บทที่ 8 สมรสพระราชทาน

1682 Words
ขบวนรับเจ้าสาวยาวเหยียดจนชาวบ้านต่างพากันออกมารอดูด้วยความตื่นเต้น วังจีที่กว้างขวางใหญ่โตและดูลึกลับกำลังจะมีงานมงคลครั้งที่สอง ชนชั้นสูงในเมืองหลวงต่างพากันถือโอกาสนี้เข้าร่วมงาน พวกเขาอยากเห็นว่าในวังจียามนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ยามนี้ในสี่สกุลหลักของแคว้นหมิง มีเพียงสกุลจีที่ไม่ค่อยสุงสิงกับผู้อื่น ฝู่กั๋วกงในฐานะเสาหลักไม่มีอนุภรรยาและยังให้น้องชายต่างมารดาที่เกิดจากอนุภรรยาแยกออกไปตั้งจวนของตนเอง วังจีจึงไม่ค่อยมีคนไปมาหาสู่ มีเพียงท่านหญิงจีลี่อิงที่พาลูกๆ มาเยี่ยมบิดามารดา งานเลี้ยงสังสรรค์ในเมืองหลวง สกุลจีจะทำเพียงรับบัตรเชิญเอาไว้และส่งของขวัญตอบแทนน้ำใจแต่ไม่เคยเดินทางไปร่วมงาน “ถึงบ้านเจ้าสาวแล้ว!” เสียงตะโกนของคนหน้าขบวนดังขึ้น เรือนพักรับรองของราชทูตถูกกำหนดให้เป็นบ้านเจ้าสาว เกี้ยวแปดคนหาบและขบวนรับเจ้าสาวของจีหลุนจึงต้องเดินทางมารับกัวเอินถงใกล้วังหลวง จีหลุนในชุดแดงปักดิ้นสีทองทั้งตัว งามสง่าผึ่งผาย ร่างของเขาสูงไม่บางและไม่หนาจนเกินไป คิ้วกระบี่ จมูกโด่งได้รูป นัยน์ตาหงส์ ยามนั่งอยู่บนหลังม้าก็ดึงดูดสายตาทุกผู้คน พอลงจากหลังม้าก็ยิ่งดูองอาจ สายตาของแม่ทัพหนุ่มเคร่งเครียดเมื่อมองเห็นร่างในชุดเจ้าสาวงดงามนั่งรถเข็นถึงหน้าประตูใหญ่ เขาไม่อยากเชื่อว่าตนเองต้องแต่งงานกับสตรีที่ไม่ได้พึงใจ ทั้งต่อไปยังต้องระวังทุกย่างก้าวที่อยู่ร่วมกับนาง “รับตัวเจ้าสาวขึ้นเกี้ยว!” ขันทีผู้หนึ่งร้องขาน หลูกงกงยืนยิ้มอยู่ข้างๆ กัวเอินถง “ท่านชายจี ยินดีด้วยนะขอรับ” จีหลุนเหลือบมองด้วยความเคือง ขันทีใหญ่หัวเราะหึๆ ในลำคอ “เชิญรับตัวเจ้าสาวขึ้นเกี้ยวเถิด ประเดี๋ยวจะเสียฤกษ์ ฝ่าบาททรงกำชับให้ข้าดูแลงานสมรสของท่านชายจีให้ดีที่สุดขอรับ” เจ้าบ่าวยื่นมือออกไปใกล้ร่างของเจ้าสาว กัวเอินถงวางมือเรียวขาวลงมือมือของแม่ทัพหนุ่ม พลันความร้อนก็วูบไปทั่วมือของจีหลุนแล่นพล่านไปทั่วร่างกาย ชายหนุ่มรู้สึกถึงความวาบหวามที่เกิดขึ้น ‘ความรู้สึกนี้ เหมือนกับที่เกิดขึ้นในตอนข้าบีบคอกัวเยี่ยนสือไม่มีผิด’ จีหลุนรู้สึกถึงร่างกายส่วนลับที่ตอบสนอง เขารีบช้อนร่างของนางขึ้นอุ้มก่อนที่จะเกิดความผิดปกติยิ่งไปกว่านี้ ทว่าพออุ้มนางขึ้นร่างกายก็ร้อนรุม “ท่านชาย ช้าๆ หน่อยเจ้าค่ะ” นางส่งเสียงเบาๆ ลอดออกมาจากผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว ขณะแม่ทัพหนุ่มสาวเท้าเร็วไปยังเกี้ยว “เข้าไปเร็วเข้า” ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ดันร่างของนางเข้าข้างใน กัวเอินถงเองก็รู้สึกวูบวาบเช่นเดียวกับจีหลุน นางจึงรีบใช้มือค้ำที่นั่ง ในเกี้ยวแล้วกระถดร่างเข้าไปนั่ง ครั้นเจ้าสาวเข้าเกี้ยวแล้ว เจ้าบ่าวก็หันไปหาหลูกงกง “ขอบคุณท่านกงกงที่เป็นธุระ ข้าเองก็หวังว่านางจะไม่สร้างปัญหาให้ข้า” ในใจของจีหลุนนึกเสียดาย หากวันนี้เจ้าสาวเป็นสตรีที่เขาพึงใจ เขาคงจะมีความสุขไม่น้อย งานสมรสพระราชทานที่ยิ่งใหญ่ สินเจ้าสาวเป็นสิ่งที่ทาง วังหลวงจัดมาให้ไม่น้อยหน้ากับที่วังจีเตรียมสินสอด หญิงสาวทั่วเมืองหลวงล้วนแล้วแต่มาเมียงมองอยู่ข้างทาง ชื่อเสียงของท่านชายจีมีมานาน เขาติดอันดับหนึ่งในห้าสิบบุรุษโสดในฝันที่ดูเหมือนจะครองโสดยาวนานกว่าผู้อื่น ในช่วงที่จีลี่อิงผู้เป็นน้องสาวคนกลางได้รับสมรสพระราชทานกับ ฟ่านหลี่เจี๋ย จีหลุนก็ผ่านพิธีสวมกวานไปแล้ว หลายตระกูลพยายามมาเลียบๆ เคียงๆ อยากจะดองญาติ ทว่าฝู่กั๋วกงกลับไม่ต้อนรับโดยอ้างว่าบุตรชายยังทำศึกติดพันที่ชายแดน ยังไม่เหมาะจะแต่งงาน ความสง่างามของเจ้าบ่าวทำเอาสตรีทั้งหลายต่างพากันยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดปากเพื่อแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ลี่เทียนเป่าที่ขี่ม้าอยู่ด้านหลังพยายามยิ้มและเชิดหน้าเพราะมีแม่นางหลายคนมองมาที่เขา “เหล่าจี เจ้าดูแม่นางพวกนี้สิ ดูเหมือนนางจะเล็งข้านะ” จีหลุนไม่หันกลับไปมอง เขาส่ายหน้าเบาๆ แล้วหัวเราะออกมาด้วยความขำกับความคิดของสหาย ดูเหมือนลี่เทียนเป่าจะทนไม่ได้ที่สตรีเหล่านั้นจ้องเขาตาเป็นมัน เสียงหัวเราะของเจ้าบ่าวดังขึ้น ใบหน้าที่เคร่งเครียดของเขาผ่อนคลาย ทำให้หญิงสาวที่ยืนมองอยู่รายรอบถึงกับต้องยกมือขึ้นกุมหัวใจไม่ให้มันเต้นกระดอนออกมา พลันก็มีเสียงหญิงสาวผู้หนึ่งตะโกนขึ้น “ท่านชายจีหล่อจริง! ข้าจะหัวใจวายตายไหมนี่?” กัวเอินถงที่นั่งอยู่ในเกี้ยวได้ยินประโยคนั้น นางนึกถึงใบหน้าของจีหลุนที่ได้พบครั้งแรก เขารูปร่างสูงกว่าพี่ชายของนางครึ่งฝ่ามือ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายจนไม่อาจละสายตา หญิงสาวเผลอยิ้มออกมา ...หากว่านางกับเขามิใช่ศัตรูกันก็คงดี... เสียงหญิงสาวที่ร้องเรียกชื่อเขาไปตลอดทางทำให้ธิดาของผู้นำห้าเผ่าหุบยิ้มยากเย็น ดีที่มีผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวอยู่ ทำให้นางซ่อนหน้าได้ไม่ยาก “น้ำกับของกินซ่อนอยู่ใต้ที่นั่งนะเจ้าคะ” เสียงของเหย้าหลีดังขึ้นข้างเกี้ยว กัวเอินถงค่อยๆ เลื่อนก้นไปอีกทาง ข้างที่นั่งในเกี้ยวมีช่องเปิดเข้าไปได้ ในนั้นมีกล่องไม้ใส่ซาลาเปากับถุงหนังใส่น้ำซ่อนอยู่ กว่าจะถึงวังจีคงอีกพักใหญ่ นางรีบดึงผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกแล้วลงมือกินซาลาเปาสามลูกแล้วดื่มน้ำ ขณะพยายามฟังเสียงข้างนอก “ถึงแล้วเจ้าค่ะ” เสียงหยวนจู้ดังขึ้น “วังจีใหญ่มากๆ เลยนะนี่” ประโยคหลังของสาวใช้กัวเอินถงคล้ายจะรำพึงกับตนเองมากกว่าจะบอกให้คุณหนูของนางได้รับรู้ มือเรียวใหญ่ของชายหนุ่มเปิดผ้าม่านหน้าประตูเกี้ยวออก น้ำเสียงทุ้มต่ำคุ้นเคยของเขาดังขึ้น “ลงมาเถอะ ถึงวังจีแล้ว” เจ้าสาวจำเป็นยื่นมือออกไปวางบนเขาอีกคราหนึ่ง เข้าอุ้มนางเข้าไปข้างในเพื่อทำพิธี ชายหนุ่มวางนางลงบนรถเข็นอีกคราหนึ่งในห้องโถงพิธี เพื่อทำการกราบไหว้ฟ้าดิน ชั่วขณะนั้นทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างพากันชะงักเล็กน้อย กัวเอินถงนึกเสียใจที่นางใช้วิธีการแต่งงานเพื่อเข้ามาในวังจี แต่วิธีการอื่นก็ไม่มีแล้ว หลังจากแต่งงานในครั้งนี้แล้ว นางไม่มีวันจะแต่งงานกับบุรุษใดได้อีก ...