ไปตายเอาดาบหน้า

1294 Words
สายตาที่สอดส่ายไปมา และพยายามหลบสายตาผู้คน กลัวว่าจะเจอคนที่เคยรู้จัก เมื่อรถเคลื่อนตัวขึ้นถนนใหญ่และเร่งความเร็วของรถขึ้น เธอค่อยหายใจได้โล่งหน่อย กระเป๋ารถเดินมาเก็บตั๋วสำหรับคนที่ซื้อแล้ว ส่วนคนที่ยังไม่ได้ซื้อก็ต้องจ่ายเป็นเงินสด                 นับเดือนยื่นแบงก์ห้าร้อยให้กับเขา พอได้รับเงินทอนเธอก็ไม่ได้นับยัดเข้าไปในกระเป๋าซิปด้านหน้าของเป้ ก่อนจะหลับตาลง โชคดีที่เบาะข้าง ๆ เธอไม่มีคนขึ้นมานั่งด้วย และภายในรถก็ไม่ค่อยแออัด ตอนนี้หัวใจดวงน้อยของเธอว่างเปล่า หัวสมองไม่ได้คิดอะไรมาก ขอไปตายเอาดาบหน้าจริง ๆ ไปถึงที่โน่น ค่อยหาทางออกให้กับตัวเองอีกที นับเดือนหลับลงไปด้วยความอ่อนล้า จนเกือบเข้าถึงเขตจังหวัดสงขลา   เธอสะดุ้งตื่นเพราะมีคนมานั่งใกล้ ๆ เป็นหญิงสาววัยกลางคนแต่งตัวดูดีเหมือนมีอันจะกิน พอลืมตาขึ้น ก็มีคนมากมายยืนอยู่ตรงกลางทางระหว่างช่องทางเดินจนเต็มไปหมด                 รถแล่นไปได้อีกไม่นานนัก กระเป๋ารถก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดังว่าถึงหาดใหญ่แล้ว ใครจะลงให้เตรียมตัวดูสัมภาระให้เรียบร้อย นับเดือนรู้สึกใจเต้นขึ้นมาตึก ๆ                 ‘เป็นไงเป็นกันสิ มาถึงที่นี่แล้ว’ เธอคิดในใจ ตอนนี้เลยเวลาเที่ยงวันมาแล้ว ท้องไส้เธอเริ่มหิว ข้าวเช้าก็ไม่ได้กิน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของเด็กสาวที่ทำงานจนเพลินหรือบางทีเร่งงานก็ไม่ได้กินข้าวตรงเวลา เธอทนได้                 นับเดือนได้ลงรถก็เกือบเป็นคนท้าย ๆ เธอขยับตัวไล่ความขบเมื่อย สอดส่ายสายตามมองหาร้านก๋วยเตี๋ยว กินเพื่อประทังชีวิต เธอเห็นป้ายร้านลูกชิ้นยี่ห้อดังติดหราอยู่ตรงตึกแถวใกล้ ๆ จึงขยับฝีเท้าเดินตรงไป “น้าขอเส้นใหญ่ลูกชิ้นหมูอย่างเดียวค่ะ” เธอสั่งผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงด้านหน้า พอเห็นเขาพยักหน้าเธอก็รีบหาที่นั่ง ตอนนี้นับเดือนเอากระเป๋าเป้ขึ้นหลัง ไม่ยอมวางไว้ที่พื้น หยิบขวดน้ำดื่มมาแกะดื่มแบบไม่เย็นแบบนั้นแหละ เธอพอจะรู้มาบ้างว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า และให้ระวังเรื่องการดื่มการกิน                 สักพักหนึ่งเธอเห็นผู้หญิงคนเดิมที่นั่งอยู่ติดกันบนรถบัสคันใหญ่เดินเข้ามากับเด็กสาวคนหนึ่งท่าทางและผิวพรรณขาวนวล                 “ไม่มีที่นั่งเลยหนู น้านั่งด้วยคนนะ” หญิงสาวคนนั้นเอ่ยถาม ก่อนทั้งสองคนจะนั่งลง นับเดือนแค่ยิ้มให้ ก๋วยเตี๋ยวของเธอก็มาเสิร์ฟพอดี เธอจึงเลิกสนใจทั้งสองคน หันมาก้มหน้าก้มตากินก๋วยเตี๋ยวของตัวเองด้วยความหิว                 พออิ่มแล้ว จึงมีแก่ใจยกหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ                 “จะไปไหนหรือ” เสียงผู้หญิงคนเดิมถาม                 “มาหาแม่น่ะค่ะ” นับเดือนตอบแบบเลี่ยง ๆ ไป แต่เธอก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร                 “แม่ทำงานอยู่ที่นี่หรือ” หญิงคนเดิมยังซักไซ้ต่อ                 “ค่ะ” เธอตอบสั้น ๆ ตอนนี้นับเดือนขอนั่งอีกสักพัก เพราะไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี                   “พี่สุ หนูง่วงและก็เพลียมากด้วย จะเอาเท่าไหร่เงิน” ผู้หญิงที่อ่อนกว่าดูรุ่นราวคราวเดียวกันกับนับเดือนพูดขึ้น ตอนนี้สีหน้าเหนื่อยหน่ายเป็นที่สุด                 “ก็หมื่นนึง สิ้นเดือนโอนกลับให้เหมือนเดิม” พี่สุพูดขึ้น                 “อุ้ย ชะเอมมีไม่ถึงหรอก ห้าพันแล้วกัน อีกอย่างเงินวีกนี้ก็ยังไม่ออก ถ้าพี่สุจะเอาก็เอา แต่ไม่เอาก็แล้วไปนะคะ” เธอพูดแบบไม่ไว้หน้า ทำท่ากระชับกระเป๋าสะพายที่อยู่ตรงหัวไหล่                 “เอาสิ แหม...” หญิงวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าสุพูดทำท่าทีค้อนนิด ๆ แล้วแบมือไปตรงหน้า                 หญิงสาวที่ชื่อ ชะเอมควักเงินออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ พี่สุรับเงินไปอย่างหน้าชื่นตาบาน                 “เออ... ว่าแต่ที่ทำงานชะเอมยังรับเด็กอีกไหม” พี่สุหันไปสบสายตากับชะเอมทำท่ายิ้ม ๆ ก่อนจะหันมายิ้มให้กับนับเดือน                 พี่สุเป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะอยู่แถวอำเภอสะเดา อำเภอหนึ่งในสงขลาที่ชอบหาเด็กมาส่งที่ร้านที่ชะเอมทำงานอยู่เป็นประจำ และเด็กชะเอมเธอก็เป็นคนแนะนำให้มาทำงานที่นี่                 “รับสิ เขาก็รับทุกวันน่ะแหละ แขกเขาเยอะจะตายไป ไม่เหมือนที่ร้านของพี่สุหรอก”                 “จะไปเหมือนกันได้ไงเล่า ที่นี่เขาเมืองใหญ่ ว่าแต่... น้อง... ชื่ออะไร” คนที่ชื่อสุหันมาถามเด็กสาวที่นั่งนิ่ง ๆ ที่หันมาสบสายตาพอดี                 “นับจ้ะ”                 “น้องนับไปทำงานที่ชะเอมสิ เงินดี แล้วก็มีสวัสดิการบ้านช่องไม่ต้องเช่า มีข้าวให้กิน” พี่สุแนะนำ นับเดือนหันไปมองหน้าหญิงสาวรุ่น ๆ ด้วยสายตามีคำถาม                 ใต้โต๊ะ พี่สุใช้เท้าสะกิดชะเอมให้เออออตามเธอ ชะเอมหันไปมองหน้าพี่สุนิดหนึ่ง คนที่ชื่อสุยิ้มปากกว้าง                 “เงินดีนะ ใช่ไหม” เธอยิงคำถามไปที่ชะเอม                 “ก็งานง่าย ๆ สบาย ๆ แต่งตัวสวย เดินไปเดินมา คุยกับลูกค้าบ้างก็เท่านั้นเอง” พี่สุสะกิดแขนชะเอมอีกครั้ง                 “ไปทำงานด้วยกันไหมล่ะ ที่นี่มันน่ากลัวนะ ไม่มีที่จะไปก็ไปอยู่กับชะเอมก่อนก็ได้ ห้องที่ชะเอมนอนก็ว่างอยู่ เดี๋ยวชะเอมฝากกับเจ๊เจ้าของร้านให้” ชะเอมพูดชักชวน                 นับเดือนผู้ด้อยประสบการณ์ ไม่รู้ว่างานที่ชะเอมทำคืออะไร แต่ตอนนี้เธอก็มืดแปดด้าน พอเห็นเงินในกระเป๋าหากจะเช่าบ้านก็คงไม่ได้ หรือจะเช่าโรงแรมก็อยู่ได้สองสามคืน                 “แล้วเขาจะรับนับเข้าทำงานจริง ๆ หรือคะ” นับเดือนมองหน้าทั้งสองคนด้วยความสนใจ                 “รับสิ ชะเอมมันฝากให้ได้ เนอะ” พี่สุหันหน้าไปพยักพเยิดกับเด็กสาวรุ่นน้อง                 “อือ... ว่าแต่พี่สุจะไปกับชะเอมด้วยหรือ”                 “ใช่สิ จะนอนที่นี่สักคืน แล้วค่อยกลับพรุ่งนี้ ปิดร้านไว้แขกก็ไม่ค่อยมี นี่ถ้าพี่สุรุ่น ๆ เหมือนเราสองคนนะ ไม่ฝังตีนอยู่ที่สะเดาหรอก แต่ก็นั่นแหละ คนมันแก่แล้วนี่” เธอว่าให้ตัวเอง                 “อ้าว กินอิ่มกันแล้ว เดี๋ยวมื้อนี้พี่สุจ่ายเอง” เธอทำใจใหญ่ ๆ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งยืมเงินจากชะเอมไปเมื่อกี้นี้เอง                 “เฮียเก็บตังค์ค่ะ คิดรวมทั้งโต๊ะเลยนะ” หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามก็นั่งรถสองแถวเล็กที่มีอยู่เกลื่อนเมืองหาดใหญ่ตรงไปยังร้านอาหารที่ชะเอมทำงานอยู่                 นับเดือนถูกพาเข้าไปยังห้องนอนของชะเอมที่อยู่บนชั้นสี่ของร้าน ชะเอมแนะนำว่าเข้าห้องน้ำตรงไหน และอนุญาตให้นับเดือนใช้อุปกรณ์ในการอาบน้ำของเธอได้                 เด็กสาวมองดูรอบ ๆ ห้องที่สะอาดสะอ้าน และดูเหมือนชะเอมจะได้สิทธิ์อยู่คนเดียวในห้องนี้จริง ๆ                 เธอล้มตัวลงนอนเหยียดยาวอย่างหมดแรง ยังดีที่วันนี้มีที่ซุกหัวนอน                 ‘ป่านนี้ลุงกับป้าคงรู้แล้วว่าเธอหนีออกจากบ้าน’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD