ดนัยกลับไปแล้ว กันภัยทำหน้าที่เก็บกวาดเช็ดถูและปิดบ้านให้เรียบร้อย เขามองคนที่นั่งรออยู่บนเตียงด้วยสายตาอ่อนโยน
“เดี๋ยวรันนอนบนเตียงนะ พี่จะนอนที่พื้นเอง” เขาไปหาฟูกนอนที่ดนัยจัดหามาให้ปูที่หน้าเตียง
“พี่กันขึ้นมานอนด้วยกันสิคะ ไปนอนตรงนั้นทำไม”
“รันนอนเถอะ จะได้นอนสบาย”
“พี่กันรังเกียจรันเหรอจ๊ะ”
“เปล่านะครับ แต่พี่...” เขาลังเล
“มานอนด้วยกันเถอะค่ะ จะได้คุยกัน” เธอดึงมือเขามาที่เตียง
กันภัยถูกกดให้นอนลงข้างๆ เธอ
“รันไม่อยากนอนคนเดียวนี่คะ” เธอซุกหน้าเข้าหาแขนล่ำๆ ของเขา
กันภัยยอมรับว่าใจเขาเต้นแรงแทบทะลุออกมานอกอก กลิ่นหอมอ่อนๆ ประจำตัวของเธอ ใบหน้าผุดผ่องและโนมเนื้อที่เสียดสีกับแขนของเขาก็ทำให้ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“พี่รังเกียจรันเหรอจ๊ะ”
“พี่เปล่า อือ...” กันภัยตาโตเมื่อโดนจูบปิดปาก เธอผละออกห่างมองสบตาเขา ร่างสูงค่อยๆ กดร่างของเธอให้นอนหงาย ประทับริมฝีปากลงไปอย่างดูดดื่ม สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากอ่อนหวาน พัวพันเข้าหาอย่างแสนรัก
เขาจุมพิตหน้าผากนูนเกลี้ยงของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะเลื่อนมาที่ปลายจมูก และใบหน้าหวานได้รูป คนตัวเล็กเลื่อนมือไปสัมผัสลูบไล้เรือนกายของเขาอย่างเสน่หา กันภัยค่อยๆ ปลดกระดุมชุดนอนลายน่ารักของเธอที่มีกระดุมผ่าตลอดลำตัว ก่อนจะสอดมืออุ่นร้อนเข้าไปภายใน
“พี่สัญญาว่าจะดูแลรันให้ดีที่สุด พี่รักรันนะครับ”
“รันก็รักพี่กันค่ะ รันพร้อมจะเป็นของพี่กันทั้งกายและใจค่ะ” เธอจับมือเขามาวางที่ทรวงอกอวบอิ่ม กันภัยครางเบาๆ สุดจะทานทน เขาเองก็ปรารถนาเธอมากๆ เช่นกัน
รันนรินทร์จูบปลายคางของเขาอย่างโหยหา ในขณะที่เธอถอดเสื้อยืดสีขาวคอกลมของเขา ด้วยการดึงออกไปทางศีรษะ มือบางลูบไล้แผงอกกว้างที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง ร่างกายของกันภัยอุ่นร้อนและเรียบตึงไปทุกอณูเนื้อ เสื้อนอนของเธอถูกถอดทิ้งไปอยู่ข้างเตียง เผยผิวกายผุดผ่องเป็นยองใย ผิวภายในเนียนนุ่มขาวกระจ่างอมชมพู ผิวพรรณของรันนรินทร์สะอาดสะอ้านไร้ไฝฝ้าให้รำคาญตา ใบหน้าของเธอนวลเนียนสดใสไร้สิวฝ้าและรอยแผลเป็น
ผิวของเธอน่าสัมผัส เขารู้สึกหวงแหนทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเธอ อยากครอบครอง อยากดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้
“พี่รักรันนะครับ”
“รันชอบให้พี่กันบอกรักรันบ่อยๆ แบบนี้”
“ไม่เบื่อใช่ไหม อยากบอกรักทุกวัน ทุกเวลา ทุกวินาที”
“ไม่เบื่อหรอกค่ะ” เธอลูบแก้มสาก ก่อนจะยื่นหน้าไปจุ๊บปากเขา
กันภัยเลื่อนใบหน้าลงมาซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น เขาตวัดลิ้นลามเลียผิวกายผุดผ่องของเธอ กลิ่นกายหอมๆ ทำให้เขารู้สึกชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก
อุ้งมือใหญ่เลื่อนลูบไปทั่วผิวพรรณเนียนนุ่มทั่วสรรพางค์กาย เขาพรมจูบไปทั่วทุกอณูเนื้อ อกอวบอิ่มถูกจับจองในเวลาต่อมาพร้อมด้วยมือใหญ่ที่ฟอนเฟ้นไม่ห่างหาย
“อื้อ...” รันนรินทร์ร้องครางเสียงสั่นสะท้าน เธอหยัดกายท่อนบนป้อนให้เขาจนถึงปาก ในขณะที่ริมฝีปากร้อนรุ่มลามเลียไปตามฐานบัวอวบ ก่อนจะวนกลับมายังยอดอกสีหวานที่รสชาติล้ำเลิศ
กันภัยเลื่อนใบหน้าลงไปยังหน้าท้องแบนราบไร้ไขมันของเธอ เขาแวะจุ๊บสะดือบุ๋มเบาๆ คนใต้ร่างครางเสียงสั่นเมื่อริมฝีปากร้อนชื้นแวะทักทายกับสัดส่วนนั้นหลายนาที
รันนรินทร์บิดกายเร่าๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารดอยู่กับเนินสาว เขาแหวกกลีบสาวออกด้วยนิ้วแกร่งแข็งแรง ก่อนจะตวัดลิ้นลามเลียอย่างใกล้ชิด แนบปากกับความหอมหวานกลิ่นกรุ่นจรุงจิต
ปลายลิ้นสากร้อนตวัดลามเลียขึ้นลง แทรกแซะเข้าในทุ่งดอกไม้หอมรัญจวน ผ่านด่านความฉ่ำชุ่มเข้าไปถึงเม็ดทับทิมสีสดที่ประดับประดางดงามและเป็นจุดกระสันเสียวของเธอ
ร่างสาวสะดุ้งและหยัดขึ้นมาตอบสนองกับการสัมผัสใกล้ชิดของเขา เส้นไหมนุ่มแนบลู่เปียกฉ่ำไปกับเนินบุปผาอันหอมกรุ่น
ร่องสวาทไหลซึมน้ำหวานฉ่ำใจ เรียวลิ้นหนาสากร้อนกวาดต้อนลามเลียไม่ห่างหาย สุดท้ายก็ทำให้ร่างที่นอนอยู่กับเตียงครวญคร่ำร่ำร้องไม่ขาดปาก
“อื้อ... พี่กันขา... ไม่ไหวแล้วค่ะ” เธอส่ายหน้าไปมากับหมอนใบโต กุมแก้มของเขาเอาไว้อย่างวิงวอน เขาเลื่อนกายทาบทับ ก่อนจะบดจูบแนบชิด เธอจูบตอบเขาอย่างน่ารัก
กันภัยแยกขาของเธอออกก่อนจะค่อยๆ สอดกายเข้าไปภายในซอกรักอันแสนชุ่มฉ่ำ ร่างสาวเกร็งเล็กน้อยอย่างรอคอย เธอร้องครางทุกครั้งที่เขาขยับเข้าหา แต่เขานิ่มนวลและใจเย็น มือและปากยังเฝ้าวนเวียนกับการจูบและเคล้นคลึงเต้าทรวงอวบอิ่ม ทั้งสองหอบหายใจฟืดฟาดหนักหน่วงเมื่อหลอมรวมเนื้อกายเป็นหนึ่งเดียว เธอกอดเขาแน่น ลูบไล้แผ่นหลังแข็งแกร่งในขณะที่กันภัยแช่กายทิ้งเอาไว้ให้เธอปรับตัว ไร้คำพูดแต่สายตาสื่อความหมายได้อย่างชัดเจนถึงความพิศวาสที่เปี่ยมล้น
ร่างสูงค่อยๆ ขยับเข้าออกในซอกทางรัก เขามองสบตาเธอไม่วาง บดจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่เบื่อหน่าย มือของเธอป้วนเปี้ยนอยู่กับร่างกายของเขา
สะโพกสอบขยับเร่งจังหวะขึ้น เสียงหอบหนักๆ ประสานกันระงมพร้อมกับเสียงเตียงที่ถูกกระแทกกระทั้นรุกเร้าเร่าร้อน ความเสียวซ่านเกิดขึ้นในลำนำรักไม่เสื่อมคลาย เวลายิ่งล่วงเลยไปยิ่งเพิ่มอารมณ์พิศวาสที่มิอาจต้านทาน
กันภัยวางมือใกล้ๆ กับใบหน้าของเธอ กดลงกับหมอนใบโต ดวงตาของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความพิศวาส ท่อนล่างพัวพันกันด้วยความเสน่หา เนื้อกายเสียดสีสอดเสียบเสียวซ่าน หยาดน้ำหวานไหลซึมชุ่มโชกชโลมไล้เนื้อกายชายอันแข็งแกร่ง
เธอแยกขาให้เขากระแทกอย่างเต็มรัก ร้องครวญครางเหมือนจะขาดใจ บทรักยาวนานจบลงด้วยความอิ่มเอมของทั้งคู่ หยาดเหงื่อไหลโซมไปทั่วเรือนกายหนุ่มสาว ลมเย็นที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างทำให้กายสาวสะท้านต้องเบียดร่างเข้าหาร่างแข็งแกร่งเพื่อหาไออุ่น
“หนาวเหรอครับรัน” เขากระซิบถามขณะกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง
“หนาวค่ะ ลมพัดมาโดนเหงื่อเลยหนาว”
“เหนียวตัวไหมครับ จะอาบน้ำไหม” เขากระซิบถามเสียงแผ่วเบาแต่อ่อนโยนห่วงใย
“ก็อยากอาบนะคะ แต่ข้างล่างมืดแล้ว น่ากลัวจังค่ะ” เธอกลัวจริงๆ เพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอน อีกทั้งยังไม่มีห้องน้ำบนตัวบ้านที่สะดวกสบายเหมือนบ้านของตัวเองอีก
“แบบนี้ไหม พี่ตักน้ำมาให้อาบด้านบน”
“พี่กันจะเหนื่อยไหมคะ” เธอเอ่ยถามอย่างเกรงใจ
“ไม่ครับ พี่จะช่วยอาบน้ำให้ จะได้นอนหลับสบายไม่เหนียวตัวไง” เขาพูดแค่นั้น ก่อนกดจุมพิตหน้าผากนูนเกลี้ยงและละจากเตียงไปตักน้ำขึ้นมาให้เธออาบ
รันนรินทร์มองผู้ชายที่เธอจะฝากชีวิตเอาไว้กับเขาด้วยสายตารักใคร่ กันภัยกำลังขนน้ำ แบกใส่ถังขึ้นมาเทในกะละมังใบโตมุมหนึ่งของห้องครัว พื้นห้องครัวเป็นพื้นไม้ทำจากไม้ไผ่ จึงสามารถอาบน้ำได้ เพราะน้ำจะไหลลงใต้ถุน เธอเพิ่งรู้ว่ามันสะดวกไม่ต่างจากห้องน้ำ กันภัยหัวคิดดี เขาไม่อยากให้เธอเดินลงไปอาบน้ำด้านล่างมืดๆ ค่ำๆ เพราะกลัวงูเงี้ยวเขี้ยวขอ
“มาอาบน้ำกันครับ” เขาชวนเธอไปอาบน้ำ เธอนั่งมองเขาตาปริบๆ ร่างสูงเดินมาอุ้มเธอไปนั่งบนพื้นไม้ไผ่ ในขณะที่ผ้าเช็ดตัวที่ห่อหุ้มร่างกายอยู่ทำท่าจะหล่นลงไปกองกับพื้น
“อุ๊ย!”
“วันหลังอาบน้ำแบบนี้ต้องนุ่งผ้าถุงนะ”
“ผ้าถุงเหรอคะ น่าสนุกจัง รันไม่เคยนุ่งผ้าถุงมาก่อนเลย”
อยู่บ้านเธออาบน้ำแก้ผ้าในห้องน้ำ ไม่เคยนุ่งผ้าถุงเลยสักครั้งเดียวในชีวิต
“ก็เหมือนนุ่งผ้าเช็ดตัวครับ” เขาทำท่าจะตักน้ำราดตัวเธอ แต่รันนรินทร์สะดุ้งขนลุกชันแทบกระโดดหนี ท่าทางของเธอทำให้เขาเอ็นดูหนักหนา