เผ่าเหลียนซายึดมั่นเรื่องการแต่งงานเพียงครั้งเดียวในชีวิต... “ไหว้บิดามารดา” รองหัวหน้าขันทีประจำวังหลวงรับหน้าที่ขานลำดับพิธี กว่าจีหลุนจะหลุดออกจากภวังค์อีกที ตัวเขาก็ทำตามขั้นตอนพิธีแต่งงานในห้องโถงจนเสร็จสิ้นแล้ว หลูกงกงยังคงตามมาถึงที่นี่เพื่อดูแลทุกสิ่งให้เรียบร้อย ในงานครั้งนี้มีทั้งครอบครัวของชินอ๋อง ท่านอ๋องเก้า และท่านอ๋องสิบสอง ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยจึงเป็นไปอย่างเข้มงวด ขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนักทั้งหกกรมเข้าร่วมแสดงความยินดีกันอย่างพร้อมเพรียง รองเสนาบดีฟ่านเป็นน้องเขยของแม่ทัพจี และชินอ๋องเป็นน้องเขยของเสนาบดีฟ่าน นับไปนับว่าก็เท่ากับจีหลุนเป็นญาติของชินอ๋อง ความเกี่ยวพันแน่นแฟ้นระหว่างสกุลจี สกุลฟ่าน และสกุลหมิง ยิ่งทำให้ฐานอำนาจของหมิงฮ่องเต้หนักแน่นขึ้น พวกขุนนางคนสำคัญๆ จึงไม่กล้าละเลยการเข้าร่วมงานแต่งงานครั้งนี้ แขกทั้งหลายเดินตามกันไปยังเรือนหอเพื่อรอให้เจ้าบ่าวเปิด ผ้าคลุมหน้า คันชั่งถูกยื่นไปดันให้ชายผ้าคลุมหน้าเปิดขึ้น ทันทีที่ผ้าแดงนั้นเปิดเผยใบหน้าจริงของนางให้จีหลุนได้เห็นเป็นครั้งแรก ชายหนุ่มรู้สึกราวลมหายใจของตนเองขาดห้วงไปชั่วขณะ “งดงามมาก! เจ้าสาวงดงามเหลือเกิน” เสียงชมดังจากมาจากข้างหลัง ตามด้วยฮือฮาที่ดังกระหึ่ม จีหลุนถูกกลุ่มสหายที่ได้มาร่วมงานลากออกไปดื่มสุราข้างนอก สหายเก่าของเขาส่วนใหญ่แต่งงานไปแล้วและเป็นขุนนางขั้นต้นในหลายกรมด้วยกัน พวกเขาเพิ่งมีโอกาสได้สังสรรค์กันเต็มที่ก็ครั้งนี้ “เสี่ยวหลุน เจ้าไปเป็นแม่ทัพเสียนาน กลับมาอีกทีก็มาแต่งงานแล้ว” “เจ้าสาวของเจ้างดงามมากจริงๆ” สหายทั้งหลายกลัวว่าเขาจะเสียใจที่ได้ภรรยาพิการ ทุกคนจึงหันไปชมเรื่องความงามของนางแทน แม้ว่าลีเทียนเป่าเพิ่งจะพบเจอกับสหายทั้งหลายของจีหลุนครั้งแรกแต่กลับปรับตัวเขากับคนทั้งหมดได้ไม่ยาก เขาพยายามพูดคุยกับสหายของจีหลุนเพื่อหาข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ในแต่ละกรม รวมทั้งเล่าเหตุการณ์ที่ชายแดนให้กับขุนนางเล็กๆ เหล่านั้นได้ฟัง การดื่มสุราแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นไปอย่างออกรส เจ้าบ่าวถูกดื่มแสดงความยินดีจนยืนแทบไม่ไหว “ข้าไปส่งพวกเขาเอง พวกเจ้าดื่มกันต่อตามสบาย ตอนที่อยู่ในค่ายก็เป็นเช่นนี้ล่ะ เขาเมาก่อนทุกคนและข้าก็ต้องไปส่งเขาอยู่บ่อยๆ สบายใจได้ ครั้งนี้ข้าจะส่งเขาเข้าหออย่างปลอดภัยเอง” กุนซือหนุ่มยืนยันขันแข็ง ไม่มีผู้ใดคิดจะไปแอบดูเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวร่วมห้องกัน พวกเขารู้ดีว่าร่างกายของเจ้าสาวช่วงล่างไร้ความรู้สึก จะว่าไปจีหลุนนับว่าเป็นเจ้าบ่าวที่เคราะห์ร้ายที่สุดแล้ว...แม้แต่จะร้องเย้าแหย่พวกเขาก็ยังไม่กล้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD