เช้าวันรุ่งขึ้นท่านลุงคงบังคับเกวียนมาหาเหมยฮวาที่บ้านแต่เช้ามืดเพื่อจะมาดูว่าเครื่องในหมูเมื่อวานทำออกมาแล้วกินได้จริงไหม
" แม่หนูตื่นรึยัง ข้าลุงคงเองนะข้าจะมาดูเครื่องในหมูที่เจ้าทำเมื่อวาน " เสียงเรียกของท่านลุงคงทำให้ท่านย่าเฉินที่กำลังอุ่นอาหารอยู่ออกไปดูที่หน้าบ้าน
" เชิญด้านในเลยเจ้าค่ะ ข้ากำลังอุ่นอาหารพอดี " ท่านย่าเฉินเปิดประตูให้ท่านลุงคงเข้าไปดูอาหารที่เตรียมไว้
" ขอรับท่านป้า ขอโทษด้วยที่ข้ามารบกวนแต่เช้า " ท่านลุงคงเดินตามท่านย่าเฉินเข้าไปพร้อมทั้งเอ่ยขอโทษที่มารบกวน หากว่าสายกว่านี้เขาเกรงว่าชาวบ้านที่จะเข้าเมืองจะรอนาน
" ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ พวกเราตื่นได้สักพักแล้ว " ท่านย่าเฉินตอบกลับท่านลุงคงด้วยความเกรงใจเช่นกัน
" ท่านลุงเชิญเลยเจ้าค่ะข้าอุ่นแกงกำลังจะตักไปให้ท่านชิมพอดี " เหมยฮวากำลังตักแกงอยู่พอเห็นท่านลุงคงเดินมากับท่านย่าเฉินก็ยื่นถ้วยแกงให้ชิม พร้อมกับยกจานไส้ทอดออกมาให้
" หื้อออ อร่อยมากเครื่องในหมูมันทำได้อร่อยถึงเพียงนี้เชียวรึ เห็นทีต้องบอกภรรยาของข้ามาเรียนรู้กับท่านป้าเสียแล้ว " ท่านลุงคงพอได้ชิมก็ถึงกับตาโตเพราะกระเพาะหมูมันอร่อยมากไม่มีกลิ่นเหม็นสาบเหมือนตอนที่เอามาเมื่อวานเลย
" มิใช่ป้าทำหรอกอาคง แต่เป็นเหมยฮวาที่ทำหากเจ้าอยากให้ภรรยามาลองทำก็มาได้ตลอดเลยป้าจะได้มีเพื่อนคุย " ท่านย่าเฉินรีบเอ่ยชวนอย่างเป็นกันเอง
" ขอบคุณขอรับท่านป้า ไว้ตอนเที่ยงกลับมาข้าจะเอาเครื่องในหมูมาให้และจะให้ภรรยามาทำช่วยท่านป้ากับเหมยฮวาด้วยนะขอรับ ตอนนี้ข้าขอตัวก่อนเดี๋ยวชาวบ้านจะรอนาน " ท่านลุงคงรีบเอ่ยขอบคุณท่านย่าเฉินก่อนจะขอตัวกลับไป
" ได้ๆ รีบไปเถอะ "
พอส่งท่านลุงคงเสร็จทุกคนก็ล้อมลงกินข้าวแต่เช้าและพากันไปเก็บลูกเดือยที่เชิงเขาก่อนตะวันจะขึ้น
" ท่านย่าเจ้าคะหลานอยากขึ้นเขาไปหาดูสมุนไพรสักหน่อยเจ้าค่ะ " ในระหว่างที่เก็บลูกเดือยอยู่เหมยฮวาก็พูดกับท่านย่าเฉินและมู่เจินไปด้วย
" มันอันตรายนะหลานจะไปจริงๆหรืออาเหมย " ท่านย่าเฉินถามหลานสาวด้วยความเป็นห่วง
" หลานไปได้เจ้าค่ะ หลานจะระวังตัวให้ดี " เหมยฮวาตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
" อาเจินไปด้วยขอรับ " อาเจินน้อยที่อยู่ข้างๆพี่สาวกระตุกเสื้อพี่สาวเบาๆให้หันมามองตนเอง
" ไม่ได้น้องพี่ เจ้าต้องอยู่ดูแลท่านย่าและช่วยงานทางนี้หากเจ้าไม่อยู่ปกป้องท่านย่าแล้วใครจะอยู่อย่าลืมนะว่าเจ้าเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน ต่อไปเจ้าต้องเป็นผู้นำและคอยปกป้องพวกเราทุกคน " เหมยฮวารีบหยิบยกเรื่องนี้มากล่าวอ้างเพื่อให้น้องชายยอมอยู่กับท่านย่าเเต่โดยดี
" เอาแบบนั้นก็ได้ขอรับ อาเจินจะดูแลท่านย่าให้ดีท่านพี่ก็ต้องระวังตัวด้วย น่าเสียดายที่อาเจินแยกร่างไม่ได้ถ้าทำได้อาเจินคงจะตามไปปกป้องท่านพี่ด้วยแน่ๆ " อาเจินน้อยทำสีหน้าครุ่นคิดอย่างจริงจังจนท่านย่าเฉินถึงกับหลุดขำออกมา
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า หลานย่าเก่งจริงๆ ตัวเเค่นี้ก็จะปกป้องย่ากับพี่สาวแล้ว " ท่านย่าเฉินยื่นมือไปลูบหัวหลานน้อยเบาๆด้วยความเอ็นดู
เหมยฮวาช่วยทุกคนขนลูกเดือยไปตากอีก 1 รอบ ก่อนจะไปห่อข้าวห่อน้ำใส่ตะกร้าสะพายหลังเตรียมขึ้นเขา เธอไม่ลืมที่จะหยิบมีดพร้าหน้าไม้กับลูกดอกและผ้าห่อของติดตัวไปด้วย
ส่วนท่านย่าเฉินกับอาเจินช่วงเช้านี้ก็ยังคงเก็บเกี่ยวลูกเดือยไปตากแห้งต่อ รอตอนเที่ยงท่านลุงคงเอาเครื่องในกลับมาค่อยกลับบ้านไปจัดการกับอาหารพวกนั้น
ทางฝั่งเหมยฮวาที่เดินขึ้นเขามาถึงชั้นกลางก็เจอต้นแปะก๊วย และต้นพุทราจีนหลายต้นเหมยฮวาเก็บมากองรวมกันไว้ก่อนเพราะเธอยังอยากขึ้นไปถึงเขาชั้นบนต่อ
เหมยฮวาเดินขึ้นเขาไปเรื่อยแต่ไม่ลืมที่จะทำเครื่องหมายไว้ตามทางที่เดินไป ลักษณะทางเดินเริ่มเล็กลงเรื่อยๆเหมือนไม่ค่อยมีคนมาทางนี้เท่าไหร่ เสียงสัตว์ป่าน้อยใหญ่ก็เริ่มมากขึ้นกว่าตอนที่อยู่เขาชั้นกลาง
เหมยฮวามองไปตามพุ่มไม้เห็นเห็ดโคนและเห็ดป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติเริ่มหนาตาขึ้นเรื่อยๆแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่านี้
" โอ้วทำไมขึ้นเยอะขนาดนี้เนี่ยมีแต่ขาอวบๆทั้งนั้น " พูดจบเหมยฮวาก็นั่งลงเก็บเห็ดไปเรื่อยๆจนได้ครึ่งตะกร้า พอเก็บตรงนั้นเสร็จเหมยฮวาก็เดินไปนั่งพักกินข้าวใต้ต้นไม้ใกล้ๆและวางตะกร้าลงไว้ใกล้ๆตัวแต่ไม่รู้วางทับกิ่งอะไรตะกร้าของเธอเหมือนจะคว่ำอยู่ตลอดเวลา
" เฮ้ยย โสมคน " เหมยฮวายกตะกร้าออกไปวางที่อื่นเพื่อจะดูว่าทำไมตะกร้าของเธอถึงตั้งไม่ได้ แต่เธอก็ต้องตกใจจนร้องเสียงดังออกมา พอได้สติเธอก็รีบนั่งลงค่อยๆเอามีดพร้ามาขุดรอบๆต้นโสมอย่างระมัดระวังทั้งที่มือยังสั่นไม่หาย
" ขอบคุณเจ้าป่าเจ้าเขาที่ช่วยชีวิตลูกช้างนะเจ้าค่ะ " เหมยฮวากล่าวขอบคุณไปตามสายลมเพื่อให้ผู้ที่ช่วยเธอได้ยิน หรือเธอจะขอบคุณตัวเองก็มิรู้ได้
เหมยฮวาใช้เวลาขุดโสมอยู่เกือบสองชั่วยามเธอได้โสมมาทั้งหมด 4 หัว ทุกหัวล้วนแต่อ้วนท้วนสมบูรณ์ เธออดคิดไม่ได้จริงๆว่าป่าชั้นบนจะมีสมุนไพรหายากมากแค่ไหน ขนาดเธอเดินเลยป่าชั้นกลางขึ้นมาอีกนิดหน่อยก็เจอโสมคนตั้ง 4 หัวแล้ว
" รอบหน้าค่อยไปต่อแล้วกันเดี๋ยวจะค่ำซะก่อน ยังต้องไปเอาแปะก๊วยกับพุทราจีนอีก " เหมยฮวาพูดกับตัวเองในขณะที่กำลังหาใบไม้ใหญ่มาห่อโสมแล้วเอาลงไปไว้ใต้สุดของตะกร้า และเอาเห็ดโคนวางไว้บนใบไม้อีกทีนึง
" หือออ นั่นพริกหรอ " เหมยฮวาที่กำลังเดินลงเขามาอย่างระมัดระวังก็ต้องหยุดและเดินเข้าไปดูใกล้ว่าลูกสีแดงๆที่เธอเห็นไกลๆใช่พริกจริงไหม
พอเดินไปถึงเหมยฮวาก็ยิ้มกว้าง เพราะมันคือพริกจริงเธอลงมือเก็บใส่ตะกร้าอย่างรวดเร็วก่อนจะก้มลงค่อยๆถอนเอาต้นอ่อนไปปลูกที่บ้านด้วย
เหมยฮวาเดินต่ออีกเกือบ 2 เค่อกว่าจะถึงเขตป่าชั้นกลางที่เธอกองเเปะก๊วยกับพุทราจีนเอาไว้ เธอรีบเอาผ้าที่เตรียมออกมาปูและเก็บพุทราจีบกับแปะก๊วยใส่จนหมด ก่อนจะหิ้วห่อผ้าค่อยเดินลงเขาไปกว่าถึงบ้านก็ยามเซินแล้ว (15.00-17.00 ยามเซิน)
" หลานมาแล้วรึอาเหมยวางก่อนๆ " ท่านย่าเฉินที่กำลังเจียวน้ำมันหมูอยู่กับภรรยาท่านลุงคงรีบเดินมารับห่อผ้าลงช่วยเหมยฮวา
" ขอบคุณเจ้าค่ะท่านย่า คารวะท่านป้าคงเจ้าค่ะ " เหมยฮวากล่าวขอบคุณท่านย่าเฉินที่มารับห่อผ้าจากเธอ และหันไปทักทายภรรยาของท่านลุงคง
" สวัสดีจ้ะอาเหมย เจ้าเรียกป้าว่าป้าเหลียนเถอะเราคนกันเองทั้งนั้น " ท่านป้าเหลียนยิ้มให้เหมยฮวาอย่างอ่อนโยน
" เจ้าค่ะท่านป้าเหลียน "
" ท่านพี่ท่านได้อะไรมาบ้างขอรับ " อาเจินน้อยรีบเข้ามาถามพี่สาวเพราะเห็นพี่สาวได้ของมาเยอะ
" พี่ได้เห็ดป่า พุทราจีน แปะก๊วยเดี๋ยวเราเอาไปผึ่งกันนะว่างพี่จะพาเจ้าจัดการกับของพวกนี้ แต่วันนี้พี่ต้องล้างเห็ดก่อน " เหมยฮวาพาน้องชายเอาพุทราจีนไปผึ่งไว้ที่เดียวกับลูกเดือยก่อน ส่วนแปะก๊วยเธอเอาไปใส่ถังไม้เอาไว้
" ขอรับเดี๋ยวอาเจินช่วย " อาเจินน้อยรับคำพี่สาวแล้วรีบเดินตามไป ไม่นานก็กลับมาทางครัวเพื่อล้างเห็ดต่อ แต่เหมยฮวาเดินเอาห่อโสมเข้าไปไว้ในห้องก่อนค่อยตามไป
" ท่านย่ามีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่เจ้าคะ " เหมยฮวาถามท่านย่าเฉินที่กำลังตักของใส่ไหอยู่
" ไม่เป็นไรหรอกอาเหมย เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว " ท่านย่าเฉินเห็นหลานสาวเหนื่อยมาทั้งวันแล้วเลยอาสาทำเอง
" ท่านป้าเจ้าคะ วันนี้ข้าขึ้นเขาเลยชั้นกลางไปนิดหน่อยแต่ไม่ค่อยเห็นรอยเท้าคนซักเท่าไหร่ ชาวบ้านไม่ขึ้นไปหาอาหารข้างบนกันหรือเจ้าคะ " เหมยฮวาเอ่ยถามสิ่งที่ตอนเองสงสัย
" นี่หลานขึ้นไปถึงชั้นบนเลยรึอาเหมย!!! " ท่านป้าเหลียนถามอย่างตกใจเพราะเขาชั้นบนมีสัตว์ป่าอันตรายมาก
" ขึ้นไปไม่ถึงเจ้าค่ะ เพียงแค่เลยขั้นกลางไปนิดหน่อย " เหมยฮวารู้สึกแปลกใจกับท่าทีของท่านป้าเหลียนแต่ก็ตอบในสิ่งที่นางถามตามความจริง
" เขาชั้นบนมีสัตว์ป่าอันตรายเยอะหุบเขาลูกนี้ยังอุดมสมบูรณ์อยู่มากเลยมีสัตว์น้อยใหญ่มาอาศัยอยู่ เมื่อปีก่อนมีชาวบ้านขึ้นไปแต่ก็ต้องโดนฝูงหมูป่าไล่ขวิดจนตายเลยไม่มีใครกล้าขึ้นไป ส่วนมากก็จะขึ้นไปแค่เขาชั้นกลางเท่าน้้น " ท่านป้าเหลียนตอบเหมยฮวาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
" หลานอย่าขึ้นไปนะอาเหมยย่าเป็นห่วง " ท่านย่าเฉินกำชับหลานสาวด้วยความเป็นห่วง
" ท่านย่าอย่าเป็นกังวลเลยเจ้าค่ะ หลานไปล้างเห็ดทำอาหารก่อนนะเจ้าคะ " เหมยฮวาพูดจบก็เดินออกไปทันทีทั้งยังไม่ยอมรับปากผู้เป็นย่าอีก จนท่านย่าเฉินถึงกับส่ายหัวให้กับความดื้อของหลานสาว
" ท่านป้าเจ้าคะงั้นวันนี้ข้าขอตัวกลับก่อนไว้พรุ่งนี้ถ้าท่านพี่เอาเครื่องในมาแล้วข้าจะมาทำช่วยนะเจ้าคะ " ท่านป้าเหลียนเอ่ยลาท่านย่าเฉินกลับบ้านหลังจากแบ่งเครื่องในหมูทอดกันเสร็จ
" ได้ๆ เดินดีๆระวังตัวด้วย " ท่านย่าเฉินเดินออกมาส่งท่าป้าเหลียนที่หน้าบ้านก่อนที่จะกลับเข้าไปช่วยหลานสาวทำอาหารต่อ
ทางฝั่งเหมยฮวาพอล้างเห็ดโคนเสร็จก็เอามาหั่นให้เป็นเส้นยาวๆและทุบกระเทียมใส่กระทะเเล้วเอาเห็ดลงผัด ไม่นานกลิ่นหอมก็โชยไปตามสายลมจนอาเจินน้อยต้องเดินมาดู