ์ทางเพศใช่หรือไม่ เธอหายใจแรง ๆ ถี่ ๆ เปลี่ยนจากชิมเป็นฝ่ายอม ๆ ดูด ๆ นิ้วของชายหนุ่มไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เอื้อมพัฒน์โอบเอวเล็กคอดกิ่วคนเบื้องหน้าด้วยแขนอีกข้างไว้แน่น ชักนิ้วเข้าออกชอนไชโพรงปากเล็กอย่างเพลิดเพลิน ในหัวสมองจินตนาการว่าตนเองกำลังบดขยี้ช่องปากนี้ด้วยแกนเอ็นอุ่น หัวแดง เส้นเลือดนูนโป่ง อย่างหื่นกระหาย วิปครีมควรกลายเป็นน้ำรักไหลเยิ้มหายเข้าปากมากกว่า เขามุดฝ่ามือยาวหนาใต้เสื้อหญิงสาว ควานหาเนินคู่นิ่มนวล เต่งตึง และบีบขย้ำเหมือนของเล่นเด็ก ทั้งดันอาวุธลับแข็งตึงเบื้องล่างแนบชิดกับช่วงเอวของสาวรุ่นน้อง พลางขยับสะโพกถูไถเบาๆ ไฟตัณหาราคะโหมกระหน่ำเกือบถึงจุดเดือดเต็มที่ “พี่เอื้อม!!” “อืม!!!!” เสียงครางเรียกชื่อช่างกระตุ้นอารมณ์เสียนี้กระไร เอื้อมพัฒน์รัดร่างขาวนวลแน่นยิ่งขึ้นและแน่นขึ้นอีกตามแรงชายชาตรี รัดแน่นจนเกือบหายใจไม่ออก “โอย! พี่เอื้อม! กวางเจ็บค่ะ” ศรุตาร้องเสียงดัง ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกดึงตัวเองกลับมาจากมโนภาพในหัวสมอง สะบัดแขน ดีดตัวออกจากร่างบอบบาง “พี่เผลอกอดแน่นไป ขอโทษนะ เจ็บมากมั้ย” ศรุตาส่ายหัวหันข้างหลุบสายตา หัวใจเต้นตึกตักแรง ยกแขนกอดตัวเองเบาๆ เอื้อมพัฒน์กะพริบเปลือกตา พยักหน้ารับ หยาดเหงื่อไหลชุ่มหน้าอกกว้าง ฝากให้เธอจัดการตกแต่งของหวานแทนเขาซึ่งปลีกตัวไปห้องน้ำ ท่อนกำหนัดที่ยาว ใหญ่กว่ามาตรฐานชายไทย ถูกสาวขึ้นลงอย่างรวดเร็วด้วยมือสั่นเทา เอื้อมพัฒน์หลับนึกภาพตัวเองจับศรุตานอนเปลือยเปล่า แยกขาเรียวยาวพาดบ่ากว้าง ช่องสวาทอ้าชัดเจนพร้อมรับการมาเยือนของอาคันตุกะขนาดพิเศษจนมิดด้ามแล้วออกลีลาซอยถี่ระรัว ภาพนั้นปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ต้องทำให้เธอเป็นของเขาให้จงได้ “อ๊ะ.....อ๊ะ.....อ๊ะ” เขาเกร็งตัว ขบฟันแน่น เหงื่อกาฬท่วมร่าง เมื่อมันมาถึงโค้งสุดท้าย ก่อนน้ำกามสีขาวขุ่นจะพวยพุ่งกระจายทั่วพื้นห้องน้ำ ก้มหน้าหอบหายใจแรง สายตาพิฆาตพรหมจรรย์ดุจพญาเสือจ้องตะครุบกวางน้อย มุ่งตรงไปยังสิ่งที่อยู่นอกห้องน้ำ ศรุตาตบหน้าตัวเองเบาๆ เรียกสติคืนพยายามหยุดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว พลางยกของหวานสองถ้วยไปนั่งรอที่โซฟารับแขก เอื้อมพัฒน์เปิดประตูห้องน้ำออกมากับผ้าขนหนูบนไหล่พอดี “เสร็จแล้วใช่มั้ย กินเลยๆ” เขาพูดเชิญชวนดึงความสนใจ พลางกดรีโมตเปิดทีวี “ค่ะๆ” ของหวานอร่อยนุ่มถูกเข้าปาก แต่ลิ้นกลับไม่ทำงานให้รับรู้ถึงความหวานใดๆ อาการเขินอายจากความใคร่เมื่อสักครู่ยังคงคุกรุ่นไม่จางหาย ทั้งคู่นั่งปิดปากเงียบเชียบมีแต่เสียงรายการโทรทัศน์เท่านั้น “พี่เอื้อมดูนั่น นักแสดงซีรีย์คนนี้ เรียนที่เดียวกับกวาง ตัวจริงนี้อย่างหล่อเลย” ศรุตาชี้นักแสดงหน้าละอ่อนบนจอทีวี “ เพื่อนกวางนะ เห่อกันน่าดูวิ่งไปขอถ่ายรูปกันเป็นแถว” “หล่อเหรอ หล่อกว่าพี่หรือเปล่า ตอบดีๆ” เอื้อมพัฒน์เล่นมุก “แหะๆๆ ใครจะสู้พี่เอื้อมได้ล่ะค่ะ ไม่มี ๆ” “ใครหล่อกว่าพี่ พี่จะเด็ดหัวมันเลย” “น่ากลัวจัง ฮ่าๆ” บทสนทนาเฮฮาเลื่อนไหลดำเนินต่อไปจนดึกดื่น เมื่อได้เวลาส่งรุ่นน้องกลับหอพักแล้ว หลังจากนัดแนะเวลาในวันพรุ่งนี้เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มคว้ามือหญิงสาวมากุมแน่น นิยามของคำว่าแฟนถูกกำหนดไว้ว่าอย่างไรนี่ เป็นครั้งแรกในชีวิต เขาจ้องหน้าเธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดขึ้น “กวางเป็นแฟนกับพี่นะ” แจ๊คพ็อตใหญ่แตกที่ศรุตาสาวน่ารักคนนี้ “อืม....คือ.....ยังไงก็ได้ค่ะ” เธอก้มหน้าลงเขินจนหน้าแดงถึงหู เม้มปากแน่น อย่างที่เขาเรียกว่า อายจนม้วนได้เพียงพยักหน้าขึ้นลงงึกๆ “อย่านอนดึกนะ พรุ่งนี้ สิบเอ็ดโมงครึ่งเจอกันไปหาไรกินกันก่อนเข้างานนะ” เขาปล่อยมือลูบศีรษะอย่างเอ็นดูโบกมือลาแล้วเลี้ยวรถจากไป ศรุตาเริ่มต้นวันทำงานด้วยความสดชื่นแจ่มใส กระฉับกระเฉงมากกว่าทุกวันจนรุ่นพี่คนอื่นๆ ออกปากทัก “ทำไมวันนี้อารมณ์ดีกว่าทุกวันจ้ะ อย่างกะถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่” “ไม่เชิงค่ะ ไม่ใช่ลอตเตอรี่ แต่ก็รางวัลใหญ่” เอื้อมพัฒน์ในเวลางานก็ดูอารมณ์ดีไม่แพ้กัน คงเพราะความรักที่เบ่งบานในใจทำให้สีหน้าเขาดูเย็นลงจากที่เคยตึงๆ เคร่งเครียดตลอดเวลา เมื่อรวินทร์ไถ่ถามถึงความผิดปกติดังกล่าว เขากลั้นยิ้มแล้วตอบสั้นๆ บ่ายเบี่ยงไปพูดเรื่องอื่น “กูโอเค ไม่มีอะไรหรอก” ช่วงพักเที่ยงขณะที่ศรุตาทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ สองมือเธอไม่ว่างเว้นจากการแชทไลน์คุยกับแฟนหนุ่ม ระหว่างนั้นเธอได้ยินผู้หญิงสองคนคุยกันหน้าห้อง “เออ เจนนี่ แกได้คุยกับเชฟเอื้อมคนนั้นอยู่มั้ย ได้ยินว่าฟาดผู้หญิงเป็นคลัง” “อ้อใช่ ชั้นจะบอกอยู่ ชั้นไม่ได้คุยด้วยนานแล้วล่ะ ทักไปก็ไม่ตอบ เจอหน้าก็ยิ้ม ถามคำตอบคำเดินเลี่ยงชั้นเฉยเลย” “ตอนนั้นเห็นว่ามาเลียบๆ เคียงๆ แกอยู่นี้ หรือเขาไปมีแฟนแล้วเปล่า” “จะไปมีเหรอ เจ้าชู้ตัวพ่อขนาดนั้น ใครมาเป็นแฟนนี้ปวดหัวตาย” “แล้วแกกับเขานี่...อย่างนั้นกันยังวะ” “อีนี่ ยังเว้ย เดือนก่อนนางเหมือนนัดชั้นไปเที่ยวทองหล่อ ไปๆ มาๆ ก็บอกไม่สบายงดเที่ยวชั่วคราว ชั้นละงง” “ถ้าเขาสบายดี คงได้กันแล้วใช่มั้ย ฮ่าๆๆ” “อีผี! แต่ช่างเถอะ ไปดีกว่าแก ใครได้ยินเข้า อายเขาตาย รอดมือชั้นคนนี้ไปได้ไง” ศรุตารับฟังนิ่งเงียบ ช่วงฝึกงานนี้เอื้อมพัฒน์กำชับให้ปกปิดความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอไว้ก่อน ด้วยความเป็นห่วง ไม่อยากให้เธอจะได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เขาทำเอาไว้ หากข่าวแพร่ออกไปแฟนสาวจะถูกหมั่นไส้เอาง่ายๆ อาจถึงขั้นทำร้ายร่างกายเลือดตกยางออก เหลือเวลาอีกแค่สามอาทิตย์เท่านั้น ภารกิจฝึกงานก็จะสิ้นสุดลง แม้ว่าแฟนหนุ่มจะอดีตไม่ค่อยหน้ารับรู้เท่าไหร่ โชคดีที่หญิงสาวไม่คิดเล็กคิดน้อย ใส่ใจกับปัจจุบันเสียดีกว่า อีกอย่างเธอยังแอบภูมิใจเล็กๆ ว่าแฟนหนุ่มของเธอเป็นที่แย่งชิงมากโดยตลอด ตอนนี้อยู่ในมือเธอเรียบร้อยแล้ว ศรุตารู้สึกโชคดี จนนั่งยิ้มลำพังนานสองนานในห้องน้ำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD