คริส Say ::
01:37 น.
ผมอยู่ที่ไหน ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ นึกว่าจะถูกส่งมาเกิดเสียอีก ห้องนอนงั้นหรอ จากกลิ่นหอมจางๆน่าจะเป็นเด็กผู้หญิงแน่ๆ ผมมองไปบนเตียงในความมืด ก็ไม่เจอใคร ทำให้ผมต้องสำรวจห้องห้องนี้ในความมืด เก็บห้องเป็นระเบียบแสดงว่าเป็นคนเรียบร้อย บ้านค่อนข้างจะมีฐานะ แต่...ของในห้องไม่เข้า Set เหมือนของที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ อาจจะเป็นมรดกตกมาจากพี่ เตียงสีเข้ม แต่ตู้ดันเป็นสีอ่อน ดูเป็นการจับๆใส่ให้มีใช้เท่านั้น
พรึบบบบบ!!!!!! จู่ๆไฟในห้องก็สว่างจ้าขึ้น จนผมต้องหันไปมองคนที่เปิดมัน หญิงสาวสวมแว่นหน้าตาเบื่อโลกมองผมตาโต แล้วปิดประตูห้อง เธอเห็นผมงั้นหรอ!!!!! เห็นแน่ๆ!!!! ถ้าไม่เห็นคงไม่ตาโตแล้วปิดประตูใส่ผมขนาดนั้น เพียงไม่นานประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้ง ผมควรจะเริ่มยังไงดี เธอเป็นคนแรกที่เลยที่เห็นผมในรอบเดือน
หญิงสาวหน้าใสเดินตรงเข้ามาหาผม แล้วตบผ่านหน้าหน้าของผม โดยไม่มีท่าทีจะตกใจสักนิด เธอยังคงทำหน้านิ่งๆ แล้วมองมือของตัวเอง
“ตายไปแล้วงั้นหรอ เป็นผีก็ตัดออกได้สิ” เธอพูดอะไรคนเดียววะ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย
[ คุณไม่ตกใจ หรือไม่กลัวผมหรอ ]
“นี่ตกใจที่สุดในชีวิตแล้ว คุณเชื่อเถอะ”
O.O ตาโตแบบนี้เรียกว่าตกใจที่สุดแล้วงั้นหรอ นึกว่าจะแบบว่า กรี๊ดดดดดดด ผีหลอกอะไรแบบนี้ เป็นผู้หญิงที่แปลกดีจัง สูง 160 เซนติเมตร ร่างเล็ก หน้าตาไร้อารมณ์ แล้วตอนนี้น่าจะง่วงนอนสุดๆ เพราะเธอเดินตรงไปที่ เตียงนอนแล้ว....ทิ้งตัวลงนอนทันที
แล้ว แล้ว ผม ควร จะ ทำ อะไร ให้ตายเถอะ เป็นการพบกันที่แสนจะประทับใจจริงๆเลย
.
.
ยามเช้าของวันนั้นเอง....
ผมนอนตะแคงมองสาวน้อยวัยใส ที่หลับตาพริ้มอยู่ในห้วงของนิทรา จะปลุกเธอขึ้นมาคุยดีไหมนะ หรือผมควรจะปล่อยให้เธอนอนไปแบบนี้ดี ลองเรียกเบาๆดูก็แล้วกัน
[ คุณ!!!!! ] มันได้ผล!!!!! สาวน้อยตรงหน้าลืมตาพรึบ แล้วขยับหนีผมที่นอนอยู่บนเตียงของเธอด้วยความตกใจ แต่เธอก็ไม่ยอมพูดอะไรกับผมนะ ไม่รู้จะเงียบไปถึงไหน
[ คุณ....คุณ ] ผมลอยตามเธอไปทุกที่ เธอออกไปนอกห้อง ผมก็ออกไปด้วย ผมเข้าห้องผมก็เข้าด้วย แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สนใจผมเลย
ผมนั่งลงข้างๆหญิงสาว ที่เห็นว่าจะมองนาฬิกาอยู่บ่อยครั้ง เดินไปหยิบผ้าขนหนู แต่ก็ไม่ยอมไปอาบน้ำสักที แล้วเธอก็มองนาฬิกาอีกแล้ว กำลังรีบอยู่สินะ งั้นแบบนี้ก็แล้วกัน ผมเลิกที่จะตามเธอ แล้วหนีไปแอบให้พ้นสายตา เพื่อรอให้เธอไปทำอะไรที่เธออยากทำ แล้วมันก็ได้ผล เธอรีบวิ่งปู๊ดดดดด ออกจากห้องไปเลย ปลายทางที่เธอเข้าไปดูเหมือนว่าจะเป็นห้องน้ำ ผมก็เลยใช้บัตรผ่านที่ผมมี ลอยผ่านประตูเข้าไปเลย
[ ใหญ่กว่าที่คิดนะเนี่ย ] ภาพสวยงามที่เห็นเบื้องหน้า มันจรรโลงตามากกว่าอยู่กับไอ้คินเป็นไหนๆ ภาพของสาวน้อยที่ถอดชุดนอนออก เหลือแต่ชุดชั้นในลูกไม้สีชมพูเข้าชุด
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ออกไป!!!!! ใหญ่กับผีนะสิ!!!!! ออกไปเดี๋ยวนี้!!!!” สาวน้อยนั่งทรุดตัวลงกดเข่า เพื่อที่ผมจะไม่เห็นอะไรไปมากกว่านี้ ก็มันเห็นไปแล้วอะ
[ จะออกไปรอข้างนอกก็ได้ ถ้ายังเงียบใส่ผมอีก ผมจะตามคุณไปทุกที่ทุกเวลาเลย ไม่เว้นแม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ เข้าใจนะ ] ผมยอมออกจากห้องน้ำให้เธอแต่โดยดี แล้วกลับไปรอเธอที่ห้องของเธอ
“ตลกรึไง!!! ออกไป!!!!!”
อายอะไรผมก็แค่มอง เอาไปไม่ได้ซะหน่อย เล่าให้ใครฟังก็ไม่ได้ ดูได้แต่ตาเท่านั้นเองนะ อึ๋มดีจังเลยแฮะ ซะแน่นเชียว เห็นหน้างิ๋มๆดูถูกไม่ได้เลย
.
.
จู่ๆเธอก็เปลี่ยนกลับมาเงียบใส่ผมเหมือนเดิม ผมก็ยังคงเดินตามเธอไปทุกที่ ผมต้องการสิ่งที่เรียกว่าความช่วยเหลือ แต่ถ้าเธอไม่ยอมคุยกับผมแบบนี้ ผมจะขอความช่วยเหลือจากเธอยังไง เธอเดินนำผมมาถึงประตูบานใหญ่ คนเฝ้าประตูเปิดประตูให้เธอช้าๆ ดูยิ่งใหญ่แฮะ เมื่อผ่านเข้ามาในห้องก็เจอผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งในชุดสูทสุภาพ นั่งอยู่หลังโต๊ะใหญ่ที่บุด้วยผ้าสักหลาดสีดำ บรรยากาศในห้องไม่ต่างจากตำหนักอะไรสักอย่าง กลิ่นกำยานคละคลุ้งไปทั่วห้อง ห้องนี้น่าสยองชะมัด
“ทำไมลงมาช้าจังริริ” หญิงสาววัยกลางคนทักทายเธอทันทีที่เธอมาถึง
อะ เธอชื่อริริ งั้นหรอ ชื่อน่ารักจัง จะดีมาก ถ้าเธอหัดยิ้มมากกว่านี้
“ขอโทษค่ะ หนูมีปัญหานิดหน่อย” แล้วเธอก็หันมาทำตาดุ ใส่ผมเฉยเลย ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ เธอโทษว่าเป็นเพราะผมได้หรอ
[ คุณยอมคุยกับผมตั้งแต่แรก ก็จบแล้ว ]
“อาจารย์เจติยา ก้อยเรียกคิวแรกเลยนะคะ ริริมาแล้ว” หญิงสาวสวยที่เปิดประตูให้เธอ เดินมาหาหญิงสาววัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าอาจารย์เจติยา ผมเคยได้ยินชื่อเธอ เธอคือหมอดูชื่อดัง ที่คนต่างจองคิวกันนานมากๆเพื่อดูดวงกับอาจารย์เจติยา
“เรียกมาเลย”
ไม่นานคิวแรกก็เข้ามาถึง แต่ส่วนมากมาเพื่อ...ขอหวยแฮะ ขอหวยก็ได้หรอ นั่นสิวันนี้วันที่ 15 นิ งมงายจริงๆ ถ้าใบ้หวยได้จริงป่านนี้หมอดูรวยไปแล้ว ผมมองหญิงสาวตัวเล็กที่หลับตาลง แล้วมือเขียนตัวเลขไม่หยุด
[ งมงายจริง ถ้าให้เลขถูก ป่านนี้คุณรวยไปแล้ว ]
“ปัญหาไม่ใช่ไม่ถูกหวย ปัญหาคือเจ้ามือหวยเกลียดฉันมาก เพราะฉันถูกหวยทุกงวด” แล้วคนที่เงียบมาตลอดก็ตอบผมเป็นครั้งแรก ด้วยเสียงเบาๆ
“หนูคุยกับใครลูกริริ”
“พูดคนเดียวค่ะ”
คิวแล้วคิวเล่าถูกเรียกเข้ามาในห้อง แต่ละคนขอให้ช่วยในเรื่องต่างกันไป ส่วนมากจะเรื่องความรัก งมงายกันจริงๆ คนจะรักกัน หมอดูจะมารู้ได้ยังไง แต่ทุกครั้งที่หญิงสาวตัวเล็กสัมผัสตัวใครเพื่อดูดวง เธอจะดูเหมือนอ่อนแรงลงไปด้วย การแสดงรึเปล่า แล้วคิวดำเนินจนมาถึงคิวสุดท้าย ผู้ชายที่เดินเข้ามาในห้อง ทำเอาผมต้องประหลาดใจ เพราะนั่นคือพี่ชายของผมเอง มาทำอะไรอะ อย่าบอกว่ามันก็งมงายอะไรแบบนี้นะ
“คุณตั้งใจมาให้ช่วยอะไรคะ” หญิงสาววัยกลางคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะ ถามถึงการมาของพี่ชายผม ถามก่อนแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากการใช้จิตวิทยาในการตั้งคำถาม และตอบคำถามสิ
“ผมรอคิวมานาน ผมหวังว่าคุณจะช่วยผมได้ ตอนนี้น้องผมนอนเป็นเจ้าชายนิทรา ผมแค่อยากจะรู้ว่าน้องทำไมถึงยังไม่ฟื้นสักที ผมพยายามหาหมอทุกแขนงแล้ว ก็ยังไม่สามารถทำให้น้องชายของผมฟื้นได้”
โง่จริงๆ...มาหาหมอดูเนี่ยนะ จะได้เรื่องไหม เฮ้อออออ งมง่ายเกินไปแล้ว ผมควรจะถูกพาไปหาหมอไม่ใช่หมอดู โอ้ยยยยย ผมหันไปมองหญิงสาวที่นั่งนิ่งๆมานาน เธอมองพี่ชายของผมอย่างพิจารณา อะไรทำกันเป็นขบวนการงั้นหรอ ให้คนนึงสังเกตการณ์ แล้วอีกคนยิงคำถามจิตวิทยา แบบนั้นรึเปล่า
[ หมอดูคู่หมอเดา หลอกลวงทั้งเพ ]
“ไม่รู้อะไร ก็หัดอยู่เงียบ” เสียงกระซิบเบาจากหญิงสาวที่ผมตามอยู่นั้น ทำให้ผมต้องหันไปมองเธอ เพราะจู่ๆเธอก็ยอมคุยกับผมสักที
[ หรือไม่จริง อาจารย์ของเธอช่วยได้งั้นหรอ น้องชายของผู้ชายคนนั้นอะ ]
“ไม่ได้ ดูด้วยไพ่ มันเป็นแค่การอ่านดวงตามตำรา ช่วยอะไรไม่ได้หรอก คำทำนายก็เป็นไปตามไพ่ที่อ่าน หมอดูนะ ไม่ใช่ผู้วิเศษ”
แล้วจู่ๆ เธอก็เงียบไปอีกแล้ว ไม่ใช่แค่เธอ แต่ทุกคนในห้องเงียบหมด เสียงแอร์และเสียงลมหายใจยังดังกว่าเสียงของคนในห้องเลย
“เรื่องของน้องชายคุณ อาจารย์เสียใจด้วยนะคะ การเป็นเจ้าชายนิหราคนเป็นพี่คงลำบากแย่เลย การดูแลคนป่วยคงจะไม่ง่าย เรื่องแบบนี้ควรจะปรึกษาแพทย์นะคะ”
“มันก็ไม่ได้ลำบากอะไร น้องผมเหมือนแค่หลับไป ไม่ได้ทรมานหรืออะไร ร่างกายปกติ แต่ไม่ยอมตื่น” พี่ชายของผมพยายามอธิบายถึงผมที่นอนนิ่งเป็นผักอยู่ในบ้าน ปกติผมก็ลอยไปลอยมาอยู่ใกล้ๆร่างของผมนะ แต่เมื่อคืนดันถูกหลุดดำดูดเฉยเลย
“นานแค่ไหนแล้วคะ”
“เกือบ 2 เดือนแล้วมั้งครับ วันนี้ผมมาด้วยความหวัง แต่ทำไมถึงผิดหวังแบบนี้นะ หรือผมควรจะให้น้องผมไปสบายจริงๆ ไม่ใช่ยื้อเค้าเอาไว้แบบนี้”
[ เอ้ยๆ แกจะทำอะไรบ้าๆแบบนี้ไม่ได้นะ ]
“แต่ถ้าน้องชายคุณยังไม่ตาย จะกลับเข้าร่างไม่ได้อีกแล้วนะคะ คุณจะทิ้งเค้า โดยที่ไม่สนใจหัวใจเค้าไม่ได้นะ คนในครอบครัวทิ้ง มันเจ็บปวดมากนะคะ” แล้วจู่ๆคนที่เอาแต่เงียบก็โพร่งขึ้นมา แล้วทำไมเธอถึงทำหน้าเศร้าล่ะ
“แต่ถ้าผมยื้อเค้าต่อไป เค้าจะทรมานรึเปล่า” พี่ชายผมหันมาพูดกับเด็กสาวที่พูดแทรกบทสนทนา
“เฮ้ออออ ริริ ไหวอยู่ไหม ช่วยพี่เค้าหน่อยสิลูก”
เด็กสาวริริถอนหายในออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินมาแตะที่ไหล่ของพี่ชายผม นี่คงเป็นคนที่4 แล้วที่เธอทำแบบนี้
“เกลียดจังการที่เข้ามาแทรกแซงอนาคตของชาวบ้าน” แล้วจู่ๆคนที่อยู่ก็ล้มลงจนพี่ชายของผมต้องรับเธอเอาไว้ ดวงตากลมโตของเธอเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
“ขอโทษค่ะ มันคงมากเกินที่ร่างกายของเธอจะรับไหวแล้ว การดูอนาคตของคนอื่นมันทำให้เธอเหนื่อยมาก วันนี้คุณเป็นคนที่4แล้ว คงจะเกินกว่าที่ร่างกายเธอจะรับไหวแล้ว ขอเธอพักสักหน่อยนะคะ” อาจารย์เจติยาเดินมาประคองสาวน้อยมานั่งที่เก้าอี้ของเธอ
“ความรู้สึกที่มองภาพผ่านตัวคุณ มันเศร้ามาก ความสิ้นหวัง ความเจ็บปวดที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ มันสะเทือนใจสุดๆ แต่ก็ไม่มีอะไรจากคุณคุยกับน้องชายที่นอนไม่ได้สติ น้องคุณชื่อคริสใช่ไหมคะ ที่ตาตี่ๆไม่มีเหล่าเต้ง เค้ายังไม่ตายนะคะ วนเวียนอยู่แถวๆนี้”
“ใช่...น้องผมชื่อคริส”
ตาไม่มีเหล่าเต้งงั้นหรอ ใช่ที่ไหน ผมก็มีนะ เหล่าเต้งอะ แค่...มีน้อยหน่อย ถ้าจะสื่อสารกับไอ้คินได้ อย่างน้อยก็ฝากบอกก็แล้วกัน
“อยากฝากบอกอะไรไหม คุณจะได้กลับไปกับพี่คุณสักที” หญิงสาวกระซิบผมถามผม เธอยอมช่วยผมแล้วหรอ
[ บอกมันที เลิกทำหน้าเหมือนผมจะตาย ผมยังอยู่ ผมไม่ชอบที่มันเช็ดตัวให้นานๆที หัดทำความสะอาดผมบ่อยๆหน่อย ตัดเล็บอย่าให้สั้นมาก ผมเจ็บ อย่าแก้ผ้าเดินในบ้านมันอุจาดตา บ้านของมันไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ]
“เค้าบอกว่า เลิกทำหน้าเหมือนว่าเค้าจะตาย เค้ายังอยู่ เช็ดตัวให้เค้าบ่อยๆหน่อย ตัดเล็บอย่าตัดลึกมาก เค้าเจ็บ แล้วก็อันนี้ไม่ขอพูดดีกว่าค่ะ...” เลือดฝาดบนในบนใบหน้าของเธอระเรื่อขึ้น เหมือนกับเธอกำลังอายที่จะพูด
“พูดเถอะครับ พี่อยากฟัง”
“อย่าเดินแก้ผ้าในบ้าน มันอุจาดตาค่ะ”
“ฮ่ะๆๆ อย่างงั้นหรอ ขอบคุณคุณนะครับ น้องเป็นคนที่เดาได้แม่นมาก แม่นแม้กระทั่งเรื่องเดินแก้ผ้า จริงๆผู้ชายทุกคนทำเวลาลืมผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำ แต่ขอบคุณนะที่โกหกเพื่อช่วยให้พี่รู้สึกดี แต่ไม่เป็นไรแล้ว พี่ขอบคุณนะคะ พี่รู้สึกดีขึ้นมากเลย” แล้วพี่ชายผม ก็เดินมาลูบหัวผู้หญิงที่อยู่ข้างผม
อยู่ใกล้มันแค่นี้ แต่มันดันไม่เชื่อที่ยัยนี่พูดอีก
[ บอกมันไปว่า มันมีปานแดงที่ก้น ]
“อี๋...ไม่เอา ทำไมฉันต้องไปยุ่งเรื่องของก้นพี่ชายคุณ ไม่มีวิธีพิสูจน์อย่างอื่นแล้วหรอ”
[ ผมจำไม่ได้นิ ที่ผมบอกได้คือสิ่งที่ผมเห็นตอนเป็นวิญญาณแล้วอะ บอกไปว่า ผมที่นอนเป็นผักอยู่บนเตียง ใส่เสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีดำ เตียงผู้ป่วยของผมอยู่ติดกับหน้าต่าง เพราะมันอยากให้ผมยอมตื่นเพราะแสบตา มันจะตื่นทุก 7 โมงเช้า แล้วแต่งตัวไปทำงาน มันน่าจะเป็นนักข่าวของสำนักข่าว Today เพื่อนร่วมงานรักใคร่เอ็นดูดี แต่เข้าไม่ได้กับหัาหน้างาน เพราะเป็นคนตรงเกินไป มันชอบกังวลว่าตัวเองแก่ลง แล้วยังไม่มีเมีย ]
“ยาวจัง”
[ ก็กลัวมันไม่เชื่อไง ]
“เฮ้อออ น้องคุณบอกคุณชอบกังวล ว่าแก่ขึ้นแต่ยังไม่มีภรรยา”
“ผิดตรงไหน ฝากถามไอ้ตัวป่วนหน่อยได้ไหม ฉันจะช่วยมันได้ยังไง”
“เค้าได้ยินคุณนะคะ แต่แค่คุณไม่ได้ยินเค้า”
ช่วยผมงั้นหรอ ผมจะไปรู้ได้ยังไง ผมพยายามที่จะลงไปในร่างของผมแล้ว แต่มันทำได้แค่ทะลุผ่าน ผมเองก็จนใจเหมือนกัน ผมส่ายหัวเบาๆเป็นคำตอบให้กับหญิงสาว ให้เธอตอบพี่ชายของผม ที่มองเธออย่างมีความหวัง
“เค้าบอกเค้าก็ไม่ทราบค่ะ”
“งั้นหรอ แย่จังเลยนะ”
“วิญญาณที่เข้าร่างไม่ได้งั้นหรอ อาจจะเป็นไปได้ว่าสถานะตอนนี้ ไม่เหมือนตอนที่ออกไปอะนะ ต้องหาอะไรที่หายไป หรือไม่เหมือนเดิมก่อน” อาจารย์เจติยาที่เงียบฟังอยู่นาน พูดขึ้นมาในจังหวะที่เห็นหน้าของพี่ชายผม
[ ความจำ ]
“ความจำค่ะ เค้าบอกแบบนี้” เด็กสาวริริเป็นเหมือนกระบอกเสียงให้ผมในตอนนี้
“งั้นก็คงต้องจำให้ได้ก่อน ร่างกับจิต มันก็เหมือนวงกลม 2 วง ถ้าอะไรที่มันบิดเบี้ยวไป มันก็ซ้อนทับกันไม่ได้ แบบนี้พอจะช่วยอะไรได้ไหม แต่ก็ช่วยได้แค่นี้นะคะ มันเป็นเรื่องของพวกคุณ ที่พวกคุณต้องจัดการกันเองน้า” อาจารย์เจติยา พูดดักเอาไว้ เพื่อไม่ให้พี่ชายของผมขอความช่วยเหลือ คงไม่มีใครอยากช่วยคนที่ไม่รู้จัก
“ตอนนี้คุณก็กลับไปพร้อมพี่ชายคุณได้แล้วสิ ไม่หลงทางแล้ว”
[ ผมอยู่กับมันมาจะ 2 เดือนแล้ว ไม่ได้อะไรเลย ไม่มีอะไรดีขึ้น พูดอะไรกับมัน มันก็ไม่ได้ยิน มันแย่มากเลยนะ ที่พูดอะไรก็ไม่มีใครได้ยินอะ อยู่คนเดียวมันทรมานมากเลยนะคุณ คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม ผมสัญญาจะไม่ทำให้คุณเดือดร้อนเลย ]
“พูดไปก็ไม่มีใครสนใจจะฟัง พูดอะไรก็ไม่มีใช่เชื่อ ใช่...มันทรมานมาก อะ..ขอโทษที ฉันอินไปหน่อย คุณได้ขอพรจากดาวตกรึเปล่า” แววตาของริริดูเศร้า จนผมรู้สึกว่าเธอจะเข้าใจความรู้สึกของผม
[ คุณรู้ได้ยังไงอะ ผมขอตอนที่ก่อนจะถูกดูดมาเจอคุณ คุณก็ของั้นหรอ ขอว่าอะไร ]
“ทำไมฉันต้องบอก”
บทสนทนาของเรา ทำให้อีกสองคนที่ถูกลืมไปแล้ว มองเราทั้งสองคนด้วยความสงสัย คนอื่นมองไม่เห็นผมสินะ การที่เธอต้องคุยคนเดียว มันคงจะทำให้คนอื่นๆแปลกใจไม่น้อย ตอนนี้ริริมีท่าทีครุ่นคิดอย่างเห็นได้ชัด เธอคิดอะไรอยู่นะ
“ฉันช่วยพวกคุณได้แค่นี้ ขอโทษนะ”
ไร้น้ำใจสิ้นดี ถ้ายัยนี่จะไม่ช่วยผม แล้วไอ้หลุมดำนั่น ดูดผมมาทำไมอะ กลับก็ได้ ไม่ช่วยก็ไม่ช่วยสิ มันต้องมีทางที่ผมจะสื่อสารกับไอ้คินได้สิ ถ้าทำได้ผมก็ไม่ต้องง้อยัยนี่แล้ว
.
.
ริริ Say ::
ฉันมองคุณภาคินเดินออกไปจากห้องทำนายของป้าเจ พร้อมกับน้องชายของเค้าด้วย แบบนี้ดีแล้วล่ะ ดวงเนื้อคู่เปิด แต่ไม่ได้แปลว่าฉันจะต้องตะครุบเนื้อคู่ทุกอันดับที่ผ่านเข้ามานิ แม้ฉันจะเข้าใจความรู้สึกของคุณคริส แต่ฉันเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่นักสืบ ไม่ใช่หมอผี และไม่ใช่นักสังคมสงเคราะห์ด้วย
“ทำไมหนูไม่ยอมช่วยเค้าล่ะลูก”
“เค้าเป็นผู้ชายในนิมิตค่ะ หนูเลยไม่อยากจะสานต่อ ให้มันวุ่นวาย ทั้งพี่และน้อง เมื่อคืนหนูเจอวิญญาณของน้องเค้า หลังจากดูดาวตกกับป้าเจค่ะ เจนึกว่าผีจะน่ากลัวมากกว่านี้ซะอีก” ผีตาตี่ขี้ตื้อ
“แสดงว่าเค้าหล่อใช่ม่าาา เลยไม่น่ากลัว หน้าตาเป็นยังไง หล่อกว่าชัดเจนลูกชายป้าไหม”
จะตอบยังไงก็ดีน้าาา เทียบกับพี่ชัดเจนงั้นหรอ
“ก็คนละแบบค่ะ จมูกเค้าโด่งจังเลย ปากเรียวบาง แต่เสียอย่างเดียวตาไม่มีเหล่าเต้ง” รวมๆก็ถือว่าดีอยู่นะ
“แล้วแบบพี่เค้าล่ะ” ป้าเจยังคงถามต่อ
“คนพี่ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ใจดีอยู่นะคะ แถมยังรักน้องสุดๆเลย อื้มมม เค้าลูบหัวหนูด้วย”
“แล้วริริล่ะ ชอบแบบไหน”
“ห๊ะ...ไม่ชอบสักแบบค่ะ หนูเรียกคิวต่อไปนะคะ”
“อ๊าาาาาา ลูกชายป้าก็หล่อน้าาา ไม่สนใจหน่อยหรอ”
“คนที่ไปเที่ยวกับสาวไม่สนใจมาทำงานวันหรอคะ ฮ่ะๆๆๆ”
คืนนั้นเอง.........
01:37 น
“อ่าาาาาาาาาา ฟวับบบบบบ” วิญญาณของคริสโดนหลุมดำดูดกลับมาที่ห้องห้องเดิมของหญิงสาวอีกครั้ง ที่เดิม เวลาเดิม แม้จะอยู่ในความมืด แต่เค้าก็จำได้ว่านี่คือห้องของหญิงสาวที่ชื่อริริแน่นอน
“แบบนี้ไม่ตลกนะ ทำไมฉันถึงกลับมาที่นี่อีกแล้วล่ะ”
“คนใจร้าย คนใจดำมักหลับสบาย”
ในค่ำคืนอันแสนหวานในยามราตรีแบบนี้ คงมีเพียงแต่เค้าที่นอนไม่หลับ เค้าทำได้แต่มองเด็กสาวที่หลับพริ้มอย่างสบายอยู่ข้างเค้าบนเตียง นี่เป็นอีกคืนแล้วที่เค้าต้องมานอนมองเธอหลับแบบนี้
‘ใส่กระโปรงนอน แต่ดันนอนไม่ระวังแบบนี้ รู้ไหมว่าคนที่อยู่ด้วยมันจะใจแตกเอาน้า ปากเล็กๆ จมูกเล็กๆ น่าตาก็ออกจะจิ้มลิ้มน่ารักดี แต่ทำไมถึงใจดำจังนะ ผมกลับบ้านแล้วแต่เธอก็ยังเรียกผมกลับมาอีก’
ขาของสาวน้อยที่ขยับสูงขึ้นเพื่อก่ายหมอนข้าง มันทำให้ชุดนอนที่เธอใส่อยู่ร่นขึ้นมาจนเห็นแพนดี้สีขาวที่เธอใส่อยู่ มันทำเอาวิญญาณหนุ่มถึงกับต้องปิดตา
“เช้าก็ให้ดูข้างบน กลางคืนก็ให้ดูข้างล่าง คุณเห็นผมเป็นคนยังไง อื้มมมมม ขาสวย”
========================