ฉันขอร้อง

1777 Words
ดิสย่างเท้าออกมาจากศาลพร้อมกับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างราชาวดี มิกส์ และแทน นักข่าวเตรียมรอสัมภาษณ์พวกเขาในขณะที่ประชาชนมุงดู ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้ว ด้วยคำให้การที่เตรียมมา เขารอดพ้นจากการติดคุก แต่ยังต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ส่วนกิลด์เทวะก็ต้องจ่ายค่าปรับด้วยเงินมหาศาลเช่นกัน นักข่าวนั้นไม่ได้ต้องการเพียงสัมภาษณ์เรื่องคดีที่เพิ่งจบไป แต่ต้องการจะรู้ด้วยว่าเขาเกี่ยวข้องยังไงกับกลุ่มแมรี่ อันเนื่องมาจากคลิปเมื่อวาน ไม่ใช่แค่นักข่าว… แม้แต่ราชาวดี มิกส์ หรือแทนก็เช่นกัน มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายระดับโลกมาที่ประเทศไทยแบบนี้ แต่ทุกคนก็รู้ว่าไม่เหมาะที่จะคุยตอนนี้ พอเสร็จสิ้นจากอะไรทั้งหมด ดิสก็เดินตรงมาที่โรงรถคนเดียว ทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว ดิสเองก็กำลังจะกลับบ้านเช่นกัน พรุ่งนี้ต้องไปลงทะเบียนและวัดระดับพรานทมิฬ ช่วงนี้ค่อนข้างจะยุ่ง แถมยังต้องมาคิดเรื่องแมรี่กับเควสบ้านั่นอีก ดิสเปิดประตูรถซูเปอร์คาร์สีขาวคันใหม่ด้วยรีโมตกุญแจในมือ เขายิ้มเล็กน้อย ภายใต้เรื่องร้ายๆ ก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่ในนั้น พ่อแม่เป็นห่วงเขาจากข่าวเมื่อคืน จึงรับขวัญโดยการซื้อรถคันใหม่ให้ แถมยังแรงและแพงกว่าเก่า ดิสล่ะอยากจะกราบแทบเท้าพวกท่านสุดหัวใจ “เห้ย!” เสียงแข็งทื่อดังขึ้นไม่ห่างจากเขานัก เมื่อดิสหันดูก็พบกับตรีชาติที่วิ่งปรี่เข้ามาหา ดิสเลิกคิ้วสูง คดีก็จบไปแล้วยังจะมีอะไรอีก ตรีชาติหยุดตรงหน้าก่อนจะคว้ากระชากคอเสื้อดิส แล้วจ้องมาตาเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ไอ้ชินมาหามึงทำไม!?” เสียงตะคอกนั้นดังจนดิสต้องยกมือขึ้นมาเขี่ยหูตัวเองเบาๆ ‘ไอ้เจ้าหน้าที่นี่เป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย? ’ ดิสคิดในใจก่อนจะแกะมือตรีชาติออก “ชินไหนไม่รู้จักโว้ย” ดิสว่าก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปในรถ เขาควรจะออกไปจากสถานการณ์นี้ เพราะถ้าอยู่ต่อ มันเหมือนมีลางไม่ดีว่าจะเกิดเรื่องร้ายต่อ แต่ในขณะนั้นตรีชาติก็ดึงแขนดิสออกมายืนข้างๆ รถอีกครั้ง เขาอึ้งเล็กน้อย พละกำลังขนาดเขาทำไมถึงโดนดึงออกมาง่ายดาย แต่พอสังเกตก็เห็นวงเวทย์สีดำที่ปรากฎอยู่ในดวงตาของชายตรงหน้า เขาสะบัดมือออก ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว สาเหตุที่เขาไร้พลังตั้งแต่ตอนอยู่ในห้องสอบปากคำนั่น เป็นเพราะพรสวรรค์ของเจ้าหน้าที่นายนี้ ดิสเดาะลิ้นเล็กน้อยเมื่อสรุปความคิดได้ เขาอึ้งไม่น้อย เขาเดาถูก ถ้าไม่ใช่เพราะเทคโนโลยีไฮเทคก็เป็นเพราะพรสวรรค์คนในหน่วย ตรีชาติไม่รอช้า เขาเข้าประเด็นต่อทันที “ไอ้ชินมาหามึงทำไม? กูจะไปหาตัวมันได้ที่ไหน?” ดิสส่ายหน้าอ่อนเมื่อได้ยินแบบนั้น “ก็บอกแล้วไง ชินไหน ผมไม่รู้จั—” เมื่อกำลังจะพูดต่อดิสกก็ฉุกคิดขึ้นได้ ชินคือชื่อของไอ้คนจากกลุ่มแมรี่หนิ เขาไม่ได้สนใจมันมากนักจึงไม่ได้ตั้งใจจำชื่อนั้น เมื่อนึกออกดิสก็กำลังจะอ้าปากกล่าวตอบใหม่อีกครั้ง แต่พอเห็นท่าทางของเจ้าหน้าที่ตรีชาติเขาก็รู้สึกแปลกๆ มือสั่น ขาสั่น ดวงตานั้นมีเส้นเลือดฝอยแดงก่ำราวกับปีศาจร้าย ดิสหรี่ตามองตรีชาติก่อนจะกล่าวถาม “นี่คุณเป็นอะไรรึเปล่า?” ตรีชาติจ้องมายังดิส ความสามารถในการสอบสวนหายไปสิ้น สติสัมปชัญญะนั้นไม่ครบถ้วน เขาถามอยู่สองสามคำถามวนไปมาเท่านั้น ดิสเพิ่งจะได้กลิ่นเหล้า ไอ้เจ้าหน้าที่ตรงหน้ามันเมานี่หว่า! “ไอ้ชินมาหามึงทำไม? แล้วทำยังไงกูถึงจะได้เจอมัน?!” ว่าจบแววตาของเจ้าหน้าที่วัยสามสิบกว่าก็เปลี่ยนไป มันมีน้ำตาคลอเล็กน้อย นั่นทำดิสไม่เข้าใจเป็นที่สุดว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ‘เจ้าหน้าที่คนนี้เกี่ยวข้องยังไงกับชินและกลุ่มแมรี่? ’ ดิสเอื้อมมือแตะไหล่อีกฝ่าย ถึงจะไม่ชอบขี้หน้า แต่ถ้าเจอแบบนี้ มันก็น่าสงสารไม่เบาเหมือนกัน ถึงเขาจะไม่รู้สาเหตุอะไร… “ใจเย็นๆ ผมจะตอบคำถามคุณ แต่คุณต้องใจเย็นก่อน ต้องมีสติ เราถึงจะคุยกันรู้เรื่อง โอเคมั้ย?” ตรีชาติที่ได้ยินแบบนั้นก็ก้มหน้าลง เขามีทีท่าว่าจะเริ่มสงบ ดิสถอนหายใจเบาๆ พลางลูบที่ไหล่เพื่อปลอบชายหน้าดุคนนี้ อย่างน้อยอีกฝ่ายจะไม่อาละวาดต่อจนสร้างเรื่องสร้างราวอีก “เยี่ยม… อย่างงั้นแหละพวก” ‘ดูเหมือนครั้งนี้จะคุยง่ายกว่าครั้งก่อนแฮะ’ แต่ขณะที่ดิสกำลังเบาใจ ตรีชาติก็เงยหน้าขึ้นมาปัดมือดิสออก แล้วปล่อยหมัดชกเข้าที่ใบหน้าดิสอย่างจังจนผละถอย “เชี้ยอะไรวะเนี่ย!?” ดิสกุมปากที่แตกของตัวเอง ก่อนจะหันไปมองทางอีกฝ่าย “กำลังจะคุยกันรู้เรื่องอยู่แล้ว ทำไมถึงต่อยกันวะเห้ย!” ตรีชาติปรี่เข้ามาหาพร้อมกับง้างหมัดอีกครั้ง “ไอ้ชินอยู่ไหน!?” ดิสหลบหมัดนั้น ก่อนชกสวนเข้าที่ปลายคางของอีกฝ่ายอย่างแรง จนล้มลงโดนประตูรถสีถลอกหมดสติไปในทันที ดิสยกมือขึ้นกุมขมับอีกครั้ง “รถกูอีกแล้ว!” 1 ชั่วโมงถัดมา… ตรีชาติค่อยๆ ลืมตาตื่น อาการเมาสุราเริ่มจะค่อยๆ เลือนหายไป เหมือนเขาพอจะสร่างขึ้นมาบ้างแล้ว ตรีชาติยันตัวเองขึ้นนั่งก่อนจะพบกับดิสที่นั่งยองๆ มองเขาอยู่ที่ปลายเท้า “ตื่นสักที นั่งรอเป็นชั่วโมง” เมื่อได้ยินดิสบ่นพึมพำ ตรีชาติก็ยกมือขึ้นลูบคางตัวเองเบาๆ เหมือนเขาจะยังปวดๆ คาง อยู่นิดหน่อย ตรีชาติจำทุกก่อนหน้าได้ สิ่งที่เขาทำตอนมึนเมามันค่อนข้างจะน่าขายหน้าเลยทีเดียว เขาคลานไปนอนพิงล้อรถของดิส แต่เจ้าของที่ได้เห็นแบบนั้นก็ยกมือปรามหน้าตาตื่นทันที “ออกมาให้ห่างจากรถเลยนะไอ้เวร!” ตรีชาติสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ฟังหรือปฏิบัติตามแต่อย่างใด เขายังคงพิงรถต่ออยู่ดี ถึงแม้เจ้าของจะไม่อนุญาต ดิสยกมือขึ้นนวดขมับเมื่อเห็นแบบนั้น ‘ไอ้หน้าดุนี่กวนโอ้ยชิบหายเลย’ เจ้าหน้าที่ตรีชาติที่เริ่มมีสติหยิบซิการ์ขึ้นมาคาบไว้ก่อนจะหันมามองดิส “ฉันรู้นะไอ้หนู ว่าที่แกพูดในชั้นศาลเป็นเรื่องโกหก… แกไม่ได้เป็นคนของกิลด์เทวะ” คำพูดนั้นทำดิสชะงักเล็กน้อย คนตรงหน้านี่มันยังไง ตอนเมาก็หาเรื่อง สร่างแล้วก็ยังมาจี้ความจริงใส่เขา แถมยังเปลี่ยนเรื่องกะทันหันจนเขาปรับตัวตามไม่ทันอีกต่างหาก ดิสลุกขึ้นยืนแล้วกอดอก “แล้วยังไง คุณจะจับผมเหรอ?” ตรีชาติส่ายหน้าเป็นคำตอบ “ไม่ ฉันจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องนี้… ถ้า” ชายวัยสามสิบว่าก่อนจะยันกายลุกขึ้นยืนเช่นกัน “ถ้าแกช่วยฉันลากคอไอ้ชินมาเข้าตาราง” ดิสหรี่ตามองชายตรงหน้า เขาสงสัยเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว “คุณมีเรื่องอะไรกับคนชื่อชิน?” ตรีชาตินิ่งเงียบไปครู่นึง ก่อนจะหยิบซิการ์ออกจากปากแล้วหันมาตอบเขา “แกไม่ต้องรู้หรอกไอ้หนู” เมื่อดิสได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะแห้ง “บุกมาถามหาชินด้วยการต่อยหน้า แถมยังขู่เรื่องศาล นี่ถามจริง คุณคิดว่าผมจะช่วยมั้ย?” เมื่อตรีชาติได้ยินแบบนั้นก็จ้องเขม็งมายังดิส “ถ้าแกไม่ช่วยฉันจะรื้อฟื้นคดีนี้อีกครั้ง และยัดแกเข้าตารางให้ได้” ดิสถอนหายใจก่อนจะหันหลังเตรียมขึ้นรถ “คุณทำไม่ได้หรอกเพราะไม่มีหลักฐาน คดีนี้มันจบไปแล้ว” ตรีชาติที่เห็นแบบนั้นก็ควักมือถือขึ้นมา ตั้งแต่ตอนที่เขาลุกขึ้นนั่งพิงรถ เขาได้แอบอัดเสียงเอาไว้ เสียงบทสนาก่อนหน้าถูกเปิดให้ดิสฟัง นั่นถึงขั้นทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งแล้วหันกลับมามอง “ทีนี้ก็มีหลักฐานแล้ว แกนี่มันเด็กน้อยจริงๆ” ตรีชาติยิ้มเมื่อรู้สึกได้ว่าตนนั้นอยู่เหนือกว่า แต่ก็ต้องหุบยิ้มนั้นลงเมื่อดิสก็ยิ้มอยู่เช่นกัน ชายหนุ่มพุ่งไปคว้ามือถืออย่างรวดเร็ว ก่อนกลับมายืนอยู่ที่เก่า “ทีนี้ก็ไม่มีแล้ว” ดิสว่าก่อนจะบีบมือถือนั้นจนแตกละเอียดคามือตน ตรีชาติกัดฟันแน่นกรอดด้วยความโมโห ดิสยิ้มเยาะเมื่อเห็นแบบนั้น เขาไม่มีความคิดจะช่วยเหลืองานราชการหรอก ดิสเดินเข้าไปนั่งในรถก่อนจะปิดประตู ถึงจะมีเควสรางวัลพพันแต้ม แต่มันก็เสี่ยงเกินไปในการยุ่งกับกลุ่มแมรี่ ยิ่งการที่ไปช่วยเจ้าหน้าที่ จับ 1 ในสมาชิกยิ่งเสี่ยงกันไปใหญ่ แต่การที่เห็นตรีชาติเมาจนร้องไห้แบบนั้น ก็ทำสงสัยอยู่ว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร แต่เขาไม่ได้สนใจขนาดนั้น ถึงยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขา ดิสเริ่มสตาร์ทรถ จะออกไปจากที่นี่ หนีจากเรื่องวุ่นวายแล้วกลับไปนอน แต่ในขณะนั้นตรีชาติก็มายืนขวางหน้ารถไว้ ดิสเลิกคิ้วสูงมองภาพตรงหน้า ตรีชาติทุบลงไปอย่างแรงที่กระโปรงรถของดิส นั่นทำเขาถึงขั้นต้องอ้าปากค้าง “เป็นเชี้ยไรกับรถกูกันวะ!?” ดิสสบถด่าสารพัดคำหยาบก่อนยกมือขึ้นกุมขมับ เขาสงสารรถตนจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว แต่เมื่อสังเกตเขาก็ค่อยๆ มีสติ ตรีชาติร้องไห้น้ำตานองหน้า เหมือนมันจะมากกว่าที่เขาคิด นี่มันยิ่งกว่าตอนเมาซะอีก “มัน… ฆ่า..เมียและลูกกู ได้โปรดช่วยกูทีเถอะ แค่บอกมาว่าจะไปหามันได้ที่ไหนเฉยๆ ก็ได้” เมื่อสิ้นคำพูด สิ่งที่ดิสได้ยินมีเพียงเสียงสะอื้นเท่านั้น ดิสนิ่งค้างกับสิ่งที่ตรีชาติกล่าว จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ดับเครื่อง To be continued →
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD