ตอนที่ 8/2

1771 Words
“อ้าว น้องเมย์” เป็นชายในชุดสูทสีฟ้าคนแรกที่เอ่ยทักเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม รัญนรามองใบหน้าหล่อเหลาที่มีความตี๋นิดๆ แล้วเม้มกลีบปากแน่น เนื่องจากไม่ได้เจอเขานานเป็นเวลาถึงสี่ปีกว่าแล้ว และเมื่อเห็นรอยยิ้มละมุนจากใบหน้าหล่อเหลา พาให้หัวใจสั่นไหวราวกับกิ่งไม้เอนไหวยามถูกลมกระโชกแรง “พี่ติณ…” เสียงหวานเอ่ยแผ่ว เรียกให้คนที่นั่งอยู่ในห้องหันมาทางเธอ แล้วใบหน้าเคร่งเครียดที่จับจ้องมองมาของชายวัยกลางคนในชุดสูทสีกรมท่า ทำให้รัญนราต้องรีบหลุบตาต่ำก่อนจะหวนนึกถึงเหตุการณ์ในเย็นวันหนึ่งเมื่อห้าปีก่อน ในขณะที่เธอเพิ่งเลิกเรียน กำลังจะนั่งรถไปทำงานทว่าว่าจู่ๆ รถมินิแวนคันหนึ่งมาจอดดักหน้าเธอ ซึ่งคนที่ลงมาจากในรถไม่ใช่ใครแต่เป็นคุณยงยุทธบิดาของติณณภพ ผู้ชายที่เธอกำลังคบหาอยู่นั่นเอง ‘หวังว่าเธอจะไม่ไปยุ่งกับเจ้าติณอีก เงินก้อนนี้จะทำให้เธอกับน้องเริ่มต้นชีวิตได้สบายเลยนะ’ เช็คหนึ่งล้านถูกโยนลงบนหน้าเธอ เพียงเพราะเธอไม่มีหัวนอนปลายเท้า เขาดูถูกเธอขนาดนั้นเลยเหรอ? ‘ไม่จำเป็นหรอกค่ะท่าน หนูสัญญาว่าจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพี่ติณอีก’ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อีกฝ่ายมาบอกให้เธอเลิกยุ่งกับบุตรชายคนเดียวของเขา ‘อย่าหยิ่งนักเลย ตอนนี้เธอไม่มีอะไรเหลือแล้ว’ สิ้นประโยคดูแคลนของอีกฝ่าย มือเล็กกำเข้าหากันแน่น ก่อนจะเงยหน้ามองชายวัยกลางคนที่รังเกียจเธอราวกับไส้เดือน กิ้งกือ ‘เก็บเงินของท่านไว้เถอะค่ะ แล้วบอกคนของท่านด้วยว่าอย่ามายุ่งกับหนูอีก’ กล่าวจบก็เดินจากไป ในเมื่อเขารังเกียจและไม่ยอมรับ เธอก็ไม่หน้าหนาให้พวกเขาดูถูกเหยียบย่ำหรอก ถึงเธอจะจนแต่เธอก็มีศักดิ์ศรีนะ ลาก่อนค่ะพี่ติณ… “น้องเมย์ ยังทำงานที่นี่อยู่เหรอครับ?” กระทั่งเสียงนุ่มทุ้มที่ดังเรียกเธออีกครั้ง ปลุกให้เธอตื่นจากภวังค์ห้วงความคิด ตอนนี้เธอรู้สึกราวกับกำลังจมอยู่ในน้ำหายใจไม่ออกกับสถานการณ์ตรงหน้า เธอไม่น่าเข้ามาแทนรุ่นพี่สาวคนนั้นเลย เวลานี้มือไม้สั่นไปหมด เท้าที่กำลังจะก้าวย่างไปทางโต๊ะเครื่องดื่มกลับก้าวไม่ออก ราวกับถูกตรึงด้วยโซ่ตรวนเส้นใหญ่ มารู้สึกตัวก็ตอนที่ร่างสูงใหญ่ของคนที่คุ้นเคยมายืนอยู่ใกล้แค่คืบเท่านั้น รอยยิ้มและท่าทางเป็นกันเองที่คุ้นเคย ทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหวน้อยๆ ใช่แล้วเมื่อก่อนเธอกับติณณภพคบหาดูใจกัน เขาเป็นรุ่นพี่ที่เธอแอบรักและที่สำคัญเขาเป็นที่พึ่งให้กับเธอในยามเดือดร้อนเสมอมา สมัยก่อนตอนที่เธอมาทำงานที่คลับแห่งนี้ รุ่นพี่มักจะมานั่งดื่มที่นี่พร้อมกับให้ทิปเธอหนักๆ กระทั่งเขาห่างหายเพราะไปเรียนต่อที่เมืองนอก ทั้งสองคนเลยไม่ได้ติดต่อกันอีก แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้มาเจอเขาที่นี่อีกครั้ง “ค่ะพี่ติณ…” รัญนราพยักหน้าระบายยิ้ม ก่อนจะเลี่ยงเดินไปที่โต๊ะเครื่องดื่ม โดยไม่ทันเห็นดวงตาคมกริบของผู้ชายอีกคนที่นั่งนิ่งขรึมอยู่สักพักแล้วจับจ้องเธอทุกฝีก้าว ดลเทพยอมรับว่าแปลกใจไม่น้อยที่เห็นพนักงานในบริษัทมาทำงานพิเศษที่นี่ด้วย ตอนนี้เธออยู่ในชุดรัดรูปสมส่วน และแสงอ่อนๆ จากในห้องที่ส่องกระทบลงมา ขับให้เห็นผิวขาวผ่องยองใย เมื่อเห็นเธออยู่ในชุดแบบนี้แล้วดูสวยมากจริงๆ ไม่เหลือเค้าพนักงานในบริษัทเลย เขาสังเกตเธอจนเห็นมือเล็กที่จับแก้วเครื่องดื่มมีความสั่นไหวนิดๆ ชายหนุ่มจึงถอนสายตามาทางผู้ชายร่างสูงอีกคนที่เอาแต่มองสาวเสิร์ฟตาไม่กะพริบ ถ้าเดาไม่ผิดรัญนรากับติณณภพคงจะรู้จักมักคุ้นกันมาก่อน เพราะดูจากการเรียกชื่อและทักทายเธอค่อนข้างฟังดูสนิทสนมกัน ขณะนี้ติณณภพเอาแต่ยิ้มปริ่มยามมองเธอ ขัดกับรัญนราที่กลับทำหน้านิ่งเฉย ดลเทพมองคนทั้งสองสลับไปมาก่อนจะกระแอมเบาๆ “อืม เรามาคุยงานกันต่อเถอะครับ คุณยงยุทธ คุณติณณภพ” แม้จะบอกคู่สนทนาให้เข้าเรื่อง แต่ดวงตาคมลึกอดไม่ได้ที่จะปรายมองร่างบอบบางที่ยืนจัดการเครื่องดื่มตรงหน้าอีกครั้ง ด้านติณณภพจำต้องเดินกลับมานั่งที่ตัวเองเพื่อคุยเรื่องงานต่อ ทว่าดวงตายังคงตรึงอยู่ที่รัญนรา จนถูกผู้เป็นบิดาสะกิดแขนด้วยสีหน้าตึงราวกับไม่ชอบใจที่เห็นเขาให้ความสนใจรัญนรา ชายหนุ่มจึงหันกลับมาสนใจจุดประสงค์ของการมาที่นี่ “คุณดลเทพครับ เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ทำธุรกิจร่วมกับคุณ ยังไงผมคงต้องขอการชี้แนะจากคุณด้วยนะครับ” ติณณภพหันมาทางคู่สนทนาด้วยอาการกระตือรือร้นอีกครั้ง “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมคงไม่บังอาจ ผมเองก็ยังพึ่งคุณพ่อของคุณเลย” ดลเทพว่าแล้วหันไปทางผู้ชายที่อายุมากกว่าทุกคนในห้องนี้ “อย่าถ่อมตัวไปเลยครับคุณดลเทพ ใครๆ ก็รู้ว่าคุณเก่งกาจและมีความสามารถขนาดไหน ยังไงผมขอฝากลูกชายของผมด้วยครับ” ยงยุทธบอกด้วยสีหน้ารื่น ‘ดลเทพ เดชาธร’ ชื่อนี้ติดหนึ่งในสิบของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอันดับต้นๆ ของประเทศ ถ้าลูกชายของเขาได้คบหาทำการค้าด้วย จะทำให้ติณณภพได้ความรู้และทัศนที่กว้างไกลเหมือนชายผู้นี้ไม่มากก็น้อย “คุณลูกค้าจะรับเครื่องดื่มอะไรดีคะ?” รัญนราเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าบทสนทนาของทั้งสี่คนหยุดลงแล้ว “ของพี่เหมือนเดิม” ติณณภพตอบก่อนจะหันไปทางบิดา “แล้วคุณพ่อจะรับอะไรดีครับ?” “สปิริต” ยงยุทธบอกแล้วใช้สายตาจ้องเขม็งลูกชายคนเดียว พอเห็นแววตาหยาดเยิ้มที่ติณณภพมองรัญนราแล้วทำเอาเขารู้สึกหงุดหงิดใจนัก ไม่คิดว่าผ่านไปจะห้าปีแล้วบุตรชายของเขายังรู้สึกดีกับเด็กสาวที่ตอนนี้กำลังหันไปรับคำจากโยธินมือขวาของดลเทพอยู่อีก “ของบอสเป็น ดราย มาร์ตินี่ ส่วนผมเป็นเนโกรนีครับ” รัญนราพยักหน้ารับรู้ก่อนลงมือจัดการเครื่องดื่มในทันที ปล่อยให้แขกคุยกันไป เพราะหน้าที่ของเธอคือการบริการไม่ใช่จุ้นจ้านเรื่องของพวกเขา แต่ยังมิวายแอบปรายตามองท่านประธานหนุ่มเสียไม่ได้ เขาในชุดสูทเนี้ยบตอนนี้นั่งไขว่ห้างขณะที่แขนพาดอยู่บนพนักโซฟาพูดคุยกับคุณยงยุทธด้วยท่าทางฉลาดและวางตัว แลดูน่าหลงใหลยิ่งนัก รัญนราเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัว พอดีกับที่ติณณภพเห็นเข้า ทำเอาหัวใจแกร่งสั่นไหวหน่อยๆ ก่อนจะละสายตาจากดวงหน้าหวานแล้วหันมาเผชิญหน้ากับใบหน้าคมคร้ามที่มีเสน่ห์ยิ่งยวดต่อเพศตรงข้ามจนเขาอดอิจฉาไม่ได้ แม้ดลเทพอายุเลยเลขสามไปแล้ว แต่ยังคงดูหล่อและดึงดูดเพศตรงข้ามไม่น้อย ยิ่งเห็นสายตาชื่นชมของรัญนราที่มองท่านประธานของสแปร์ยนต์ กรุ๊ปแล้ว เกิดหวงเธอขึ้นมาจับจิต ถึงเวลาจะล่วงผ่านไปเกือบห้าปีมาแล้ว ทว่าในหัวใจของเขายังคงมีสาวน้อยคนนี้อยู่เต็มหัวใจไม่เคยเปลี่ยน “ฝีมือการชงเหล้าของน้องเมย์ยังหวานถูกคอเหมือนเดิมเลยนะครับ” ติณณภพเอ่ยชมโดยไม่สนใจสายตาของบิดาที่มองค้อนอย่างไม่ปิดบัง ทั้งวาจาและการกระทำของติณณภพที่แสดงออกมาเหมือนจะสื่อให้ทุกคนในห้องรู้ว่าเขาและรัญนราเคยสนิทกันมาก่อน “นี่ค่ะท่าน” รัญนราคลี่ยิ้มเพียงนิดก่อนจะวางแก้วเครื่องดื่มที่ตัวเองผสมลงตัวแล้วเสิร์ฟชายวัยกลางคนบ้าง แม้สายตาของท่านยงยุทธที่มองเธอจะฉายชัดด้วยความไม่พอใจ ชวนรู้สึกอึดอัด แต่เธอก็ยังยิ้มให้เขา จากนั้นนำเครื่องดื่มอีกสองแก้ววางลงหน้าของแขกอีกสองคน โยธินยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร ต่างจากอีกคนที่ไม่เอ่ยอะไรออกมา มีเพียงดวงตาลุ่มลึกเสมือนก้นเหวที่จับจ้องมา ยากที่รัญนราจะหยั่งถึงว่าเขาคิดอะไรอยู่ เขามองเธอเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น จากนั้นก็ย้ายสายตาไปทางท่านยงยุทธ “ยังไงผมก็ต้องขอโทษคุณอีกครั้งสำหรับความผิดพลาดเรื่องสินค้า ก็เหมือนกับที่คุยกันไว้ผมจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับคุณทั้งหมด ต้องขอบคุณมากที่คุณยังให้โอกาสและไว้ใจเราอีกครั้ง ขอบคุณจริงๆ ครับ” ดลเทพกล่าวขอบคุณพร้อมกับยกมือไหว้ลูกค้าผู้อาวุโสกว่า “ไม่เป็นไรหรอกคุณดลเทพ เราคนกันเองอย่ามากพิธีรีตองเลย ยังไงผมกับพ่อของคุณคุ้นเคยกันอยู่แล้ว” ยงยุทธกล่าวพลางยิ้มให้อีกดลเทพอย่างไม่คิดเอาความ บริษัทกิจยานยนต์ ใช้บริการสแปร์ยนต์ตั้งแต่รุ่นบิดาแล้ว ความผิดพลาดที่ผ่านมาแม้เขาจะได้รับความเสียหายบ้างแต่เมื่อฝ่ายดลเทพจะรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ เขาก็ไม่อยากถือความ เพราะอย่างไรเสียเขายังต้องใช้บริการบริษัทนี้อยู่อีกหลายชั่วลูกชั่วหลาน ที่สำคัญทั้งสองยังมีโพรเจคที่ทำร่วมกันอยู่ถึงสองโครงการใหญ่ๆ และเงินลงทุนล้วนมาจากฝั่งของสแปร์ยนต์ทั้งนั้น ปัญหาเรื่องสินค้ามีตำหนิเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนจึงเป็นเพียงเรื่องเล็กสำหรับเขาไปแล้ว *********** การมาเจออดีตรุ่นพี่คนสนิทพร้อมท่านประธานเเบบนี้ ทำเอาน้องเมย์ของเราอึ้งไปเหมือนกันค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD