คู่กรรมคู่เวร
คุณคิดว่าคนเรามีกี่ด้าน คงหนีไม่พ้นด้านดีและร้ายอยู่ที่คนคนนั้นจะแสดงด้านไหนออกมาเท่านั้น หึ โลกนี้นะไม่มีความจริงสักอย่างจะมีก็แต่พวกบ้า ทำตัวไร้สาระไปวันๆ ไม่ต้องทำอะไรนอกจากฆ่ากัน และสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ฉันจึงหนีจากโลกตรงหน้านี้โดยการสร้างกำแพงขนาดใหญ่ปิดกั้นจากผู้คนภายนอก ไม่สนใจว่าใครจะตายต่อหน้าหรือคนพวกนั้นเขาทำอะไรกัน นั้นคือต้นเหตุว่าทำไมฉันถึงได้ฉายาว่า นังอสรพิษ ไม่ว่าใครที่เข้ามาทักหรือพูดคุยก็จะไม่มีได้ยินคำพูดดีๆ ออกจากปากแม้แต่เพื่อนสนิท ขอเตือนดีกว่าอย่าข้ามกำแพงนั้นมาหาฉัน
“เจ้ หิวข้าวแล้วอ่ะ”
ฉันบอกเจ๊เจ้าของร้านเหล้า เจ้เล็ก เจ้ดาว เป็นคนที่ฉันเคารพรักที่สุด
“มาทีไรหิวมาทุกที่นะเม”
โมเมคือชื่อฉันเอง ฉันไม่สวย ไม่น่ารักและสำคัญฉันไม่ใช่คนดี เจ้เล็กบอกพลางเช็ดเก้าอีกเพื่อเปิดร้าน ตอนนี้โมเมได้อยู่ร้านเหล้าปั่นเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ผับขนาดใหญ่แต่นั้นกับทำให้ลูกค้าเยอะไม่ขาดสาย เพราะเจ้สองคนออกจะสวยใครเห็นเป็นต้องบอกว่าสวยขนาดฉันเองยังแอบอิจฉา
“โธ่เจ้คนมันหิวอ่ะรีบๆ ทำมาสักทีเถอะหิวจนกินช้างได้ทั้งตัวเลย”
“อยากกินไร..เดี๋ยวทำให้” เจ้ดาวพูดพร้อมลูบหัวฉันเบาๆ
"อะไรก็ได้ที่ไม่ไข่ดาว"
“งั้นไปนั่งรอตรงนู้นนะ”
เจ้ดาวชี้ไปที่โต๊ะที่อยู่ไกลเพื่อนเธอรู้ว่าโมเมไม่ชอบความวุ่นวายและยิ่งเป็นร้านเหล้าต้องมีเรื่องชกต่อยเป็นธรรมดาและยิ่งโมเมไม่เหมือนคนทั่วไปยิ่งต้องระวังพูดจบก็เดินเข้าห้องครัวทันที
30นาทีผ่านไป เมื่อร้านเหล้าเปิดกลุ่มวัยรุ่นก็ทยอยเข้ามาในร้านถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ยอมลุกไปช่วยเจ้เล็กเพราะไม่ชอบความวุ่นวายที่เริ่มก่อตัวขึ้นข้างๆ
“แก….แกว่าพี่คนนั้นเขาหล่อมั้ยอ่ะ” เสียงผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังมีความหิวผู้ชายอย่างแรงพูดแซวเหมือนเพิ่งเจอกับผู้ชายครั้งแรกอาการความแรดเลยออกอย่างชัดเจน
“......” หิวมากหรือไงว่ะร้องกรีด อย่างกับช้างตกมันอย่างงั้นอย่างกับผู้ชายไม่เคยตกถึงท้องนึกว่าปล่อยแรดออกมาหากินข้างนอก
“อ่ะข้าวกินซะ”
ผัดคะน้าหมูกรอบถูกวางต่อหน้าโมเม เจ้ดาวไม่พูดอะไรก่อนจะปลีกตัวไปช่วยเจ้เล็ก ใช่ว่าที่ร้านจะไม่พนักงานเพียงแต่ทุกคนไม่อยากเข้าใกล้โมเมเพราะเธอดูน่ากลัว ใช่ผู้หญิงไม่จำเป็นจะต้องอ่อนต่อโลกทุกคน ผ่านไปสักพัก ร้านเหล้าก็คงยังเป็นร้านเหล้าที่มักจะมีเรื่องเกิดขึ้นเสมอตอนนี้เองก็เหมือนกันผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ห่างโมเม กำลังเปิดศึกแย่งผู้ชายกันมันเป็นเรื่องที่โคตรธรรมดาเมื่อเจอพ่อพันธ์ต้องรีบจับล่ามโซ่ไว้
“........” หัดแหกตาดูบ้างผู้ชายนะมันจะกินกันอยู่แล้วยังจะตบตีแย่งกันอีกน่าลำคาญ
คนที่1: "เขาไม่ได้มองแก เขามองฉัน" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
เปรี้ยว “...” เงียบ
คนที่2: "เขามองฉัน เขาสนใจฉัน กรี๊ดดดดด"
สิ้นเสียงหวีดร้องโหยหวนของความอยากขั้นเทพ ก็เกิดเรื่องเปิดศึกชิงนายตบตีกันเจ้าละหวั่นแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถทำให้โมเมสนใจพวกเธอนอกจากข้าวตรงหน้า
ซ่า
แต่ทว่ายังไม่ทันที่เปรี้ยวจะตักข้าวเข้าปาก น้ำเย็นๆ ก็ถูกสาดเข้าที่แผ่นหลังอย่างจัง
“........” ไม่เป็นไรเย็นดี
แต่ถึงอย่างนั้นต่อมรับความรู้สึกของโมเมยังคงไม่ทำงานเธอยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ซ่า
ฉันยังไม่ทันได้ตักข้าวเข้าปากน้ำเย็นๆ ก็ถูกสาดมาที่แผ่นหลังฉันเป็นรอบที่สอง แม่ง กูเกี่ยวอะไรกับมันว่ะ ฉันได้แต่พยายามข่มอารมณ์ไว้ อยากลุกหนีอยู่หรอกแต่ข้างยังไม่หมดนิก็นะ ทำนาง่ายที่ไหนละต้องรู้จักคุณค่าทางอาหาร
เพล้ง! ความอดทนโมเมได้พังทลายลงเมื่อมีคนเหวี่ยงขวดเหล้าโดนหัวเธออย่างจัง เอาจนได้ ชอบมากเหรอไอ้เลือดเนี่ย มันกัดกันอย่างไงว่ะถึงมาตกที่กูได้
“เหี้ยเอ้ย” ฉันนี้โคตรหัวร้อนเมื่อได้กลิ่นคาวเลือดไหลอาบลงมาบริเวณคอเสื้อตัวเอง “อีพวกนี้วอนโตตีนกูเหรอว่ะห่ะ”
เปรี้ยวตวาดเสียงดังเธอไม่สนใจว่าคนจะมองเธออย่างไงตอนนี้สิ่งที่เธอสนใจก็คงไม่พ้นคนที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัว
“ไม่อยากอยู่กันแล้วว่างั้น...พร้อมจะตายกันแล้วมึงแหกตาดูข้างๆ มึงหน่อยดิ ผู้ชายมันไม่ได้มีคนเดียวโว๊ยแม่งเสือกแย่งกันอยู่ได้หิวมากเหรอว่ะของขาดมากี่เดือนแล้ว?”
ตอนนี้โมเมกลายเป็นที่สนใจของคนในร้านและพวกไทยมุ่ง
“มองอยู่ได้ไม่เคยเห็นคนมีเรื่องหรือไงว่ะ” ตอนนี้ฉันพาลไปหมดอย่างคนบ้า ฉันไม่ชอบที่ต้องมาเป็นจุดเด่นแบบนี้ เพราะอีพวกนั้น
“เพราะพวกมึงทำไห้กูโมโห”
โมเมบอกเสียงเรียบราวกลับว่าอีกตัวตนของเธอที่ปกปิดไว้กำลังจะออกมาดูโลก โลกที่มันชอบโลกที่เต็มไปด้วยเลือดสดๆ และการฆ่าฟัน โมเมค่อยๆ เดินไปหาผู้หญิงตรงหน้าช้าๆ ที่กำลังถอยห่างจากเธอไปเรื่อยๆ โมเมยังคงเดินไปหาทั้ง2อย่างใจเย็นก่อนจะตัดสินใจหยิบขวดเหล้าบนโต๊ะข้างๆ
เพล้ง! เสียงขวดเหล้าฟาดลงที่หัวผู้หญิงคนหนึ่งอย่างจัง แต่สำหรับโมเมแล้วมันเป็นภาพที่สวยงาม ผู้หญิงตรงหน้าตะโกนด่าต่อว่าฉันไม่หยุด
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อยากเอาเลือดหัวมึงออก….แล้วจะทำไมมึงจะทำไรกู” บอกแล้วว่าฉันไม่ใช่คนดีและผู้หญิงโลกสวย ยิ่งได้เห็นเลือดที่ไหลออกมามันยิ่งทำให้ฉันสนุกกับคนตรงหน้า จะเรียกว่าโลกจิตก็ได้ ใช่แล้วฉันเป็นคนมีสองบุคลิก
“ละเลือด....แก.....แกกล้าดีอย่างไง” ยัยผู้หญิงนมโตพูด
“แน่จริงลุกขึ้นมาสิว่ะ จะนั่งทำไมลุกขึ้นมาฆ่ากับกูนี้มันกว่าเยอะดีกว่าแย่งผู้ชายเป็นไหนๆ”
ผู้หญิงตรงหน้าถึงกับหน้าเหวอไปเลยเมื่อเห็นโมเมหัวเราะเสียงดังไหนจะเลือดที่ไหลอาบใบหน้าที่ซีดเซียวทำให้เธอดูน่ากลัว
“เอาสิ....จะช้าอยู่ทำไมเรามาสนุกกันดีกว่าเนอะ” ฉันหันไปมองเห็นเจ้เล็กกับเจ้ดาวกำลังฝ่าผู้คนเข้ามาฉัน ความสนุกกำลังจะหายไป
หมับ! โมเมพุ่งเข้าหาผู้หญิงหญิงคนนั้นทันทีเธอพยายามใช่ขวดเหล้าที่แตกครึ่งหนึ่งในมือเข้าไปแทง
หมับ! แต่ทว่า
“โมเมโว้ย......มึงกำลังจะฆ่าคน” เจ้เล็กวิ่งเข้ามากอดฉันไว้ทัน ยัง ยังไม่สะใจเลยมันต้องเจอหนักกว่านี้อีก
“จะยืนทำซากอะไรวะหนีไปเซ่ยัยโง่เอ้ย” เจ้ดาวตะโกนบอกผู้กลุ่มนั้นที่ฉันคุมคลั่ง
“โมเมตั้งสติหน่อยสิว่ะ….ไอ้รักเจ้บอกว่าตั้งสติ” เป็นอีกครั้งที่ฉันได้ยินเสียงเจ้เล็กทั้งสองยังคนกอดฉันไว้
“ปล่อยกู”
โมเมตอนนี้สภาพไม่ต่างจากคนบ้ายาหรือลงแดงก็ไม่ปานและนี้คืออีกตัวตนหนึ่งโมเมพยายามปิดบังไว้ เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดหรือเรื่องน่าตื่นเต้นมันจะออกมาโดยอัตโนมัตินั้นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเธอถึงไม่อยากสุงสิงกับใคร
ฉันยังคงดิ้นหนีออกจากอ้อมแขนเจ้เล็กก่อนจะเริ่มรู้สึกว่าภาพตรงหน้ามันเบลอๆ อย่างไงไม่รู้
พลั๊วะ! เสียงเหมือนคนฟาดอะไรสักอย่างตรงหัวฉัน หูก็ได้ยินแว่วๆ
“เห้ย ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอว่ะ”
“เอ่อ ถ้าไม่ทำแบบนี้เดี๋ยวมันก็พังข้าวของ พังร้านหมดหรอก” สะเสียงเจ๊
สองชั่วโมงต่อมา “เฮ้ยหามันให้เจอ แล้วลากตัวมันมาให้กู...กูจะฆ่ามัน”
ไม่ต้องงงว่านั้นคือเสียงใคร มันคือเสียงคู่อริของผมที่กำลังตามฆ่าผมอยู่ ทำไมนะเหรอเพราะมันคิดว่าผมไปยุ่งกับแฟนมัน ไม่สิ เมียมัน เปล่าเลยผมไม่ได้ยุ่งกับเธอเพียงเธอแต่มาหาผมเอง ผมเป็นผู้ชายนะมีผู้หญิงมาแก้ผ้าเสนอตัวให้ถึงที่คนโง่เท่านั้นล่ะที่จะไม่เอา
“โอ๊ย! ....แม่งเจ็บฉิบหาย”
ผมใช้มือกุมแผลที่โดนคู่อริแทงเข้าท้อง แม่งเอ้ย ไม่ชอบสถานการณ์เลยว่ะที่ต้องบอกว่าผมชื่อว่า ดิว ไม่อยากจะบอกว่าผมนั้นหล่อเหลา หน้าบงบอกว่าเป็นคนโคตรใจดี แต่ความจริงแล้วมันก็แค่เปลือกนอก ไม่มีใครไม่รู้จักผม พวกเขาเรียกผมว่า ไอ้แส่ แส่แย่งเมียคนอื่น ก็บอกไปแล้วเพราะผมมันเป็นคนดีแล้วก็หน้าตาหล่อด้วย ลีล่าก็ใช่ย่อยเป็นธรรมดาที่จะมีหญิงมาหลงรัก รวมทั้งลูกเมียคนอื่น ในเมื่อเธอเสนอมาผมก็แค่สนองพวกเธอกลับแค่นั้น ผมเองก็เป็นคนดังเหมือนกันนะ แต่ดังในด้านลบมากกว่า แม้แต่เด็กเห็นยังต้องหนีเข้าบ้าน จะมีอยู่ไหมผู้หญิงที่กล้าปฏิเสธผมคนนี้
“ตามหามันให้เจอ” เสียงของพวกมันดังเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นตอนนี้ผมอยู่อาพาร์เม้นท์กึ่งคอนโดในจังหวะนั้นกำลังมีคนใช้ลิฟต์ ผมก็ไม่รอช้า
ตุบ! ดิวใช้เท้าถีบไปที่หลังของชายแปลกหน้าก่อนจะรีบกดปุ่มปิดลิฟต์ทันที
“เวรเอ้ย...แตะหาหอกมึงเรอะว่ะ” แต่ทว่าเสียงนั้นกับไม่ใช่ผู้ชายแต่เป็นผู้หญิงเธอรีบหันหน้ามามองดิว
“มึงแตะกูเพื่อ”
“.......” เธอตวาดเสียงใส่หน้าผมทันทีที่เห็น ผู้หญิงแล้วไงกูไม่สน “ห้องอยู่ชั้นไหน”
“หึ...หึ”
เธอแสยะยิ้มทันทีเมื่อได้ยินที่ผมถาม ตลกมากหรือไงกูถามแค่เนี่ย
“มึง....เป็นญาติฝ่ายไหนของกูว่ะ”
โมเมยักคิ้วเร็วกว่าความคิดดิวพุ่งไปหาเธอทันที แต่เธอกับไม่มีท่าทีตกใจตรงกันข้ามกับยิ้มกวนประสาทไอ้รอยยิ้มบ้านั่นมันอะไรกันว่ะ ใบหน้าของเราใกล้กันมาก มากพอที่จะให้ผมได้รู้ว่า เธอมีแผลที่คิว ไหนจะมีผ้าพันแผลที่หัวอีกแม้แต่ข้อมือทั้งสองข้างก็ไม่เว้น ยัยบ้านี้ไปซัดกับ หมา ที่ไหนมาว่ะเนี่ย
“กำลังหนี...ฝ่าตีนว่างั้น” เธอถามผมพร้อมผลักผมออก
“เอ่อ...แล้วห้องมึงอยู่ไหนวะ” ผมนี้ตะคอกกลับเธอทันที ผู้หญิงอะไรว่ะปากหมาฉิบ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังใจเย็นยืนสูบบุหรี่เฉยเลย และไม่มีท่าทีว่าจะกลัวผมเลยสักนิด แม่ง ผู้หญิงแบบนี้ก็มีเหรอว่ะ
ติ่ง! เสียงลิฟต์เปิด
“ตามกูมา” หึ ก็บอกแล้วไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธผมได้หรอกรวมทั้งยัยบ้านี้ด้วย
“อย่าเข้าใจผิด....ที่ช่วยมึงเพราะมีคนรอใช้ลิฟต์” ห่ะ เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นเลยว่ะ
ห้อง 501 ตอนนี้ผมอยู่ในห้องยัยซอมบี้ ทำผมถึงเรียกเธออย่างนั้นก็เพราะว่าเธอมีใบหน้าที่ซีดมากจนไม่เหมือนคน ไหนจะมีแผลตั้งแต่หัวจรดเท้าอีก แต่ที่แปลกทำไมผมถึงรู้สึกได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเครื่องใช้ส่วนตัวของเธอ
ตุบ
“อ่ะ...ทำแผลซะกูไม่ชอบกลิ่นเลือด” กล่องอุปกรณ์ทำแผลถูกโยน ย้ำ ถูกโยนมาให้ผม
“เดี๋ยว...ทำแผลให้ก่อนดิ” ดิวบอกเธอ พร้อมถอนเสื้อออก
“วอน...โดนตีน”