อยากรู้ว่ามีอะไรดี

1908 Words
ดิสจ้องตากับตรีชาติหัวหน้าหน่วยควบคุมและปราบปรามผู้มีพรสวรรค์ เขาตัวร้อนผ่าวไปด้วยสัญชาตญาณความอยากสู้ ดิสพยายามข่มมันเอาไว้อย่างยากเย็น แต่ในที่สุดเขาก็หยุดมันลงได้ แววตาค่อยๆ แปรเปลี่ยนมาเป็นปกติ ตรีชาติยกมือขึ้นลูบเคราบางๆ ของตัวเอง “เป็นไรรึเปล่าไอ้หนู?” ดิสถอนหายใจอย่างโล่งอก สัญชาตญาณจะมาพุ่งกระฉูดทำไมตอนนี้ “ไม่เป็นอะไรครับ” เมื่อตรีชาติได้ยินแบบนั้น ก็พยักหน้าเข้าใจโดยง่าย “งั้นก็ดี… ไปได้แล้ว” ดิสเลิกคิ้วสูง “ไปที่ไหนครับ?” ตรีชาติยิ้มตอบคำถามนั้นแฝงนัยยะอะไรบางอย่าง “ผู้ต้องหาก็ต้องไปถูกสอบสวนสิ” สำนักงานควบคุมและปราบปรามผู้มีพรสวรรค์ ดิสถูกพาเดินเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ตลอดการเดินทางเขาและมิกส์ถูกปิดตามาโดยตลอด แต่มันก็ไม่น่าแปลกใจ หน่วยงานที่มีไว้ควบคุมคนที่มีพลังอันตราย ถ้าเปิดเผยที่ตั้งง่ายๆ สิ คงแปลกน่าดู ภายในที่นี่มันคล้ายๆ กับโรงพักหรืออะไรสักอย่าง มีโต๊ะมีคนทำงาน มีห้องขังที่มีนักโทษ และที่สำคัญทุกคนนั้นทักทายและทำความเคารพกันด้วยวันทยาหัตถ์ ดิสไม่แปลกใจนักหรอก… ‘ก็คนพวกนี้มันทหารนี่’ ดิสเดินตามหลังตรีชาติไปพร้อมกับมิกส์ เป้าหมายของทั้งสามคือห้องๆ หนึ่งตรงหัวมุม แต่พอถึงที่นั้น นายจ้างและบอดี้การ์ดต้องแยกกันคนละห้อง ตรีชาติเข้าไปในห้องนั้นพร้อมกับดิส ในขณะที่มิกส์มีเจ้าหน้าที่อีกคนมาพาไปอีกห้องนึง พอเปิดประตูเข้าไปข้างในมันคือโต๊ะกับเก้าอี้เท่านั้น เขารู้สึกเหมือนหลุดมาอยู่ในภาพยนตร์สืบสวนสอบสวน ดิสเดินไปนั่งบนเก้าอี้ ก่อนที่ตรีชาติจะเดินไปนั่งลงตรงกันข้ามกับเขา พอดิสนั่งลงแล้วก็พยายามทำตัวผ่อนคลายเข้าไว้ เขาพยายามจะทำตัวให้ปกติที่สุด ถ้าว่ากันตามตรงดิสก็ประหม่าไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาใกล้เคียงกับคำว่าถูกจับที่สุด ดิสหันไปมองผนังกั้น เขาพอจะเดาได้ว่าอีกฝั่งคงเป็นกระจกใสที่สามารถมองทะลุได้ และคงมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายนายคอยสังเกตการณ์ แต่ดิสก็มีความสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง… “ยื่นมือมา” อยู่ๆ ตรีชาติก็พูดขึ้นมาเสียงแข็ง การที่อยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้ทำดิสกดดันไม่น้อย ถึงอีกฝ่ายจะยิ้มบ่อย แต่ด้วยใบหน้าดุดัน ว่ากันตามตรงดิสคิดว่ามันไม่ช่วยให้อีกฝ่ายดูสดใสขึ้นเลยแม้แต่น้อย ‘ถ้าไม่บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่เราคงคิดว่าโจรไปแล้ว…' ดิสยื่นมือข้างหนึ่งมาวางบนโต๊ะตามคำตรีชาติ เมื่อเห็นแบบนั้นอีกฝ่ายก็ไม่รอช้าใส่กุญแจมือข้างนั้นทันที ดิสเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นตรีชาติเอาอีกด้านของกุญแจมือล็อคกับขาโต๊ะ ‘กุญแจมือเนี่ยนะ? ’ ก็ตามที่ดิสสงสัยตั้งแต่ต้น ว่าทำไมคนพวกนี้ถึงจัดการผู้มีพรสวรรค์ได้ ของธรรมดามันจะเอาผู้มีพรสวรรค์อยู่ได้จริงๆ หรอ เขานึกว่าหน่วยที่มีชื่อเสียงน่ากลัวแบบนี้ จะใช้พวกปืนเลเซอร์ หรือชุดเกราะ หุ่นยนต์อะไรแบบนั้นซะอีก หรือจริงๆ พวกเขาก็มีเก็บซ่อนเอาไว้ แต่ยังไม่เอามาโชว์เฉยๆ แต่ที่เห็นตอนนี้คือกุญแจมือธรรมดา…. ดิสเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ‘กุญแจมือแบบนี้มันหน้ากลัวตรงไหน? ’ จะด้วยความสงสัยหรืออยากลองดีก็ไม่รู้ ดิสยิ้มมุมปากเล็กน้อย อีกฝ่ายกดดันตนมาเยอะแล้ว ได้เวลาเขาเอาคืนบ้าง ถึงจะเล็กๆ น้อยๆ ก็เถอะ ดิสกระชากมือเบาๆ ทำกุญแจมือขาดออกอย่างง่ายดาย “นุ่มดีนะครับ” คำพูดของชายหนุ่มไม่แตกต่างจากการท้าทายอีกฝ่าย เมื่อตรีชาติได้ยินแบบนั้นก็เอ็นหลังพิงพนักอย่างไม่ทุกข์ร้อน “อยากลองดีเหรอเด็กน้อย?” ดิสจำได้ว่าตอนอยู่ร้านกาแฟชายคนนี้ทำเขารู้สึกยังไง นั่นมันยิ่งตื่นเต้นไปใหญ่เมื่อตนเริ่มทำแบบนี้ เขาอยากรู้จริงๆ ว่าหน่วยนี้มีดีอะไรถึงมีชื่อเสียงแบบนั้น? ดิสเพียงต้องการจะรู้และทำให้อีกฝ่ายกดดันเช่นเขาเพียงเท่านั้น แต่พอได้รู้สึกตื่นเต้นแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะใช้ทักษะที่เรียนมาจากยานเกราะ ยังไงตนก็ไม่ได้คิดหนี มันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากกว่านี้อีกแล้ว “ใส่กุญแจใหม่ก็ได้นะครับ ผมไม่หนีไปไหนหรอก” เมื่อตรีชาติได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า ดิสดึงกุญแจอันเก่าออกก่อนจะยื่นมือไปวางบนโต๊ะอีกครั้งอย่างท้าทาย ตรีชาติยิ้มก่อนจะเอื้อมมืออีกข้างไปจับมือเขา ส่วนอีกข้างก็หยิบกุญแจใหม่มาล็อคผูกไว้กับขาโต๊ะ “ฉันมีกุญแจมืออีกเยอะเลยล่ะไอ้หนู” ดิสยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะดึงกุญแจอีกครั้งหวังให้มันขาดออก แต่ทุกอย่างกับผิดคาด พละกำลังที่เขามีหายไปไหนหมด กุญแจมือนั่นไม่ว่าจะโดนดึงขนาดไหนก็อยู่อย่างเก่า ตรีชาติมองผู้ต้องหาหนุ่มยิ้มๆ ดิสเริ่มจะขมวดคิ้ว ไม่ใช่แค่พละกำลัง เขาพยายามเรียกระบบขึ้นมาหลายครั้ง แต่มันก็ยังไม่โผล่มาตรงหน้า ดิสเพ่งสายตาจริงจังไปยังอีกฝ่าย บัดนี้เขากลายเป็นคนธรรมดา ไร้ซึ่งพลังไดๆ ‘ได้ยังไงกัน? ’ เมื่อตรีชาติเห็นแบบนั้นก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวมใส่ “ครั้งแรกใครก็ตกใจแบบนี้แหละ” แม้จะตกใจแต่ดิสก็พยายามทำสีหน้าเรียบนิ่งไว้เพื่อเก็บอาการ ตรีชาติจึงใช้โอกาสนั้นเริ่มทำการสอบสวนทันที “ทำไมส่งหมายเรียกไปแล้วไม่ยอมมา? " ดิสหันไปมองอีกฝ่ายก่อนจะกล่าวตอบ “ พึ่งส่งไปไม่ใช่หรอครับ?” ตรีชาติยักไหล่เมื่อได้ยินคำตอบนั้น ก่อนจะหันมากล่าวเสียงยียวน “พอดีหน่วยเราเขาใจร้อนกัน ฉันถึงมองว่าช้ายังไงล่ะ” ดิสไม่ได้ตอบอะไรต่อ ในหัวเต็มไปด้วยคำถาม สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาตอนนี้มันคือเทคโนโลยีลับหรือพรสวรรค์ของคนในหน่วยกันแน่? ถ้าเป็นพรสวรรค์จริง เขาก็คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนมีพลังสุดโกงแบบนี้ด้วย ระดับมันคงเป็นคลาส S ตรีชาติเดินอ้อมไปทางด้านหลังชายหนุ่ม ก่อนเจ้าหน้าที่หน้าดุจะหยิบซิการ์ออกมาจากเสื้อแล้วคาบไว้ที่ปาก “อยากปิดดันเจี้ยนทำไมไม่ไปสมัครเป็นพรานทมิฬซะก่อน?” ดิสนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำถามนั้น เขาไม่รู้ว่าจะตอบเช่นไร “ผมต้องการทนาย” ตรีชาติเล็กคิ้ว เมื่อกี้ก็กวนโอ้ยเขาไปครั้งหนึ่ง ตอนนี้ยังจะมาหัวหมอใส่อีก 'หมอนี่คงอยากลองดีจริงๆ' ตรีชาติเดาะลิ้นก่อนจะพุ่งเข้ามากดหัวดิสกดกับโต๊ะทันทีด้วยความไม่พอใจ “ฟังนะไอ้หนู ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของแก อย่าลูกไม้กับฉัน ถามอะไรก็ตอบแค่นั้นพอ” ดิสกัดฟันแน่นพยายามดิ้นขัดขืน แต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหวเลย ‘ไอ้เหี้ยนี่มันจะซ้อมผู้ต้องหารึไงวะ!? ’ ตรีชาติกดหัวดิสสุดแรงและยังขึ้นเสียงตะคอกไม่หยุด “คนแบบพวกแกมันน่ารังเกียจ พอมีอำนาจพิเศษแทนที่จะช่วยสังคมกลับนำมาใช้ตามใจชอบ คิดว่าตัวเองมีอำนาจดุจพระเจ้าแล้วจะทำไรก็ได้รึไง ไม่จำเป็นต้อบเคารพกฎหมายรึไงห้ะ!?” “คิดว่ามีพลังบ้าบอนั่นแล้วจะไม่เห็นหัวใครก็ได้หรอ ตอบคำถามดีๆ ก่อนฉันจะเตะตูดแกเข้าตะราง!?” ดิสกำหมัดแน่น เขาอดทนมามากพอแล้ว มันคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่แล้วจะทำอะไรกับคนอื่นก็ได้หรอ? ดิสค่อยๆ ใช้มือยันโต๊ะดันตนเองขึ้นขณะโดนกดหัวสุดแรง “ปกติ… แกอัดผู้ต้องหาตอนสอบสวนตลอดเลยเหรอ?” “เฉพาะคนแบบแก” ดิสใช้โอกาสที่อีกฝ่ายกล่าวตอบหมุนตัวออกมาจากมือ แล้วศอกเข้าเต็มใบหน้าอีกฝ่ายจนผละถอยซิการ์ร่วงลงพื้น พลั่กก! เขาฝึกมาเป็นเดือน ไม่ต้องมีพลังพิเศษเขาก็อัดคนตรงหน้าได้ ดิสใช้โอกาศที่อีกฝ่ายมึนงง ถีบเข้าไปอีกครั้งจนตรีชาติล้มหงายท้อง “อย่าทำแบบนั้นกับฉันอีก!” ดิสกล่าวอย่างฉุนเฉียวก่อนจะเดินเข้าไปเอาเรื่อง แต่ก็ต้องชะงักจากกุญแจมือที่ล็อคไว้กับขาโต๊ะ “ให้ตายสิ!” ดิสสบถด่าออกมาอย่างไม่พอใจ ตรีขาติใช้โอกาสนั้นยันกายลุกขึ้นยืน “นี่แกถีบฉันเหรอไอ้หนู?” เมื่อได้ยินแบบนั้นดิสก็หันไปมอง “จะทำยิ่งกว่านี้อีก ถ้ากล้าทำแบบนั้นกับฉัน” เมื่อตรีชาติได้ยินแบบนั้นก็ฉีกยิ้ม “ดี อย่างงั้นแหละไอ้หนุ่ม!” ตรีชาติพุ่งตรงเข้าไปหาดิสพร้อมกับเหวี่ยงหมัดชก ดิสยกแขนขึ้นมาบังได้ทัน แต่อีกหมัดของตรีชาติก็ยกขึ้นมาซัดเข้าเต็มใบหน้าของดิส พลั่กกก! ดิสหน้าหันตามแรงหมัดจนล้มฟุ้บไปกับโต๊ะ “มีดีแค่นี้เหรอไอ้หนุ่ม!” ตรีชาติว่าพร้อมกับจิกหัวดิสขึ้นมาเตรียมง้างหมัดชกอีกครั้ง ดิสยังมึนๆ อยู่ หมัดของอีกฝ่ายนั้นหนักจริง แต่ดิสก็มีสติพอจะยกมือขึ้นรับหมัดอีกฝ่ายที่ต่อยมาอีกครั้งไว้ได้ แล้วถีบจนอีกฝ่ายผละออก ทั้งคู่จ้องกันอยู่ครู่ก่อนจะพุ่งเข้าหากันอีกครั้ง ดิสปล่อยหมัดชก แต่ตรีชาติก็ก้มตัวหลบพุ่งเข้ารวบตัวดันเขาไปกระแทกกับโต๊ะอย่างแรง ดิสกัดฟันสะกั้นความเจ็บพลางพยายามดันตัวอีกฝ่ายที่กอดตนแน่นออก แต่ด้วยพละกำลังที่เยอะกว่าตรีชาติยกดิสขึ้นก่อนจะเหวี่ยงฟาดลงกับโต๊ะจนมันพัง อั่กก! ดิสนอนกุมท้องตนด้วยอาการจุก เขาอธิบายความเจ็บนี้ไม่ถูกจริงๆ ตรีชาติยกมือขึ้นปาดเช็ดเลือดกำเดาก่อนจะพุ่งเข้าไปเตะดิสที่นอนอยู่ ถึงแม้จะจุกแต่พอโต๊ะพังกุญแจอีกด้านก็หลุดตามมาด้วย ดิสที่เริ่มตั้งสติได้กลิ้งตัวหลบลูกเตะนั้น ก่อนจะหยิบขาโต๊ะมาถือไว้ในมือ ดิสลุกขึ้นยืนพร้อมกับฟาดไปที่ขาของตรีชาติอย่างแรงจนอีกฝ่ายล้มหน้าคว่ำ “เอาเวลาซ้อมผู้ต้องหาไปเลี้ยงลูกซะไป!” ดิสตะคอกก่อนจะเหวี่ยงไม้ฟาดลงไปใส่อีกฝ่ายสุดแรงเกิด ตรีชาติกลิ้งตัวหลบได้ทัน เขาค่อยๆ ลุกยืนขึ้นและถอยออกมารักษาระยะ ทั้งคู่วิ่งปรี่เข้าหากันอีกครั้ง แต่คราวนี้ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกองกำลังทหารที่พุ่งเข้ามาห้ามและหยุดสถานะการนี้ไว้ “ปล่อยฉันนะโว้ย ไอ้หนูนี่มันหาเรื่องฉันก่อน!” ตรีชาติตะคอกสุดเสียงขณะที่มีทหารหลายคนกำลังรั้งเขาไว้ ในขณะที่ดิสนั้นนิ่งเงียบมองอีกฝ่าย ระหว่างนั้นก็มีทหารหลายนายล็อคตรีชาติอยู่เช่นกัน To be continued →
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD