บทที่5.นกปีกหัก.........

1527 Words
“พี่รู้” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น เขายิ้มเศร้าๆ ให้น้องสาว ‘ความรัก’ มันบังคับไม่ได้ บทมันจะมา มันก็มาเอง เกิดขึ้นเอง และคงจางหายไปตามกาลเวลา...          “แพงบริจาคไตให้พ่อ...หลังจากผ่าตัด...แพงจะไม่เหมือนเดิม...ฝากพ่อด้วยนะพี่นาย”          หญิงสาวตัดสินใจบอกเรื่องสำคัญ พะนายผงะ!! เขามองน้องสาวตาโปน ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างพะแพงจะใจเด็ดและเข้มแข็งได้ขนาดนี้          “แพง...ให้พี่ทำแทนได้ไหม?”          พะนายแย้ง...เสียงเขาสั่นเครือ เมื่อความรู้สึกรันทดจุกแน่นที่หว่างอก          “อย่าเลยพี่นาย...มันจะเสียเวลา...แพงตัดสินใจแล้ว...อีกอย่าง...พ่อรอเวลาไม่ได้ค่ะ”          บิดาอยู่ในช่วงความเป็น ความตาย...สิ่งเดียวที่พะแพงควรทำคือยื้อลมหายใจของท่านไว้          “พี่คงแย่ในสายตาแพงกับพ่อ ก่อความลำบากให้...ต่อไปนี้พี่สัญญา พี่จะทำให้ทุกคนสบายให้ได้”          คำดูแคลน แววตาหยามหยัน...พะนายให้ปฏิญาณกับตัวเอง เขาจะก้าวผ่านจุดนั้นให้ได้...และจะสร้างตัวลบคำสบประมาท...ทำให้บิดากับน้องสุขสบายด้วยสองมือตัวเอง          “ไม่เลย...สำหรับแพง พี่นายคือผู้ชายที่ดีที่สุดรองจากพ่อที่แพงเคยเจอ”          หญิงสาวยิ้มพร้อมน้ำตา เธอไม่ได้พูดปด เมื่อพะนายแทบจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่หญิงสามารถฟันธงว่าเขาเป็นคนดี และ ‘ผู้หญิง’ คนนั้นก็คงเห็นข้อดีตรงจุดนี้ของพี่ชาย หล่อนจึงยอมแหกกฎเหล็กของตัวเอง ยอมไปลำบากกับพะนาย ทั้งที่เคยสบายมาตั้งแต่เกิด          “สักวันแพง สักวันเราจะมี เหมือนที่คนอื่นมี!!”          พะนายกล่าวย้ำ!! แววตาของพะนายโชนแสง...ความรันทดท้อที่เกาะกุมหัวใจกลายเป็นแค่ผงธุลี เมื่อยังมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ารอให้ชายหนุ่มฝ่าฟัน          แกร็ก...          พยาบาลวัยกลางคนดันประตูห้อง ICU ให้เปิดอ้า เมื่อถึงเวลาเยี่ยมไข้ และให้ผู้ป่วยได้พบเจอญาติๆ          “ไปพี่นาย...ถึงเวลาแล้ว ไม่รู้พ่อฟื้นหรือยัง...”          หญิงสาวผุดลุกขึ้นยืน เธอเอ่ยชวนพี่ชายด้วยความกระตือรือร้น สองหนุ่มสาว เดินเร็วๆ ตามกลุ่มคน ที่ดาหน้าเข้าไปในห้องนั้น เหมือนกับเธอกับพี่ชาย ทุกคนมีความหวัง แม้ร่องรอยความกังวลจะค้างคาอยู่บนใบหน้า          ภาพที่พะนายกับพะแพงมองเห็นพร้อมกัน คือรอยยิ้มเซียวๆ ของบิดา คล้ายมองบุตรทั้งสองคนด้วยความรักสุดหัวใจ          “พ่อจ๋า พ่อฟื้นแล้ว!!”          พะแพงน้ำตาแตก หล่อนถลาเข้าไปยืนใกล้ๆ เอื้อมมือจับมือผอมบางนั่นไว้          ชายสูงวัยพยายามยิ้ม ท่านมองใบหน้าบุตรชายนิ่งๆ เมื่อคราบเลือดที่พะนายพยายามเช็ดล้าง ถึงออกไปจนหมดแต่ก็ยังเหลือรอยแผลทิ้งไว้          “นาย เป็น อะไร ลูก...มี แต่ แผล เต็ม ไปหมด!!”          คล้ายพยายามพูดช้าๆ ดวงตาจับจ้องใบหน้าบุตรชาย          พะนายยิ้มอ่อนๆ “รถล้มนะพ่อ นายรีบซิ่งมาหาพ่อก็เลยเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย” ข้อแก้ตัวของพะนายพอฟังขึ้น...คล้ายจึงรู้สึกโล่งใจ          “พ่อหิวมั้ยเดี๋ยวแพงวิ่งออกไปซื้อโจ๊กหน้าโรงพยาบาลมาให้พ่อกิน จะได้มีแรง...” หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่องพูด พะแพงไม่อยากให้บิดาไม่สบายใจ          “พ่อกินแล้ว ก่อนที่แพงกับนายจะเข้ามา พยาบาลเขาป้อนข้าว ป้อนยาเรียบร้อย...ว่าแต่พ่อจะกลับบ้านได้เมื่อไรล่ะลูก?”          คล้ายถามหาวันกลับ เขารู้เดี๋ยวนี้ค่ารักษาพยาบาลมันแพง หากอยู่นานรั้งแต่จะเป็นภาระของลูกๆ          “ต้องรอถามหมอจ้ะพ่อ...แพงว่า พ่ออยู่แบบนี้ก็ดี...ให้หายก่อนค่อยกลับบ้านเรา”          ก้อนสะอื้นตีตื้นมาจุกอยู่ที่อก...พะแพงอยากร้องไห้ ถึงบิดาจะฟื้นแล้วแต่ก็ยังไม่พ้นวิกฤติ สายระโยงระยางนั้นยังคงค้างอยู่บนแขนและตามตัวของคล้าย          “อยู่นานๆ มันเปลืองสตางค์สิลูก พ่อกลับไปนอนที่บ้านดีกว่า เสียแค่ค่ายา ไม่ต้องเสียค่าหมอ”          “แพงมีจ้ะพ่อ ไม่ต้องกังวล เงินเดือนพี่นายกับเงินที่แพงขายของ มีพอจ่ายค่ารักษาพ่อจ้ะ”          เสียงพะแพงคุยจ้อยๆ โดยที่พะนายได้แต่ยืนฟัง มือสีคร้ามแดดของชายหนุ่ม กุมขาผอมบางของคล้าย พร้อมกับลูบไปมาเบาๆ          “หยุดงานมาเหรอนาย...จะกลับเมื่อไรล่ะ”          คล้ายหันมาถามบุตรชาย ท่านไม่ได้เจอหน้าพะนายร่วมเดือน          “คงไม่แล้วจ้ะพ่อ นายว่าจะหางานทำแถวนี้ เป็นห่วงพ่อ ห่วงแพงด้วย” ต่อให้กลับไป ภาคินก็คงไม่อ้าแขนรับ ตอนนี้ก็เท่ากับว่าเขาถูกให้ออกจากงาน...เพราะการกระทำของตัวเอง...          “ก็ดีนะ จะได้อยู่พร้อมหน้ากัน...” คล้ายคลี่ยิ้ม ไม่มีความสุขใดเท่าการได้เห็นบุตรเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคม          “พ่ออยากได้อะไรอีกไหมจ้ะ? ICU เขาไม่ให้เฝ้า เปิดให้เข้าเป็นเวลา...ตอนค่ำแพงจะได้หิ้วมาฝาก”          พะแพงถามคล้าย...เมื่อคนมาเยี่ยมไข้เริ่มทยอยเดินออก เพราะใกล้จะหมดเวลาที่หมออนุญาตให้ญาติคนป่วยได้เข้ามาดูอาการคนไข้ คนในครอบครัวของเขาที่ล้มป่วยลง...          “ไม่ต้องหรอก เย็นๆ แพงต้องขายของนี่ลูก ให้นายมันมาคนเดียวก็ได้ หยุดขายของมันก็ทำให้เราไม่มีรายได้นะ”          คล้ายพยายามทำตัวให้เข้มแข็ง เขาไม่อยากให้บุตรสาวเป็นกังวล แม้จะรู้สึกว่าอาการป่วยครั้งนี้ หนักกว่าทุกทีที่เคยเป็นมา          พะแพงกับพะนายอยู่กับคล้ายจนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้าย และหากพยาบาลไม่มองมาดุๆ สองพี่น้องคงไม่ยอมถอย คล้ายยิ้มส่งบุตรทั้งสองคน ชายสูงวัยถอนลมหายใจแรงๆ หลังจากที่พะนายกับพะแพงจากไป          “หมอผมเป็นอะไรเหรอครับ...”          นางพยาบาลมาดูกระปุกน้ำเกลือตามเวลา หล่อนจดบันทึกลงชาร์ทที่ปลายเตียง ก่อนจะตอบเสียงเย็นๆ          “รอถามหมอเถอะลุง...”          เป็นคำตอบที่ห้วนสั้น และไม่ได้ให้ความกระจ่างใดใดเลย “พี่นายแพงไปก่อนนะเจอกันเย็นๆ พี่นายนอนพักไปก่อนเถอะ ให้ทำแผลก็ไม่ยอมทำ”          หญิงสาวบ่นพี่ชาย ในขณะที่ตัวเองก็บาดเจ็บไม่ต่างกัน พะนายเจ็บที่ตัว แต่พะแพงเจ็บร้าวไปทั้งหัวใจ          “แพง...ที่คุณภาคินพูดหมายความว่าไง?”          พะนายรั้งแขนน้องสาวไว้ ก่อนที่เธอจะเดินหนีไปอีกทาง...          พะแพงชะงัก เธอเม้มเรียวปากแน่น... “ก็อย่างที่เขาพูด ไม่อย่างนั้นพี่นายคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้”          พะนายเม้มปาก เขาเผลอกดแขนบางของพะแพงแรงๆ จนหญิงสาวร้องลั่น “โอ้ย!! พี่นาย แพงเจ็บ”          “โทษทีๆ แพง...พี่ขอโทษ...เพราะพี่ๆ ทำให้แพงต้องมารับกรรม”          ชายหนุ่มแทบจะตีอกชกตัวเอง เขากัดฟันแน่น...          “ช่างมันเถอะค่ะ แพงจะลืมให้หมด เราจะมาเริ่มต้นกันใหม่ ขอแค่พี่นายยังอยู่ แค่นี้แหละค่ะที่แพงพอใจ”          ใช่ว่าเธอจะไม่เสียใจ แต่ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว...ความสาวของเธอไม่มีทางเรียกคืน และพะแพงไม่เคยเสียใจ ที่ตัดสินใจแบบนั้น          “อืมม...”          “แพงไปนะพี่แพงต้องไปฝึกงาน ช้ากว่านี้สายแน่”          หญิงสาวแสร้งทำเสียงร่าเริง แม้หัวใจจะยังร่ำไห้ แต่เธอจะไม่มีวันอ่อนแอให้ใครเห็น          พะนายยืนส่งน้องสาวที่ท่ารถเมล์ เขาสตาร์ทจักรยานยนต์ออกเดินทางไปหาคนรู้จัก แม้จะยังเจ็บปวดตามร่างกายเพราะถูกยำ แต่...พะนายอยากหางานทำ งานอะไรก็ได้ที่ทำให้เขามีรายได้...          ตลาดสดไม่ไกลจากชุมชนแออัดเท่าไร...          สถานที่ที่พะนายเดินทางมาเพราะเขาสนิทสนมกับพ่อค้าไก่สดคนหนึ่ง ที่นับถือกันประดุจพี่ชาย          “เห้ย!! กลับมาเมื่อไรวะไอ้นาย หืมมม...ไปโดนอะไรมาล่ะ”          หนุ่มวัยฉกรรจ์รูปร่างอวบท้วมตะโกนทัก...ตั้งแต่เห็นพะนายโผล่หน้ามาให้เห็น          “มีเรื่องนิดหน่อยเฮีย...ไว้เล่าทีหลังเถอะ ตรงนี้ไม่สะดวก... กลับมาเมื่อวันก่อนเองครับ...”          ชายหนุ่มตอบเสียงแผ่ว ยิ้มกร่อยๆ ส่งให้เฮียโกสม          “กลับมาก็ดี...ได้ข่าวว่าพ่อเอ็งเข้าโรงพยาบาลนี่หว่า!!”          ในขณะที่มือทำงาน ปากของโกสมก็ยังพูดคุยไปด้วย...พะนายเองก็ไม่ได้ยืนเฉย หยิบจับช่วยโกสมมือเป็นระวิง “ครับ...เป็นหนักด้วย...ผมเลยอยากจะมาหางานทำใกล้ๆ เป็นห่วงพ่อ เป็นห่วงแพงมัน”          พะนายถือโอกาสปรับทุกข์ โกสมเป็นพ่อค้าที่กว้างขวางเขาน่าจะแนะแนวทางทำเงินให้กับตัวเองได้          “จริงรึ? ดีสิ...งานแบบไหนล่ะ เป็นลูกจ้างเขา หรือเป็นนายตัวเอง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD