Secret love Episode-๑๐

1521 Words
“นายครับแย่แล้ว” ไอ้ซีวิคเอ่ยก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าผม “ทำไมเกิดอะไรขึ้น ผิงเป็นอะไรอีก?” “ไม่ใช่คุณผิง แต่พวกเราต้องบินกลับไปหานายใหญ่เดี๋ยวนี้ นายใหญ่ถูกลอบยิงครับ อาการสาหัสพอสมควร” “มึงว่ายังไงนะ?” “เราต้องรีบไป” “ใครบังอาจกล้าทำร้ายพ่อกู” “ยังไม่แน่ใจ รีบไปกันดีกว่า ไอ้บีเอ็มรออยู่ทางด้านโน้นแล้วครับ” ผมต้องรีบเดินทางให้เร็วที่สุดก่อนไปไม่ลืมที่จะบอกเพื่อน ๆ พวกมันก็โอเค มีอะไรให้โทรมาบอกพร้อมช่วยเสมอ ส่วนขนมผิงคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผมเชื่อว่าเธอเก่งพอที่จะสามารถเอาตัวรอดได้ อีกอย่างระหว่างผมกับเธอนอกจากเพื่อนผม ก็ไม่มีใครรู้ ถึงจะไม่เรียกว่าความลับซะทีเดียวแต่ก็เชื่อว่ามันปลอดภัยสำหรับเธอในตอนนี้ เวลาต่อมา... “พ่อเป็นยังไงบ้าง” ผมเอ่ยถามไอ้เบียร์ทันทีที่มาถึง หมอนี่มันเร็วกว่าผมซะอีก “ไม่ดีเลยว่ะ กระสุนเฉียดขั้วหัวใจไปนิดเดียวเอง” “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับคุณน้า” หันไปถามน้าน้ำหวานแม่เลี้ยงของผมหรือแม่ของไอ้เบียร์นั่นเอง “น้าตามคุณภพไปคุยงานกับลูกค้า พอตกลงกันเสร็จเรียบร้อยก็ออกมาจากตรงนั้นแต่ระหว่างทางมีรถสีดำขับประกบคู่ขึ้นมา แล้วชักปืนออกมายิงเลย ทำให้เสียหลักรถพุ่งชนต้นไม้เข้าอย่างแรง โชคยังดีการ์ดที่คอยติดตามอยู่ห่าง ๆ มาช่วยไว้ได้ทัน” “...” ผมไม่ชอบเหตุการณ์แบบนี้เท่าไหร่ มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดกลัว... “พ่อเก่งอยู่แล้วไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอก” ไอ้เบียร์พูดขึ้นพลางตบบ่าผมเป็นเชิงให้กำลังใจ “อืม มึงไปพักเหอะ เดี๋ยวกูดูพ่อเอง” “มึงพูดเหมือนบ้านเราไม่ปลอดภัยอย่างนั้นแหละ มึงอะตัวดีเลยกูได้ข่าวว่าทำงานเสร็จดึกดื่นแค่ไหนก็ยังแอบไปเฝ้าสาวที่ผับต่อไม่ใช่หรือไง” ไอ้เบียร์เอ่ยพลางหรี่ตามองผมอย่างจับผิด “มึงส่งคนตามกู?” “เปล๊า! แต่น้องขนมผิงก็น่ารักดีมึงว่าไหม?” “สัส! แค่เด็กในร้านเหอะ” “อย่าคิดมาก ทีมึงส่งคนคอยตามกูกูยังไม่ว่าอะไรเลยไอ้พี่ชาย” “มึงเป็นน้องกูไหมล่ะ” “แล้วมึงเป็นพี่กูไหมล่ะ?” “พอ ๆ ไม่ต้องเถียงกัน ตาเบียร์แม่บอกกี่ครั้งแล้วให้พูดกับพี่เขาดี ๆ เบสก็เหมือนกันห่วงแต่คนอื่นอย่าลืมดูแลตัวเองบ้างล่ะ น้ารู้ว่าเบสทำไปเพื่ออะไรแต่อย่าลืมสิตัวเราเองก็มีหัวใจเหมือนกัน” “...” “ไปพักผ่อนกันเถอะทั้งคู่เลยเดี๋ยวแม่ดูแลพ่อเอง” ...: ครับ กลับเข้ามาในห้อง ห้องที่เคยมีแม่คอยปลอบเวลาที่ผมรู้สึกแย่คอยนอนกอดในวันที่ผมกลัว กลิ่นอายแห่งความคิดถึงตลบอบอวลเต็มไปหมด ภาพที่แม่หมดลมหายใจยังคอยหลอกหลอนผมเสมอ ความเจ็บปวดในวันนั้นมันทำให้ผมกลัว กลัวการสูญเสีย... กลัวที่จะเสียสิ่งที่ตัวเองรักไป มันทำให้ผมสร้างกำแพงสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนลืมคิดไปว่าถ้าวันหนึ่งพังลงมามันจะทับผมตายไหม? แกรก! ไอ้เบียร์ครับยิ้มร่ามาแต่ไกลเลย “ไม่มีมารยาทว่างั้น?” “มีขอรับ แต่อยากกวนประสาทพี่มากกว่า” “มีอะไรก็ว่ามาดีกว่ากูขี้เกียจต่อปากต่อคำกับมึง” “ถ้าบอกแล้วพี่ต้องใจเย็น ๆ นะ” “อะไร?” “น้องผิงเกิดอุบัติเหตุ” “มึงว่าไงนะ?” ทวนคำถามอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ส่งคนติดตามดูแลอย่างดีจะเกิดเรื่องแบบนั้นได้ยังไงกัน “พี่ออกมาได้ไม่นานเธอก็เตรียมตัวจะกลับบ้าน โดยมีน้องชายมารอรับ ระหว่างทางมีรถปาดหน้าอย่างกระชั้นชิดทำให้เสียหลักพุ่งข้ามเลนประสานงานกับรถอีกคัน” “แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า” “น้องผิงไม่เป็นอะไรมากแต่น้องชายเธอสาหัสพอสมควร พี่ไม่ต้องเป็นห่วง ถึงมือหมอที่เก่งที่สุดแล้ว เธอกับน้องจะต้องปลอดภัย” “...” ผมพลาดอะไรไปงั้นเหรอ? ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด คิดได้อย่างนั้นจึงต่อสายโทรหาใครอีกคนทันที (ครับ) “ทำไม?” (ผมขอโทษครับนาย) “กูไม่อยากได้ยินคำนี้” (ทุกอย่างมันไม่ใช่อุบัติเหตุ) “อะไรทำให้มึงคิดแบบนั้น” (ผมเห็นคุณลิลนี...) “เดี๋ยวกูจัดการเอง แล้วผิงล่ะเป็นยังไงบ้าง” (ร้องไห้จนหลับไปแล้วครับ ส่วนนักรบยังไม่รู้สึกตัว) “ย้ายไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุด แพทย์เฉพาะทางที่เก่งที่สุด” (เรียบร้อยแล้วครับ นายไม่ต้องเป็นห่วง) “ขอบใจ ฝากด้วยนะ” (ครับ) ถึงกับกุมขมับเลยครับทำไมถึงวุ่นวายแบบนี้ ผิงต้องเจ็บตัวเพราะผม ทั้ง ๆ ที่เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมไม่ควรอยู่ใกล้เธอสินะ ... “หัวใจของพี่จะดูแลเองหรือให้คนอื่นดูแลล่ะ” ไอ้เบียร์พูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ “กูไม่ได้เป็นอะไรกับผิงนี่” “ก็เป็นซะสิ! แต่ก่อนอื่นพี่ต้องเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยกว่านี้ ขนมผิงเป็นผู้หญิงที่เด็ดขาดมาก” “กูไม่ได้เป็นอะไรกับลิลนี ก็แค่คู่ขาเท่านั้นเอง” “แล้วผู้หญิงมันคิดแบบเดียวกันหรือเปล่าล่ะ ไม่งั้นผิงจะเจ็บตัวอย่างนี้เหรอ? พี่ควรจะชัดเจนได้แล้ว” “ยิ่งกูพาตัวเองเข้าไปวุ่นวายกับเธอมากเท่าไหร่ชีวิตเธอจะเข้าใกล้อันตรายมากเท่านั้น” “ใจพี่รู้ดีที่สุด” มันฟาดฝ่ามือหนัก ๆ ลงบนอกข้างซ้ายของผมแล้วเดินจากไป ใจหนึ่งก็อยากหายไปจากชีวิตเธอแต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ผมควรทำยังไงดี? คิดอะไรไม่ออกนอกจากเป็นห่วงเธอ ผมจึงรีบต่อสายหายัยแรดทันที แค่เพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ (ฮึก! เฮีย) “ร้องไห้ทำไม?” (เกิดอุบัติเหตุน่ะค่ะ น้องหนูยังไม่รู้สึกตัวเลย) “น้องมึงเก่งอยู่แล้วไม่ต้องร้อง กูไม่ชอบเสียงร้องไห้ของมึงนะผิง” (หนูไม่มีใครแล้วนะ ชีวิตนี้เหลือแค่นักรบคนเดียวแล้ว ถ้านักรบเป็นอะไรไปหนูจะทำยังไง) “ใครบอกต่อไปชีวิตมึงจะมีกูด้วยต่างหากล่ะ นาฬิกานั่นใส่แล้วห้ามถอดนะ ส่วนเงินก็เก็บไว้ใช้ กูอยากให้จริง ๆ” (เป็นเฮียเองเหรอคะที่...) “กูมีคำตอบให้มึงทุกเรื่องนะผิงแต่มันยังไม่ถึงเวลา กูมีเหตุผลของกู มึงช่วยอยู่เงียบ ๆ ในที่ของตัวเองก่อนได้ไหม” (เฮียเป็นใครกันแน่) “รู้แค่ที่กูอยากให้รู้ก็พอ เรื่องของเราก็ควรมีแค่เราที่รู้มึงเข้าใจใช่ไหม ส่วนนักรบไม่ต้องห่วงกูจะให้หมอที่เก่งที่สุดมารักษาน้องมึงเอง เลิกร้องไห้ได้แล้ว กูอยู่ไกลกอดมึงไม่ได้หรอกนะ” (ฮึก! ฮือ...) “ไหน ยัยแรดที่ชอบเถียงกูฉอด ๆ ไปไหนซะแล้ว” (อึก! ลาป่วยค่ะ) “เข้มแข็งมากกว่านี้นะผิงกูเป็นห่วง” พูดจบผมก็วางสายทันที ถ้าจะถามหาจุดเริ่มต้นบอกเลยว่าไม่มี รู้แค่ว่าตอนนี้ผมอยากปกป้องเธอก็พอครับ ทิ้งตัวลงที่นอนอย่างคนหมดแรง มันมืดแปดด้านไปหมด มองไปทางไหนก็เจอแต่อันตรายรอบด้าน ผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง ติ๊ง! “เฮียก็เหมือนกัน ดูแลตัวเองด้วยนะคะ” ยัยนี่กำลังทลายกำแพงในใจผมทีละนิด ให้ตายเหอะ! ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ขออนุญาตครับนาย” “มีอะไรก็ว่ามา” “สายรายงานมาว่าคุณลิลนีเธอมาดื่มที่นั่นก่อนที่พวกเราจะออกมากันครับ จากกล้องวงจรปิดเห็นเธอพูดคุยอะไรบางอย่างกับคุณผิงบริเวณหน้าห้องน้ำ แล้วเธอขับรถตามคุณผิงออกมาด้วยครับแต่ตรงจุดเกิดเหตุถนนค่อนข้างมืด เราเลยไม่มั่นใจว่าเป็นคุณลิลนีหรือเปล่า” “ปล่อยมันไปก่อน เดียวกูจัดการเอง” “นายไม่รู้สึกอะไรกับคุณลิลนีบ้างเหรอครับ” (ผัวะ) “ไอ้สัสถามโง่ ๆ ถ้ารักคุณลิลนีนายคงเปิดตัวไปนานแล้ว” ขอบใจมึงมากไอ้บีเอ็มที่พูดแทนกูทุกอย่าง “พวกมึงก็รู้นิสัยกูนี่” “แต่บางทีนายก็ควรแสดงออกมาบ้างนะครับอย่างน้อยก็ทำให้มันชัดเจนมากกว่านี้” คำพูดของไอ้ซีวิคทำให้ผมคิดอะไรได้หลายอย่าง บางเรื่องผมไม่ควรฝืนใจตัวเองจริง ๆ นั่นแหละ “อืม พวกมึงออกไปได้แล้ว” ก็จริงอย่างที่พวกมันพูดนะ ผมควรแสดงออกให้เธอเห็นบ้างไม่ใช่เป็นแค่ไอ้เฮียโรคจิตในสายตาเธอ ถึงจะเป็นความลับแต่ระหว่างเราก็ควรชัดเจน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD