พอเข้าเขตหมู่บ้านท่านลุงคงก็ไปจอดเกวียนที่หน้าบ้านผู้นำให้ทุกคนลงตรงนั้น ส่วนเหมยฮวากับมู่เจินท่านลุงคงบังคับเกวียนไปส่งที่ท้ายหมู่บ้านต่อ
" แม่หนูเจ้าเอาเครื่องในหมูไปทำอะไรรึ " ในขณะที่ขนของลงจากเกวียนท่านลุงคงมองเห็นตะกร้าเครื่องในเลยเอ่ยถามเหมยฮวาด้วยความสงสัย
" เอามาทำอาหารกินเจ้าค่ะ " เหมยฮวาตอบกลับอย่างรวดเร็ว
" มันกินได้ด้วยรึ ข้าไม่เคยเห็นใครเอามากินกัน " ท่านลุงคงแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เหมยฮวาบอกว่าเอาเครื่องในหมูมากิน
" กินได้เจ้าค่ะอร่อยมากด้วย พรุ่งนี้ข้าจะทำไปให้ท่านลุงชิมถ้าท่านชอบค่อยไปเอาที่เขียงหมูมาให้ข้าทำแบ่งกันเก็บไว้กินได้นะเจ้าคะ ช่วงหน้าหนาวเราจะได้มีเสบียง " เหมยฮวารีบเสนอทางเลือกให้ท่านลุงคงทันที ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่าเท่ากับเธอแค่ลงมือทำเท่านั้นไม่ได้เสียค่ารถเข้าไปเอาเครื่องในหมูสักอีแปะ
" เอาอย่างนั้นก็ได้ข้าจะรอชิมนะ " สำหรับท่านลุงคงก็ไม่มีอะไรเสียหายเช่นกัน ยังไงซะเขาก็บังคับเกวียนเข้าเมืองทุกวันอยู่แล้วเพียงแค่เดินไปเอาเครื่องในหมูที่เขียงหมูทิ้งแล้วเท่านั้น ก็ได้อาหารมาเก็บไว้กินแบบสบายๆ
พอคุยกันจบเหมยฮวาก็รีบเข้าบ้านไปจัดการกับเครื่องในหมูต่อ
" หลานพากันได้อะไรมาทำไมมันถึงเยอะขนาดนี้ละ " ท่านย่าเฉินที่เดินออกมาเห็นของที่หลานๆซื้อมาก็ถึงกับตาโต
" หลายอย่างเลยเจ้าค่ะท่านย่า มีแต่ของที่จำเป็นต้องใช้ทั้งนั้น ส่วนนี่เป็นเงินที่เหลือเจ้าค่ะ " เหมยฮวารีบยื่นเงิน 1 ตำลึง กับ 40 อีแปะ คืนให้ท่านย่าเฉิน
" ยังมีเงินเหลือด้วยรึ " ท่านย่าเฉินรู้สึกงงงวยเพราะเดิมทีในอดีตเคยจ่ายเงินให้คนงานในเรือนออกไปซื้อของตั้งหลายตำลึงกว่าจะได้ของปริมาณเท่าของที่กองอยู่ตรงหน้านี้
" มีเงินเหลือเจ้าค่ะ " เหมยฮวารีบย้ำเพราะเธอไม่ได้โกหกก็เงินของท่านย่าเฉินเหลือจริงๆนี่นา
เหมยฮวารีบจัดข้าวสารและเครื่องปรุงเข้าที่ ส่วนท่านย่าเฉินก็เอาเมล็ดผักกับอุปกรณ์ไปเก็บ เหมยฮวาหยิบมีดพร้าและรีบเดินไปทางเชิงเขาที่เธอเห็นกอตะไคร้
" ท่านพี่จะไปไหนขอรับ อาเจินไปด้วย " อาเจินน้อยพอเห็นพี่สาวหยิบมีดพร้าก็รีบหยิบตะกร้าใบเล็กของตัวเองมาสะพายแล้ววิ่งตามพี่สาวไป
" พี่จะไปเก็บหน่อไม้กับตะไคร้ที่เชิงเขา ถ้าจะไปด้วยก็ตามมาเร็ว " เหมยฮวาได้ยินเสียงน้องชายก็หันกลับไปตอบก่อนจะบอกให้น้องชายเดินตามมา
" ต้นที่ท่านพี่มองดูเมื่อวานหรือขอรับ " อาเจินน้อยจำได้ว่าเมื่อวานพี่สาวของเขามองดูกอไม้และพูดพึมพำอยู่คนเดียว
" ใช่แล้วกอไม้ไผ่นั่นแหละ หน่อของมันเอามาทำอาหารกินได้วันนี้พี่จะทำของอร่อยให้อาเจินกินนะ " เหมยฮวาเดินไปคุยกันไปกับน้องชายจนถึงกอไผ่
" ว้าวท่านพี่มีหลายหน่อเลยขอรับ ทางนี้ก็มีด้วย " อาเจินน้อยพอได้หาหน่อไม้ช่วยพี่สาวก็ตื่นเต้นน่าดู
" อาเจินเลือกไว้เลยว่าอยากกินหน่อไหน เดี๋ยวสับทางนี้เสร็จพี่จะไปสับให้อาเจินต่อ " เหมยฮวาอมยิ้มให้กับอาการตื่นเต้นของน้องชาย
พอสับหน่อไม้มาได้ 4 หน่อ เหมยฮวาก็เดินไปทางกอตะไคร้ที่มองเห็นเมื่อวานแต่ต้องชะงักเพราะกระเทียมป่าที่อยู่ตรงหน้าทำให้เธอดีใจจนต้องรีบก้มเก็บ
" ท่านพี่เก็บอะไรขอรับ " อาเจินน้อยมองเห็นพี่สาวกำลังเก็บต้นอะไรสักอย่างที่มีหัวอยู่ใต้ดินใส่ตะกร้าของเขาจำนวนมาก
" นี่คือกระเทียมใช้ทำอาหารได้มาเก็บช่วยพี่เร็ว " เหมยฮวาตอบน้องชายทั้งที่มือก็ยังค่อยๆดึงหัวกระเทียมไปด้วย
" ขอรับ " สองคนพี่น้องช่วยช่วยกันเก็บกระเทียมป่าจนเกือบเต็มตะกร้าน้อยของอาเจิน เสร็จแล้วก็พากันเดินไปเก็บตะไคร้ต่อ
" เป็นตะไคร้จริงๆด้วย " เหมยฮวาพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะค่อยๆใช้มีดพร้างัดเอาตะไคร้มา 1 กอเพื่อจะเอาไปปลูกขยายที่บ้านด้วย
พอได้ของที่ต้องการสองพี่น้องก็พากันรีบกลับบ้านเพราะยังต้องไปจัดการกับเครื่องในหมูต่อ
" นั่นหลานไปเอาอะไรมารึ อาเหมย อาเจิน " ท่านย่าเฉินที่รอหลานๆอยู่พอได้ยินเสียงคนเดินหลังบ้านก็รีบออกมาดู
" กระเทียมกับตะไคร้เป็นพืชผักสมุนไพรเจ้าค่ะท่านย่า หลานจะเอามาทำอาหาร " เหมยฮวาวางทุกอย่างลงที่พื้น ก่อนจะตัดเอาใบตะไคร้ไปล้างเครื่องในหมูจนสะอาด
" มีอะไรให้ย่าช่วยบ้าง? " ท่านย่าเฉินถามหลานสาวที่ตั้งหน้าตั้งตาล้างเครื่องในหมูอยู่
" หลานฝากท่านย่าก่อไฟทั้งสองเตาเลยเจ้าค่ะ เตานึงหลานจะต้มหน่อไม้ อีกเตานึงหลานจะเจียวน้ำมันหมูเจ้าค่ะ " เหมอนฮวาบอกท่านย่าเฉินเเละรีบจัดการกับมันหมูตรงหน้าต่อ
" แล้วอาเจินละท่านพี่ อาเจินช่วยอะไรได้บ้าง? " อาเจินน้อยถามขึ้นเพราะเขาก็อยากช่วยงานพี่สาวเหมือนกัน
" งั้นน้องไปเอาไหเปล่าเล็กๆตรงนั้นมาล้างไว้ใส่น้ำมันหมูนะ " เหมยฮวากลัวน้องชายไม่ไหวเลยให้ทำแค่ใบเล็กๆก็พอ
พอหั่นมันหมูเสร็จเหมยฮวาก็เอาไปลงกระทะที่มีท่านย่าคอยดูให้ ส่วนเธอก็มาหั่นหน่อไม้ไปลงหม้อต้มเอาความขมออกก่อน พอจัดการในครัวเสร็จเหมยฮวาก็รีบเอากระเทียมป่าไปผึ่งไว้กับลูกเดือย ส่วนตะไคร้เธอก็เอาไปขุดหลุมปลูกได้ 10 กอ ก่อนจะกลับเข้ามาดูข้างในครัวต่อ
พอทอดมันหมูเหลืองได้ที่เหยมฮวาก็ยกน้ำมันออกมาพักไว้ ให้เย็นก่อนค่อยตักใส่ไหที่อาเจินล้างคว่ำไว้ให้ เธอเอาไส้หมูมาหมักและเอาตะไคร้กับกระเทียมที่เหลืออยู่มาทุบๆแล้วคลุกหมักไปด้วยกันกับไส้แล้วตั้งกระทะทอดต่อ
เหมฮวาเอากระเพาะหมูมาต้มก่อน 1 น้ำ ก่อนจะเอามาต้มกับหน่อไม้และปรุงรสชาติให้อร่อยตามที่ต้องการ เธอหั่นตับและหัวใจมาไว้ผัดใส่หน่อไม้อีกด้วย ส่วนเครื่องในอย่างอื่นเหมยฮวาหั่นเป็นชิ้นแล้วทอดทั้งหมด ค่อยเก็บใส่ไหใบใหญ่แล้วเติมน้ำมันลงไปให้เต็มไหจะช่วยถนอมอาหารให้เก็บไว้กินนานๆได้
พออาหารเสร็จก็เป็นเวลาใกล้ค่ำ เหมยฮวาเรียกน้องชายกับท่านย่าเฉินเข้ามากินข้าวที่เธอเตรียมไว้ พอท่านย่าเฉินกับมู่เจินได้กินอาหารที่ทำจากเครื่องในหมูก็ต้องแปลกใจเพราะกลิ่นเหม็นคาวนั้นหายไปหมดแล้วซ้ำยังถูกปรุงแต่งให้รสชาติอร่อยมากอีกด้วย
" อื้ออ อร่อยมากน้ำแกงกระเพาะหมูนี่อร่อยจริงๆ " ท่านย่าเฉินที่ชื่นชอบน้ำแกงกระเพาะหมูเป็นพิเศษถึงกับออกปากชม
" อาเจินชอบไส้ทอดขอรับท่านพี่ อร่อยมากพรุ่งนี้ทำอีกนะขอรับ " อาเจินน้อยพูดไปกินไปอย่างมีความสุข นานแล้วที่เขาไม่ได้มีความสุขแบบนี้
" อาเจินกับท่านย่ากินเยอะๆนะเจ้าคะ พรุ่งนี้หลานจะเอาอาหารพวกนี้ไปให้ท่านลุงคงชิม ถ้าท่านลุงคงชอบท่านจะเป็นคนเข้าไปเอาเครื่องในหมูมาให้เราทำแล้วแบ่งกันเจ้าค่ะ " เหมยฮวารีบบอกเล่าให้ท่านย่าเฉินฟัง
" ราคามันเท่าไหร่รึไส้หมูพวกนี้ " ท่านย่าเฉินถามด้วยความสงสัย
" ได้มาเปล่าๆเลยเจ้าค่ะ เพราะเป็นของที่เขียงหมูเค้าทิ้งแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างนะเจ้าคะรายการอาหารอร่อยจากเครื่องในหมูที่ถูกทิ้ง " เหมยฮวาตอบออกไปตามความจริง
" น่าเสียดายนะของอร่อยทั้งนั้น ผู้คนน่าจะรู้วิธีทำกินจะได้กินของอร่อยแบบเรา " ท่านย่าเฉินพูดจบก็รีบกินข้าวต่อ
พอกินข้าวเสร็จทุกคนก็ช่วยกับเก็บล้างถ้วยจานก่อนจะอาบน้ำปิดบ้านก่อนค่ำมืด