"เฮ้ย...ไออิง!" คีริวเค้นเสียงเรียกเพื่อนสนิทเสียงดังทันทีที่มือเรียวของอิงดาวยื่นไปแย่งลูกชิ้นจากชามก๋วยเตี๋ยวของเขาต่อหน้าต่อตาโดยที่เขาไม่ทันจะได้ตั้งตัว
"ฮ่าๆ อร่อยจริงๆ" อิงดาวหัวเราะร่าทำหน้าเย้ยด้วยความสะใจที่ได้แกล้งคู่ปรับในกลุ่มของเธอที่มักจะทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ
"..." สายตาคมของคีรันเหลือบไปมองน้องชายฝาแฝดที่กำลังจะเปิดศึกกับอิงดาว
"ไออิงเป็นคนเริ่มก่อน ทำไมมึงถึงหันมาดุกูอะ" ทำเอาคีริวที่กำลังจะลงมือชะงักนิ่งไปกับสายตาเย็นชาของเจ้าของใบหน้าคมคายที่คล้ายกันจนแทบแยกไม่ออก ทำเสียงหงอยเอ่ยบอกพร้อมกับทำหน้างอไม่พอใจ
"ฮ่าๆ งอแงอีกแล้ว" อิงดาวหัวเราะร่าไปกับชายตัวโตตรงหน้าที่มักจะอ่อนข้อให้พี่ชายเสมอ คีรันเป็นคนเดียวที่ทำให้คนอย่างเขานิ่งได้
"แหะ!..." ทว่าคนที่กำลังหัวเราะร่าในตอนแรกกลับต้องยิ้มแห้งออกมาเมื่อเจ้าของใบหน้าเย็นชากลับเปลี่ยนเป้าหมายมามองเธอแทน
"ช่วยฉันด้วย~" อิงดาวหดคอลงไปกับท่าทีของคีรันก่อนที่จะหันไปเขย่าแขนเอวาเพื่อขอความช่วยเหลือ
"เล่นกันปกติหนา ไม่เห็นต้องดุเลย..." เอวาผละออกจากหน้าจอโทรศัพท์ เงยหน้าไปบอกคีรันตามที่เพื่อนสนิทต้องการ จากนั้นเธอก็กลับมาสนใจยังโทรศัพท์ของตัวเองอีกครั้ง
"..." เช่นเคยว่าไม่มีคำตอบอะไรหลุดออกจากปากเขา คีรันละสายตาออกจากทั้งสามคนแล้วก้มลงไปทานต่อเงียบๆ
"สนใจโทรศัพท์เหลือเกิน มันมีอะไรคะคุณเพื่อน" ดวงตาเฉี่ยวคมของอิงดาวที่เห็นว่าเพื่อนสาวเอาแต่สนใจแต่โทรศัพท์ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นเพราะเธอเอาแต่เล่นมันจนแทบไม่ได้แตะของกินที่สั่งมา
"เปล่า..." เรียวปากเล็กตอบกลับทั้งที่ยังคงจ้องโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
"อย่าทำตัวน่ารำคาญได้ไหม ทั้งหมดที่ผ่านมาก็มีแต่พี่ที่คิดไปเองทั้งนั้น" อิงดาวที่ถือวิสาสะเอียงคอไปอ่านข้อความที่เอวากำลังพิมพ์ส่งให้ใครบางคน เธออ่านมันออกมาเต็มเสียงทำเอาชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามสองคนต้องผละออกจากของกินแล้วสนใจมายังเธอ รวมไปถึงเอวาที่ช้อนสายตาไปมองอิงดาวอย่างคาดโทษ
"แหะ!...โทษที ไม่ได้ตั้งใจ" อิงดาวส่งยิ้มแห้งให้เอวาเมื่อเผลอลืมตัวอ่านออกมาเสียงดัง
"ตลอดแหละแกอะ" เอวาส่ายหัวด้วยความเคยชินไปกับนิสัยของเพื่อนสนิท
"เอวากำลังจะบอกว่าเธออะขี้เผือกตลอด" คีริวเอ่ยอย่างตั้งใจกวน
"ไม่ได้เผือก...ก็แค่เป็นห่วง เห็นแกเงียบๆ ไป ที่แท้กำลังสับรางอยู่นี่เอง"
"สับรางอะไรล่ะ ฉันยังไม่มีแฟนสักหน่อย" คนตัวเล็กยักไหล่ตอบไปนิ้วมือเรียวกดแป้นพิมพ์โทรศัพท์ไม่หยุด
"ไม่มีแฟน แต่มีคนคุยเป็นร้อย" อิงดาวตอบไปด้วยความหมั่นไส้ทำให้เอวาที่ได้ยินดังนั้นก็ยักไหล่ออกมาอีกเช่นเคย
ปึก!
แก้วน้ำจากมือหนาของคีรันถูกวางลงเสียงดังทำให้ภายในโต๊ะต้องเหลือบสายตาไปมองยังเสียงที่มา รวมไปถึงเอวาที่ละความสนใจจากโทรศัพท์มามองยังคีรันเช่นกัน
"ไปไหน" คีริวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่ชายหยัดตัวยืนเต็มความสูง
"สนามแข่ง...จะไปด้วยไหม" ปากหนาเอ่ยตอบเสียงนิ่ง
"ไปดิ คีรันไปไหนคีริวไปด้วย" คีริวเอ่ยตอบอย่างไม่ต้องคิดเพราะแฝดคู่นี้ไม่เคยแยกกันได้นานเว้นแต่ตอนกลับไปนอนคอนโด ทว่าก็มีบ้างบางคืนที่คีริวจะมาขอนอนด้วย...เขาติดพี่ชายยิ่งกว่าอะไร
ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องเคยชินของกลุ่มเขาไปเสียแล้ว ทั้งเอวาและอิงดาวต่างชินไปกับนิสัยที่ต่างขั้วของเพื่อนแฝดที่คนนึงมีนิสัยร่าเริง ใจร้อน ทว่าอีกคนที่เป็นพี่ชายกลับเย็นชาและใจเย็น แต่สิ่งเดียวที่ทั้งสองมีเหมือนกันคือเขาขาดกันและกันไม่ได้ คีริวที่เหมือนจะดูหัวดื้อไม่ยอมใครแต่เพียงแค่พี่ชายเอ่ยห้ามหรือแค่สื่อออกมาทางสายตา เขาก็พร้อมที่จะยอมอ่อนทำตามทุกอย่างได้เสมอ เช่นเดียวกับคีรันที่ถึงแม้จะนิ่งปากหนักดูเหมือนจะไม่แคร์อะไรแต่เขาก็ไม่เคยปล่อยน้องชายให้ยืนอยู่ข้างหลังสักครั้ง
"ฉันก็มีนัดพอดี งั้นแยกกันเลยก็ได้" ก่อนที่เอวาจะเป็นฝ่ายพูดเสริมขึ้นอีกคนหยัดตัวยืนตามเพื่อนตัวสูงทั้งสอง
"นัดอะไร?" เสียงเข้มดุของคีรันเหลือบไปมองยังร่างของเพื่อนตัวเล็ก ซึ่งเอวาก็คืออีกคนที่นอกจากคีริวแล้วเธอเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาหลุดปากพูดได้บ่อยที่สุด
"ฉันนัดพี่เฟรมไว้อะ" เรียวปากเล็กเอ่ยตอบอย่างไม่คิดอะไร
"..." คีรันก็เงียบไม่ตอบอะไรกลับ กระทั่ง...
"เฟรมวิศวะ?" คีริวที่เป็นฝ่ายเอ่ยถามแทนพี่ชายอย่างรู้ในสิ่งที่ควรทำ
"อืม...พี่เขาตื๊ออยากให้ฉันไปเจอครั้งสุดท้ายอะ"
"แล้วเธอก็ไปเนี่ยนะ!?..." คีริวเลิกคิ้วในคำตอบของเพื่อนตัวเล็ก
"จะได้จบๆ สักที ฉันเบื่อเต็มทนแล้ว ตื๊อไม่เลิกเลย" เธอเอ่ยพร้อมกับแสดงสีหน้าเบื่อโลกตามที่บอกเพื่อน
"เค้าลือกันว่าพี่เฟรมนี่ร้ายมากเลยนะ ไม่น่าไว้ใจเลย ฉันไปเป็นเพื่อนเธอดีกว่า ยังไงช่วงบ่ายก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว" อิงดาวลุกขึ้นยืนตามหลังจากที่ฟังบทสนทนาของเพื่อนสนิททั้งสองคนอยู่นาน
"ถ้าร้ายจริงๆ แล้วคนตัวเตี้ยแบบเธอจะไปทำอะไรเขาได้" ก่อนที่คีริวจะหันไปบอกเพื่อนตัวเล็กอีกคน
"ไอริว!"
"รันไปเป็นเพื่อนเอวาดิ มึงน่าจะช่วยเอวาได้เยอะกว่าไออิง..."
"...อย่างน้อยก็กันเอวาออกจากไอพี่เฟรมอะไรนั้นได้" น้องชายฝาแฝดปรายตามาบอก คำพูดกำกวมของคีริวทำให้หญิงสาวทั้งสองเลิกคิ้วไม่เข้าใจ
"ฉันหมายถึงไอรันมันสามารถปกป้องเอวาได้มากกว่าเธอ เพื่อนกันปกป้องกันผิดตรงไหน"
"..." สายตาคู่คมตวัดสายตาไปมองนิ่งโดยที่คีริวนั้นรู้ความหมายของมันดี...คีริวกำลังทำให้คนอื่นสงสัยในตัวเขา
"แยกย้ายๆ กูไปรอที่สนามแข่งนะ" น้องชายเอ่ยอย่างเปลี่ยนเรื่อง
"เฮ้! ฉันไปด้วย" ก่อนที่อิงดาวจะเอ่ยบอกกับคีริวแล้ววิ่งตามเพื่อนสนิทไป