"ห้ะ!! จะบ้าหรอ?" ตาคูหวานเบิกโตขึ้นด้วยความตกใจ
'เขาต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆแค่แกล้งเป็นคู่หมั้นกันเองทำไมต้องให้มาอยู่บ้านเดียวกันด้วยไม่ใช่แต่งงานกันสักหน่อย'
"ข้อนี้ฉันไม่ตกลงค่ะ" เธอปฎิเสธเสียงแข็ง เรื่องอะไรจะมาอยู่บ้านเดียวกันกับเขาล่ะเธอเป็นผู้หญิงนะเสียหายหมด
"ขอเหตุผลคับ" เขาพูดด้วยท่าทีนิ่งเฉย น้ำเสียงเย็นยะเยือก
'เหตุผลเหอะนี้ไม่รู้รึแกล้งไม่รู้กันแน่ฉันเป็นผู้หญิงนะจะให้ไม่อยู่บ้านเดียวกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ได้ยังไง'
"มันไม่เหมาะค่ะน้ำอิงเป็นผู้หญิงส่วนคนเป็นผู้ชายจะให้มาอยู่บ้านเดียวกันทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานกันได้ไงค่ะ"
"อ่อหรือน้ำอิงอยากแต่งงานกับพี่ไม่ใช่แค่อยากเป็นคู่หมั้นใช่ไหมล่ะ"
'โอ๊ยอีตานี่เข้าใจอะไรยากจริงๆฉันละยากจะบ้าตาย!' น้ำอิงกรอกตาขึ้นข้างบนพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
"ไม่ใช่ค่ะ อย่างไงน้ำอิงก็ไม่อยู่บ้านเดียวกับคุณค่ะ" น้ำเสียงเธอเริ่มมีอารมณ์โมโห
"ก็ได้งั้นพี่ให้เวลาคิดสามวันถ้าเปลี่ยนใจก็บอกนะ" ไททันกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ 'หึอย่างไงซะเธอก็ต้องมาอยู่ที่นี่กับพี่' เขาคิดแผนที่จะทำให้เธอย้ายมาอยู่กับเขาเอาไว้แล้ว
"ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอนค่ะ"
"มั่นใจขนาดนั้น" ใบหน้าหล่อเลิกคิ้วขึ้นสูง
"แน่นอนค่ะ"
"แล้วพี่จะคอยดูถ้าเกิดเปลี่ยนใจจากที่จะให้นอนห้องรับแขกต้องย้ายมานอนห้องนอนพี่นะ ตกลงไหม"
"ได้! เพราะถึงอย่างไงก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอนค่ะ" น้ำอิงกระแทกเสียงพูดเสียงดังฟังชัด 'เรื่องอะไรล่ะที่จะทำให้เธเปลี่ยนใจมาอยู่กับเขาไม่มีทาง'
"งั้นน้ำอิงขอตัวกลับก่อนนะคะ"
"จะกลับอย่างไงของเยอะแยะ"
"เรียกรถมารับค่ะ"
"เดี๋ยวพี่ไปส่ง
"ไม่เป็นไรค่ะน้ำอิงกลับเองได้" เธอพยายามปฎิเสธไม่อยากให้เขาไปส่ง
"อย่าดื้อสิบอกว่าจะไปส่งไง" สีหน้าเฝของเขาจนิงจังมากจนน้ำอิงต้องยอม
"ก็ได้ค่ะ"
ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถเขาและเธอไม่ได้พูดคุยกันเลยสักคำ มีเพียงแค่เาถามทางและเธอบอกแค่นั้น
เมื่อมาถึงไททันก็ลงมาเปิดประตูให้กับน้ำอิง
"ขอบคุณค่ะ" น้ำอิงหยิบของหลังรถจนเต็มสองไม้สองมือ
"เดี๋ยวให้พี่ขึ้นไปส่งไหมของเยอะมากเลยนะ"
"น้ำอิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตอบตกลง แค่ถือของขึ้นไปส่งเองไม่เป็นไรหรอกมั้ง อีกอย่างถ้าเธอถือขึ้นไปเองคนจะต้องลงมาเอาอีกรอบละมั้ง
มือบางรีบยืนถุงเสื้อผ้าให้เขาช่วยถือไม่ทันรีบรับไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งคาดเดาอารมณ์ได้ยาก
น้ำอิงรู้สึกเบาสบายที่ไม่ต้องถือของเลยอะไรขึ้นไปเอง
"เฮ่อ!โล่งเลยเมื่อกี้หนักชะมัด"
"แน่ล่ะซิตอนนี้เอามาให้พี่ถือเกือบหมดแล้วนิ"
น้ำอิงส่งยิ้มหวานเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่เขา
เมือถึงห้องน้ำอิงก็เปิดประตูแล้วรับของทุกอย่างมาจากเขาเสร็จแล้วก็เชิญให้ไททันกลับไปทันที
"ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง น้ำอิงขอตัวเข้าห้องก่อนนะคะ" เธอฉีกยิ้มหวานส่งให้เขา
."เดี๋ยวสิไม่คิดจะชวนพี่เข้าห้องก่อนหรอ?" ไททันรีบค้าน
"ไม่ล่ะค่ะน้ำอิงไม่สะดวกขอโทษด้วยนะคะ" เธอส่งยิ้มให้เขาอีกครั้งมือบางเอื้อมมาปิดประตู
หมับ!!
"เดี๋ยวก่อน!"
'อะไรอี๊กเรื่องเยอะจริงๆเลย"
"ค่ะ?"
"วันนี้พี่อนุโลมให้เธอ แต่นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปน้ำอิงต้องเรียกพี่ว่าพี่เข้าใจไหมไม่อย่างนั้นจะถูกลงโทษ" แววตาคู่หวานเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
'นี่เขาเป็นอะไรมากปะแค่คำเรียกเองนะ!'
" ได้ ค่ะ พี่ ไท ทัน " เธอเค้นเสียงออกมาทีละคำ
ใบหน้าหล่อยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
"ดีมากคับน้องน้ำอิง"
น้ำอิงยิ้มน้อยๆให้เขากันที่จะกลับไปทำหน้าบึ้ง แล้วปิดประตูอย่างแรง
"หึๆ เธอหนีพี่ไม่พ้นหรอก ฝากไว้ก่อนล่ะกัน"
น้ำอิงทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้งหมด
"เห้อ ! ชีวิตฉันต้องมาเจอเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย ไปทำงานวันแรกได้คู่หมั้นกลับมาเฉยงงมาก"
ครืด!! ครืด!!!
"ฮัลโหลค่ะ"
("ลืมบอกพรุ่งนี้ตอนเช้าพี่จะมารับไปทำงานนะ") น้ำอิงถึงกับงง เธอมองเบอร์ที่โทรมาอีกครั้งดีๆ
"คุณไททันหรอ?" เสียงหวานถามแบบงงๆ
("ใช่ โทรมาบอกแค่นี้ล่ะ") แล้วไททันก็วางสายไปปล่อยให้น้ำอิงงงว่าเขามีเบอร์เธอได้อย่างไง
"ฉันให้เบอร์เขาไปหรอ" ใบหน้าสวยขมวดคิ้วเข้าหากัน
"ไม่น่าใช่นะ เอ๊ะหรือว่าตอนกรอกใบสมัครงานน่าจะใช่ละมั้ง เอ่อชั่งมันเถอะ"
น้ำอิงเลิกคิดยิงคิดยิ่งปวดหัวเอาเป็นว่าพรุ่งนี้เธอต้องเจอกับสายตาทุกคู่ที่จ้องมองเธอแต่เช้าอีกแล้วใช่ไหมเนี้ย!!
เมื่อวาวงสายไปแล้วรอยยิ้มที่แสนมีความสุขกผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อไททันขับรถไปฮัมเพลงไปอย่างอารมณ์ดี
"อ่อลืมโทรบอกกิตเลยนี่น่า" ว่าแล้วนิ้วยาวก็กดเบอร์โทรหาลูกน้องคนสนิททันที
("สวัสดีคับเจ้านายมีอะไรให้ผมรับใช้คับ")
"ไม่มี ฉันแค่จะโทรมาบอกนานว่าต่อไปไม่ต้องไปรับไปส่งฉันแล้วนะ"
เมื่อได้ยินอย่างนั้นจิตก็ใจหล่นวูบ นี่เขากำลังจะโดนไล่ออกหรอ
(" เอ่อคือว่าท่าคับผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่าท่านอย่าไล่ผมออกเลยนะครับ ผมแค่ลางานวันเดียวเองต่อไปผมจะไม่ลางานแล้วครับ" กิตละล่ำละลักพูดกลัวว่าตัวเองจะตกงาน
"ไม่ใช่ฉันจะขับรถไปทำงานเองส่วนนายคอยเป็นผู้ช่วยฉันอย่างเดียวก็พอ"
("เอ่อแต่ว่าท่านคับ..")
"ถ้ายังไม่อยากโดนไ่ออกจริงๆก็เงียบซะอย่าพูดมาก"
("คับๆ") กิตเกาหัวหยิกๆเขาทำงานกับไททันมาก็ตั้งหลายปีน้อยมากที่ไททันจะขับรถไปไหนมาไหนเอง แล้วนี่ทำไมจู่ๆถึงอยากจะขับเองล่ะ ไหนจะเรื่องเลขาอีกเขาว่ามันชักจะแปลกๆแล้วสิ หน้าที่ของเขาเองก็ลดลงหรือว่าท่านประธานคิดที่จะไล่เขาออกจริงๆนะ
"ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า เฮ้อ! ฉันกำลังจะตกงานหรอเนี่ยย" กิตคิดไปซะแล้ว