2 ไลลา

1269 Words
วันต่อมา... @มหาวิทยาลัย "เลิกทำหน้าบูดได้แล้วน่า" เสียงวีนัสเอ่ยบอกเพื่อนตัวเล็กที่เอาแต่ทำหน้ายู่ออกมาไม่หยุด "ปะป๊าใจร้ายอะ ปะป๊าไม่เข้าใจเรา" เรียวปากเล็กพึมพำบอก "ก็เพราะพ่อเธอเป็นห่วงเธอไงไลลา" ปลายฟ้าที่นั่งอยู่มองหน้าบอกเพื่อนตัวเล็กขึ้นมาอีกคน "เฮ้อ แต่เราอยากอยู่คอนโดเหมือนเธอสองคนนี่..." ไลลายังคงพึมพำด้วยความเอาแต่ใจก่อนจะก้มหน้าลงฟุบไปกับโต๊ะเบะปากงอแงตามประสาลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตระกูลดังผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยทางครอบครัวของไลลานั้นได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายโครงการที่อยู่อาศัยที่ไม่ว่าจะเป็นแบบคอนโดมิเนียมหรือบ้านจัดสรรรวมไปถึงการซื้อ-ขายที่ดินที่จะสามารถเพิ่มมูลค่ากำไรให้แก่บริษัทมาเป็นเวลานานหลายรุ่นส่งต่อกันมาจนถึงพ่อของเธอ ทว่าบางคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้าน เธอไม่ใช่ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจ เธอมีพี่ชายและน้องชายแท้ ๆ ที่เกิดจากพ่อแม่เดียวกันก็คือ แทนไทและไทก้า และด้วยเพราะทั้งสองเป็นผู้ชายทำให้ลูกสาวอย่างไลลามักจะโดนทุกคนตามใจจนกลายเป็นคนชอบงอแงเวลาที่โดนขัดใจอย่างเช่นตอนนี้ที่พ่อของเธอไม่ยอมให้เธอย้ายไปอยู่คอนโดเพียงลำพัง "ฉันเข้าใจพ่อเธอนะ เธอดูบอบบางเกินกว่าที่จะอยู่คนเดียวได้อะ" วีนัสพูดขึ้น "จริง" ปลายฟ้ารีบหันไปเสริมวีนัสอย่างเห็นด้วย "อะไร เราหนักตั้งห้าสิบนะ บอบบางอะไร" ไลลาเงยหน้าขึ้นตอบกลับเพื่อน "ฉันไม่ได้หมายถึงน้ำหนักขนาดตัว หมายถึงนิสัยเธอต่างหาก" วีนัสเอ่ย "เราก็สู้คนนะ" "เหรอออ แรงเธอไม่ได้มีเยอะเลยไลลา หนักห้าสิบแต่สูงร้อยห้าสิบกว่าก็ไม่ได้ช่วยอะไรนะ ขาโต๊ะที่เรานั่งยังยาวกว่าตัวเธอทั้งตัวอีก" "วีนัส!" "ฮ่า ๆ" "ขำอะไร เราสูงตั้งร้อยห้าสิบเก้านะ อีกเซนเดียวก็จะร้อยหกสิบแล้ว" ปากเล็กขมุบขมิบบอกด้วยท่าทีน่ารักน่าเอ็นดู "โอเค ถ้าเธอสบายใจที่จะคิดแบบนั้น ฉันก็เข้าใจ" วีนัสยังคงแกล้งพูดใส่เพื่อนตัวเล็ก "ชิ! เราไม่คุยกับวีนัสแล้ว! งอแงต่อดีกว่า ฮืออ ปะป๊าใจร้าย~" ว่าแล้วคนตัวเล็กก็ทำเสียงงอแงออกมาต่อฟุบหน้าลงไปนอนยังโต๊ะที่นั่งอยู่อีกครั้ง โดยมีสายตาของวีนัสกับปลายฟ้าที่ได้แต่หัวเราะยิ้มออกมากับความน่ารักเป็นธรรมชาติของเพื่อนตัวเล็กที่เป็นเจ้าของฉายา"บาร์บี้แห่งคอสตัน" เนื่องจากไลลานั้นมีใบหน้าเรียวใสดวงตากลมโตราวกับตุ๊กตาแถมยังมีรอยยิ้มสดใสที่ทำเอาหลายคนต่างตกหลุมรักไปกับความสดใสเหมือนตุ๊กตามีชีวิต ทุกคนจึงขนานนามตั้งฉายาว่าบาร์บี้ให้แก่คนตัวเล็ก ซึ่งแห่งคอสตันก็คือชื่อมหา’ลัยเอกชนชื่อดังที่พวกเธอกำลังศึกษาอยู่ โดยทั้งสามสาวนั้นเรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการแสดงและศิลปะการแสดงปีสอง ไลลาชื่นชอบที่จะเรียนในคณะและสาขานี้เป็นอย่างมาก แน่นอนว่าพ่อแม่ของเธอก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้รวมถึงพี่ชายและน้องชายของเธอด้วยเช่นกัน "เอ่อ ว่าแต่ปีนี้เราจะเอาใครมาแสดงละครเวทีของพวกเราดีอะ" เสียงปลายฟ้าพูดขึ้นทำให้ไลลาที่ฟุบหน้างอแงอยู่เงยหน้าขึ้นมา "นั่นสิ" คนตัวเล็กปรับอารมณ์เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าจริงจังเมื่อนึกถึงงานใหญ่ที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ในคณะ "ถ้าแสดงกันเอง ทีมงานไม่พอแน่ ๆ" ปลายฟ้าบอก ไลลาก็พยักหน้าตอบอย่างเห็นด้วย "ใช่ ไม่น่าพอ" "งั้น..." อยู่ ๆ ปลายฟ้าก็หันไปมองหน้าไลลาที่นั่งอยู่ "...ทำไมไม่ลองชวนพี่ชายไม่ก็น้องชายเธอดูล่ะไลลา สองคนนั้นหน้าตากินขาด รับบทนำได้สบาย" สิ้นเสียงปลายฟ้าเอ่ย ไลลาก็ส่ายหัวออกมาทันที "เฮ้อ ถ้าถามเรานะ ไทก้ายังพอมีหวัง แต่พี่แทนไทนี่...ฝันเอาได้เลย รายนั้นไม่มีทางมาทำอะไรแบบนี้แน่ ๆ" "งั้นก็ไม่ต้องถึงมือพี่ชายหรือน้องชายไลลาหรอก" วีนัสยิ้มเอ่ย ทำให้ปลายฟ้ากับไลลาหันมองหน้าคนเป็นเพื่อนสีหน้าสงสัย "ฉันเตรียมนักแสดงหลักไว้แล้ว รับรองว่า..." "...พวกเธอจะต้องเซอร์ไพรส์แน่ ๆ" ทันทีที่พูดจบ วีนัสก็นั่งยิ้มออกมาไม่หยุดด้วยท่าทีดูภูมิใจกับผลงานของตัวเอง ต่างจากไลลากับปลายฟ้าที่ได้แต่มองท่าทีของเพื่อนแววตายังคงมีความงุนงงอยู่อย่างนั้น ครืดดด ~ "โอ๊ะ พี่เขาโทรมาพอดีเลย เดี๋ยวแป๊บนะ" วีนัสหันเอ่ยบอกเพื่อนทั้งสองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ราคาแพงขึ้นมากดรับสายคนที่โทรเข้ามา "สวัสดีค่ะ ถึงแล้วเหรอพี่" "อ่อ จอดตรงนั้นได้เลยค่ะ" "ให้วีกับเพื่อนเดินไปรับไหม" "ไปได้ค่ะ นั่งอยู่ไม่ไกลจากลานจอดรถ" "ไม่ต้องเกรงใจเลยพี่ วีสิต้องเกรงใจ รบกวนพี่มา" "เดี๋ยววีเดินไปหาดีกว่าค่ะ เดี๋ยวมีคนเจอพี่แล้วจะวุ่นวายเอาได้" "โอเคค่ะ พี่รออยู่ตรงนั้นก็ได้" "ค่ะ รถสปอร์ตสีดำด้าน ทะเบียนxxxนะคะ...โอเคค่ะ เดี๋ยววีกับเพื่อนเดินไปนะคะ" หลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จ วีนัสก็กดวางสายพร้อมกับหันไปยังเพื่อนทั้งสองที่นั่งทำหน้างงอยู่ "ไปกัน" "ฮ ฮะ...ไปไหน" ไลลาถามตาแป๋วแววตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ "ไปรับคนที่จะมาแสดงละครเวทีให้เราไง" วีนัสตอบ ทว่าไลลาก็ยังคงทำหน้างุนงงเช่นเดิม "หื้อ?" "โอ๊ย เลิกทำหน้าแบบนั้นสักที ถ้าอยากรู้...ก็รีบเดินไปด้วยกันสิ" สิ้นเสียงวีนัสเอ่ยบอก ไลลาก็หันมองหน้าอยู่กับปลายฟ้าก่อนที่ทั้งสองจะรีบสาวเท้าเดินตามวีนัสที่เดินนำออกไปด้วยความเร่งรีบอยากรู้ ตึก ตึก "ช่วยกันมองหารถสปอร์ตสีดำด้าน ทะเบียน..." ยังไม่ทันที่วีนัสจะพูดจบ "ใช่คันนั้นหรือเปล่า" ไลลาเอ่ยพร้อมกับชี้ไปยังรถสปอร์ตราคาแพงที่จอดเด่นอยู่ "ทะเบียนxxx ใช่! คันนั้นแหละ" วีนัสบอกก่อนจะสาวเท้าหมายจะเดินตรงไปยังรถหรูที่จอดอยู่ ทว่ายังไม่ทันที่จะเดินเข้าไปจนถึงตัวรถ เสียงประตูฝั่งข้างคนขับของรถสปอร์ตก็ถูกเปิดออกเผยให้เห็นหญิงสาวหุ่นดีในชุดเดรสใส่แว่นดำปกปิดใบหน้าแต่ก็ยังคงมีความสวยที่โดดเด่นออกมาอยู่ดี "พะ พี่มาร์..." เสียงปลายฟ้าเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทักทายอะไรกัน พรึบ เสียงประตูรถอีกข้างถูกเปิดออกดังขึ้นเผยให้เห็นร่างสูงเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรเดินลงตามมา โดยใบหน้าหล่อเย็นชานั้นทำเอาไลลาที่ยืนอยู่ชะงักนิ่งไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD