บทนำ

1350 Words
บทนำ ร่างระหงในชุดเดรสรัดรูปสีแดงฉูดฉาดโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งอรชรสมส่วน กำลังก้าวเดินอย่างสง่างามบนร้องเท้าส้นเข็มที่สูงมากกว่าห้านิ้วออกมาจากลิฟต์หรู เพื่อตรงไปยังห้องของตัวเองในคอนโดฯระดับกลางแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุงเทพฯ พร้อมด้วยชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลารูปร่างกำยำอย่างชายชาตรี ด้วยใบหน้าที่ดูสวยหล่อทำให้ทั้งคู่ดูเหมาะสมกันมากในสายตาของผู้คนที่ได้พบเห็น เมื่อเดินมาถึงห้องพักของตัวเองมือบางเรียวก็เตรียมกดรหัสผ่านเพื่อที่จะเปิดประตูเข้าไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงโทรศัพท์คู่ใจดังขึ้นซะก่อน จึงหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะทำหน้าเอือมระอาอย่างเหนื่อยใจ โดยมีร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆเป็นคนกดรหัสผ่านเพื่อเปิดประตูห้องให้แทนพลางเดินนำเข้าไปก่อนอย่างคนที่คุ้นเคยกับห้องนี้เป็นอย่างดีเสมือนเป็นห้องของตัวเอง ร่างบางตัดสินใจกดรับทั้งๆที่เห็นว่าเป็นเบอร์แปลก แต่ก็เท่านั้นเพราะเธอพอจะรู้ว่าคนที่โทรมาเป็นใคร ก็จะเป็นใครไปได้อีกล่ะ นอกจากผู้หญิงที่เกรียดเธอยิ่งกว่าอะไรดี อย่าง ...กิตติยารัตน์... ให้ตายเถอะ!! รังควานได้ไม่เว้นแต่ละวัน แบบนี้ก็ดีเหมือนกันกำลังเบื่ออยู่พอดี... (อิร่าน!!) ทันทีที่กดรับโทรศัพท์เสียงแว๊ดแหลมสูงจากปลายสายทำให้อัญญาดาต้องรีบดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหูทั่งที่พึ่งแนบมันลงไป ก่อนจะนำมันกลับมาวางใหม่แล้วตอบกลับปลายสายด้วยน้ำเสียงยียวน พลางเดินเข้ามาในห้องแล้วตรงไปนั่งลงยังโซฟากว้างข้างๆชายหนุ่มที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว “ว่ายังไงคะคุณกิตติยารัตน์...เรียกฉันซะเพราะเชียว คิดถึงเหรอคะ” (อิบ้า!!แกเอาผัวฉันไปกกไว้ที่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ!!!) “ก็นอนอยู่ข้างๆนี่แหละค่ะ...คุณต้นข้าวก็ไม่น่าโทรมาขัดจังหวะเลยนะคะ คนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม” หญิงสาวยังคงยั่วโมโหปลายสายแถมยังพูดชื่อเล่นของเธออย่างถือสิทธิ์ “พอเถอะอัญพี่ขอร้อง เราเคยสัญญากันไว้แล้วไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มที่นั่งทำหน้าลำบากใจอยู่ข้างๆร้องปรามออกมาเบาๆ เพราะกลัวคนที่อยู่ในสายจะได้ยินเข้า แต่ก็คงไม่ทันแล้วล่ะเมื่ออัญญาดาไม่ยอมฟังเขาเลย กลับพูดจายั่วยวนกิตติยารัตน์ต่อซะอย่างนั้น “โธ่!! พี่อัฐคะ อย่าพึ่งกวนอัญสิคะคนดี...” อัญญาดาแสร้งพูดเสียงอ่อนเสียงหวานจนคนถูกกล่าวถึงอย่างอัฐพลถึงกลับถอนหายใจอย่างลำบากใจ ยิ่งได้ยินเสียงกรีดร้องจากปลายสายดังออกมาจากโทรศัพท์ของหญิงสาวก็ยิ่งกลุ้มใจเข้าไปใหญ่ (กรี๊ดดดดด อิหน้าด้าน ไม่มีปัญญาหาผัวรึไง ถึงต้องมายุ่งกลับผัวชาวบ้านเขาแบบนี้ ผู้หญิงไร้ค่า โสเพณีข้างทาง คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างแก สักวันอัฐเขาก็ต้องทิ้งแกแน่!!) “ปัญญาหาผัวน่ะ มี!! แต่จะเอาคนนี้จะทำไม!! แล้วก็ขอโทษนะได้ข่าวว่าเขายังไม่ได้แต่งงานกับคุณ เพราะฉะนั้นฉันมีสิทธิ์ในตัวเขาทุกอย่าง...บางทีอาจจะมากกว่าผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่มั่นของเขาอย่างคุณด้วยซ้ำ!!” อัญญาดาพูดขึ้นอย่างเหลืออด เธอไม่ชอบที่จะให้ใครมาดูถูกเธอแบบนี้ อีกอย่างเธอสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวของเธอเองไม่ได้พึ่งพาหรือร้องขอความเห็นใจจากใคร แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้โทรศัพท์ในมือก็ถูกชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆแย่งไปพร้อมทั้งกดวางสายเสร็จสรรพ “พี่อัฐเอาคืนมานะ อัญยังพูดไม่จบ” “ไม่!! พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามีเรื่องกลับต้นข้าว...ทำไมอัญถึงไม่ฟังพี่!!” อัฐพลขึ้นเสียงอย่างห้ามอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ “แต่มันด่าอัญเสียๆหายๆอัญยอมไม่ได้...เอาโทรศัพท์ของอัญคืนมา!!” หญิงสาวก็ไม่ยอมลดละที่จะเอาโทรศัพท์คืนจากเขา แต่ชายหนุ่มกลับยัดมันใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเองซะอย่างนั้น “พอได้แล้วอัญ...อัญก็รู้ว่าพี่ไม่อยากมีปัญหากับต้นข้าวถ้าอัญยังอยากเห็นหน้าพี่อัญต้องหยุด!!” ชายหนุ่มเผลอพูดออกไปด้วยความโกรธ จนแทบอยากจะตบปากตัวเองเมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาวตรงหน้า “ใช่สิ!! พี่อัฐก็ห่วงแต่ความรู้สึกของเขา แล้วอัญล่ะพี่เคยนึกถึงใจของอัญบ้างไหม...ฮือ ฮืออ” “อัญ...พี่ขอโทษ” อัฐพลพยายามจะเอื้อมมือเข้าไปดึงหญิงสาวเข้ามาใกล้แต่กลับถูกร่างบางปัดออกอย่างไม่ใยดี “พี่อัฐกลับไปเถอะค่ะ คนสำคัญของพี่รออยู่...อัญต้องขอโทษที่บางทีก็สำคัญตัวเองผิดไป ฮึก ฮือ...” อัญญาดากลั้นสะอื้น เธออ่อนแอทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าเขาผู้ชายคนนี้มีอิทธิพลกับเธอมากจริงๆ ชายหนุ่มดึงร่างบางเข้าไปกอดเอาไว้แน่น แม้ว่าเธอพยายามจะดิ้นเท่าไหร่ก็เขาก็ไม่ยอมปล่อย กลับยิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นยิ่งกว่าเดิม “ไม่ อัญ ไม่... อัญสำคัญที่สุดสำหรับพี่...พี่ขอโทษที่เห็นแก่ตัว แต่พี่สัญญาว่าจะรีบจัดการเรื่องของเราให้เร็วที่สุด...อัญรอพี่นะคะ” อัฐพลดันร่างบางออกจากอ้อมกอดด่อนจะเช็ดน้ำตาให้เธออย่างเบามือ พลางมองสบตากับเธออย่างมาดมั่น เมื่อผู้หญิงตรงหน้าคือคนที่เขารักสุดหัวใจ “อัญรอพี่มาทั้งชีวิต ฮึก...ต่อให้ต้องรอจนตาย อัญก็จะรอค่ะ อัญรักพี่อัฐนะคะ ฮึก ฮืออ” หญิงสาวตอบเขาด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง ก่อนจะโผล่เข้าไปกอดร่างกำยำแน่นอย่างต้องการไออุ่น “พี่ก็รักอัญ รักมาก...รักมาตลอด...อย่าร้องไห้อีกเลยนะคะ พี่ไม่ชอบเห็นน้ำตาของอัญเลย...” ใช่!! เขาไม่ชอบเห็นน้ำตาของเธอและปวดใจทุกครั้งที่เห็นมัน ซ้ำแล้วน้ำตาเหล่านั้นเขากลับเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง แต่ยิ่งปลอบหญิงสาวก็ยิ่งร้องไห้หนักจนเขาทำได้เพียงแต่นั่งนิ่งๆและกอดเธอเอาไว้เท่านั้น เพียงไม่นานอัญญาดาก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนพร้อมทั้งน้ำตา ชายหนุ่มค่อยอุ้มร่างแน่งน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะพาเข้าไปในห้องนอนและวางร่างบางลงกับเตียงนุ่มอย่างทะนุถนอม ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายให้เธอแล้วนั่งลงบนเตียงข้างๆคนที่หลับใหล มือหนาเกลี่ยปรอยผมออกจากใบหน้างามและค่อยเช็ดคราบน้ำตาให้เธออย่างเบามือ อัญญาดามักจะเข้มแข็งเสมอ แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้เกราะแข็งแกร่งและความมาดมั่นร้ายกาจที่เธอสร้างขึ้นมาจะเป็นเพียงแค่กำแพงที่ก่อขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองเพื่อให้ดูเข้มแข็ง การที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยไม่มีแม้แต่ญาติมิตรให้พึ่งพิงเธอคงรู้สึกเดียวดายไม่น้อย อีกทั้งเขายังนำปัญหามาให้เธออีก ทั้งที่เธอทั้งรักและเทิดทูนเขายิ่งกว่าสิ่งใด และเขาเองก็รักเธอมากเหมือนกัน... มากยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง เธอเป็นเหมือนลมหายใจของเขา...แต่กับกิตติยารัตน์เขาก็รักเธอไม่ต่างกัน ถ้าอัญญาดาคือลมหายใจ กิตติยารัตน์ก็คืออากาศ เขาไม่สามารถอยู่ได้แน่ถ้าขาดสิ่งสำคัญสองสิ่งนี้ ผู้หญิงที่เป็นดั่งดวงใจของเขาทั้งสองคน แม้ใครจะมองว่าเขาเห็นแก่ตัวยังไง เขาก็ไม่อาจปล่อยมือจากทั้งสองคนนี้ได้จริงๆ...ถ้ามีหญิงสาวทั้งสองคนเคียงข้างต่อให้โดนตราหน้าว่า ‘เลว’ เขาก็ยอม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD