Ep.4 : เนื้อคู่ที่ไม่รู้สึก

3493 Words
01:37 น. [ ไม่ตลกนะ ] ผมถูกดูดมาที่ห้องของริริอีกครั้ง แต่แปลกทำไมวันนี้เธอร้องไห้ล่ะ หรือโดนไอ้พี่ชายกำมะลอนั่นขืนใจ “วันนี้ไม่ต้อนรับ กลับไปซะ” หญิงสาวตัวเล็กดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมโปง เอาไว้เหมือนกับกำลังซ่อนความอ่อนแอเอาไว้ ไม่ให้ใครเห็น [ ทุกวันต้อนรับรึไง ไม่ได้อยากมาซะหน่อย แต่ผมถูกดึงมาเวลานี้อีกแล้ว 01:37 นาที ] “แล้วไง” [ แล้วไง??? งั้นหรอ ผมถูกดึงมาที่นี่ในเวลาเดิมของทุกวันไง ไม่ตลกนะ คุณไม่ช่วยผม แล้วจะดึงผมมาทำไม ช่างเถอะๆ ไม่อย่าเถียงกับคนขี้แง ร้องไห้ทำไม ทะเลาะกับแฟนรึไง ] “ใช่ที่ไหน แล้วมันก็เป็นเรื่องของฉัน ฉันไม่เคยทะเลาะกับใครแล้วต้องร้องไห้ นอกจากทะเลาะกับตัวเอง” ทะเลาะกับตัวเองได้ แสดงว่าไม่มีแฟน เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่หาคนผิดตลอดเวลา ยกเว้นโทษตัวเอง แล้วเป็นอะไร ทำไมถึงร้องไห้ แถมดึกขนาดนี้แล้วยังไม่นอนอีก [ แล้วทำไมยังไม่นอน นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ทำงานไม่ใช่หรือไง คลุมโปงแบบนี้ เดี๋ยวก็ขาดอากาศหายใจตายหรอก ] ผมพยายามดึงผ้าห่มของเธอออก แต่เธอก็ยังดึงผ้าเอาไว้แน่น “ไม่อยากนอน อย่ามายุ่งกับฉัน” เธอยังคงดื้อดึง วันนี้เป็นอะไร ทำไมงอแงจังเลย ผมทนไม่ไหวดึงจนผ้าห่มหลุดลอยพ้นจากตัวเธอ เด็กน้อยตาบวมซุกหน้าลงหมอนทันที [ เป็นอะไร ฝันร้ายรึยังไง ] “อืมมมม” งี่เง่าจริง แค่ฝันร้ายก็ร้องไห้ได้หรอ แต่ฝันเห็นอะไรทำไมถึงร้องไห้ขนาดนี้ [ อยากเล่าไหม ] “ไม่” [ งั้นผมเล่าเอง ] ผมทิ้งตัวลงข้างเธอบนเตียง ซึ่งเจ้าของเตียงก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมรู้ว่าเธอไม่ได้อยากจะช่วยผม แต่ผมแค่อยากให้เธอลืมฝันร้ายของเธอบ้าง ฟังเรื่องของผมบ้าง ยังไงเธอเป็นคนเดียวที่ผมจะคุยด้วยได้ วินวินกันทั้งคู่ [ วันนี้ไอ้คินมันพาผมไปที่ตึกล้าง รู้ไหม ผมเห็นภาพตัวเองตกลงมาด้วยนะ สยองสุดๆ ความรู้สึกเจ็บมันยังติดอยู่ที่หลังของผมเลย แต่รู้อะไรไหมผมเห็นคนที่เหมือนจะผลักผมด้วยนะ ] “งั้นหรอ แสดงว่าฆาตกรรมหรอ” [ ไม่รู้สิ ผมเองก็บอกไม่ได้ ก็จำไม่ได้นิ แถมคุยกับไอ้คินก็ไม่รู้เรื่อง พี่ชายผมเนี่ยซื่อบื้อสุดๆ ผมเลยต้องมาคุยกับคุณนี่ไง ช่วยผมเถอะนะ เป็นล่ามให้ผมก็ยังดี ] “ฟี้...ฟี้~*” ไม่มีเสียงตอบกลับจากสาวน้อยที่บอกไม่อยากนอนอีกแล้ว เพราะตอนนี้มีแต่เสียงหายใจเบาๆ ของคนที่เข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อยแล้ว หลับใส่แบบนี้เลยหรอ โธ่...คนกำลังเล่าถึงเลยนะ เอาเถอะ....นอนได้ก็ดีแล้ว แสดงผมเก่งพูดให้คนหลับได้แฮะ ตาบวมหมดเลย พอเจ้าของห้องหลับ ผมก็เลยว่าง เอาหนังสือของเธอมาอ่านฆ่าเวลาก็แล้วกัน ผมเดินมาที่ชั้นหนังสือ ซึ่งเด็กหญิงนั้นมีหนังสือนิยายเยอะมาก หลากหลายแนวเลย ส่วนใหญ่เป็นรักกุ๊กกิ๊ก เห็นชอบทำหน้าไร้อารมณ์ แอบหวานแหววเหมือนกันนะเนี่ย นิยายผีก็มีแฮะ หนังสือเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับก็มี หนังสือธรรมมะก็มี ไม่มีอะไรที่ประเทืองปัญญาเลย เฮ้ออออ....เอาเรื่องนี้ก็แล้วกัน อ้อนรัก...เจ้านายเย็นชา วันถัดมา..... เธอต้องลงช่วยอาจารย์เจติยาดูดวงแบบนี้ทุกวันเลย เดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวร้องไห้ ตอนนี้เธอเริ่มหน้าซีดแล้วนะ พอแล้วมั้ง ผมไม่เข้าใจสิ่งที่เธอมีหรอกนะ แต่ผมเข้าใจสิ่งที่ผมเห็นคือตอนนี้เธอเริ่มแย่ [ ทนทำไมอะ ] “เงียบเถอะหน่า คนเรามันก็มีงานที่ต้องทำมะ ฉันบอกให้ไลลาโทรเรียกพี่ชายคุณมารับแล้ว กลับไปทำสิ่งที่คุณต้องทำเถอะ” เสียงตอบเบาๆของเธอ มันกลับทำให้ผมหงุดหงิด “ริริไหวไหมลูก อีกแค่ 2 คนแขกก็หมดละ” อาจารย์เจติยาผู้มีศักดิ์เป็นป้า ถามเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แต่กลับให้เธอทำต่อเนี่ยนะ มันต้องให้หยุดไม่ใช่หรอ อาจารย์เจติยาผู้ถูกกล่าวขานว่าดูดวงแม่นดั่งตาเห็น ที่แท้ ก็ใช้แรงงานเด็ก จะไหวไหมเนี่ย กลางวันก็ต้องทำงาน กลางคืนก็ต้องมาระแวงลูกชายเค้าเข้ามาปล้ำอีก ชีวิตเธอนี่มันนิยายน้ำเน่าชัดๆ [ บอกเค้าไปสิ ว่าไม่ไหวแล้ว ] “ฉันยังไหวนิ” ไม่คุยด้วยละ คุยแล้วหงุดหงิด ผมเดินทะลุผ่านกำแพงออกไปเลย การกระทำของเธอมันทำเอาผมหงุดหงิด จะต้องตายไปก่อนใช่ไหม ถึงจะบอกว่าไม่ไหว ตอนนี้ก็ซีดจะแย่อยู่แล้ว จะต้องยอมทำอะไรขนาดนั้นเลยหรอ เธอช่วยคนอื่นมากมาย แต่ไม่ยอมช่วยผมเนี่ยนะ ไม่ยุติธรรมธรรมเลย [ เรื่องของใคร เรื่องของมันก็แล้วกัน ] ถึงจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ทำไมผมถึงได้ว้าวุ่นแบบนี้นะ. . . . . . . . โธ่...เว้ยยย เข้าไปดูหน่อยก็แล้วกัน ผมเดินผ่านกำแพงกลับไปที่ห้องเดิม ห้องที่อาจารย์เจติยาใช้เป็นห้องดูดวง แต่พอเข้าไป สาวสวยหน้าห้องก็เรียกคิวสุดท้ายเข้ามาพอดี “ผัวฉันมันไม่กลับบ้านมาหลายวันแล้ว ดูให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ ว่ามันมีชู้รึเปล่า” หญิงสาววัยกลางคนบอกจุดประสงค์ ที่จะขอให้ช่วยทันทีที่เข้ามาถึง แต่ตอนนี้ริริหน้าซีดมากๆ แม้จะนั่งให้อยู่ยังดูเหมือนยากเลย “ริริ ลองดูนะลูก คนสุดท้ายแล้ว” [ พอแล้ว คุณไม่ไหวแล้ว เค้าไม่เห็นรึไง ] แต่ไม่ทันที่ริริจะเดินไปแตะหญิงสาววัยกลางคนนั้น ร่างกายของเธอจนร่วงหล่นลงไปกับพื้น ผมถลาเข้าไปรับร่างเล็กๆของเธอกลางอากาศ แล้วค่อยๆวางลงพื้นเพื่อลดแรงกระแทก ท่ามกลางสายตาของใครหลายๆคนนั้นแหละ ผมพยายามจะทำให้มันธรรมชาติที่สุดนะสำหรับใครจะมอง “ไม่ไหวจริงจริงด้วย” แล้วจู่ๆคนที่ไม่เคยยิ้มเลย ก็ยิ้มออกมาบางๆ [ เออใช่ ก็ไม่ไหวนะสิ ไม่ต้องมายิ้มเลย รับไม่ทันเจ็บแน่ๆ ] “ไม่ต้องตกใจค่ะ เป็นเรื่องปกติ หนูริริเธอคงจะหมดแรงแล้ว วันนี้แขกเยอะเหลือเกิน ก้อยจ๊ะก้อย ก้อยพาริริไปพักหน่อยสิ ฉันจะดูไพ่ให้แขกก่อน” ไม่ต้องตกใจ เรื่องปกติงั้นหรอได้หรอ?? ใช้งานเค้าจนหมดแรง แล้วบอกว่าเป็นเรื่องปกติ “ค่ะ อาจารย์” ริริ Say :: ฉันตื่นมาบนเตียงของห้องตัวเอง ช่วยคนจนหมดแรงอีกแล้วสิ ฉันเป็นคนดีขนาดนั้นเลยหรอ ไม่รู้สึกเลยแฮะ จำไม่ได้เลยว่าเป็นคนดีแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ [ ตื่นแล้วหรอ หลับไป 2 ชั่วโมงเอง ] “ทำไมคุณไม่กลับบ้าน” ฉันมองหาต้นเสียง จนไปเจอผีตาตี่ขี้ตื้อที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือของฉัน ผีอ่านหนังสือได้งั้นหรอ [ ก็พี่ชายผมเค้ายังไม่ว่างมา จะให้ผมกลับยังไง เดินไปหรอ ] “รู้ได้ไง ว่าเค้าไม่ว่าง” [ เพื่อนคุณไลน์มาบอก เพื่อนคุณชอบพี่ชายผมหรอ อายุห่างกัน 12 ปีเลยนะ ] “ฮ่าๆๆ งั้นหรอ เพื่อนฉันเป็นพวกตกหลุมรักง่าย เปลี่ยนแฟนบ่อย แต่เห็นผลที่เปลี่ยนมันก็จะไปในทางเดียวกัน ผู้ชายติดเกม ทำตัวเด็ก เอาแต่ใจ ไม่เทคแคร์ คือแบบสารพัดจะหาเหตุผลมาเลิก แต่รู้อะไรไหมเวลามันคบกับคนที่แก่กว่ามันจะคบนาน แล้วยอมเค้ามาก จนเค้าบอกเลิกมันเหมือนกัน คนอะไรโคตรอาภัพรักเลยอะ” [ จะบอกว่าเพื่อนคุณชอบคนแก่งั้นหรอ ] “ก็ประมาณนั้น” [ แก่แบบพี่ชายผม อ่อนกว่าพ่อไม่กี่ปีเองนะ ] “ขี้เม้าส์นะคุณเนี่ย” [ แล้วคุณอะ ชอบแบบไหน ] “ไม่มี ฉันไม่ชอบความรู้สึกที่ทำให้อะไรไม่เหมือนเดิม ถามเยอะจังเลย ฉันลงไปหาอะไรกินดีกว่า อ่อ...ขอบคุณนะที่มารับฉันเอาไว้ ตอนที่ร่วงลงพื้นอะ......แค่นี้แหละ อยู่ห้องฉันก็อย่าดื้อล่ะ” แค่ขอบคุณก็พอมั้ง พอพูดจบฉันก็รีบเปิดประตูออกมานอกห้องทันที ไม่ได้เขินนะ แค่ไม่ชินกับการต้องขอบคุณใคร ก็ไม่มีใครเคยช่วยฉันนิ เลยไม่ค่อยชินเท่าไหร่ “ริริ เธอคุยกับใครอะ” ประโยคคำถามที่ทำเอาฉันเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ถาม พี่ชัดเจนที่มาพร้อมกับถาดอาหารในมือ ทำเอาฉันประหลาดใจไม่น้อยเลย “ฉันลงไปกินเองก็ได้” “แต่ฉันเอาขึ้นมาแล้วไง เปิดห้องให้หน่อยสิ หนักนะ” ฉันรีบหันไปเปิดห้องให้พี่ชัดเจนเข้ามา เอาไงดี โต๊ะเขียนหนังสือไม่ว่างตอนนี้ถูกผีจองอยู่ กินบนเตียงเลยแล้วกัน “บนโต๊ะนะ” “บนเตียงค่ะ” [ ผมลุกให้ก็ได้ ] “เตียงก็เตียง นั่งสิ...แม่บอกฉันว่า เธอเป็นลมอีกแล้ว เลยทำอาหาร แล้วให้พี่ยกขึ้นมาให้เห็นว่าเธอยังไม่หายดี ยังไม่หายแบบนี้ต้องป้อนปะ” ถาดอาหารถูกวางเอาไว้ตรงปลายเตียง พอฉันนั่งพี่ชัดเจนก็ยกมันขึ้นมาไว้บนตักของฉันทันที “ฉันทำเองก็ได้” วันนี้พี่ชัดเจนมาแปลก เพราะปกติจากคนที่พูดมากจนน่ารำคาญ แต่วันนี้เค้ากลับเงียบ มีอะไรรึเปล่าอะ “ริริ นานแค่ไหน ที่เธอไม่ใช่เด็กน้อยของฉันอีกแล้ว ริริจริงๆแล้วฉันไม่ได้เห็นเธอเป็นน้องมานานมากแล้ว แล้วตอนนี้ฉันก็ไม่อยากเป็นพี่ชายแล้ว ฉันเข้าใจว่านิมิตของเธอไม่เคยพลาด แล้วตอนนี้เธอก็เจอคนในนิมิตครบแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรตอนนี้คงไม่ได้แล้ว ตอนนี้เธอก็ไม่ได้มีใคร เรามาคบกันไหม” คบกันงั้นหรอ ฉันควรจะตอบยังไงดี ฉันไม่เคยคิดกับพี่ชัดเจนเกินพี่ชายเลย ถ้าฉันตอบปฏิเสธภาพในนิมิตเมื่อคืนมันจะเกิดขึ้นรึเปล่า ป้าเจกับพี่ชัดเจนจะทะเลาะกันรุนแรงรึเปล่า หรือถ้าฉันตอบตกลงชีวิตฉันจะเปลี่ยนไปรึเปล่า ถ้าเค้าทะเลาะกัน ฉันจะถูกทิ้งอีกรึเปล่า เหมือนพ่อกับแม่ที่ทะเลาะกันแล้วก็เอาฉันไปทิ้ง เพียงแค่คิดน้ำตามันก็ไหลออกมาอีกแล้ว “ริริร้องไห้ทำไมอะ” มือใหญ่ของพี่ชัดเจน ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาปาดน้ำตาให้ฉันช้าๆ “เปล่า เปล่า ไม่มีอะไร มันแค่ไหนออกมาเอง” “หน้าเธอมันนิ่งจนดูไม่ออกเลย ว่าดีใจหรือเสียใจที่ได้ยินคำนี้จากฉันเนี่ย จะยิ้มหวานๆให้ฉันสักครั้งไม่ได้รึไง เคยจำได้ไหมว่าตัวเองยิ้มครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่” เมื่อเย็นไง ไม่ใช่ว่าฉันยิ้มไม่ได้ แค่ไม่ชอบที่จะยิ้มมันออกมา ชีวิตฉันมีความสุขถึงกับต้องยิ้มตลอดเวลาเลยรึไง เฮ้ออออ....ชีวิตที่ดูเหมือนมีทางเลือก แต่ก็ไม่เคยมี ฉันมองหน้าพี่ชัดเจนที่ตอนนี้พยายามมองฉันอย่างคาดคั้นคำตอบ ฉันควรจะตอบอะไร ภาพนิมิตของฉันมันบอกไว้ชัดเจน ป้าเจกับพี่ชัดเจนจะทะเลาะกันเรื่องพี่ชัดเจน คบผู้หญิงไม่เลือก ทะเลาะกันขั้นรุนแรง แรงจนพี่ชัดเจนออกจากบ้านไป แล้วป้าเจก็พาลโกรธฉันไปด้วย ฉันต้องทำให้มันไม่เกิดขึ้น “ริริ คำตอบของฉันล่ะ เก่งจังเลยเรื่องเฉไฉเนี่ย” “อืม พี่จะมีฉันคนเดียวรึเปล่า” แบบนี้คงจะดีแล้ว เรื่องที่ทะเลาะกันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ป้าเจอาจจะไม่โกรธฉัน [ ผมว่า ผมควรออกไปข้างนอก พวกคุณจะสวีทกัน ] ฉันมองวิญญาณของคุณคริสที่เดินทะลุประตูออกไปเลย ทำไมฉันถึงอยากให้เค้าอยู่ตรงนี้นะ “คนเดียวก็ได้ ตกลงคบแล้วนะ” “ฉันแค่ถามเองนะ มันแปลว่าคบแล้วหรอ มันแปลว่าขอดูความประพฤติของพี่ก่อน ทำตัวดีก่อน เลิกเจ้าชู้ก่อน เป็นเด็กดีของป้าเจก่อน พี่ทำได้เราค่อยมาคุยเรื่องนี้กัน” “เป็นการขอที่หน้านิ่งที่สุดเลย หน้าโคตรไร้อารมณ์เลย ผู้ชายมาขอคบ ไม่มีหัวใจเต้นตึกตักบ้างเลยหรอ สาวที่อยู่ใกล้ฉันต้องใจละลายทุกคนเลยนะ” พี่ชัดเจนพยายามยื่นหน้ามาใกล้ฉัน จนฉันตักข้าวในจานยัดเข้าปากตัวเองทันที ไม่ใช่เพราะเขิน แต่ทำให้เค้าเห็นว่าฉันไม่อยากตอบ ไม่มีอะ ไม่มีแม้แต่การสั่นสะเทือนเลย อีกนิดนึงก็นิ่งเหมือนคนตายแล้วนะ “อร่อยมะ” “ของสำเร็จรูปไปแล้ว 80% หมูหยอง หมูแผ่น ไข่ดาว ข้าวเปล่า โคตรแห้งเลย” “เออ ถึงได้ถามไง ว่าอร่อยมะ เป็นคนอื่นกินไม่ได้นะเนี่ยแบบนี้ แม่ฉันทอดไข่ดาวได้ก็เก่งแล้ว” “คืนนี้จะไปเที่ยวรึเปล่า ไม่ต้องไปหรอก” ถ้าขืนไปเที่ยวอีก เหตุการณ์ทะเลาะกับป้าเจต้องเกิดขึ้นแน่ๆ ฉันไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ฉันไม่ได้ห่วงพี่ชัดเจน แต่ฉันห่วงตัวเอง ในนิมิตสายตาของป้าเจมองฉัน เหมือนโทษว่ามันเป็นเพราะฉัน ฉันทนไม่ได้จริงๆ “นัดเพื่อนเอาไว้แล้ว ไปด้วยกันไหมล่ะ เอาเธอไปด้วย แม่จะได้บ่นเรื่องฉันติดหญิงให้มันน้อยลง” “ก็พี่ติดหญิงจริงๆอะ อีกอย่างฉันไม่ชอบมันเสียง ฉันเห็นนิมิตว่าพี่กับป้าเจจะทะเลาะกัน ฉันไม่อยากให้มันเกิดขึ้น” “เธอนี่เมียในอุดมคติเลยนะเนี่ย ไม่ตาม ไม่หวง แต่เป็นห่วง แถมรักแม่ฉันม๊ากมาก” พี่เจพูดพลางยืนหน้าเข้ามาใกล้ แล้วเอาหน้าเข้ามาใกล้ฉันทำไมเนี่ย “ฉันไม่ใช่เมียพี่ และไม่อยากเป็นด้วย เอาหน้าออกไปไกลๆ กินข้าวไม่ลง” “แรงนะเนี่ย บอกเลยได้จูบสักทีจะติดใจ” “ม้ายยยยยยยยย” ไลลา say....... จะจีบคนที่อายุมากกว่าจะทำยังไงดี ฉันเดินไปทั่วบ้านเพื่อรวบรวมความคิด จนหันไปเจอพี่เจี๊ยบแม่บ้านของฉันกำลังหัวเราะคิกคักกับโทรศัพท์ของตัวเอง เลยแอบชำเลืองมองว่าเค้าทำอะไร เลยเห็นว่าเธอกำลังแชทไลน์อยู่ อู้วววววว....คนอายุอย่างพี่เจี๊ยบก็ยังแชทไลน์แฮะ “พี่คุยกับใครอะ” “แฟนพี่สิคะ เค้าส่งมุกหวานมาจีบ ไม่อยากอยู่ใกล้ ไม่อยากอยู่ไกล อยากอยู่ในใจของน้องเจี๊ยบได้ป่าว” “แฟนพี่อายุเท่าไหร่อะพี่เจี๊ยบ” “42 ค่ะ มากกว่าพี่ 4 ปี เค้าเลยเรียกพี่น้องเจี๊ยบไงคะ” อ่ออออ คนที่อายุมากแล้วชอบมุกเสี่ยว ฉันเคยคบคนที่อายุกว่ามาบ้างนะ แต่ไม่เคยมากขนาดนี้ มุกเสี่ยว ต้องไปตามหามุกเสี่ยวสักหน่อยแล้ว จะเริ่มยังไงดี จีบแบบไม่ให้เค้ารู้ว่าเราจีบ หรือทำให้ชัดเจนไปเลยว่าฉันจีบนะ เนียนๆดีกว่า แรดมากเดี๋ยวเค้ากลัว เริ่มจากหาอันนี้ก่อน สำคัญมาก คนแก่ต้องชอบมากแน่ๆ ภาพที่คนแก่ชอบส่งให้กัน สวัสดีวันศุกร์ จะต้องเลือกอันไหนละทีนี้ เอาแบบมีข้อความด้วยดีไหม ดอกไม้ สัตว์ หรืออะไรดี โห...ข้อความมีแต่แก่ๆ เอาเป็นคำอวยพรก็แล้วกัน แล้วจู่ๆจะส่งเลยหรอ มันไม่แปลกไปหน่อยหรอ เนียนๆไปก็แล้วกัน อ่าวววว ทำไมเค้าเล่นตัวเองแบบนี้ ไม่ๆๆ ไม่แก่หรอก พี่ก็เหมือนขิงอะค่ะ ยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ชชชช เล่นตัวเองแบบนี้ฉันจะไปต่อยังไงละทีนี้ แบบนี้ก็แล้วกัน เออว่ะ...เราเป็นคนบอกให้เค้ามาเอง แต่เค้าจะโกหกบ้างไม่ได้หรอ แบบว่าบอกว่าคิดถึงอะไรแบบเนี้ย หรือไม่ก็อยากเจอไลลาจนทนไม่ไหวอะไรแบบนี้ ผู้ชายคนที่ผ่านๆมา ก็พูดกันแบบนี้กันทั้งนั้น แต่แบบนี้ก็ดี ตื่นเต้นดี จริงๆฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไบโพล่าเลยอะ เค้าบอกกำลังจะมาใช่ไหม แต่งตัวรอเลยแล้วกัน เค้าจะชอบชุดนี้ไหมนะ ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวเค้าว่าเราบ้านแบรนด์ ใส่ชุดธรรมดาๆก็แล้วกัน ให้เค้ารู้ว่าเราเป็นคนเรียบๆ เสื้อพอลสมิธ กระโปรงกุชชี่ เรียบไปไหมนะ Accessories ไม่ต้องหรอก เราเป็นคนเรียบๆ 1 ชั่วโมงต่อมา....... “คุณหนูคะ คุณหนู รอใครอยู่รึเปล่า มีคนมาหาคุณริริแล้วนะคะ” เสียงของพี่เจี๊ยบที่ปลุกฉัน ทำให้ฉันลืมตาโตขึ้นมาทันที!!!!! “นานรึยัง!!!!” “สักพักแล้วค่ะ” โอ้ยยยย หลับ หลับไปได้ยังไง ไม่เคยวิ่ง 4x100 ขนาดนี้มาก่อนเลย ฉันรีบวิ่งไปที่บ้านของริริ ที่ตอนนี้พี่คินกำลังจะกลับพอดี “จมูกไวกว่าหมา ก็แกนี่แหละ กำลังจะกลับแล้วนะ จะเอายังไงต่อ” ริริกระซิบฉันเบาๆ เพราะเห็นท่าทีหอบจากการวิ่ง ที่มาไวประหนึ่งนักวิ่งทีมชาติ “กูเหนื่อย” “หยาบคาย” “พี่คินขา จะกลับแล้วรึคะ กลับไวจังเลย น้องชายเป็นยังไงบ้างคะ” เหนื่อย เหนื่อยจนคิดอะไรไม่ออกเลย ยิ้มไว้ไลลา “น้องไลลาน่าจะเหนื่อย” “ไม่ค่ะ อย่าเรียกว่าน้องไลลา เพราะไลลาไม่อยากเป็นแค่น้องค่ะ” อ่าว สันดานออก ไหนบอกจะจีบเค้าเนียนๆ เอาวะไหนๆสันดานก็ออกแล้ว ไปให้สุดแล้วหยุดที่มีแฟนแก่ “เบาหน่อย แกไม่กลัวเค้ากลัวรึไงคะ หน้าเค้าตกใจหมดแล้ว” ริริกระซิบออกมาเสียงเบาๆ แล้วหยิกที่แขนของฉันอย่างแรง “กลัวไม่มีผัวมากกว่า” ฉันเลยหันไปกระซิบบอกเพื่อนสาว “จะไม่มีผัวเพราะเค้ากลัวแกนั่นแหละ” “พี่ว่าไลลากับน้องริริ คงมีเรื่องคุยกันเยอะ พี่กลับดีกว่าขอบใจน้า ที่ดูแลน้องชายให้” “เชื่อเถอะค่ะ ว่าฉันไม่ได้เต็มใจ” เดี๋ยวๆๆ เค้าจะไปแล้ว แก เค้าจะไปแล้ว อะไรได้เจอแปปเดียวเอง อย่าเพิ่งไปค่ะ อย่างเพิ่งป้ายยยยยยยยย ฉันมองแผ่นหลังของที่กำลังเดินไปขึ้นรถ แม้จะไขว่คว้าเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึง!!!! “แก ฉันชอบเค้า” “เพ้อมากแล้วแกอะ เก็บอาการหน่อย เค้ากลัวจนหนีไปแล้ว” “หื้ออออ เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน ไม่เคยรู้สึกรุนแรงกับใครแบบนี้มาก่อนเลยอะ ถ้าไม่บอกว่าเป็นเนื้อคู่แก จะนึกว่าเป็นเนื้อคู่ตัวเองเลยนะ แกบอกเองนิ ว่าเนื้อคู่พอเวลาเจอกันมันจะมีการสปาร์ค แล้วฉันก็สปาร์คแบบรุ่นแรงงงงง” “เออ ทำไมเค้าเป็นเนื้อคู่ฉัน แต่ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยวะ” . . อีกด้าน........ 01:16 น. “เจนนนนน ทำไมเที่ยวอีกแล้ว แบบนี้ริริเค้าจะยอมคบกับแกไหม” “แม่...แม่ควรจะไปนอนได้แล้ว ผมไปเนี่ย ผมบอกน้องแล้ว” ชัดเจนพูดกับแม่ดีๆ เพราะไม่อยากให้มะเลาะกัน อย่างที่ริริขอไว้ “เจน เจนต้องรู้ก่อนนะ เจนต้องจีบน้องให้ติดนะ ผู้หญิงอะ แต่งออกไม่ได้แต่งเข้านะ” “แม่หมายความว่ายังไง” คำถามของลูกชายทำให้เจติยาต้องสะดุ้งน้อยๆ “ถ้าริริแต่งงานออกไป เราจะไม่ได้เจอน้องอีกเลยนะลูก” “แต่น้องยังไม่มีแฟน แถมไอ้เนื้อคู่อีก 2 คน ก็ไม่เห็นจะโผล่หัวมาเลย แม่กังวลเกินไปรึเปล่า” แต่เจติยาไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะการริริพูดคนเดียวบ่อยครั้ง และการหมดแรงจนร่วงหล่นลงพื้นวันนี้มันไม่ปกติ เพราะไม่มีใครล้มลงกับพื้น แล้วค่อยๆลงเหมือนมีคนรับเอาไว้แบบนี้แน่ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD