วันนี้ตั้งใจเข้ามาดูความเรียบร้อยสักหน่อย แต่แปลกที่วันนี้บนเวทีไม่มียัยแรดน้อยเจอแต่เพื่อน ๆ ของเธอเท่านั้นเอง
“ไปไหนของมันวะ” บ่นอุบอิบกับตัวเองก่อนจะเดินดูรอบ ๆ
“เฮียขาคืนนี้ให้ส้มบริการไหมคะรับรองไม่ทำให้ผิดหวัง” พนักงานคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เธอว่าพร้อมฝ่ามือลูบไล้แผงอกผมอย่างยั่วยวน
หมับ!
“อย่ามายุ่งกับกู” ตอบกลับก่อนจะผลักเธอให้ออกห่าง ถ้าไม่อยากต่อให้แก้ผ้าอยุ่ตรงหน้าผมก็ไม่เอา หงุดหงิดฉิบหายไม่รู้เป็นอะไร
กลับเข้ามาในห้องทำงาน พลางใช้ความคิดไปด้วย...
“มึงสองคนไปสืบมาว่าวันนี้ผิงไปไหน” มันสองคนมองหน้ากันอัตโนมัติเมื่อได้ยินคำสั่ง
“ไอ้ซี มึงได้ยินเหมือนกูไหม?”
“บ้า!! มึงคิดมาก”
“สงสัยอยากโดนไล่ออกสินะ” พลางปรายตามองพวกมันนิ่ง ๆ
“โอ๊ะ! กูไปก่อนนะ น้องกีวี่รออยู่”
“กูไปด้วยป่านนี้น้องมินนี่รอนานแย่”
“...” ในโลกใบนี้คงไม่มีใครกวนประสาทเท่าลูกน้องผมอีกแล้ว
หลังจากมันสองคนออกไปทุกอย่างจึงตกอยู่ในความเงียบ ทำไมต้องสนใจเธอด้วย? หยิบแฟ้มประวัติของเธอมาดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน เธอเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก ๆเลยแหละ แบกรับภาระคนเดียว แถมยังต้องทำงานส่งเสียน้องชายเรียนอีก ส่วนน้องของเธอก็เรียนดีมีความสามารถไม่เกเร สองพี่น้องนี่คงจะนิสัยคล้าย ๆ กันสินะ หน้าตายังละม้ายคล้ายกันอย่างกะฝาแฝดอีกต่างหาก
ชีวิตของผมรายล้อมไปด้วยอันตรายรอบตัวและคงไม่ใช่เรื่องดีหากจะดึงเธอให้มายืนอยู่ข้าง ๆ ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปน่ะดีแล้ว แค่นี้ชีวิตเธอก็แย่มากพอ ผมไม่อยากเป็นอีกคนนึงที่ทำร้ายเธอทางอ้อมด้วยการพาเธอมาสู่โลกแสนจะโหดร้ายของผม อยู่เป็นไอ้เฮียโรคจิตในชีวิตเธอแค่นี้ก็พอแล้วมั้ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณผิงเธอลาป่วยครับนาย”
“สองวันก่อนเธอรับงานพิเศษช่วยผู้จัดการร้านเคลียร์บัญชีจนถึงเช้าแล้วไปเรียนต่อเลย เลิกเรียนก็มาทำงานต่อควงไปถึงอีกวันหนึ่ง อาทิตย์หน้าเธอต้องจ่ายค่าเทอมของน้องชายครับจึงต้องหางานเพื่อเพิ่มรายได้”
“อืม ขอบใจมาก มีไรก็ไปทำเถอะ”
“ครับ”
หลังจากที่ได้ฟังคำตอบแล้ว ลึก ๆ ข้างในกลับรู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เพิ่งได้เจอได้คุยกันแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ยัยนี่สามารถทำให้ผมสนใจเธอได้โดยที่เธอไม่ต้องพยายามอะไรเลย ก็แค่สูง ผิวขาว ตากลม ผมยาวหน้าอกหน้าใจใหญ่เกินตัวแค่นั้นเอง
ไวเท่าความคิดคว้ากุญแจรถแล้วออกมาคนเดียวทางหลังผับ ส่วนไอ้ซีวิคกับบีเอ็มปล่อยมันไปหาความสุขทางใจของมันเถอะ
ผมแวะร้านประจำที่มากับเพื่อนบ่อย ๆ ซื้อข้าวต้มปลากับข้าวผัดปูไปฝากเธอกับน้องชายแล้วก็แอบเสียมารยาทรู้มาว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไร เออ...แล้วตัวเองกลายเป็นคนใส่ใจคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้วไฟในบ้านเธอปิดสนิทสงสัยเข้านอนกันหมดแล้ว แล้วผมจะทำไงดีล่ะบอกตามตรงว่าไม่กล้า ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แม่ง! ยัยแรดนี่เล่นผมซะแล้วสิ
นั่งอยู่ในรถได้ไม่นานก็มีมอเตอร์ไซม์คันหนึ่งขับมาจอดตรงหน้าบ้านก่อนจะไขกุญแจเปิดประตูรั้ว ต้องเป็นน้องชายเธอแน่นอน เห็นแบบนั้นผมจึงตัดสินใจลงจากรถทันที มาถึงขนาดนี้แล้วไม่กล้าก็ต้องกล้าแล้วครับ
...: พี่มาหาใครครับ
“นายเป็นน้องชายขนมผิงใช่ไหม?”
...: ครับ ผมชื่อนักรบ
“พี่สาวนายไม่สบายน่ะ เลยเอาข้าวต้มกับยามาให้ มีของนายด้วยนะ”
“ขอบคุณครับ ว่าแต่พี่รู้จักพี่สาวผมด้วยเหรอ”
“อืม พี่เป็นเจ้าของผับที่ผิงทำงานอยู่ ไม่ต้องบอกนะว่าพี่เป็นคนเอามาให้”
“นอกจากเพื่อน ๆ ก็ไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายกับพวกเราหรอกครับ เจ้ไม่สงสัยหรอกซัดแหลกอย่างเดียวแหละ ฮ่า ๆ” หมอนี่เหมือนพี่สาวตัวเองไม่มีผิดเลย ไม่กลัวคนแปลกหน้า แถมยังอารมณ์ดีอีกด้วย
“ก็ดี นี่ฝากให้ผิงหน่อย ส่วนอันนี้พี่ให้นายไว้จ่ายค่าเล่าเรียน” พลางยื่นเงินให้จำนวนหนึ่ง
“ของเจ้ผมรับไว้ให้ได้ แต่เงินผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับผมเกรงใจ”
“รับไว้เถอะ เอาไว้วันข้างหน้าค่อยมาช่วยงานตอบแทนพี่แล้วกัน” ต้องออกกลอุบายครับ ดูท่าทางแล้วไม่ยอมรับไว้ง่าย ๆ แน่นอน ผมไม่ได้หวังอะไรก็แค่อยากช่วยเท่านั้นเอง
“พี่พูดจริงนะว่ามีงานให้ผมทำ ผมไม่ชอบได้อะไรมาฟรี ๆ มันดูไม่สมศักดิ์ศรีของตัวเองสักเท่าไหร่”
“จริงสิ นายนี่เหมือนพี่สาวไม่มีผิดเลยนะ”
“...”
“เข้าบ้านเถอะดึกแล้ว”
“ครับ ขอบคุณครับพี่หน้าหล่อ” ยกมือไหว้ก่อนจะรับของแล้วเดินเข้าไปในบ้าน
ของที่ให้เธอก็คือนาฬิกาหรูตัวใหม่ล่าสุดกับเงินสดจำนวนหนึ่ง เรื่องของเรื่องคือวันที่บังเอิญเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าผมเห็นเธอยืนมองมันนานมาก เดาไม่ผิดคงถูกใจเรือนนี้ไม่ใช่น้อย ผมแค่อยากให้อยากช่วยเหลือไม่ได้ต้องการสิ่งใดตอบแทนอะไรเลย แต่อีกใจมันก็คิดต่าง ...
ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วไม่รู้อะไรดลใจให้กดโทรไปหาเธอ ถามว่าเอาเบอร์มาจากไหนอะเหรอ? ก็ในใบประวัติของเธอไงครับ กวนประสาทพอหอมปากหอมคอก็วางสาย ยัยนี่ทำให้ผมหัวเราะออกมาจนได้ต้องยอมรับแล้วล่ะว่าตัวเธอมีผลต่อความรู้สึกของผม หรือจะเป็นเธอที่ทำให้หัวใจด้านชาของผมกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง? แต่ก็อดคิดไม่ได้ถ้าเธอต้องเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับผม กลัวว่าวันหนึ่งเธอจะเป็นอันตราย กลัวตัวเองจะปกป้องเธอไม่ได้เท่าที่ควร แล้วถ้าเกิดผมทำเธอเสียใจล่ะ? มันจะเป็นยังไง ความรักมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากโดนเฉพาะกับความรู้สึก
วันที่แม่จากไปหัวใจผมแตกสลายไม่มีชิ้นดีและผมจะไม่มีวันให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกเป็นอันขาด ปล่อยไปก่อนแล้วกันระหว่างนี้ต้องหาวิธีจัดการพวกมันให้เลิกยุ่งวุ่นวายกับผมซะก่อน ไม่อย่างนั้นชีวิตนี้คงหาความสุขไม่เจอแน่ คอยดูเธอห่าง ๆ แล้วกันครับ ถึงเวลานั้นเมื่อไหร่เธอไม่รอดหรอก ยัยตัวแสบ
เช้าวันใหม่
วันนี้ต้องเข้าบ่อนเพราะไม่ได้มาหลายวันแล้วคงวุ่นวายหน้าดู ผมมอบหมายหน้าที่ต่าง ๆ ให้ ไอ้เบียร์น้องชายต่างแม่ของผมคอยดูแลเวลาที่ผมไม่อยู่หรือต้องไปดูงานที่อื่น หมอนี่มันเก่งพอตัวแต่ไม่ค่อยเข้าหาผมสักเท่าไหร่ ไม่รู้มันกลัวอะไรทั้งที่พี่ชายมันโคตรจะหล่อ
“มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”
“ไม่มีครับ มีก็แต่สาว ๆ ต่อคิวรอมึงไงไอ้พี่ชาย”
“ไม่กวนตีนกูสักวันจะตายไหม?”
“ไม่รู้สิ” มันว่าพลางไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจมากนักก่อนจะเดินออกไป ไอ้เบียร์มันเป็นน้องผมประมาณห้าปี ปากมันแบบนี้แหละแต่การกระทำก็อีกแบบหนึ่ง
นั่งเช็ครายการสินค้าได้ไม่นานก็มีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยือนตรงหน้า
“ประตูมีทำไมไม่รู้จักเคาะ?”
“ทำเป็นคนอื่นคนไกลไปเลยนะคะ เจอคนที่ถูกใจแล้วสิ”
บุคคลตรงหน้าคือลิลนี ผมใช้บริการเธอบ่อยปกติผมไม่ชอบนอนกับใครซ้ำ แต่เรื่องบนเตียงเธอถูกใจผมมากที่สุด ถามว่ารักเหรอก็ไม่!
“ไม่ได้เรียก แล้วมาทำไม”
“แหม... สลัดนีทิ้งง่ายจังเลยนะคะเบส ตั้งสามปีอะไม่มีเยื่อใยบ้างเลยเหรอ” ใช่ครับ ผมคั่วกับเธอมานานพอสมควร
“ถ้ารู้สึกคงรักเธอไปนานแล้วแต่อะไรที่ใช้เงินซื้อกูไม่เรียกมันว่าความรัก”
“เจ็บดีนะคะว่าไหม?” เธอแสยะยิ้มออกมาทำเหมือนไม่แคร์อะไรแต่ในแววตาคู่นั้นกลับเศร้ามาก ผมรู้ว่าเธอคิดยังไงกับผม แต่ผมไม่คิดนี่ครับ
“กลับไปได้แล้ว ถ้าไม่เรียกก็ไม่ต้องมาอีก” พูดอย่างใจเย็นก่อนจะยื่นเงินให้จำนวนหนึ่ง
“คิดถึงนะคะ” เก็บเงินใส่กระเป๋าก่อนจะก้มมาหอมแก้มผมแล้วเดินออกไป
ถามว่ารู้สึกอะไรไหม? ไม่ครับ คนเดียวที่มีผลกับความรู้สึกของผมตอนนี้คงเป็นใครอีกคนมากกว่า...