ญารินอ้าปากค้าง เธอคิดว่าอีกฝ่ายต้องถีบเธอลงจากรถแต่ผิดคาด เขากลับปล่อยเธอโดยที่ไม่ทำอะไรไปมากกว่าใช้สายตาข่มขู่ และเหมือนเธอจะลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านั้นว่าโดนอะไร
“นี่ จอดรถเดี๋ยวนี้…หากคุณไม่ตอบฉันจะเปิดประตูและกระโดดลงไปเดี๋ยวนี้” เธอพูดจริงพร้อมกับหันไปมองประตูรถ ตาจ้องมองไปด้านนอก
…ความเร็วทำให้เธอใจสั่น แต่กัดฟันข่มความกลัว
“กระโดดลงไปได้ก็เอาสิ” เสียงทุ้มเอ่ยหน้านิ่งท้ากลับ
ญารินหน้าจืดเจื่อน กลืนน้ำลายลงคอ มองกลับตาขวาง หืดลมหายใจเข้าปอด …ตายเป็นตายเธอจะกำหนดเองตรงนี้! ด้วยความตั้งมั่น หากเจอเรื่องร้ายเธอก็พร้อมสู้หัวชนฝา
“ได้!คุณปลดล็อคสิ” เธอสั่งแล้วขยับกลับมาที่ประตูด้านหลัง นิ้วมือเรียวที่ยังขยับใช้การได้ก็จับหมับไปที่ประตูแล้วดึงออกอย่างแรง แต่มันยังถูกล็อคไว้เหมือนเดิม เธอเขย่าจนตัวโยนก็ยังไม่ขยับ จึงสาดสายตามองไปยังคนขับที่ทำหน้าที่เหมือนทองไม่รู้ร้อนด้วยความเร็วคงที่
“นี่คุณ! ยังล็อคไว้ทำไม ปลดสิ!” เธอกัดฟันถามและสั่งสายตาขุ่นข้นพร้อมกับกระแทกร่างบางไปยังประตูซ้ำ ๆ หลายครั้ง จนปวดไปตามสีข้างและแผ่นหลังด้วยความบ้าคลั่ง ลืมกลัวลืมเจ็บ
มุมปากยักกระตุกเพียงนิด ญารินกัดริมฝีปากจนห่อเลือดจ้องมองใบหน้าคมสันที่มีเคราขึ้นรกจนหาใบหน้าที่แท้จริงไม่เจอ แม้จะมองไม่ถนัดนักเพราะผมยาวปิดบังด้านข้าง แต่เธอก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้มร้ายอยู่
“เก็บแรงไว้ทำงานที่รักเถอะ” เสียงทุ้มเอ่ยโดยไม่แสดงสีหน้า หากแต่คำว่า ‘ที่รัก’ ทำให้คนฟังขนลุกกราว
ญารินจิกสายตากร้าวมองเขม่น หงุดหงิดและหมดแรงทรุดตัวลงนั่งอย่างสิ้นหวัง ในใจครุ่นคิด หากทำร้ายอีกฝ่ายได้เธอทำไปแล้ว ตอนนี้ได้แต่เก็บความอาฆาตไว้ในใจ
“แน่จริงก็เปิดให้ลงสิ”
“เปิดไป เดี๋ยวก็เดือดร้อนผมอีก” คำพูดที่มาพร้อมสีหน้าเรียบนิ่ง หากแต่คนฟังหน้าชา
“หากกลัวเดือดร้อนก็จอดรถให้ลงเดี๋ยวนี้” เธอสั่งพร้อมกับใช้มือที่ยังมีแรงพอเหลืออยู่เคาะไปที่ประตูรถอย่างแรง อยากเอาชื่อพ่อมาอ้าง แต่คิดว่าหากเป็นศัตรูของพ่อเธอจริง ๆ คนพวกนี้คงไม่ปล่อยให้เธอได้มาแผงฤทธิ์ใส่แน่
…แล้วคนคนนี้เป็นใคร?
“จอดแน่ แต่มันยังไม่ถึง” สีหน้ายังเรียบเฉยตอบกลับ
คำตอบที่ได้ทำเอาญารินหน้าถอดสี “ตกลงคุณจะพาฉันไปไหนกันแน่”
“เดี๋ยวก็รู้”
“ได้งั้นฉันจะกลั้นใจนั่งรถไปกับคุณ แต่ช่วยตอบคำถามมาว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วลุงแทนไปไหน แล้วฉันมาอยู่ที่นี่กับคุณได้ยังไง”
“จะเอาคำถามไหนก่อนดี”
“เอาหมดทุกคำถามนั่นแหละ ตอบมา ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่นั่งอยู่เฉยแน่” เธอไม่ได้ขู่หากอีกฝ่ายไม่ตอบให้เคลียร์เธอจะทำตามที่พูดอย่างแน่นอน
“เอาให้ถึงที่หมายก่อนเหอะ เดี๋ยวผมจะบอกทุกอย่างเอง” เจ้าของรถหน้านิ่งเอ่ยตอบ
“ไม่ ฉันอยากรู้คำตอบตอนนี้!”
“ดื้อ…”
ญารินจิกตามองด้วยสายตาอาฆาต คนที่ว่าเธอ ‘ดื้อ’ ได้เพียงคนเดียวคือลุงแทนเท่านั้น!
“ฉันไม่ได้ดื้อ แต่ฉันห่วง สวัสดิภาพของตัวเอง ฉันไม่ได้รู้จักคุณ แล้วจะให้ฉันทนนั่งรถคันเดียวกับคุณได้ยังไง แล้วนี่…” เธอยกข้อมือที่ผูกมัดรวบเข้าด้วยกันแล้วมองอย่างสิ้นหวัง
อาการของคนด้านหลัง ถูกมองด้วยกระจกหลัง “หากผมคิดร้ายกับคุณ คุณคงไม่ได้มานั่งบ่นอยู่บนรถคันนี้หรอก อดทนรอคอยอีกนิด ถึงที่หมายแล้วผมจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง” น้ำเสียงและสายตาที่มองมาสบกันดูจริงจังขึ้น
กระนั้นญารินก็ยังหวาดหวั่น “ฉันแค่อยากรู้ว่าลุงแทนไปไหน แล้วแก้มัดให้ได้หรือเปล่า”
“ไม่แก้ แล้วก็รอจนกว่าจะถึงที่หมาย”
“ทำไม”
“ผมไม่อยากเหนื่อยเพิ่ม”
“หากเหนื่อย ก็ปล่อยให้ฉันลงสิ” น้ำเสียงสิ้นหวังเอ่ยบอก
ตาคมเข้มเหลือบมองเพียงนิด “ใจร่มๆ แค่รู้ไว้ว่าตอนนี้ลุงแทนเขาเต็มใจให้คุณมาอยู่กับผมตรงนี้ก็พอ แล้วระวังแผลที่หัวด้วย” เขาย้ำไปทางสายตาในกระจก ซึ่งแผลที่ว่าถูกปิดไว้ด้วยผ้าก๊อซอย่างดี
คิ้วเรียวกระตุก แต่แผลบนตัวไม่สำคัญเท่ากับความเป็นเป็นห่วงคนสนิท “หมายความว่าไง คุณรู้จักลุงแทนเหรอ…”
แม้ร่างกายอ่อนล้า แต่ม่านตาเกิดประกายวาวขึ้น อย่างคนมีความหวัง เธอมองคนแปลกหน้ารอคอยคำตอบ
เขาไม่ตอบหรือปฏิเสธ แต่ยังคงทำหน้าที่ขับรถไปอย่างคนใจเย็น
“คุณไม่ตอบแบบนี้แล้วจะให้ฉันใจเย็น โดยไม่รู้ว่าลุงแทนเป็นตายร้ายดียังไง…” น้ำเสียงหวานแผ่วลง สีหน้าเจ็บปวด “ลุงแทนสัญญาไว้ว่าจะอยู่กับฉันดูแลฉัน แล้วนี่มันคืออะไร ฉันอยู่บนรถกับใครก็ไม่รู้”
“คุณคิดว่าสภาพที่คุณเจอเมื่อคืน ลุงแทนจะไปไหนได้…” นัยน์ตาที่เคยไร้ความรู้สึกอ่อนแสงลงเพียงนิด และถูกกลบไว้โดยไว
ญารินนั่งนิ่งอย่างหมดแรง ใบหน้าหวานขาวซีดเซียวไร้สีเลือดฝาด เธอจำได้เมื่อคืนบนถนนมีบางอย่างวางขวางทางอยู่ ทำให้เธอกับลุงแทนที่กำลังคุยกันอยู่ผันไปเห็นอย่างจวนตัว ซึ่งการหักหลบอย่างกะทันหัน ทำให้รถเสียหลักลงข้างทาง โชคดีที่เธอคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ตั้งแต่เริ่มแรก หากแต่ลุงแทนซึ่งตอนนั้นคงไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์เลวร้ายจึงไม่ได้คาดเข็มขัด และเมื่อรถเสียหลักสติที่เคยมีก็ดับวูบไป จนกระทั้งตื่นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองอยู่กับใครอีกคนและเป็นรถอีกคันที่ไม่ใช่รถประจำตัวของเธอ