ตอนที่ 7 ภรรยา

2060 Words
ลลัลนาวางกระเป๋าสะพายลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงหลังจากกลับมาถึงคอนโดและหยิบผ้าเช็ดตัวเดินตรงเข้าห้องน้ำไป หญิงสาวไม่ชอบปล่อยให้ตัวเองรู้สึกไม่สบายตัว เธอเป็นคนค่อนข้างเงียบจึงดูเหมือนใจเย็น แต่จริงๆแล้วเธอเป็นคนหงุดหงิดง่าย เวลาที่เธออารมณ์ดีหรือถ้าหากสนิทกับใคร จะค่อนข้างขี้อ้อน เฮฮาตามประสาหนุ่มสาวทั่วไป หญิงสาวใช้เวลาอยู่กับตัวเองอยู่เกือบชั่วโมง กว่าที่เรียวขาสวยจะก้าวออกมาจากห้องน้ำ “นาน” ทันทีที่หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำก็เจอนัทธีนอนเล่นอยู่บนเตียง “พี่นัท เข้ามาได้ยังไงคะ” “ลัลอย่าลืมว่าพี่มีรหัส” “อ๋อค่ะ” ลลัลนาตอบเขาอย่างไม่ได้สนใจนัก ก่อนจะเลี่ยงเข้าไปในห้องแต่งตัว การที่หญิงสาวออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นว่าเขาอยู่บนเตียง ถ้ามองจากเตียงนอนเข้ามาภายในห้องแต่งตัว ห้องน้ำจะอยู่ด้านขวามือ ภายในห้องน้ำจะมีฝั่งพื้นที่อาบน้ำจากฝักบัว และอ่างอาบน้ำที่ขนาดกำลังดี อยู่ทางฝั่งด้านขวาของห้องน้ำ ส่วนฝั่งซ้ายจะมีโถสุขภัณฑ์ตั้งอยู่ โดยมีอ่างล้างหน้าคั่นกลางเอาไว้ มีกระจกใสกั้นเป็นสัดส่วน รวมทั้งกระจกบานใหญ่ก็มีอยู่ภายในห้องน้ำเช่นกัน ส่วนห้องแต่งตัวก็จะอยู่ด้านซ้าย ที่ตกแต่งแบบบิวท์อิน หญิงสาวบ่งเสื้อผ้าเป็นสัดส่วน แยกเสื้อ กางเกง กระโปรง หรือแม้แต่ชุดนอน เธอก็จัดแยกเอาไว้ หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ร่างบางก็เดินออกมาบริเวณของห้องนอน ดวงตากลมโตมองชายหนุ่มที่กำลังนั่งพิงหัวเตียง เขาเป็นคนสูงแต่รูปร่างสมส่วนไม่ผอมและไม่ได้บึกบึนจนน่ากลัว นัทธีที่กำลังใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาเหลือบตาขึ้นมามองหญิงสาวที่ยืนมองเขาสีหน้าแปลกใจ แต่เพียงเสี้ยวนาที ลลัลนาก็เดินมานั่งลงบนขอบเตียงฝั่งที่เธอนอน “ป่านนี้ยังทำงานอีกเหรอคะ” “ใช่ พี่ต้องเตรียมการบรรยาย อ่านเอกสารของที่บริษัท มันผิดพลาดไม่ได้น่ะ” หญิงสาวขยับขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียงเงียบๆไม่ได้ตอบอะไร นัทธีเองก็ทำเพียงแค่ขยับผ้าห่มมาคลุมปิดขาให้เธอ ก่อนจะทำงานของเขาต่อไป ลลัลนาเล่นโทรศัพท์สักพักก็ขยับกายลงนอน ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไป นัทธีที่กำลังทำงานอยู่เนื่องจากเขาไม่ได้เข้าบริษัทหลายวัน หันมาเห็นว่าคนข้างๆเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว จึงเปิดไฟหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ปิดไฟดวงใหญ่ และกดริมฝีปากที่หน้าผากเนียนเบาๆ ก่อนจะนั่งทำงานต่อ ครืด ครืด “ฮัลโหล” “นัทคะ” “ครับ” “ออกมาหาแพรได้ไหมคะ แพรเมามากเลยค่ะ กลับคอนโดไม่ไหว” “เพื่อนคุณเยอะแยะไม่ใช่เหรอ” “แต่แพรอยากให้คุณมารับนี่คะ” “ผมไม่ว่าง” “แป๊บเดียวเอง นะคะ” “ผมไม่สะดวก ภรรยาผมนอนแล้ว ไม่อยากเสียงดังรบกวนเธอ แค่นี้นะ” มือใหญ่กดวางสายอย่างไม่สนใจ ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง ขยับกายเอนตัวลงนอนเคียงข้างหญิงสาวที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารอมาตลอด อ้อมแขนอบอุ่นโอบกอดร่างบอบบางไว้แนบอกแล้วจึงเข้าสู่ห้วงนิทราตามหญิงสาวไป “ลัล มาเช้าจัง” เมื่อณดลเดินผ่านโต๊ะที่ลลัลนานั่งอยู่ได้เดินเข้ามาทักทาย ที่วันนี้เห็นเธอมาเช้าเป็นพิเศษ เพราะปกติเขาจะเห็นเธอตอนใกล้เวลาเข้าเรียน เพียงแต่ไม่เคยเข้ามาทักทายเท่านั้นเอง “เรามาพร้อมพี่นัทน่ะ” ลลัลนาได้ยินเสียงทักจึงเอี้ยวร่างหันไปมอง ก่อนจะตอบกลับคำทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส “แล้วข้าวล่ะ ยังไม่มาเหรอ” “โทรมาสักพักว่าใกล้ถึงแล้วล่ะ น่าจะกำลังหาที่จอดรถอยู่” “อ๋อ งั้นเราไปก่อนนะ เพื่อนรอน่ะ” “จ้า” ณดลเหลือบตามองลลัลนาเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเดินแยกออกไป “อ้าว ดล มาทำอะไร” ฟางข้าวล็อกรถเสร็จหันกลับมาก็เจอณดลเดินมาพอดี จึงเอ่ยทักทายชายหนุ่มร่างสูง “เรามาเอาของที่รถอะ ข้าวรอเราแป๊บหนึ่งสิ เดี๋ยวเดินไปด้วยกัน” “โอเคจ้ะ” ฟางข้าวยืนรอณดลที่หน้ารถของลลัลนา สักพักณดลก็เดินกลับมา จึงพากันเดินไปพร้อมกัน “อ้าว ทำไมมาด้วยกันล่ะ” “เจอตอนจอดรถน่ะ” ฟางข้าวเดินมานั่งที่โต๊ะ ณดลตามมานั่งด้วย ทำให้ลลัลนาแอบผิดสังเกตเล็กน้อย “วิชาแรกเราว่าง อาจารย์ไลน์แจ้งยกคลาส ค่อยขึ้นวิชาต่อไป” ลลัลนาบอกเพื่อนสนิทที่เพิ่งหย่อนกายนั่งลงหลังจากวางข้าวของที่ถือมาลงบนโต๊ะ “โอเค” ฟางข้าวยื่นกุญแจรถคืนให้ลลัลนา หญิงสาวรับกุญแจรถไปเก็บใส่กระเป๋า ก่อนจะพากันคุยเรื่องเรียนจบว่ามันใกล้เวลาเข้ามาทุกที “ลัล วันนี้กลับก่อนได้เลยนะ พี่มีเข้าบริษัทต่อ” ขณะที่ทั้ง 3 คนกำลังนั่งคุยกันอยู่ นัทธีได้เดินยืนซ้อนหลังลลัลนา ก่อนจะโอบเอวหญิงสาวแล้วบอกกล่าวกับเธอ “ค่ะ เดี๋ยววันนี้ลัลขับรถกลับเองค่ะ” เธอหันไปยิ้มให้เขา ฝ่ามือหนาลูบศีรษะทุยสวยแผ่วเบาแล้วเดินออกไป “แหม หวานจริง” ฟางข้าวแซวลลัลนาพลางเบ้ปาก “หวานอะไร ก็ปกติ” เธอบอกเพื่อนขำๆ “ลัลคบกับอาจารย์อยู่หรอ” ณดลถาม หลังจากที่เขาสงสัยมาหลายวัน “อ๋อ เปล่าจ้ะ ไม่ได้คบ” ลลัลนาบอกปฏิเสธ “ไม่ได้คบ แต่แต่งงานแล้ว” ฟางข้าวพูดต่อให้ “ห๊ะ” ณดลเหวอ หันมอง 2 สาวสลับไปมา “ก็ประมาณนั้นแหละ” ลลัลนาตอบออกมายิ้มๆ “เออ เราคงตกข่าวเนอะ” “ไม่หรอก ไม่มีใครรู้เลย แต่งกันภายในครอบครัวน่ะ” เธอบอกณดลให้คลายอาการตกใจ “อ้อ ไม่ต้องห่วงนะ เราไม่บอกใครหรอก” “ขอบใจจ้ะ” ลลัลนายิ้มขอบคุณ ก่อนจะเก็บของเตรียมขึ้นห้องเรียน หลังจากที่ลลัลนากลับมาถึงคอนโด เธอวางกระเป๋าที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟา ก้าวขายาวๆไปเปิดประตูห้องนอน เดินตรงเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำให้คลายความเหนื่อยล้า ก่อนจะออกมานั่งพักผ่อนที่โซฟาสักพัก แล้วหยิบคอมพิวเตอร์ขนาดพกพามาเปิดเพื่อทำวิทยานิพนธ์ต่อ วันนี้หญิงสาวตั้งใจว่าจะไม่ออกไปไหน เธอจะต้องร่างวิทยานิพนธ์ให้ได้เค้าโครงบ้างแล้ว เพราะที่ผ่านมาแทบจะไม่มีเวลาทำเลย ครืด ครืด “ค่ะ พี่นัท” ลลัลนาดูหน้าจอโทรศัทพ์ก่อนจะกดรับสายเสียงหวาน “วันนี้พี่กลับดึกนะ ลัลทานข้าวได้เลย ไม่ต้องรอ ที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อย” “โอเคค่ะ พี่นัทก็ทานข้าวด้วยนะคะ” หญิงสาวเข้าใจ เธอตอบรับพร้อมกับบอกกล่าวเขาเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะวางสายไป ในวันที่ลลัลนาต้องอยู่คนเดียวในรอบหลายวัน หญิงสาวได้มีเวลาคิดทบทวนอะไรหลายๆอย่าง ดวงตากลมโตเหม่อลอย สีหน้าครุ่นคิด ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธอ เหมือนทุกอย่างมันเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว 2 อาทิตย์ที่แล้ว เธอยังเป็นนักศึกษาเตรียมจบธรรมดาอยู่เลย ตอนนี้เธอกลายเป็นคนที่แต่งงานแล้ว แถมยังเป็นกับรักแรกของเธอ ที่ทั้งเขาและเธอ ก็เพิ่งได้คุยกันไม่นานนี้เองด้วย หวังว่าชีวิตของเธอ คงจะราบเรียบแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องวุ่นวายหรือมีปัญหาอะไรนะ หลังจากนั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่ครู่ใหญ่ เธอจึงลงมือทำงานตามที่ตั้งใจไว้ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง มือบางถึงได้กดปิดโน๊ตบุ๊ค บิดกายไปมาขับไล่ความเมื่อยขบ จากการนั่งจ้องหน้าจอเป็นเวลา ก่อนจะลุกเดินเข้าครัวไปหาอะไรทานและเข้าห้องนอนไป “แก วันนี้ฉันไปนอนกับแกนะ” “เอาสิ เบื่อๆอยู่พอดี ทำชาบูกินกัน” “โอเค” “กินชาบูกันเหรอ ไปด้วยสิ” ระหว่างที่สองสาวกำลังนัดแนะกันอยู่ ณดลได้เข้ามาได้ยินพอดี ตอนแรกชายหนุ่มตั้งใจจะเข้ามาทักทายตามปกติ แต่มาได้ยินว่าทั้งคู่กำลังนัดกันอยู่ จึงเอ่ยปากขอไปกับหญิงสาวทั้ง 2 คนด้วย “ได้สิ หลายๆคน สนุกดี” ลลัลนาไม่ได้คิดอะไรมาก แต่กลับกัน ฟางข้าวหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ก่อนจะปรับให้เป็นปกติโดยที่ลลัลนาไม่ทันได้สังเกต หลังเลิกเรียน ทั้ง 3 คนพากันแวะไปห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ เพื่อไปซื้อของมาทำชาบูกินกันที่คอนโดของลลัลนา หลังจากซื้อของเสร็จก็มาที่ห้องของลลัลนา ระหว่างที่ช่วยกันจัดเตรียมของ นัทธีก็มาพอดี “ทำอะไรกันอยู่” ชายหนุ่มตรงมาหาลลัลนา หอมแก้มเธอเบาๆ ก่อนจะเอ่ยปากถาม “ทำชาบูทานกันค่ะ พี่นัททานด้วยมั้ยคะ” “หืม ปาร์ตี้หรอ ทานกันไปเถอะ งั้นวันนี้พี่นอนห้องฝั่งนู้นนะ” “ค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มขอบคุณให้เขา ฝ่ามือหนาลูบศีรษะทุยเบาๆก่อนจะออกจากห้องของเธอไป “ดีจัง อาจารย์ตามใจแกน่าดู” ฟางข้าวพูดขึ้นหลังจากนัทธีออกจากห้องไปเรียบร้อยแล้ว “ก็ไม่เชิงนะ เขาก็เอาแต่ใจตัวเองนิดๆเหมือนกัน แต่เขาแค่ไม่พูดน่ะ” เมื่อเตรียมของเสร็จ สองสาวช่วยกันจัดโต๊ะส่วนณดลเตรียมเครื่องดื่ม วันนี้มีปาร์ตี้เลยมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นิดหน่อยได้พอหอมปากหอมคอ “แก ฉันยืมเสื้อเปลี่ยนหน่อยนะ” ฟางข้าวชี้เสื้อนักศึกษาของตัวเองแล้วเดินเข้าห้องนอนลลัลนาไป “ดล เราถามอะไรหน่อยสิ” ลลัลนาเอ่ยขึ้นเบาๆ หลังจากที่ฟางข้าวเดินเข้าห้องเธอไปแล้วณดลมองตาม “อะไรเหรอ” “ดลชอบข้าวเหรอ” ณดลชะงัก นิ่งไปสักพัก “เราก็ยังไม่แน่ใจ ว่าแค่ชอบ หรือมากกว่านั้น” “แล้วข้าวรู้ไหม” “ไม่รู้สิ เราดูไม่ออก” “แล้วเคยบอกข้าวไหม” เพียงคำถามเดียวที่ลลัลนาถาม ณดลถึงกับนิ่งอึ้งไป พอดีกับที่ฟางข้าวเปิดประตูออกมา “มีอะไรกันเหรอ ทำไมหน้าเครียดจัง” “ไม่มีอะไร ลงมือกันเถอะ หิวละ” ลลัลนาตัดบทและเดินไปนั่งประจำที่ ระหว่างที่ลงมือทานกัน ทั้ง 3 คนทานกันไปคุยกันไปจนดึก ฟางข้าวเริ่มมึนๆเลยจะขอตัวไปนอน พอดีกับที่นัทธีเข้ามาในห้อง ณดลเลยอาสาไปส่งฟางข้าวกลับบ้าน เพราะไม่อยากรบกวนความเป็นส่วนตัวของนัทธีกับลลัลนา หลังจากที่ณดลกับฟางข้าวกลับออกไป นัทธีก็มาช่วยลลัลนาเก็บของ ก่อนจะพากันไปนั่งเล่นดูทีวี “ณดลชอบฟางข้าวเหรอ” นัทธีเอ่ยถามลลัลนาขึ้น เขาเองก็พอมองออก “ใช่ค่ะ แต่ตัวดลเองก็ยังไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่ ยัยข้าวเองก็ยังไม่รู้ ดลไม่ยอมบอก” ลลัลนาตอบพลางถอนหายใจ “แต่ลัลดูแล้วยัยข้าวน่าจะชอบดลนะคะ เพียงแต่ยัยข้าวเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมา” “พี่ว่าอย่าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวเขาเลย เดี๋ยวเขาก็จัดการความรู้สึกกันเองแหละ” นัทธีเตือนหญิงสาว เธอจึงพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะใช้เวลาที่เหลือของวันในการพักผ่อนร่วมกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD