“หุบปากเลย ฉันจะล้มแกภายใน 5 นาที!”
ดิสตะคอกเสียงดังพลางกับกระโจนง้างหมัด เงาะป่าในชุดเกราะสูงเท่าคนเพียงแค่ยืนมองนิ่งๆ เท่านั้น หมัดของดิสพุ่งเข้ามาใกล้จะถึงหน้าของบอสแล้ว แต่ก่อนจะไปถึง ร่างของเขาก็ต้องหยุดชะงักกลางอากาศ เพราะบอสดันเจี้ยนแรงค์ B นั้น ยื่นมือมาบีบคอเขาไว้
จากที่จะโจมตีตอนนี้ดิสได้เสียท่าไปแล้ว มือสองข้างเขาบีบข้อมืออีกฝ่ายไว้แน่นอย่างทรมาน
'เร็ว... เร็วมากเร็วกว่าเราซะอีก นึกว่าจะกระจอก แต่เก่งจังวะ!'
เขาถูกยกขึ้นสูงจนเท้าลอยเหนือพื้น บอสเพียงแค่มองแล้วยิ้มเยาะสมเพชในความอวดดีของดิสเท่านั้น แต่กองหนุนที่มาด้วยก็ไม่ยอมให้ดิสถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว ไม่นานร่างของดิสก็เรืองแสงสีฟ้า แล้วถูกเทเลพอร์ตกลับมานอนกลิ้งอยู่รวมกับกลุ่ม นั่นเป็นฝีมือของมะลิ
“ไผ่!” เธอตะโกนแล้วหันไปทางวัยรุ่นชายที่ร่วมทางมาด้วย
“รู้แล้วน่า!”
ไผ่ตะโกนขานรับ ก่อนจะเรียกวงเวทย์สีเหลืองแล้วแปรเปลี่ยนเป็นแส้พลังนานทั้งสองมือ เด็กนั้นกระโจนฟาดแส้พุ่งตรงไปหาบอส มัน
ส่องแสงสว่างวาบราวกับสายฟ้าฟาด แต่บอสก็ใช้หอกปัดจนมันเบี่ยงวิถีออกไปโดนผนังถ้ำได้
ไผ่จ้องบอสดันเจี้ยนตาเขม็ง
“ยังมีอีกโว้ย!”
ไผ่ไม่ว่าเปล่าเขาฟาดแส้อีกมือหนึ่งใส่ทันที แต่ผลก็เป็นแบบเดิม บอสเงาะป่าใช้หอกปัดมันออกไปได้ เด็กหนุ่มเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจนัก แล้วระบายความโกรธโดยการฟาดแส้พลังงานไฟฟ้าสีเหลืองโจมตีไปเรื่อยๆ ไม่หยุดพัก
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
เสียงการต่อสู้ก้องไปทั่วอุโมงค์ ราชาวดีกางโดมพลังงานสีชมฟูมาปิดกั้นเสียงดังสนั่นให้คนที่เหลือ แต่ไม่ลืมจะฮีลให้ดิส แววตาของดิสมองการต่อสู้ตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด เขาอาจจะกลัว แต่ตอนนี้ก็รับรู้ได้เลยว่าเลือดในกายมันเดือดพล่านไปหมด
เขาพยายามตั้งสติแล้วหันมองไปทางราชาวดี
เมื่อเธอเห็นแบบนั้นจึงเอ่ยถามเขาด้วยความเป็นห่วง “ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง? ”
“ยังปกติดี”
ดิสยันกายลุกขึ้นนั่งมองการต่อสู้อีกครั้ง นี่เป็นครั้งที่สองในชีวิตเขาที่ได้ประสบกับเหตุการณ์เฉียดตาย ถ้านับรวมอุบัติเหตุซึ่งทำให้หลับไปหลายปี
เขาสามารถยอมรับอย่างเต็มปากเลยว่ากลัว แต่มันแปลกประหลาด ตรงที่มันเบาบางเมื่อเทียบกับความตื่นเต้นและเดือดพล่าน รับรู้ได้
เลยว่าเขามีบางอย่างผิดปกติ ร่างกายมันร้อนรุ่มไปหมด
‘เป็นผลจากระบบเหรอ ที่ทำให้เรารู้สึกอยากสู้และสนุกกับมัน? ’
เขาค่อนข้างมั่นใจ มันไม่เหตุผลอื่นแล้ว
‘ก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้รู้สึกแบบนี้สักหน่อย แสดงว่าความรู้สึกแบบนี้จะเกิดขึ้นตอนที่เฉียดตายเท่านั้นสินะ’
เมื่อเข้าใจแล้ว เขาก็ไม่ปล่อยที่จะให้อารมณ์ครอบงำตัวเอง เขาค่อยๆ ยืนขึ้น
การต่อสู้ตรงหน้ามันเหนือจิตนาการมากสำหรับเขา แต่ที่ผ่านมาวันนี้ก็เริ่มทำเขาชิน ใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งสุขุมสังเกตการต่อสู้พลางกับมองเวลาที่เหลือแค่ 2 นาที
‘บอสดันเจี้ยนแข็งแกร่งกว่าพวกลูกกระจ๊อกแบบเทียบไม่ติดเลย ถ้าอยากชนะ เราก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้’
เขาใช้ความคิดและนิ่งเงียบ นี่คงเป็นช่วงเวลาที่กดดันที่สุดในชีวิต
‘เท่าที่ดูแล้วบอสนั้นฝีมือเหนือกว่าไผ่เห็นๆ ทำไมมันถึงไม่โจมตีกลับเลย? ’
เวลายังคงร่วงเลยไป เขาไม่มีเวลาอีกแล้ว แต่ในขณะนั้นไอเดียสุดอันตรายก็แล่นเข้ามาในหัวเขา
ดิสหันไปมองทางราชาวดี “เรียกทุกคนถอยมาให้หมดเลย”
ราชาวดีเลิกคิ้วเล็กน้อย “ทำไม? ”
“เอาน่า” ดิสตอบพร้อมกับถูมือไปมา “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฮีลให้เราอย่าหยุด”
วดีขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “ดิสจะทำอะไร? ”
ดิสไม่ตอบพรานทมิฬสาว เขาพุ่งตรงเข้าไปหาบอสดันเจี้ยน พร้อมดันร่างไผ่ผลักเข้าไปหากลุ่มทันที ราชาวดีจึงสลายบาเรียออก
“ทำไรวะ ไอ้เฮีย!? ”
ดิสไม่ตอบใครทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเขาเอาความกล้ามาจากไหน แต่ตอนนี้เวลาไม่มีแล้ว และเขาก็กำลังยืนประจัญหน้ากับบอสดันเจี้ยนแรงค์ B อยู่ เขารู้ดีว่าบอสนั้นแกร่งกว่าเขา แต่สิ่งเขาเหนือกว่าบอสมีอย่างหนึ่ง นั่นคือ ‘ฮิลเลอร์ระดับพระกาฬ’
บอสที่นิ่งเพียงปัดป้องไม่จู่โจมกลับเปลี่ยนไป เมื่อได้เผชิญหน้ากับดิสมันฉีกยิ้มเล็กน้อย
“เจ้าเข้าใจภาษาของพวกเราสินะ” มันว่าก่อนจะยกหอกโครงกระดุกชี้มาทางเขา “ในที่สุดคนที่คู่ควรก็มาสักที”
“พูดบ้าอะไรของแกวะ!? ”
ดิสไม่รอช้าพุ่งเข้าโจมตีก่อน ตอนนี้สัญชาตญาณความอยากสู้ อันเป็นผลมาจากระบบถูกปลดปล่อยจนหมดสิ้น เขาไม่คุมสติตนเองไว้อีกแล้ว เมื่อไผ่เห็นแบบนั้นก็จะเข้ามาร่วมศึกแต่ราชาวดีปรามไว้ ไม่ใช่แค่ไผ่ แต่ราชาวดีนั้นห้ามทุกคนเข้ามายุ่ง
เธอไม่รู้ว่าเงื่อนไขของพลังดิสคืออะไร มันหมายถึงชีวิตรึเปล่า? การที่ดิสทำตัวเสี่ยงตายแบบนี้ อยู่ๆ คนปกติธรรมดาไม่ทำแน่ มันต้องมีเหตุผล และเธอเลือกจะเชื่อใจดิส
ในอีกด้าน บอสได้แทงหอกสวนใส่ดิส มันทำให้ดิสที่พุ่งเข้ามาโจมตีถูกแทงทะลุท้อง เขารู้สึกเจ็บปวดลึกไปจนถึงจิตวิญญาน
‘มึงปล่อยให้ไอ้ไผ่โจมตีอยู่ฝ่ายเดียว แต่พอเป็นกู มึงแทงสวนเนี่ยนะ…’
'แต่หอกมันแทงเราเข้าด้วย ความอึดแค่นี้คงไม่พอ'
เขากัดฟันแน่นพลางกับเอื้อมมือสองข้างไปจับด้ามหอกไว้ ไม่นานราชาวดีที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังก็รีบเรียกวงเวทย์ออกมาฮีล
พอเรี่ยวแรงเริ่มกลับมา ดิสจึงใช้แรงทั้งหมดที่มีบีบด้ามหอกจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับกัดฟันแน่นสะกัดกลั้นความเจ็บปวด
เขาดึงหอกที่ปักคาท้องทิ้งในขณะที่ราชาวดีคอยฮีลอยู่ บอสขมวดคิ้วเล็กน้อยที่เห็นแบบนั้น มันรู้ได้ทันทีว่าราชาวดีที่คอยสนับสนุนนั้นมีส่วนสำคัญ มันจึงเปลี่ยนเป้าหมาย
มันใช้หลังมือปัดดิสที่ยืนขวางหน้าอย่างแรง จนร่างเขากระเด็นไปกระแทกผนังถ้ำ
“อีนังแพศยา แกกำลังทำให้การประหารต้องแปดเปื้อน!”
มันตะโกนด่าราชาวดีเสียงดัง ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่มันพูด แต่เห็นท่าทางของมัน ราชาวดีก็รู้ทันทีว่ามันเปลี่ยนมาโจมตีเธอแทน ราชาวดีจึงกางโดมเวทย์ขึ้นมาครอบทุกคนไว้อีกครั้ง
ตึ้ง!
หมัดของบอสเงาะป่ากระแทกเสียงดัง แต่โดมพลังงานก็ไม่มีแม้แต่รอบขีดข่วน นี่แหละคือระดับที่ต่างกันของ S กับ B ดิสค่อยๆ ยันกายลุก เขาเกือบจะหมดสติไปแล้ว
“มือหนักจังวะ…”
เขามีรอยช้ำเล็กน้อย แต่ไม่นานมันก็หายไปเมื่อราชาวดีที่กางวงเวทย์อยู่ฮีลให้
ดิสเมื่อเรี่ยวแรงกลับมาปกติก็พุ่งไปคว้าหัวหอกโครงกระดูกมาถือไว้ในมือแล้วตะโกนเรียกบอสดันเจี้ยน
“เห้ย! คู่ต่อสู้อยู่ทางนี้เว้ย”
เมื่อบอสได้ยินแบบนั้นก็หันมองมาทางเขา ดิสไม่รอช้าพุ่งเข้าไปหาด้วยความเร็วทั้งหมดที่มี
ฉึ่กกก!
เสียงแทงทะลุเนื้อดังขึ้น เมื่อดิสนั้นแทงเข้าที่คอหอยของบอสอย่างจัง
อ้ากกกกก!
มันร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ดิสคิดถูก เขาเดาว่าอาวุธของมันอาจจะโจมตีมันได้ ดิสปล่อยปลายหอกแหลมปักคาอย่างนั้นก่อนจะเหวี่ยงร่างมันไปกระแทกผนังแบบที่เขาโดน ความเดือดดาลของสัญชาตญานนั้นยังไม่หายไป ดิสพุ่งตามก่อนจะคร่อมร่างของบอสที่นอนอยู่กับพื้นไว้
“ไอ้เวร ตายซะ!”
เขาตะคอกเสียงดังพร้อมกับกระหน่ำต่อยใบหน้าของบอสเงาะป่าสุดแรงอย่างบ้าคลั่ง
อ๊ากกก!
เขากู่ร้องขึ้นมาอย่างเดือดดาลจนในที่สุดก็ค่อยๆ หายจากอาการนั้นด้วยความเหนื่อยหอบ แล้วเมื่อสติกลับมาอีกครั้ง ใบหน้าบอสนั้นยับเยินแต่ก็ยังไม่ถึงกับตาย ดิสจึงดึงหัวหอกแหลมออกมาจากคอมันเตรียมจะปิดบัญชี
“ทำไมถึงมีแค่ฉัน… ที่ฟังแกรู้เรื่องวะ….”
เขาถามมันเป็นคำถามสุดท้าย เพื่อให้หายข้องใจ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว บอสเงาะป่าลมหายใจโรยรินเต็มที ดิสที่เห็นแบบนั้นจึงปิดบัญชีโดยการแทงเข้าที่กลางหัวของมัน
เควส : ผ่าน!
To be continued →