บทที่ 2 สูญเสีย

1216 Words
หลังจากที่คุณหญิงพรทิพย์ได้คุยกับลูกชายแล้วไททันก็ตกลงที่จะชวยเรื่องของน้ำอิงแต่เขามีข้อแม้ว่าต้องทำตามแผนที่เขาบอกเท่านั้น เรื่องนี้คุณหญิงพรทิพย์ได้ปรึกษากับคุณหญิงอรวีแล้วทางนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรเขาตกลงที่จะทำตามแผนของไททัน กลับมาที่ปัจจุบัน หลังจากที่คุณหญิงอรวีและคุณพิภพโทรหาลูกสาวแล้วพวกเขาก็ขึ้นเครื่องบินไปฮันนีมูนตามประเทศต่างๆทันที ด้านน้ำอิงยังคงพยายามโทรติดต่อพ่อแม่ของตนตั้งแต่เช้ายันมืดแต่โทรอย่างไงก็ไม่มีใครรับสาย จนน้ำอิงเริ่มถอดใจเธอต้องยอมรับความจริงแล้วล่ะ "เอาไงดีล่ะที่นี้จะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ ตังค์ก็เหลือแค่ไม่กี่หมื่นแล้วไหนจะค่าเช่าคอนโดค่าน้ำค่าไฟอีก รวมรวมแล้วน่าจะเดือนละสองหมื่นกว่า โอ๊ย ยัยน้ำอิงคิดสิคิด" ความจริงแล้วคอนโดที่น้ำอิงอยู่พ่อกับแม่ของเธอซื้อไว้ตั้งนานแล้วแต่ไม่ได้บอกเธอน้ำอิงเลยไม่รู้ว่าไม่ต้องจ่ายค่าเช่า "โอ๊ยฉันเครียดจังเลยโทรหาเพื่อนไปเที่ยวดีกว่า" ไม่คิดได้อย่างนั้นน้ำอิงก็ต่อให้สายหาเพื่อนสนิท "ฮัลโหลก้อยวันนี้ออกไปเที่ยวไหม" "ได้สิเจอกันที่เดิมนะ" ที่เดิมที่พวกเธอหมายถึงก็คือที่ผับ one night เมื่อน้ำอิมมาถึงก็พบกับก้อยที่กำลังรอเธออยู่ที่โซน VIP "สั่งอะไรดื่มก่อนสิ" ก้อยเรียกพนักงานมา "ขอน้ำส้มแก้วนึงค่ะ" "อ้าวไหนวันนี้ดื่มน้ำส้มล่ะถ้าไม่ดื่มเหล้าแล้วแกจะชวนฉันออกผับมาทำไมเนี่ย" "พอดีมีเรื่องให้เครียดน่ะก็เลยออกมาฟังเพลงคลายเครียดซะหน่อย" "คุณหนูอย่างแกมีเรื่องอะไรให้เครียดย๊ะงานการก็ไม่ต้องทำขอเงินพ่อแม่ใช้ไปวันๆฉันนี่สิมีเรื่องน่าเครียดกว่าแกเยอะ" ก้อยพูดเชิงประชดเพื่อน ความจริงหล่อนไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับน้ำอิงหรอกแต่หล่อนไม่มีทางเลือกก็น้ำอิงรวยนิแถมยังโง่อีก หล่อนขออะไรบอกว่าชอบอะไรเธอก็ให้ทุกอย่างแถมยังเลี้ยงนูนเลี้ยงนี่ตลอด ในเมื่อชอบอวดรวยดีนักหล่อนก็เลยสนองความต่องการให้ด้วยการปลอกลอกไปเดือนละไม่ต่ำกว่า สามหมื่นบาท "ฉันคิดว่าฉันต้องหางานทำแล้วล่ะ" น้ำอิงทำหน้าเสร้าเธออยากละบายความทุกกับใครสักคน "อ้าวทำไมล่ะ โดนที่บ้านตัดเงินเดือนอีกแล้วหรอไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า แกไปอ้อนแม่นิดๆหน่อยๆก็ได้คืนแล้วเหมือนทุกครั้งไง" น้ำอิงเคยโดนที่บ้านตัดเงินโทษฐานที่ไม่ยอมกลับบ้าน ก้อยเลยคิดว่าคงจะเป็นเหมือนทุกครั้งนั้นแหละ "ตอนรอบนี้ไปมาใช่แบบนั้นน่ะสิ" "แล้วมันเป็นแบบไหนล่ะ คืออะไรฉังงไปหมดแล้ว" "คือว่าถ้าฉันบอกแกไปแกอย่าไปบอกเรื่องนี้กับใครนะ" "เออ พูดมาเลย" ก้อยอยากรู้เต็มแก่แล้ว "ที่บ้านฉันล้มละลายแม่เพิ่งมาบอกเมื่อเช้าเอง บัตรเครดิตบัตรเอทีเอ็มโดนระงับหมดเลย ตอนนี้ฉันติดต่อใครไม่ได้เลยฉันเหลือแค่แกคนเดียวแล้วก้อยช่วยฉันหน่อยนะ" น้ำอิงทำท่าเหมือนจะร้องไห้ "ห้ะ ว่าไงนะที่บ้านแกล้มละลายงั้นหรอ" น้ำอิงพยักหน้า "แล้วตอนนี้แกเหลือเงินเท่าไร" 'จะพอจ่าค่าเหล้าคืนนี้ไหมเนี่ย ไม่ใช่มาเดือดร้อนกูนะ' "เหลือไม่เท่าไรแล้ว" "แล้วมันเท่าไรล่ะ" ก้อยขึ้นเสียงใส่น้ำอิง "ไม่กี่หมื่น" อ่อก็ยังดีน่าจะพอจ่ายค่าเครื่องดื่มอยู่ "งั้นเอางี้นะ แกรีบไปหาสมัครงานซะ ฉันคงช่วยอะไรแกไม่ได้หรอกเพราะฉันก็ไม่มีเงินเหมือนกัน งั้นฮันกลับก่อนนะ ออแล้วก็อย่าลืมจ่าบค่าเครื่องดื่มให้ฉันด้วยล่ะ แล้วคราวหน้าถ้าไม่มีเงินไม่ต้องชวนมานะเสียเวลา" ก้อยแบ๊ะปากใส่น้ำอิงแล้วกำลังจะเดินจากไป ทิ้งให้น้ำอิงที่ฟังอยู่นั่งอึ้งอยู่คนเดียว เมื่อกี้คนที่พูดใช่เพื่อนเธอจริงๆหรอ เพื่อนที่เธอรักมากช่วยเหลือมาตลอด แต่ทำไมตอนนี้ตอนที่เธอลำบากเพื่อนรักของเธอทำเหมือนคนเกลียดกันเลยล่ะ น้ำอิงที่ได้ยินเพื่อนรักพูดมเหมือนมีอะไรจุดอยู่ในอกเธอจุกจนพูดไม่ออกเลย "นี่น่ะหรอเพื่อคนรักของฉัน ดีนั้นวันนี้เราขาดกัน วันที่ฉันไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่เพื่อนอย่างแก แต่ฉันไม่เสียดายเลยนะที่ได้เสียเพื่อนแบบแกไป" "แกคิดว่าฉันอยากเป็นเพื่อนกับแกนักหรออีคุณหนูเอาแต่ใจ ไปไหนมาไหนกับแกฉันก็ต้องคอยช่วยถือของให้แกตลอดต้องคอยเอาอกเอาใจแกติดว่าฉันอยากทำมากนักหรอ " ก้อยตะโกนใส่น้ำอิง ฮึก น้ำอิงจุกกว่าเดิมซะอีก "แล้วใครใช้ให้แกทำล่ะ แกทำเองไม่ใช่หรอฉันไม่เคยบอกเลยนะ" "แต่แกก็ไม่เคยปฎิเสธเลยนิออกจะชอบซะด้วยซ้ำ ทำเป็นซื้อของให้เพื่อเป็นค่าตอบแทน เห็นว่าฉันจนหน้อยก็ เอาเงินมาฟาดหัวฉันหวังให้ฉันเป็นขี้ข้าให้ หึจบกันสักที ดูสิถ้าแกไม่มีฉันเป็นเพื่อนแล้วใครจะคบคนอย่างแก" "คนอย่างแกถ้าไม่มีเงินฉันคงไม่ทนคบแกเป็นเพื่อนหรอกนะจำไว้" ก้อยเดินมาพูดใกล้ๆหูของเมษา พูดจบก้อยก็เดินออกไป น้ำอิงที่ได้ฟังตอนนี้เธอผิดหวังกับเพื่อนมาก ความหวังดีและความจริงใจของเธอมันทำให้ก้อยคิดมากขนาดนี้เลยหรอ 'ช่างเถอะเพื่นที่คบกันเพราะเงินตัดขาดกันไปฉันไม่เสียดายหลอก" น้ำอิงยังคงนั่งฟังเพลงที่ผับคนเดียวต่อไป 'วันนี้มันวันซวยอะไรเนี่ยทำไมชีวิตฉันมันถึงไม่แย่ขนาดนี้' หลังจากน้ำอิงฟังนั่งเพลงจนพอใจเธอก็กลับคอนโด ไปนอนคิดว่าจะเอาอย่างไงกับชีวิตของตัวเองในตอนนี "ทำไมฉันถึงไม่มีญาติพี่น้องนะ เกิดเป็นลูกคนเดียวนี่มันลำบากใจริงๆเลย"น้ำอิงนั่งคิดนึกสมเพชกับชีวิตของตัวเอง เช้าวันต่อมา ร่างบางงัวเงียตื่นขึ้นหลังจากเมื่อคืนเธอคิดอยู่ทั้งคืนว่าจะเอาอย่างไงตอนนี้เธอตัดสินใจได้แล้วว่าเธอจะไปหาสมัครงาน อย่างน้อยเธอก็มีวุฒิการศึกษา แถมยังจบจากต่างประเทศอีกด้วย ถึงจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานก็เถอะ "เอาวะลองดูไม่มีอะไรที่คนอย่างฉันทำไม่ได้อยู่แล้ว" . . . สู้ๆนะลูกสาว ฝากเป็นกำลังใจให้น้ำอิงด้วยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD