รถซูเปอร์คาร์สีขาวคันประจำของดิสขับไปตามท้องถนน มุ่งตรงสู่ตึกสำนักงานกิลด์เทวะ อย่างรีบเร่ง
นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว เขายังคงติดตามข่าวกลุ่มแมรี่ตลอดว่ามีการเคลื่อนไหวอะไรบ้าง หลังจากวันนั้นที่เกิดเรื่องเขายังไม่เห็นข่าวอะไรเลยเกี่ยวกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย
แต่ก็เอาเถอะ…. การจะถล่มกลุ่มแมรี่คงไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ ขนาดนั้น เขาคงต้องรอบคอบและเป็นแบบเป็นแผนให้มากขึ้น ตอนนี้เขาคงต้องใช้ชีวิตปกติไปก่อน
และในที่สุดเขาก็มาถึง ตึกสำนักงานกิลด์เทวะ สาขา 2
ดิสในชุดสูทสีดำเรียบร้อยเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีเคาน์เตอร์และโต๊ะเก้าอี้มากมายคล้ายสำนักงานทั่วไป
ดิสผงะยืนงงในขณะที่มีคนเข้ามาทักทายไม่หยุด และทุกคนล้วนเป็นคนแปลกหน้า แถมยังมีพวกนักข่าวด้วย
“คุณดิสรู้สึกยังไงบ้างคะกับการได้เป็นคลาส S คนล่าสุดของประเทศไทย แถมยังได้ชื่อว่าเป็นฮีโร่เพราะการบุกของกลุ่มแมรี่”
นักข่าวสาวกล่าวก่อนจะยื่นไมค์มาทางเขา ในขณะที่มีช่างภาพถือกล้องถ่ายอยู่
เหอะๆ นักข่าวพวกนี้ตามตื้อไม่หยุดจริงๆ ก่อนหน้านี้ดิสก็เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้ว ในตอนที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะพรานทมิฬคลาส S แต่พวกนี้ก็ยังมาตามตอแย
แต่ก็ไม่แปลกหรอก…. ตอนนี้เขาเริ่มมีชื่อเสียง ขนาดพ่อแม่ยังโทรมาดุเขาเป็นวันพอรู้ข่าว แต่ก็นั่นแหละ ในเมื่อปล่อยเขามาทางนี้แล้วก็ต้องทำใจหน่อย การห้ามพรานล่าสัตว์ ก็เหมือนกับการห้ามปลาว่ายน้ำนั่นแหละ
ดิสมองก่อนนักข่าวสาว ก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก
“ผมว่าผมให้สัมภาษณ์ไปหมดแล้วนะครับ”
พอดิสว่าจบก็เดินผ่านไป เมินเฉยเหมือนไม่ได้ใส่ใจต่อคนตรงหน้า
เขาตรงไปที่ลิฟท์วันนี้เขาต้องไปรับภารกิจจากแทน ซึ่งเขากำลังต้องการมันอยู่พอดี เพราะเควสประจำวันใหม่เหมือนจะทำไม่ได้ง่ายๆ ในทุกวันตามที่คาด
สาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าการปิดดันเจี้ยนนั้นเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ ยิ่งแรงค์สูงค่าตอบแทนและของข้างในก็จะมีมูลค่ามากตามไปด้วย
ฉะนั้นการจะได้ปิดดันเจี้ยนคลาส A ทุกวันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ดิสยืนอยู่ในลิฟท์รอประตูปิด แต่ขณะที่ประตูค่อยๆ ปิดก็มีมือบางของใครสักคนเอื้อมาจับหยุดมันเอาไว้
ดิสเลิกคิ้วมอง พอหลังจากนั้นประตูก็เปิดออกพร้อมกับปรากฎร่างหญิงสาวตัวเล็กไว้ผมยาวหน้าม้ามองมาทางเขาด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน
เธอชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ด้านในเป็นดิส
“ขะ.. ขอโทษค่ะ” เธอก้มลงลูบกระโปรงนักศึกษาที่สวมใส่ด้วยความประหม่าไม่กล้าสบตาเขา “ขอไปด้วยนะคะ”
ดิสผายมือออกพร้อมกับเขยิบมาด้านข้าง “เชิญครับ”
‘เธอคงจะเห็นว่าเราเป็นคนดังสินะเลยประหม่าแบบนี้’
พอหญิงสาวได้ยินแบบนั้น ก็เดินเข้าไปยืนในลิฟท์กับเขาด้วยท่าทีกล้าๆ กลัวๆ
ดิสมองหญิงสาวและสำรวจเธอด้วยสายตา ‘เธอยังเป็นนักศึกษาอยู่ คงจะอายุไม่ห่างกับเรามากนัก’
ดิสเอื้อมมือไปปิดลิฟท์ ทำทุกอย่างจนเสร็จก็หันมามองหญิงสาวต่อ เขากระแอมเล็กน้อยก่อนจะกล่าวทักทาย
“เป็นพรานทมิฬที่นี่เหรอครับ?”
เธอหน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินชายหนุ่มพูด ก่อนจะเบือนหน้าหนี “ชะ ใช่คะ ชื่อเจน คลาส B ค่ะ”
เมื่อดิสเห็นหญิงสาวยังคงกล้าๆ กลัวๆ อยู่แบบนั้นจึงถอนหายใจออกมา
‘ก็รู้อยู่หรอกว่าเจอคนดัง จะประหม่าก็ไม่แปลก แต่นี่มันเกินไปหน่อยมั้ยเจ๊ แค่พูดเองทักทายเอง’
ดิสคิดว่าไม่ได้การแน่ถ้ายังเป็นแบบนี้ เขายิ้มให้หญิงสาว ชายหนุ่มรู้สึกว่าอีกฝ่ายควรชิลกว่านี้หน่อย ระหว่างรออยู่ในลิฟท์อย่างน้อยก็จะได้ไม่รู้สึกอึดอัดเกินไป
“ทำตัวตามสบายเถอะครับ ครับไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้…”
เธอไม่ตอบอะไรเพียงแค่ชี้มาที่เป้ากางเกงของเขาเท่านั้น
ดิสไม่เข้าใจว่าเธอต้องการสื่ออะไร แต่พอก้มไปมองเท่านั้นแหละ ก็ถึงกับหน้าแห้ง….
ลืมรูดซิบกางเกง
ดิสรีบจัดการก่อนจะผละถอยออกมาจากหญิงสาว ตอนนี้กลายเป็นเขาเองซะแล้วที่ประหม่า
ดิสหัวเราะแห้งออกมาก่อนจะยกมือขึ้นกุมขมับ “ขอโทษครับ แหะ แหะ ผมใม่ใช่โรคจิตนะ ผมทำงานที่นี่เหมือนกัน”
หญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะหันไปมองดิสด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายลง
“ระ รู้ค่ะ ฉันรู้จักคุณ”
‘ปรับอารมณ์เร็วจังวะ…’
ดิสมองภาพตรงหน้าก่อนเริ่มพยายามเก็บอาการอับอาย “คะ ครับ”
‘แม่งเอ้ยกลับมาพูดติดอ่างอีกละ…’
ดิสพยายามจะเปลี่ยนบรรยากาศแต่ตอนนี้ดันรู้สึกอึดอัดซะยิ่งกว่าเก่า
ขณะนั้นเองเสียงลิฟท์ก็ดังขึ้น เขาช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ เขารีบกล่าวลากับหญิงสาวก่อนจะรีบเดินออกจากลิฟท์ไปทันทีหลังประตูเปิด
“ไว้เจอกันนะครับ แหะๆ”
ดิสรีบเดินหนีให้เร็วที่สุดไปที่ห้องของแทน แต่เอ๊ะ… ทำไมเธอถึงเดินตามเขามาล่ะ
ดิสเดินมาหยุดที่หน้าห้องทำงานของหัวหน้ากิลด์เพื่อรับภารกิจแรก แต่เธอกลับมายืนอยู่ข้างหลังเขา
ดิสถอนหายใจกลืนความอับอายก่อนหน้าลงท้อง ก่อนจะหันไปมอง ‘เจน’ หรือหญิงสาวคนนั้น
“คุณก็มาพบเขาเหรอครับ?”
หญิงสาวพยักหน้า เมื่อเห็นท่าทางของดิส เธอก็เลยยังคงความประหม่าอยู่เล็กน้อย
“คะ.. ค่ะ”
ไม่นานนักประตูก็เปิดจากฝีมือเลขาของแทน ดิสและเจนเดินปลดปล่อยบรรยากาศสุดอึดอัดใส่กันพร้อมกับเดินเข้าไป
แทนนั้นนั่งรออยู่ที่โต๊ะ ซึ่งพอเห็นทั้งคู่เดินมาพร้อมกันก็ถึงกับเลิกคิ้วมอง “เอ้า พวกคุณทั้ง 2 คนรู้จักกันแล้วเหรอครับ?”
ดิสที่ได้ยินก็ไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่มานั่งเก้าอี้ตรงข้ามเท่านั้น เจนเองก็นั่งที่เก้าอี้อีกตัวเช่นกัน
ดิสไม่คิดจะอยู่ที่นี่นานหรอก เขารีบตรงเข้าประเด็นทันที “ไหนภารกิจที่ผมได้จะ?”
แทนยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากก่อนจะวางเอกสารแผ่น 1 ลงบนโต๊ะ
“นี่ครับ… เซ็นด้วย”
ดิสมองกระดาษแผ่นนั้นก่อนจะเริ่มอ่านข้อมูล มันคือดันเจี้ยน แรงค์ A ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี
‘อุดร? ’
ใช่เขาอ่านไม่ผิด จังหวัดอุดรธานี ดิสเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะกล่าวถามไปอย่างไม่เข้าใจ
“ผมนึกว่าเราจะปิดแค่ดันเจี้ยนในกรุงเทพซะอีก?”
แทนส่ายหน้าก่อนจะกล่าวตอบ “สำนักงานพรานทมิฬจำเป็นต้องแจกจ่ายภารกิจให้กับหลายกิลด์ครับ ทุกอย่างมันคือธุระกิจ เพราะแบบนั้นต่อให้มันอยู่ที่ขอบชายแดนแต่ว่าเป็นประเทศไทย เราก็ต้องไปครับ งานแบบนี้การแข่งขันมันสูง”
ดิสพยักหน้าไม่ได้ขัดอะไร เขาถือว่าได้ไปเที่ยวพักผ่อนแล้วกัน หลังจากตื่นมาเขายังไม่ได้หยุดพักเลย
ดิสเริ่มเซ็นชื่อตน ก่อนจะยิ้มให้แทน ‘รอก่อนไอ้หล่อ สักวันเดี๋ยวพ่อจะเอาคืนแบบทบต้นทบดอกแน่’
เขายังไม่ลืมความแค้นที่ฝังใจ เขาเพียงแค่รอเวลา เขามีแผนที่จะออกจากกิลด์เทวะก่อนหมดสัญญาโดยไม่โดนฟ้องแล้วด้วยในตอนนี้
การที่เขาจะไปจัดการกับแมรี่นั้น ตัวคนเดียวมันจะง่ายกว่า แถมเขายังไม่ค่อยจะชอบหัวหน้ากิลด์สักเท่าไหร่
พอดิสเซ็นเสร็จ แทนก็ยื่นปากปาแีกอันไปทางเจน นั่นทำดิสเลิกคิ้ว
เจนนั้นเซ็นบนเอกสารใบเดียวกับเขา
‘เดี๋ยวนะ… ชักเริ่มแปลกๆ ละ’
ด้วยความสงสัยดิสจึงเอ่ยถามแทน “ผมไม่เข้าใจ”
แทนหันไปทางดิสในขณะที่เจนเริ่มเซ็นชื่อตัวเองลงบนแผ่นกระดาษ
“ผมลืมบอกไปเลย เธอจะไปที่อุดรกับคุณด้วยนะ”
“คุณหมายความว่าไง?”
“หลังจากนี้เธอจะเป็นผู้ช่วยให้กับคุณ”
ดิสเลิกขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น “ผมนึกว่าผมจะได้ไปคนเดียวซะอีก”
แทนยิ้มที่มุมปากเล็กๆ “คลาส S แบบพวกเราก็ต้องมีผู้ช่วยสิถึงจะแสดงถึงความยิ่งใหญ่ได้ ไม่ต้องเกร็งใจหรอกครับ ใช้งานเธอให้เต็มที่ดีกว่าจะได้คุ้มเงินเดือน เธอเสนอตัวรับหน้าที่นี้เองด้วย”
ดิสถอนหายใจ ในขณะที่เจนหันมายิ้มอย่างเป็นมิตรให้เขา ทำเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่แทนพูด ดูเหมือนเธอจะเริ่มหายประหม่าบ้างแล้ว
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะหัวหน้า”
ดิสถอนหายใจ นี่แทนมันคิดจะแพร่เชื่อความโอเวอร์หลงตัวเองให้เขาหรือไง แต่ที่สำคัญ….
‘อึดอัดโว้ย….’
To be continued →