Secret love Episode-๑๑

1455 Words
สามอาทิตย์เต็ม ๆ ที่ผมอยู่กับพ่ออาการโดยรวมของพ่อก็ดีขึ้นมากแล้วคงถึงเวลาที่ผมต้องกลับไปทำหน้าที่ตัวเองแล้วแหละ ส่วนผิงตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่ได้โทรหาเธออีกเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่รู้ความเคลื่อนไหวของเธอนะครับ “มึงสองคนไปดูความเรียบร้อยที่บ่อนก่อนกูมีเรื่องที่ต้องจัดการเดี๋ยวตามไป” ออกคำสั่งกับมันสองคน “นายระวังตัวด้วยนะครับ” “ลูกน้องรายงานมาว่ามีแต่คนเก่า ๆ เอาลูกเอาหลานมารอขัดดอกเต็มไปหมด” “แล้วแต่พวกมึงเห็นสมควรแค่ไหนก็ทำได้เลย ใครตกลงไม่ได้ก็จัดการมันซะ ระวังตัวกันด้วยล่ะ” สั่งงานเสร็จก็มุ่งหน้าไปจัดการปัญหาที่คาราคาซังอยู่ให้จบสิ้นซะไม่อย่างนั้นชีวิตนี้คงหาความสุขไม่เจอแน่นอน ก๊อก ก๊อก ก๊อก แค่เพียงไม่นานบานประตูก็ถูกเปิดออก “คิดถึงเหรอคะถึงมาหาได้” น้ำเสียงหวานเอ่ยก่อนจะเขย่งปลายเท้าหอมแก้มผมเหมือนเช่นทุกครั้ง ลิลนีเป็นคนสวย หน้าตาดี หุ่นเธอถือว่าโอเคมากสำหรับผม แต่ก็นั่นแหละผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอก็แค่คู่นอนเท่านั้น “เปล่า คิดถึงรสเซ็กส์ของเธอต่างหากล่ะ” “งั้นเหรอคะ มาสิ...นีพร้อมเสมอ เบสจะกระแทกแรงแค่ไหนก็ได้นีชอบค่ะ” เธอว่าพลางส่งสายตาแสนจะยั่วยวนมาให้ หมับ! “อ๊ะ! รุนแรงจังเลยนะคะ” ผมกระชากเธอเข้ามาในห้องนอน เธอรู้งานครับ ถอดเสื้อผ้าตัวเองจนหมด ก่อนจะจัดการน้องชายผมที่ตอนนี้พร้อมอัดกระแทกมาก ๆ แต่ไม่ใช่กับลิลนี... คนที่ต้องการตอนนี้ไม่ใช่ร่างเล็กที่นอนแผ่หลาอยู่ตรงหน้าแต่กลับเป็นใครอีกคนหนึ่งมากกว่า “ซี้ด...” ปากเล็กรูดขึ้นลงอย่างรู้งานเพียงแค่ไม่นานน้ำสีขาวขุ่นก็โพยพุ่งออกมาจนหมด “เบสคะ นีทำให้คุณทุกอย่างแล้วทำไมเบสไม่ทำให้นีบ้างล่ะคะ” “มึงก็รู้นิสัยกูนี่ กูไม่ชอบบริการให้ใครถ้าไม่ได้รัก” “นั่นสิเนอะ ช่างเถอะค่ะเรามาต่อกันดีกว่า” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติพลางคลี่ยิ้มออกมาบาง ๆ แต่ในดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำสีใสก่อนจะขึ้นค่อมผมอย่างเคย “อ๊ะ...” ผมพลิกตัวเธอให้มาอยู่ด้านล่างแล้วใช้กุญแจมือล็อคเธอไว้กับหัวเตียง “คุณจะทำอะไรคะเบส” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยถามเมื่อเห็นผมทำกับเธอแบบนั้น “ก็เห็นเธอชอบความตื่นเต้นดีนี่” “แล้วเมื่อไหร่คุณจะชอบนีบ้างล่ะคะ คุณก็รู้ว่า...” “ไม่รักก็คือไม่รัก!!” “...” “กูว่ากูชัดเจนแต่แรกนะ” ข้อนี้ผมจำกัดตั้งแต่ที่เราตกลงกันครั้งแรกแล้วว่าจะไม่จริงจังไม่สานสัมพันธ์อะไรทั้งสิ้น เธอเองก็รับได้และรับปากว่าจะไม่เรียกร้องอะไรจากผมอีก “ทำไมล่ะคะ ทีกับอีเด็กนั่นทำไมคุณถึงสนใจมันทำไมคุณถึงชอบมัน นีสู้มันไม่ได้ตรงไหน ฮึก! ทำไมเบสลำเอียงแบบนี้” คำพูดเชิงตัดพ้อถูกเอ่ยออกมาพร้อมน้ำตาที่ไหลรินและมันก็ทำให้รู้ว่าเธอรู้เรื่องราวของผิงพอสมควรถึงได้พูดออกมาแบบนั้น “กูไม่ได้ลำเอียง กูแค่ไม่ได้รักมึง” “ฮึก ฮือ... มันหน้าจะตาย ๆ ไปเลยด้วยซ้ำ!! คนที่นอนอยู่ตรงนั้นควรเป็นมัน ไม่ใช่ไอ้เด็กเวรนั่น” (เพียะ!) “มึงกล้าดียังไงถึงได้แตะต้องเธอ!!” ยอมรับว่าโกรธไม่คิดว่าลิลนีจะสารภาพทุกอย่างออกมาแบบนี้ “คุณมันไม่มีหัวใจ รู้สึกกับใครเป็นด้วยงั้นเหรอ แต่ทำไมล่ะคะทำไมถึงไม่เป็นนีที่ได้ความรักจากคุณอะ เวลาตั้งสามปี!! ความผูกพันธ์ของเราไม่มีบ้างเลยเหรอเบส” เธอยังคงพร่ำพรรณนาเรียกร้องในสิ่งที่ผมไม่สามารถให้ได้อยู่แบบนั้น “กูไม่จำเป็นต้องผูกพันกับผู้หญิงขายบริการนี่ ในเมื่อเลือกที่จะทำแบบนี้ มึงก็เตรียมตัวรับผลที่จะตามมาให้ได้แล้วกัน” สิ้นสุดคำพูดของผม ชายฉกรรจ์สองคนก็เดินเข้ามาในห้อง “คะ คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ นีเป็นเมียคุณนะ” “กูไม่เรียกว่าเมียหรอกนะในเมื่อมึงทำร้ายคนของกูก่อนนี่ก็คือสิ่งตอบแทนที่กูจะมอบให้ อยากทำไรก็ทำเชิญตามสบาย เสร็จแล้วส่งมันไปซ่อง อย่าให้มาวุ่นวายกับชีวิตกูอีก” ประโยคหลังผมหันไปสั่งพวกมันสองคน “ครับนาย” อย่าว่าผมใจร้ายกับเธอเลยนะถือว่าใจดีมากแล้วที่ปล่อยให้เธอยังมีโอกาสได้หายใจบนโลกใบนี้ เพราะใครก็ตามที่กล้าทำร้ายหรือแตะต้องคนของผม ผมไม่ปล่อยเอาไว้หรอก ทุกคนย่อมมีความเห็นแก่ตัวเหมือนกันทั้งนั้นแหละ ผมทำได้ทุกอย่างขอแค่เธอคนนั้นปลอดภัยก็พอ นั่งดูบทเพลงรักอันเร่าร้อนตรงหน้าอย่างนึกสมเพชไม่สงสารหรอกนะ ใครทำเธอเจ็บ มันต้องเจ็บยิ่งกว่า นี่ก็ใกล้ค่ำแล้วผมจึงพาตัวเองมายันโรงพยาบาลที่นักรบรักษาตัวอยู่ ทำเรื่องจ่ายค่ารักษาให้เธอทั้งหมดเรียบร้อย ก่อนจะค่อย ๆ แง้มประตูห้องเข้าไป เงียบมากครับราวกับไม่มีใครอยู่แต่สายตาดันไปสะดุดเข้ากับคนตัวเล็กที่นอนหลับไหลอยู่บนโซฟา เธอดูผอมและโทรมมากขอบตาที่บวมเปล่งบ่งบอกให้รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง ผมค่อย ๆ ช้อนร่างกายเธอเดินมาที่รถ แล้วขับออกมาทันที คิดดูเถอะขนาดนี้เธอยังไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดหลับสนิทชนิดที่ว่าไฟไหม้คงตายเพราะไม่รู้ตัว มาถึงคอนโดกว่าจะพาเข้าห้องได้ทุลักทุเลมากบอกเลย ผมโทรให้ไอ้เบียร์หาพยาบาลพิเศษไปเฝ้านักรบเรียบร้อยอีกไม่นานคงฟื้นอาการน้องหนักพอสมควร “อื้อ” “...” “ฮะ เฮียเบสที่นี่ที่ไหนคะ ... นักรบ” พอรู้สึกตัวธอเรียกหาน้องทันที “ใจเย็น ๆ ผิงมองหน้ากู” ผมว่าก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้แก้มนวลของเธอ เรามองสบตากันนิ่ง ๆ ดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา “หนูจะไปหาน้อง...” น้ำตาอาบสองแก้มเชียวครับ “นักรบปลอดภัยแล้วมึงนี่แหละที่กำลังจะตายซะก่อน ทำไมโทรมแบบนี้ กูบอกไว้ว่าไง?” “ฮึก...” นอกจากจะไม่ตอบแล้วยังร้องไห้สะอึกสะอื้นใส่อีกด้วย “ฟังกูนะผิง อีกไม่นานนักรบจะต้องฟื้น มึงต้องเข้มแข็งถ้ามึงเป็นอะไรไปแล้วน้องจะอยู่กับใครล่ะ” “หนูแค่เป็นห่วง” “รู้ แต่ห่วงตัวเองด้วย นอนเนอะกูจะอยู่เป็นเพื่อนเอง” ผมนอนลงแล้วดึงเธอมาไว้ในอ้อมกอด พลางลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน บอกตามตรงว่าผมไม่เคยทำให้ใครและไม่คิดจะทำมันด้วย แต่กับขนมผิงคงเป็นข้อยกเว้น “ถ้ามึงยังไม่เลิกร้อง กูจับเย...แน่ ๆ ” แหย่ไปงั้นแหละแต่มันได้ผลนะครับ “มันสะอื้นเองนี่คะ” พรึบ! นึกอยากแกล้งจึงพลิกเธอให้ไปอยู่ด้านบนสองมือโอบกอดเธอไว้ “ฮะ เฮีย อื้อ!” กดศีรษะเล็กน้อยให้ก้มลงมารับจูบผมแค่เพียงไม่นานก็ผละออก “จะนอนได้ยัง? ถ้าไม่นอนกูเอาจริงแล้วนะ” ครั้งนี้ผมพูดจริง หน้าอกแสนจะนุ่มนิ่มของเธอมันทับตัวผมอยู่ ใครจะไปทนวะ เย็นเข้าไว้ไอ้เบส “โรคจิต!” ก่นด่าเบา ๆ แต่ก็ยอมนอนนะ ซบหน้าลงบนอกผมสองมือเล็กกำชายเสื้อไว้แน่นเชียว แค่เพียงไม่นานลมหายใจของเธอก็สม่ำเสมอคงหลับแล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกัน คนเลือดเย็นอย่างผม ทำไมต้องมาอ่อนโยนกับเธอด้วย ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าต่อไปจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง หวังว่าคนในอ้อมกอดผมตอนนี้เธอจะเก่งพอที่จะเรียนรู้ไปกับผมแล้วกันนะ คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยผล็อยหลับตามเธอไปในที่สุด นี่คงเป็นคืนแรกในรอบยี่สิบปี ที่ผมมีคนให้นอนกอดและคงเป็นคืนแรกที่ฝันร้ายนั่นไม่มาหลอกหลอนผมในเวลากลางดึกแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD