บทที่ 7

1141 Words
กันต์กวีรู้ว่าคลื่นความสุขสมกำลังเคลื่อนตัวมาใกล้แล้ว จึงสอดฝ่ามือทั้งสองเขาไปฟอนเฟ้นบีบขย้ำทั่วสะโพกผายมน พลางยกสะโพกให้แนบชิดกับเขามากยิ่งขึ้น ขณะโรมรันจวนจ้วงในจังหวะสุดท้ายจนเม็ดพันธุ์อุ่นวาบของเขาแตกพร่าทั่วกลีบดอกไม้หวานฉ่ำส่งให้เขาและขวัญจิราลอยละล่องไปพบกับสรวงสวรรค์พร้อมๆ กัน กันต์กวีทรุดฮวบซาซบอยู่กับลำคอระหง ฟังเสียงหอบหายใจกระเส่าของกันและกันหลังจากศึกรักเพิ่งผ่านไปหยกๆ พอผ่อนลมหายใจให้เป็นปกติได้แล้ว ชายหนุ่มก็ผงกหน้าขึ้นกดจุมพิตทั่วเรียวปากอิ่มแดงช่ำ ก่อนจะเปล่งวาจาบอกขวัญจิรา ในถ้อยคำที่ไม่เคยพูดกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน “น้ำผึ้ง คุณทำให้ผมมีความสุขมากที่สุด” กริ๊งๆๆๆ เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นในยามดึกสงัด ปลุกให้กันต์กวีต้องตื่นจากการนอนกอดร่างบางระหงหอมละมุนบนเตียงหนานุ่ม ซึ่งเขาไม่เคยให้หญิงใดย่างกรายเข้ามานอนบนเตียงนี้มาก่อน มือใหญ่เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มาจากโต๊ะเล็กข้างเตียง พอเห็นเบอร์โทรที่โชว์บนหน้าจอโทรศัพท์ก็พ่นลมออกจากปากด้วยความหงุดหงิดใจ “ไอ้เมท” กันต์กวีพึมพำออกมาเบาๆ ไม่อยากรับโทรศัพท์ของเพื่อนเลยให้ตายเถอะ! แต่เมื่อไม่อาจเลี่ยงได้จึงจำต้องกดรับในที่สุด “ว่ายังไงไอ้เมท โทรมาทำไมดึกดื่น ไม่รู้หรือยังไงวะว่ากำลังรบกวนคนกำลังนอนอยู่” เมื่อไม่อยากทำในบางสิ่งบางอย่าง กันต์กวีจึงแกล้งทำเป็นลืม และตะคอกต่อว่าเพื่อนรักไปเช่นนั้น แต่โกเมทและเพื่อนๆ อีกห้าคนไม่ลืม และอยากเสียเงินล้านเต็มแก่แล้ว “เฮ้ย! ไอ้กวี อย่ามาทำเสียงดุใส่กูนะโว๊ย ตอนนี้พวกกูรอมึงอยู่หน้าห้องมาเปิดประตูให้พวกกูเดี๋ยวนี้” คำพูดของโกเมททำเอากันต์กวีต้องดีดตัวจากที่นอนทันที ส่งผลให้คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงต้องขยับกายพลิกตัวนอนหงายปรือตามองแล้วเอ่ยถามด้วยความงุนงง “เช้าแล้วหรือคะคุณกวี” “ยัง นอนต่อได้แล้ว” กันต์กวีตอบเสียงห้วน มั่นใจว่าเพื่อนๆ ของเขาต้องได้ยินเสียงของขวัญจิราอย่างแน่นนอน ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นจากเตียงนอน แล้วเดินออกมาคุยโทรศัพท์ตรงระเบียงหน้าห้องนอน “ไอ้เมท พวกมึงพากันกลับไปได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยเอาเงินมาให้กู” “ไม่ได้ พวกกูต้องการเห็นว่ายายแว่นถูกมึงเผด็จศึกหรือยัง และอยากเห็นกับตาว่าตอนนี้ยายแว่นนอนอยู่บนเตียงของมึงหรือเปล่า” โกเมทเอ่ยตอบอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุกที่สุด “เมื่อสักครู่มึงก็ได้ยินเสียงน้ำผึ้ง...