ทีทีคลับ
“เฮ้ย! มาได้ไงวะ ตามน้องกูมาเหรอ” เสียงไอ้โต้งโวยวายดังมาจากร้านกาแฟทำให้พวกผมทั้งสามต้องรีบตามเข้าไปดู
มันมาได้ไงวะ หรือว่ามันตามต้าหนิงมา
“เสียงดังอะไรขนาดนั้นโต้ง” แม่ของโต้งพูดขึ้นเมื่อท่านเดินออกมาจากหลังร้าน
“ไอ้หมอนี่มันตามต้ามา ม้า...”
“ไร้สาระน่าโต้ง นี่ลูกค้ารายเดือนของป๊านะ”
“เดี๋ยวม้าไปดูสนามให้นะ” แม่ของโต้งหันไปพูดกับพวกไอ้หน้าตี๋อย่างใจดี เห็นแล้วขัดหูขัดตาชะมัด
“มึงคิดว่ามึงแน่นักเหรอ” โต้งเริ่มหาเรื่องไอ้หน้าตี๋อีกครั้ง
“ลองสักเกมไหมล่ะ”
“เอาดิ ทีมล่ะสี่ไม่ต้องมีโกลด้วย”
“ถ้าพวกกูชนะ มึงต้องยอมให้กูจีบน้องต้าหนิงนะ”
ทำไมต้องเอาต้าหนิงเป็นเดิมพันด้วยวะ ไม่มีปัญญาจีบเองรึไง
“แล้วถ้ามึงแพ้ล่ะ” โต้งถาม
“กูก็จะเลิกยุ่งกับต้าหนิงแล้วก็จะไม่มาที่นี่อีก”
“ข้อเสนอ น่าสน มึงเตรียมตัวไส่หัวไปได้เลย”
“เอาเป็นว่าตกลงนะ” ไอ้หน้าตี๋พูดสรุปพร้อมกับจ้องหน้าไอ้โต้งแล้วก็ผม
ห้องอาบน้ำสนามสาม
“เฮีย ทำไมไปรับคำท้าเขาแบบนั้น”
ผมกำลังเปลี่ยนชุดอยู่ในห้องน้ำ ได้ยินเสียงของต้าหนิงพูดคุยอยู่กับพี่ชายของเธอและเพื่อนของผม
“แกไม่ต้องกลัวหรอกต้า เฮียจะไม่รุนแรงกับมัน โอเค๊”
“เคบ้าไรล่ะเฮีย ถ้าเฮียแพ้ล่ะ”
“เชื่อมือพวกพี่เถอะ ต้าหนิง” เสียงบิ๊กไบค์บอกกับต้าหนิง
“พวกพี่ไม่ใช่ไก่อ่อนให้พวกมันเชือดเล่นนะครับ” เลโอพูดขึ้นบ้าง
มันก็จริงอย่างที่ไอ้เลโอพูด ถึงพวกผมจะไม่ได้เล่นเก่งถึงขั้นทีมชาติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกผมจะแพ้ได้ง่ายๆ
“ค่ะ ต้ารู้ว่าพวกพี่นะเก่ง แต่เฮียรู้อะไรไหม เพื่อนพี่ไผ่สามคนนั้นนะ เขาเป็นนักกีฬาระดับทีมชาติรุ่นเยาวชนเลยนะ”
“ห้ะ! ห้ะ! ห้ะ!”
“แล้วไง พวกพี่ต้องกลัวเหรอ”
เป็นทีมชาติแล้วไงล่ะ ต้องกลัวพวกมันด้วยเหรอ
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำโดยไม่ใส่เสื้อ
“ก็แค่บอกไว้ค่ะ จะกลัวหรือไม่ก็เรื่องของพวกพี่”
ต้าหนิงหันมาตอบผม แต่พอเห็นผมไม่ใส่เสื้อเธอก็เบือนหน้าหนีทันที หึ... รู้อยู่หรอก ว่าแอบมองหน้าท้องผม
“เอาน่า มันจะเก่งสักแค่ไหนกันเชียว” บิ๊กไบค์พูด
แล้วเลโอ บิ๊กไบค์กับโต้งก็เดินออกไปยังสนามเพื่อวอร์มร่างกาย
ต้าหนิงกำลังจะเดินตามพวกนั้นออกไป ผมยื่นมือไปรั้งข้อมือบางไว้ก่อน
“เดี๋ยว”
“อะไรคะ”
ต้าหนิงหันกลับมาทำหน้าดุใส่ผม
“ชอบมันรึเปล่า”
ผมจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอเพื่อหาคำตอบ
“ถามทำไม” ต้าหนิงก็จ้องตาผมกลับเช่นกัน เหมือนเธอกำลังมองหาอะไรบางอย่างจากนัยต์ของผม ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเธอต้องการหาอะไร..
“ถ้าชอบ...ก็จะทำให้สมหวัง”
ผมพูดทิ้งท้ายแล้วเดินออกไปยังสนาม เพื่อเตรียมตัวในการแข่งขันกับไอ้หน้าตี๋นั่น
“พี่ไผ่ค่า...สู้ๆ ”
พอได้ยินประโยคนี้ ที่ออกมาจากริมฝีปากสวยของใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างสนามมันก็ทำให้ร่างกายของผมชะงักค้าง ทั้งที่ผมกำลังจะยิงประตูให้กับทีมของตัวเอง ประโยคสั้นๆ แค่นั้นส่งผลต่อร่างกายของผมเหลือเกิน ไม่เข้าใจตัวเองเลย...ว่าทำไม ผมต้องรู้สึกตกใจขนาดนั้น
เมื่อผมเสียสมาธิในการเล่นก็ทำให้ไอ้ไผ่ชิงจังหวะตัดลูกฟุตบอลไปได้และมันก็ไม่พลาดที่จะยิงประตูทำให้ทีมของพวกมันเป็นฝ่ายชนะไป แต่ผมนี้สิยังยืนมึนงงอยู่ที่เดิม
“มึงอ่อนให้กูเหรอ”
มารู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่อไอ้ไผ่เดินมาคุยกับผม
“มึงชอบต้าหนิงจริงไหม” ผมเงยหน้าขึ้นมาจ้องตากับมัน
“กูถึงได้พนันกับพวกมึงไง กูชอบต้าหนิง” ไอ้ไผ่ก็จ้องตาผมกลับเหมือนกัน
“ดี”
“สรุปมึงอ่อนให้กูจริงๆ ใช่ไหม”
มันยังคาใจอยู่สินะ
“เปล่า กูแค่ฝากไว้ก่อน ถ้ากูพร้อมเมื่อไหร่ กูจะมาเอาคืน...”
ผมใช้สายตากลิ้งไปทางที่ต้าหนิงนั่งอยู่ บอกเป็นนัยๆ ว่าของที่ฝากไว้คืออะไร... ไอ้ไผ่หันไปมองตามสายตาของผม และมันก็น่าจะเดาออกแล้วด้วย
“กูไม่คืน” ไอ้ไผ่หันกลับมาตอบผม
“แต่กูจะเอา” ผมพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็เดินหนีมันไปทันที
ซ่า...
น้ำเย็นๆ ปะทะผิวกายที่เปียกชุ้มไปด้วยเหงือทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง ผมยืนนิ่งให้น้ำจากฝักบัวไหลรดตั้งแต่หัวลงมา ประโยคที่ต้าหนิงตะโกนเชียร์ไอ้ไผ่ยังดังก้องอยู่ในหัวของผมอยู่เลย ยัยนั้นชอบไอ้หน้าตี๋จริงๆ เหรอวะ!
“ไอ้เรซ! มึงเป็นเชี้ยไรวะ!”
เสียงหมาออกจากปากแบบนี้เป็นใครไปไม่ได้ ไอ้โต้ง ชัวร์
“กูขอโทษแล้วกัน” ผมตะโกนบอกมัน
“ถ้ามึงอยากให้กูยกโทษให้ละก็...เลี้ยงเหล้าพวกกูเดี๋ยวนี้” สมกับเป็นเพื่อนกูจริงๆ เห็นแก่กินจัง ไอ้เพื่อนเชี้ย
“เออๆ ๆ ” ผมตะโกนตอบมันไป
“แล้วมึงจะขัดสีฉวีวรรณอีกนานไหม” เสียงไอ้เลโอถาม
“พวกมึงไปรอที่ร้านกาแฟก่อน เดี๋ยวกูตามไป”
“เร็วๆ ล่ะ” เสียงบิ๊กไบค์บอก
แล้วผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินออกไป พอเพื่อนไปแล้วผมก็กลับมาจมอยู่กับความคิดของตัวเองต่อ สักพักก็มีเสียงหวานใสเรียกชื่อผม
“พี่ราเรซ” ผมปิดก๊อกน้ำฝักบัวทันที ต้าหนิงเหรอ... มาทำไม
เมื่อกี้เธอเรียกชื่อผมด้วยนิ มาหาผมงั้นเหรอ... ผมหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดตัวอย่างลวกๆ แล้วก็หยิบกางเกงนักเรียนมาใส่กำลังจะหยิบเสื้อนักเรียน แต่พอนึกอะไรสนุกๆ ออกก็เลยไม่ใส่ดีกว่า...
ผมเปิดประตูห้องอาบน้ำออกมา ยืนพิงที่ขอบประตูใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมไปด้วย สายตาของต้าหนิงจ้องมองซิกแพคของผมอย่างอึ้งๆ พร้อมกับรอบกลืนน้ำลายเสียงดัง
“เซ็กซี่ล่ะสิ”
ผมจ้องใบหน้าหวานที่ตอนนี้แก้มขาวเนียนของต้าหนิงกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงอมชมพูอย่างน่ารัก
“ก็...ไม่เท่าไหร่” ต้าหนิงยักไหล่หนึ่งทีอย่างไม่แยแส
เธอเบือนหน้าหนีไปอีกทางทั้งที่ปากบอกว่าไม่เท่าไหร่ ทำไมต้องหลบตากันด้วย หึ...ยัยเด็กน้อยเอ๊ย...
“แล้วมีอะไร”
ผมหยุดเช็ดผมของตัวเองแล้วยืนกอดอกจ้องมองใบหน้าหวานของต้าหนิง ผิวเนียนจริงๆ ถ้าเกิดว่ามีอะไรมาโดนผิวนิดหน่อยคงจะเกิดรอยแดงได้ง่ายๆ เลยนะเนี่ย
“พี่คิดอะไรอยู่” ต้าหนิงถามขึ้น
“ตอนนี้นะเหรอ ก็...คิดอะไรดีล่ะ ในห้องอาบน้ำแบบนี้...” ผมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งไปให้ต้าหนิงพร้อมกับใช้มือลูบคางปอยๆ ชวนให้คิดลึก
ตากลมโตจ้องมองผมอย่างตะลึงงัน เธอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างหวาดระแวง
“ต้าหมายถึงตอนที่พี่อยู่ในสนาม อยู่ดีๆ พี่ก็หยุดเล่นซะงั้น ทำแบบนั้นทำไม”
ผมรู้อยูแล้วล่ะ ว่าเธอจะถามเรื่องนี้
“ก็ไม่ได้คิดไรนิ ก็แค่ทีมนั้นเขาเก่งกว่า”
ผมเดินเลี่ยงมานั่งที่ม้านั่งหน้าห้องอาบน้ำ แล้วต้าหนิงก็เดินตามมานั่งลงข้างผม กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนดอกกุหลาบแรกแยมปั่นหัวผมได้ดีจริง
ต้าหนิงทำหน้าฮึกฮักอย่างหงุดหงิดที่ผมไม่ยอมตอบคำถามเธอตามตรง
“ชั่งเหอะ ว่าแต่... พี่คุยอะไรกับพี่ไผ่ เขาถึงได้หันหน้ามามองต้าแปลกๆ”
คงจะสงสัยมากสินะ ถึงได้เข้ามาถามถึงในห้องอาบน้ำนี้ เด็กน้อเด็ก... ชั่งอยากรู้ไปซะทุกเรื่องจริงๆ
“อยากรู้จริงเหรอ” ผมหันไปถามต้าหนิง
เธอพยักหน้าหงึกๆ อยู่สองครั้ง ต่อมความอยากรู้ของคนเราไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ
“เช็ดผมให้พี่ก่อน เดี๋ยวบอก” ผมต่อรอง
“หลอกใช้กันนี่นา” ต้าหนิงโวย
“ก็แล้วแต่นะ”
“เอามานี่”
แล้วมือบางของต้าหนิงก็เอื้อมมาหยิบผ้าขนหนูที่คล้องอยู่บนคอหนาของผม ผมหันตัวไปนั่งคร่องม้านั่งเพื่อให้ต้าหนิงเช็ดผมได้ถนัด มือเล็กยี่ผมไปมาอย่างเบามือ ผมแอบมองใบหน้าหวานไม่วางตา ทำไมยิ่งโตยิ่งตารักขนาดนี้นะ เพราะแบบนี้เองที่ทำให้ไอ้โต้งตามหวงอยู่ไม่ห่าง ผู้ชายคนไหนได้เห็นหน้าหวานๆ บวกกับรอยยิ้มแสนสดใสของต้าหนิงเป็นต้องหลงเธอซะทุกราย
“มองอะไรคะ” ต้าหนิงขึงตาใส่อย่างดุๆ
รู้ตัวซะได้ แต่มีเหรอที่คนอย่างราเรซจะกลัว ผมนั่งยิ้มหวานส่งไปให้ต้าหนิง
“แล้วจะบอกได้รึยัง” ต้าหนิงถามขึ้น เมื่อเธอเช็ดผมจนเกือบแห้งสนิท
“ขยับมาใกล้ๆ สิ” ผมบอกต้าหนิง
และเธอก็บอกง่ายซะด้วย ต้าหนิงขยับตัวเข้ามานั่งเกือบชิดตัวผมพร้อมกับเอียงหูมาเพื่อรอฟังสิ่งที่ผมจะพูด
“ความลับ” ผมกระซิบบอกและก็แอบฉวยโอกาสไปด้วย
ฟอด...
ผมหอมแก้มต้าหนิงไปหนึ่งที ก็มันอดไม่ได้จริงๆ อ่ะ น่ารักขนาดนี้ ใครมันจะไปอดใจไหว
“พี่เรซ!”
ต้าหนิงจ้องมองผมอย่างตกใจ มือบางยกขึ้นมาลูบแก้มข้างที่โดนผมขโมยหอมไป
“ครับ”
ผมขานรับ นั่งยิ้มหน้าระรื่นอย่างชอบใจที่ได้เห็นแก้มเนียนๆ เป็นสีแดง
“คนฉวยโอกาส!”
เพี๊ยะ!
หน้าของผมหันไปตามแรงตบจากฝีมือของคนตัวเล็ก มือหนักใช้ได้เลยนะเนี่ย ผมค่อยๆ หันกลับมาใช่ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างกวนๆ เหมือนไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยสักนิด แต่ที่จริงก็รู้สึกแสบอยู่นิดหน่อยแหละ แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่เจ็บ จะเสียมาดลูกผู้ชายอกสามศอกไม่ได้
“ต้า...” เธอดูตกใจกับการกระทำของตัวเอง
แต่ก็นะ... ผมเคยเห็นในละครบ่อยๆ เมื่อโดนผู้หญิงตบ ผู้ชายอย่างเราก็ต้องตบคืนเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ ผู้ชายนั้นใช้ปากตบ...
ผมเอื้อมมือทั้งสองข้างของตัวเองไปล็อกใบหน้างามของต้าหนิงไว้แน่น กันเธอหันหน้าหนี
ผมโฉบริมฝีปากของตัวเองบดจูบริมฝีปากบางอย่างบ้าคลั่ง ต้าหนิงแม้มปากไว้แน่นไม่ยอมให้ผมรุกล่ำเข้าไปได้ ผมใช้แขนข้างหนึ่งเอื้อมไปรัดเอวบางแล้วก็ยกตัวเธอขึ้นมานั่งบนตักแกร่ง ทำให้ต้าหนิงตกใจเผลอเปิดปากออกทำให้ผมแทรกปลายลิ้นรุกล้ำเข้าไปได้ ผมกวาดไปทั่วโพรงปากเล็กเพื่อควานหาน้ำหวาน
“อื้อ...”
ผมพึมพำอย่างพอใจ หวานจริงๆ อยากจะชิมไปซะทุกจุดแต่ก็คงได้แค่นี้แหละ เพราะกำปั้นเล็กระดมทุบที่อกแกร่งไม่หยุด ก็เริ่มจะจุกนิดๆ แล้วเหมือนกัน
ผมถอดริมฝีปากออกจ้องมองใบหน้าหวาน ตากลมโตจ้องมองผมอย่างโกรธเคือง น้ำตาเริ่มก่อตัวไหลออกมาตามหางตาข้างหนึ่ง พอได้เห็นน้ำตาของต้าหนิงแล้ว ใจของผมมันก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา ผมทำให้เธอร้องไห้ ผมเอื้อมมือขึ้นหวังจะเช็ดน้ำตาให้แต่กลับโดนมือบางปัดออกไปซะก่อน ต้าหนิงรีบเด้งตัวออกจากตักของผมแล้ววิ่งออกไปจากห้องอาบน้ำอย่างรวดเร็ว
.
.
.