หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านมาหลายวันแล้วค่ะ ฉันไม่เจอเฮียเบสอีกเลย เหลือเงินทอนตั้งสองร้อยกว่าบาทแน่ะว่าจะเอามาคืนสักหน่อย จริง ๆ ฉันแหย่เขาเล่นไปงั้นแหละแต่อีเฮียมันดันใจปล้ำไงยื่นเงินให้เป็นปึก ๆ เหอะ! คนอย่างอีผิงเงินซื้อไม่ได้หรอกค่ะแต่ถ้าของกินก็ว่าไปอย่าง ฮ่า ๆ
(ผัวะ)
“เหี้ยไรของมึงวะตบมาได้” ฉันว่าพลางเอามือลูบศีรษะตัวเองไปด้วย ก็ไอ้เดลน่ะสิตบมาได้ไม่ทันตั้งตัวเลย
“มัวแต่เหม่อคิดถึงผู้ชายอยู่อะดิ กูเรียกนานแล้วไหม?”
“ว่า?”
“...” มันทำหน้าเอือมระอาใส่ แต่โทษทีนะเพื่อนรักกูไม่ได้ยินจริง ๆ
“คืนนี้พวกกูจะไปดูมึงรูดเสาค่ะ” อีเทียร่าเอ่ย
“วันนี้กูหยุดอะ เพลีย ๆ เหมือนจะไม่สบายเลย” ฉันบอกออกไปตามความจริงและลาผู้จัดการไปแล้วด้วย
มิลิน : งั้นไปวันอื่นก็ได้ เดี๋ยวไม่ครบแก๊งขาดคู่หูไม่สนุกเลย
โมเดล : คู่หูคู่เหี้ยมากกว่านะ มึงสองคนเนี่ย
น้ำเชื่อม : เดล! เอาความจริงมาพูดทำไม ฮ่า ๆ
“ไม่ได้มีใครหลอกด่ากูใช่ไหม?”
“ฮ่า ๆ ใช่แล้ว”
“...” ได้ทีเอาใหญ่เลยนะเพื่อนเวร
คุยกับพวกมันต่ออีกนิดหน่อยก็แยกกันกลับค่ะ หัวถึงหมอนปุ๊ปหลับปั้ปเลยค่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว
“เจ้...ไม่สบายได้ไงวะ” เสียงบ่นพึมพำใกล้หู ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกนักรบแหละค่ะ
สัมผัสต่อมาคือผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดขึ้นลงตามร่างกายฉัน เปลือกตามันหนักอึ้งมากเลยไม่ได้ตื่นมาคุยกับมัน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ตื่นขึ้นมาอีกทีก็คือกลางดึก หิวค่ะแล้วก็เจ็บคอมากด้วย ปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลย
“ไปหาหมอไหมเจ้” นักรบเอ่ยถามพลางยื่นมือมาอังหน้าผากฉัน
“ไม่เป็นไร กินยาเดี๋ยวก็หาย”
“ดื้อฉิบหาย! รอแป๊บนะ” มันบ่นฉันก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัวกลับมาพร้อมกับข้าวต้มปลาชามโต หอมน่ากินเชียวค่ะ
“พี่จะไม่ท้องเสียใช่ไหม?”
“ไม่แน่นอนหายห่วงครับ เพราะผมไม่ได้ทำเองพี่หน้าหล่อเขาเอามาให้อะ เขาบอกว่ารู้จักเจ้แถมยังมีข้าวผัดปูมาฝากผมด้วยนะ”
“หน้าหล่อ?”
“ใช่ครับ” หน้าหล่อไหนวะ ฉันก็ไม่ได้ดีดน้ำมันพลายใส่ใครที่ไหนนี่ “เขาใส่ใจพี่มากเลยนะแถมรู้อีกด้วยว่าพี่ไม่ชอบข้าวต้มหมู”
“...”
น้องยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ฉันถึงกับขมวดคิ้วเลยค่ะพี่หน้าหล่อ? จะว่าเพื่อนฉันก็ไม่ใช่อีกเพราะนักรบรู้จักทุกคนเป็นอย่างดี แต่ช่างเถอะยังไงก็ขอบคุณแล้วกันเนอะ
“อ๋อ! มีอีกอย่างหนึ่งเขาให้เจ้น่ะ” พลางยื่นกล่องบางอย่างมาให้ฉัน เสือกแหละ อยากรู้ว่าข้างในมีอะไรอีผิงรีบเปิดให้ไวเลยจ้า
ทแด่น... นาฬิกาแบรนด์ดังตัวใหม่ล่าสุดสีดำสวยเว่อร์ พร้อมเงินสดหนึ่งแสนบาท ฟังไม่ผิดค่ะ หนึ่งแสนบาทถ้วน!! มีโพสอิทด้วยนะคะ
'ไว้ใช้ระหว่างหยุดงาน อย่าลืมกินยานะ'
อื้อหือ!! สายเปย์ที่แท้ทรู แต่ใครมันจะไปกล้าใช้ล่ะ คนให้เขาเป็นใครฉันยังไม่รู้เลย
“พี่ไปทำเสน่ห์ใส่ใครไว้หรือเปล่าเนี่ยทำไมเขาให้พี่เยอะจัง” เห็นไหมฉันไม่ได้คิดไปเอง ขนาดนักรบยังสงสัยเลย
“ไม่นะ ... พวกเสี่ยอะไรนั่นพี่ก็ไม่ได้ยุ่ง อย่างมากคนพวกนั้นก็ให้ทิปตอนร้องเพลงแค่นั้นเองพี่ไม่เคยแลกเบอร์ แลกไลน์หรือคุยเป็นการส่วนตัวเลยนะ” ฉันพูดออกไปตามความจริง และต้องรู้ให้ได้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร
เลิกสนใจก่อนจะกินข้าว กินยา เสร็จแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย ดันนอนไม่หลับซะงั้น คิดอะไรไปเพลิน ๆ กระทั่งมือถือมีสายเรียกเข้า
ครืด...ครืด..
“ใครแม่งมันโทรมาป่านนี้วะ” เป็นเบอร์แปลกด้วยค่ะ
“สวัสดีค่ะ”
(ดึกป่านนี้แล้วทำไมไม่นอนอีก) เสียงผู้ชายค่ะ คุ้นหูมากเลย
“เอ่อ...นั่นใครพูดคะ”
(มึงคิดว่าใครล่ะ)
“อ้าวเฮ้ยถ้ารู้กูจะถามเหรอ”
(พูดกับกูให้มันดี ๆ หน่อย เดี๋ยวกูไล่ออกซะดีมั้ง) ชัดเลย...
“ฮะ เฮีย!!” ฉิบหายแล้วอีผิง
(เออ! กูเอง)
“ขอโทษค่ะ หนูจะไปรู้เหรอว่าเป็นใคร”
(ปากดีแบบนี้คงหายไข้แล้วสิ)
“รู้ได้ไงว่าหนูไม่สบาย ช่างเถอะ! ว่าแต่มีธุระอะไรหรือเปล่าคะหรือโทรมาตามหนูไปรูดเสา”
(มารูดค...กูนี่มา)
“ไอ้เฮีย!! ทะลึ่ง!!”
(ฮ่า ๆ แค่นี้นะ) หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นก่อนจะวางสายไป
ถ้าจะประสาทไอ้บ้านี่แถมเสียงหัวเราะโคตรสะใจ แค่โทรมาปั่นประสาทฉันว่างั้นเถอะ ว่าแต่เขามีเบอร์ฉันได้ยังไง?