เอ่อเสียงยายแว่นแล้วนี่หว่า ยังอยากมาดูอีกทำไมวะ” กันต์กวีค้านออกมาด้วยความโมโหเพื่อนรัก ที่ต้องการเห็นขวัญจิรานอนเปลือยกายบนเตียงเขาให้จนได้ “ยายแว่นชื่อน้ำผึ้งหรือวะ อุแหม! ชื่อหวานชะมัด ว่าแต่นายกระเดือกยายแว่นลงหรือเปล่าวะ อย่าบอกนะว่าหวานแต่ชื่อ แต่ตัวจริงกระเดือกไม่ลง” “ใครว่า น้ำผึ้งหวานไปทั้งตัวต่างหากล่ะ” กันต์กวีงึมงำตอบอยู่ในลำคอเบาๆ “ไอ้กวี! มึงพูดว่าอะไรนะ กูได้ยินไม่ชัด” โกเมทร้องประท้วง ฟังไม่ชัดว่าเพื่อนรักพูดว่าอย่างไรบ้าง “เออ ไม่มีอะไร พวกมึงกลับบ้านได้แล้ว กูง่วง กูจะนอนต่อ” กันต์กวีไล่เพื่อนรัก แต่โกเมทมีหรือจะยอมทำตามง่ายๆ “ไม่ได้! พวกกูต้องการเสียเงินหนึ่งล้าน เพื่อแลกกับการเห็นยายแว่นนอนอยู่บนเตียงของมึงในตอนนี้” “เดี๋ยวกูส่งรูปไปให้ดูเป็นหลักฐาน” กันต์กวีเริ่มพูดกับเพื่อนรักเสียงดังกว่าเดิม “ไม่ได้!” โกเมทยังยืนยันคำเดิม ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ “มึงเคยได้ยินไหมไอ้กวี สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เพราะฉะนั้นมึงมาเปิดประตูห้องให้พวกกูเดี๋ยวนี้ พวกกูต้องการเห็นกับตา จะได้จ่ายเงินล้านได้สบายใจหน่อย” “อุวะ! พวกมึงพูดไม่เข้าใจหรือยังไงวะว่าเดี๋ยวกูส่งรูปไปให้ดู” กันต์กวีตะโกนตอบอย่างโมโหจัด พร้อมกับเอ่ยดักคอเพื่อนรักว่า “พวกมึงห้ามเข้ามาเด็ดขาด ใครเข้ามาในห้องของกู งานนี้กูเตะไม่เลี้ยง” “อุวะ เกิดอะไรขึ้นกับมึงวะไอ้กวี” โกเมทเกาหัวแกร็กๆ ด้วยความงุนงง และใช่ว่าจะมีแค่เพียงเขาเท่านั้นที่เกิดอาการแปลกใจกับท่าทีของกันต์กวี บรรดาเพื่อนๆ ทั้งห้าคนที่ได้ฟังเสียงการสนทนาระหว่างเขากับกันต์กวีก็เกิดอาการงุนงงไม่แพ้กัน “มึงรออยู่หน้าห้องนั่นแหละไอ้เมท อีกห้านาทีกูจะส่งรูปไปให้ดู” กันต์กวีย้ำเสียงเข้มอีกครั้ง พร้อมกับกดวางสายทันที การสนทนากับเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดัง และตอนเดินออกไปยังระเบียงนอกห้องนอน กันต์กวีก็ดันลืมปิดประตูกระจก น้ำเสียงที่ตะโกนพูด ตะโกนต่อว่าเพื่อนรักเสียงดังได้ปลุกให้ขวัญจิราตื่นจากการหลับใหล และได้รับรู้ในบางถ้อยบางคำที่กันต์กวีได้สนทนากับเพื่อนรัก ซึ่งมันทำให้หญิงสาวเริ่มรู้แล้วว่าตนเองกำลังตกเป็นหมากตัวหนึ่งในเกมที่กันต์กวีกับเพื่อนๆ ของเขากำลังเล่นสนุกร่วมกัน พอชายหนุ่มเดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง หญิงสาวก็แกล้งทำเป็นนอนหลับเหมือนเดิม ด้วยอยากรู้ว่ากันต์กวีจะทำอย่างไรกับหมากตัวนี้! “บ้าชะมัด!” กันต์กวีสบถลั่น ยกมือเสยผมตัวเองจนยุ่งเหยิงไปหมด เมื่อทอดสายตาเห็นขวัญจิรานอนเปลือยกายคว่ำหน้าอยู่บนเตียงใหญ่ของเขา “เราจะถ่ายภาพนี้ส่งไปให้ไอ้เมทยังงั้นหรือ” มือใหญ่เอื้อมไปลูบไล้ตั้งแต่ต้นคอระหงผ่านลาดไหล่เล็ก แผ่นหลังเนียนนุ่มมือจนกระทั่งมาถึงสะโพกผายมนที่เขาชอบฟอนเฟ้นมากเป็นพิเศษ “ไอ้กวี แกจะถ่ายภาพนี้ส่งให้ไอ้เมทและคนอื่นๆ ไม่ได้” กันต์กวีตัดสินในได้ในที่สุด จากนั้นก็ดึงผ้าห่มผืนหนามาห่มปกปิดเรือนร่างงามสล้างของขวัญจิราจนถึงลำคอ ก่อนจะถ่ายภาพสองสามภาพเพื่อส่งไปให้เพื่อนๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD