ในที่สุดก็ออกจากโรงบาล

1427 Words
ห้องพยาบาล ดิสเก็บของใส่กระเป๋าใบใหญ่ เขากำลังจะออกจากโรงพยาบาลหลังผ่านเรื่องทั้งหมดมาด้ ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้ว ดิสล้มบอสดันเจี้ยนแรงค์ B ได้สำเร็จตามเควส แต่ก็ทุลักทุเลพอควร เขาไม่มีบาดแผลเลยเพราะราชาวดีช่วยฮีลให้ระหว่างสู้ ต้องขอบคุณเธอ เขากล้าพูดว่านี่เป็นประสบการณ์ที่มหัศจรรย์ที่สุดในชีวิต ทั้งเวทมนตร์พลังพิเศษ มอนเตอร์ และที่สำคัญเขาได้เห็นถ้ำขนาดใหญ่มลายหายไปชั่วพริบตาเมื่อบอสถูกล้มลง (นี่แหละที่เขาเรียกปิดดันเจี้ยน) เขาคงต้องเริ่มชินกับความแฟนตาซีนี้แล้วล่ะ หลังเสร็จสิ้นภารกิจทุกคนก็แยกย้ายกัน สามพรานทมิฬมองดิสไม่ต่างจากคนจิตไม่ปกติ แต่ทุกคนก็รับปากว่าจะไม่บอกใคร เพราะนอกจากพรานทมิฬ กฏหมายไม่อนุญาตให้ใครเข้าดันเจี้ยน พอกลับมาถึงดิสก็โดนพ่อแม่ซึ่งรอรับดุเอายกใหญ่ด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่เล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกท่านฟัง เรื่องที่ดิสไปปิดดันเจี้ยนนั้นทำให้ราชาวดีโดนต่อว่าไปด้วยที่ไม่ห้าม แต่สุดท้ายแล้วทั้งสองก็โอบกอดเขาด้วยความดีใจที่รอดมาได้ และขอบคุณราชาวดีที่ช่วยเหลือดิส ทุกอย่างหลังจากนั้นก็เป็นแบบที่เห็น ดิสขึ้นมากำลังเก็บของเตรียมกลับบ้าน ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงที่คุ้นเคย “เข้าไปได้ไหม? ” ดิสรู้ว่านั่นเป็นราชาวดี เขาจึงขานตอบ “เข้ามาได้เลย” เธอเปิดประตูออกพร้อมกับเดินเข้ามาในห้อง “เป็นไงบ้าง ดูหายตื่นเต้นกับโลกแฟนตาซีแล้วหนิ? ” “เจอทุกอย่างใกล้ชิดเกินไปจนเริ่มชินแล้วมั้ง” ดิสตอบก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่ปลายเตียง “แน่ใจนะว่าปกติดี ตอนสู้กับบอสดิสดูไม่เป็นตัวเองเลย” เธอกล่าวพลางกับค่อยๆ เดินมาหยุดตรงหน้าเขา “แน่ใจสิ คงเพราะตื่นเต้นล่ะมั้ง” ดิสหันไปตอบยิ้มๆ เฮ้ออ…. “แต่ก็ดีแล้วล่ะที่ทุกอย่างจบลงได้ดี” พอราชาวดีกล่าวจบ เธอก็รีบเข้าประเด็นของสาเหตุที่พาตนมายืนอยู่ตรงนี้ทันที “ดิสเล่าได้แล้วใช่มั้ยเกี่ยวกับพรสวรรค์ของดิส? ” ดิสที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มแห้ง “เคยสัญญาไว้แบบนั้นด้วยสินะ” ราชาวดีพยักหน้ารอฟัง เธอสงสัยว่าทำไมอยู่ๆ ดิสถึงลงไปสู้กับมอนเตอร์แบบนั้น อยากรู้ว่าทำไมดิสถึงขอร้องให้ตนทำเรื่องผิดกฏหมายแบบนี้ ดิสไม่คิดจะปิดบังอยู่แล้ว นอกจากพ่อแม่ที่ยังไม่รู้เรื่องรายละเอียดของพรสวรรค์เขา ถ้าพวกท่านรู้ว่าจะมีเควสแบบวันนี้เกิดขึ้นอีก ทุกอย่างต้องวุ่นวายแน่ๆ เขาเลยเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับระบบให้ราชาวดีฟังตั้งแต่ต้นจนจบ เธอแสดงสีหน้าที่แปลกใจเป็นอย่างมาก ราวกับว่าในโลกที่เหนือจินตนาการนี้ มันยังมีอะไรให้แปลกใจได้อีกอย่างงั้นแหละ ดิสเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย “เอ่อ… มันแปลกเหรอ? ” ราชาวดีพยักหน้า พร้อมกับกล่าวเสียงแผ่ว “แปลกมากเลยล่ะ….” ดิสไม่เข้าใจในสิ่งที่ราชาวดีพูด และความสงสัยนั้นก็แสดงออกมาให้เห็นได้ชัดผ่านแววตา ราชาวดีที่รับรู้ได้จึงรีบอธิบาย หญิงสาวเรียกวงเวทย์สีชมพูขนาดเล็กออกมาที่มือข้างซ้าย “ในร่างกายของพรานทมิฬทุกคนจะมีพลังงานมานาอยู่ และวงเวทย์นี่คือประตูที่จะนำพลังงานงานนั้นออกมาใช้งานได้ มันจะแปรเปลี่ยนมานานั้นให้เป็นพลังและสีอะไรสักอย่างที่สะท้อนถึงจิตใต้สำนึกของผู้ใช้ แล้วปริมาณมานาข้างในร่างกายก็ยังเป็นเกณฑ์ในการแบ่งคลาสอีกด้วยด้วย” พอว่าจบเธอสลายวงเวทย์ “แล้วทำไมดิสถึงไม่มีวงเวทย์กัน? ” “ดิสรู้มั้ยว่าพรานทมิฬถ้าใช้มานาจนหมด สักพักมันก็จะค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาเท่าเดิม แต่ปริมาณมาตรฐานของมานาจะไม่เปลี่ยนไป พรานทมิฬทุกคนจึงต้องอยู่คลาสเดิมไปตลอดชีวิต” เธอเลิกคิวขึ้นสูงแล้วพูดต่อ “แล้วทำไมดิสถึงสามารถพัฒนาพลังให้แกร่งขึ้นได้เรื่อยๆ ล่ะ? ” “แล้วที่แปลกที่สุด… ทำไมรูปแบบพรสวรรค์ของดิสถึงคล้ายกับเกมส์? ” สำหรับราชาวดีแล้ว นี่ไม่แตกต่างจากการค้นพบครั้งประวัติศาสตร์ เธอเชื่อในสิ่งที่ดิสพูด เพราะจากเรื่องที่ผ่านมาเขาไม่มีทางโกหกเธอแน่ ดิสพอรับข้อมูลทั้งหมดจนเข้าใจก็พยักหน้า รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ไม่รู้สิ ตอนนี้เขาทำตัวไม่ค่อยถูก ไม่รู้ว่าควรตอบยังไง หรือแสดงความรู้สึกอะไรออกมา “แล้วมีอะไรแปลกๆ ที่ยังไม่ได้บอกอีกมั้ย? ” ราชาวดียิงคำถามต่อ ดิสอ้ำๆ อึ้งๆ เล็กน้อยเพราะตอนแรกตนยังไม่แน่ใจในข้อมูลนี้ เลยยังไม่คิดจะบอก แต่ตอนนี้มันเลยเถิดไปใกลเกินกว่าจะปิดไว้แล้วล่ะ “คือ…. ตอนเราสู้แล้วเฉียดตาย มันจะมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นน่ะ มันรู้สึกเหมือนอยากจะสู้มากขึ้นเรื่อยๆ เลือดในตัวมันร้อนไปหมด” ราชาวดีนิ่งฟังอย่างตั้งใจ “แล้วอีกอย่างนึง…. เราฟังบอสพูดรู้เรื่อง” ราชาวดีชะงักไปเพราะคำพูดสุดท้าย “อีกทีซิ” ดิสเลิกคิ้วเล็กน้อย “เราได้ยินเสียงพูดของบอสดันเจี้ยน” ราชาวดียกมือขึ้นปิดปากเล็กน้อย “อย่าบอกนะว่าที่ดิสถามว่าบอสพูดได้รึเปล่าเป็นเพราะเรื่องนี้” ดิสพยักหน้าให้หญิงสาวเป็นคำตอบ ราชาวดีพยายามตั้งสติ พลังของดิสนั้นพิเศษมาก มากถึงมากที่สุด บนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นพรานทมิฬคลาส S ของประเทศไทย หรือแม้แต่ Hunter (ฮันเตอร์) จากทั่วโลก ไม่มีใครสามารถเพิ่มระดับตัวเองและฟังภาษามอนเตอร์ได้เหมือนกับดิสเลย (Hunter เป็นชื่อที่ใช้เรียกผู้มีพรสวรรค์แบบสากล โดยคำว่าพรานทมิฬนั้นใช้แค่ในไทยและลาว) ราชาวดีคิดว่าบางทีการวัดระดับคลาสของดิสอาจจะคลาดเคลื่อนได้ถ้าใช้เกณฑ์แบบปกติ หรือไม่ผลที่ได้ก็อาจจะต่ำกว่าที่ควร เพราะดิสนั้นยังเพิ่งจะตื่นขึ้นมา เขายังอยู่ระดับเริ่มต้น ถ้ามีเวลาให้เขามากกว่านี้ ดิสอาจจะกลายเป็นพรานทมิฬ คลาส S ที่มีแค่ 7 คนในประเทศไทยก็ได้ ราชาวดีเพ่งสายตามองดิสเล็กน้อย ‘เราต้องขอให้ดิสปกปิดพรสวรรค์ของเขาไว้ก่อนให้ได้ จนกว่าเขาจะไปถึงระดับ S ไม่ก็จนกว่าเราจะไขปริศนาถึงเหตุผลของความแตกต่างของพลังดิสได้’ พอสรุปความคิดได้ ราชาวดีก็เริ่มอ้าปากจะกล่าวทันที แต่ดิสก็พูดขัดขึ้นมาก่อน “วดีคงไม่ได้คิดจะให้เราปิดเรื่องพลังเป็นความลับจากคนอื่นหรอกใช่มั้ย..” ดิสกล่าวพร้อมกับหัวเราะแห้ง “คือเห็นได้ชัดว่าพรสวรรค์เรามันแปลกและไม่เหมือนใคร เราจะไม่แปลกใจเลยถ้าวดีจะขออะไรแบบนั้น” ราชาวดีชะงักไปเล็กน้อยที่ดิสคล้ายจะอ่านใจได้ เธอจึงถอนหายใจก่อนจะกล่าวต่อ “ถ้าดิสเข้าใจแบบนี้ก็ง่ายขึ้นเลย มันอันตรายมากถ้ามีใคร—’ ราชาวดีไม่ทันพูดจบ ดิสก็พูดขัดขึ้นอีกครั้ง “เฉพาะเรื่องนี้ที่เรารับปากไม่ได้จริงๆ ” ราชาวดีนิ่งอึ้งไป ในขณะที่ดิสดูลนๆ เล็กน้อย “เราขอบคุณราชาวดีมากจริงๆ ที่ช่วยเหลือเราในวันนี้และตลอดมา แต่เราอยากจะเผชิญโลกกว้างที่เราพลาดมาตลอด 5 ปี เราขอโทษจริงๆ หวังว่าเธอคงจะเข้าใจนะ” ราชาวดีพอฟังจบก็ถอนหายใจออกมา เธออาจจะผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็เห็นใจดิสและเข้าใจว่าเขานั้นเสียเวลา 5 ปีไปกับการนอนเป็นเจ้าชายนิทรา ถ้าดิสอยากจะชดเชยชีวิตก็ไม่แปลก ราชาวดียิ้มให้ “ไม่เป็นไร…. แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นต้องรีบติดต่อเรามานะ” ดิสพยักหน้าก่อนจะยิ้มตอบ “ได้เลย” ไม่นานนักเสียงแจ้งเตือนมือถือของดิสก็ดังขึ้น พบว่าเป็นแชทจากพ่อที่ทักมาถามว่า ‘เก็บของเสร็จรึยัง’ ดิสพิมพ์ตอบก่อนจะลุกขึ้นยืนหยิบกระเป๋า “เราไปก่อนนะวดี ขอบคุณมากสำหรับวันนี้” ราชาวดีพยักหน้ายิ้มๆ หลังจากนั้นดิสก็เดินออกจากห้องพยาบาลไป To be continued →
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD