เมามายที่ 4
ลีลาช่างตีเหล็ก
การเจอเพชรเม็ดงามในป่านั้นเป็นเรื่องยาก จางเจียหาวจึงไม่คาดคิดว่าตนจะได้รับพรหมจรรย์จากหญิงสาวที่เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อแซ่ของนาง
ทั้งสองยังคงสอดประสานกันและกันในท่ายืนโดยที่ร่างบอบบางผู้ถือครองเยื่อพรหมจรรย์เป็นฝ่ายยืนเอนหลังพิงกับต้นไม้ใหญ่ ช่างตีเหล็กไม่อาจเปลี่ยนท่าทางได้เพราะยิ่งจะทำให้นางรู้สึกเจ็บ หากเขาเร่งขยับโดยที่ช่องแคบชื้นของนางยังไม่พร้อม
ทางฝ่ายหลิวซือเย่ก็ไม่ได้กรีดร้องโวยวาย แม้จะเจ็บแต่ก็พยายามฝืนทนเพราะรู้ว่าหากแกนกลางกายของนางคุ้นชินกับเอ็นอุ่นของบุรุษเพศเมื่อใด ความเจ็บก็จะมลายหายไปสิ้นแทนที่ด้วยความซ่านหฤหรรษ์นำมาซึ่งความเสียวสุขอย่างที่ไม่อาจคาดคิด
ครานั้นเมื่อนางเป็นเพียงเด็กสาวอายุสิบห้าปี ชาติที่แล้วนั้นยังไม่ประสาด้วยเป็นเด็กกำพร้าไม่ได้รับการเล่าเรียนเขียนอ่านเท่าที่ควร ไม่รู้จักโลกแห่งกามโลกีย์ว่าซับซ้อนและเต็มไปด้วยหลุมลึกดำมืดให้ก้าวถลำลงไป
เมื่อนางเจ็บจากการถูกพร่าผลาญพรหมจรรย์ นางจึงดิ้นรนพยายามทุบถองแขกสูงวัย โชคดีที่เขาเจนโลกและมีความเมตตาต่อเด็กสาวที่เพิ่งขายตัวครั้งแรก และอาจโชคดียิ่งกว่าคือของชายสูงวัยผู้นั้นมีขนาดเล็ก นางจึงไม่ได้เจ็บปวดมากอย่างที่นึกหวาดหวั่น
แต่เขาก็ไม่ได้ทำให้นางมีความสุข แขกทุกคนที่มาซื้อบริการล้วนเข้ามาตักตวงความสุขไปจากเรือนร่างของนาง กลายเป็นว่านางถึงจุดสุดยอดด้วยนิ้วของตนเองเป็นครั้งแรกหลังจากขายตัวมาถึงสามปี และครั้งต่อๆ มาก็ด้วยการขึ้นขี่ขย่มเสียเองเพราะเริ่มเจนจัดในกามโลกีย์
“อ๊ะ!”
ความคิดสะดุดกึกเมื่อคนตัวโตเริ่มขยับมือลามไล้ไปตามนวลเนื้อละเอียดนุ่มนิ่ม ก่อนจะกอบกุมเต้าหวานแล้วบีบเฟ้นเคล้นคลึง มือสากกระด้างอย่างคนใช้แรงงานทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นเร่าแทบไม่เป็นจังหวะ
ยามเมื่อถูกเขากอดรัดด้วยร่างหนาใหญ่ ราวกับนางถูกเขากลืนหายไปทั้งร่างเสียกระนั้น
“อะ...อาห์ อาห์”
ซือเย่ครางเสียงหลงเมื่อเขาทั้งบี้บีบทั้งใช้ปลายนิ้วโป้งบดคลึงปลายถันจนมันชี้ชันเชิญชวนให้เขาดื่มกิน และแน่นอนว่าช่างตีเหล็กไม่รอช้า เขายอบกายลงแล้วแลบลิ้นออกมาตวัดเลียดุนดันจนอดีตคุณหนูหลิวถึงกับหายใจติดขัด
“อะ...อื้อ ดะ...ดีจัง”
สองแขนเล็กโอบกอดรัดรอบลำคอแข็งแกร่งของช่างตีเหล็กเอาไว้ เบียดแอ่นทรวงอกเข้าหาใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง ยิ่งเขาซุกไซ้ดูดดุน ริมฝีปากหนาและตอหนวดเขียวครึ้มของเขาก็ยิ่งถูไถไปตามทรวงอกอวบอิ่มจนเป็นปื้นแดงระเรื่อ
“นมของเจ้าช่างใหญ่และหอมหวานมากเหลือเกิน”
จางเจียหาวอ้าปากงับเนื้อนมเข้าไปเต็มคำ เขาดูดดุนแรงขึ้น แรงขึ้น ราวกับคนตะกละตะกลามหิวโหย กอดรัดนางแน่นขึ้นกว่าเดิมจนทำให้เอวสอบขยับเผลอดันลำเอ็นเข้าไปมิดด้าม
“อาห์!”
ซือเย่ครางเสียงสั่นเมื่อความคับแน่นปวดแปลบแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน น้ำเสียวสีใสไหลออกจากรูสวาทอาบไล้แท่งอุ่นทำให้สอดประสานได้โดยง่ายไม่ฝืดระคาย
“ดูเหมือนแม่นางจะพร้อมแล้ว”
จางเจียหาวคำรามเสียงแหบต่ำในลำคอแล้วเริ่มกระเด้าเอวสอบงัดขึ้นงัดลงด้วยจังหวะเนิบช้า ทำให้คนตัวเล็กถึงกับแข้งขาอ่อนแรงไม่มีแม้เรี่ยวแรงที่จะหยัดยืน
ตับ! ตับ! ตับ!
ความเสียวสะท้านแล่นปราดไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย ท้องน้อยหน่วงหนึบราวกับมีเหล่าผีเสื้อนับร้อนพันกระพือปีกบินวนอยู่ภายในนั้น
“อะ...อื้อ อื้อ”
“ยังเจ็บอยู่หรือไม่แม่นางคนงาม”
เขาเอ่ยถามโดยกระซิบชิดที่ข้างหู ก่อนจะใช้ฟันงับที่ติ่งหูของนางแผ่วเบาแล้วซุกปลายจมูกลงไปยังผลให้ขนอ่อนบริเวณนั้นลุกชัน วาบหวามไปถึงกลางแผ่นหลังทำให้หญิงสาวยิ่งระทวยอ่อน
“มะ...ไม่เจ็บแล้ว ตะ...แต่ สะ...เสียวมากๆ เลยเจ้าค่ะ อะ...อื้อ อื้อ อาห์”
ตับ! ตับ! ตับ!
ทุกจังหวะกระแทกกระทั้นหนักหน่วงรุกเร้าด้วยเรี่ยวแรงของช่างตีเหล็กที่มีมากมายราวกับไม่มีวันหมดสิ้น หญิงสาวหอบหายใจแรงซ่านเสียวจนแทบจะบ้าคลั่ง รับรู้ได้ว่าภายในช่องแคบชื้นนั้นอุ่นร้อนจากแรงเสียดสีที่สอดประสานเข้ามาไม่หยุด
เจ็บที่แผ่นหลังเพราะแรงอัดกระแทกที่ถาโถมเข้ามาจนแผ่นหลังกระแทกต้นไม้ กระนั้นนางหาได้สนใจความเจ็บเพียงน้อย ในเมื่อมีความเสียวซ่านที่เอ่อล้นกำลังรายล้อมเข้ามาไม่ขาดสาย
“แม่นางช่างคับแน่นนัก”
เสียงทุ้มลอดไรฟัน กัดฟันกรอดเพื่อบังคับไม่ให้เผลอหลั่งออกมาก่อนเวลาอันควร เงยหน้าขึ้นจากสองเต้าอวบอิ่มแล้วประกบบดจูบริมฝีปากสีชาดอย่างเร่าร้อนดุดัน
“อื้อ”
ซือเย่ครางแผ่วในลำคอด้วยความพึงพอใจ นางเสียวจนหลั่งน้ำใสออกมามากมาย บางส่วนไหลย้อยจากง่ามขาไปยังปลีน่อง ขาเพียงข้างเดียวที่หยัดยืนรับแรงถาโถม ในขณะที่ขาอีกข้างเกี่ยวกระหวัดรอบเอวสอบเอาไว้
ตับ! ตับ! ตับ!
“อะ..อื้อ อื้อ ฮะ..แฮกๆ”
มือหนาเลื่อนลงไปกอบกุมสะโพกผาย ก่อนที่เขาจะแหย่นิ้วมือถูไถไปตามร่องก้น แล้วใช้นิ้วแหย่เข้าไป
“อ๊าย!”
หญิงสาวถึงกับหวีดร้องเสียงหลง เสียวซ่านจนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ล่องลอยสุขสมชนิดไม่ทันตั้งตัว
“ขะ...ข้าเสร็จแล้ว ขะ...ข้าทนไม่ไหว อะ...อื้อ”
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
ช่องแคบชื้นตอดรัดเอ็นอุ่นรุนแรงราวกับพยายามจะรีดน้ำเชื้อจากเอ็นอุ่นจนเขาต้องกัดริมฝีปากล่างกดข่มความเสียวเอาไว้ เมื่อจังหวะบีบรัดเริ่มคลายเขาก็ซุกไซ้จมูกโด่งไปตามนวลแก้มอิ่มอย่างช้าๆ
ใบหน้าของนางแดงก่ำจากพิษราคะที่แผดเผา จางเจียหาวไม่ได้ชักนิ้วออกจากรูทวาร แต่กลับเริ่มซอยกระชั้นอัดแท่งเอ็นอุ่นเข้าไปในรูเสียวด้วยจังหวะที่รุกเร้ารุนแรงกว่าเดิม
ตับๆๆๆ ตับๆๆๆ
คนที่เพิ่งเสร็จสมถึงกับหวีดร้องเสียงหลง
“อ๊า! อะ....อ๊า อื้อ อื้อ สะ...เสียวสุดๆ ไปเลย อะ...อะ...แฮกๆ”
แรงกระแทกทำให้สองเต้าโยกไหวไปตามแรงโน้มถ่วง เนื้อหนังของสาวน้อยที่เพิ่งผ่านพ้นวัยปักปิ่นมาไม่นานสั่นสะท้านชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อที่ผุดพราย
นางอ้าปากงับลงบนไหล่ของเขาเต็มแรง กัดจนเป็นรอยฟันระเรื่อ ในขณะที่นิ้วมือขีดข่วนไปตามแผ่นหลังแข็งแกร่ง
“เสียว ซี๊ด....”
เสียงครางของนางและความเจ็บแสบๆ คันๆ ที่นางมอบให้ทำให้ช่างตีเหล็กระดับปรมาจารย์ถึงกับกัดฟันกรอด เสียวจนต้องดึงเอ็นอุ่นออกมาเพื่อปลดปล่อยสายน้ำแห่งชาติพันธุ์ขาวขุ่นให้พ้นกาย เขาใช้มือชักเอ็นอุ่นแรงๆ จนน้ำหยดสุดท้ายหมดสิ้น ก่อนจะหันไปมองร่างเย้ายวนของนางด้วยดวงตาพราวระยับ
ทางด้านหลิวซือเย่นั้นทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น หอบหายใจแรงจนริมฝีปากเผยอ เรือนกายทุกส่วนสัดสั่นระริกด้วยความร่านสวาท แกนกลางกายเต้นตุบๆ ร้อนฉ่าจากแรงเสียดสี
นางยังอยาก...
อยากโดนเอาอีก...