‘นางดูมีโครงสร้างของรูปร่างที่งดงาม หากได้บำรุงให้มีเนื้อมีหนังสักหน่อย แม่สาวนักดีดพิณ’ ฉีเทียนเหล่ยพลางคิดในใจ เขาเองก็เหมือนกับชายคนอื่นๆ ที่เมื่อเห็นหญิงสาวรูปร่างที่ตนพออกพอใจก็มิอาจทอดถอนสายตาออกไปได้ ถึงแม้ตอนนี้นางจะไม่ได้อยู่แสดง หรือแม้แต่ให้ใครตามหาตัวนาง ยิ่งการดีดพิณที่เขามิเคยเห็น และกิริยาท่าทางอ่อนช้อยทั้งก่อนแสดงหรือแสดง ยิ่งทำให้ความใคร่รู้ของเขากำเริบขึ้นมา เขาพยายามที่จะไม่คิดถึงนาง เพียงแค่รอให้ถึงวันรุ่งขึ้นเท่านั้น
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่านางคงเป็นนางคณิกาในหอนางโลมทั่วๆ ไป ที่ยินยอมพร้อมใจลงมาให้ชายได้เชยชม แต่เมื่อเห็นนางย่อกายและจากไปเขาเกิดสับสนเล็กน้อยว่าอาจเป็นมารยาหญิงเพื่อเรียกร้องความสนใจ การแสดงจบลงผู้คนต่างทยอยออกจากหอนางโลมจวบจนคนในร้านหมดหลงเหลือไว้เพียงร่องรอยของการดื่มด่ำของลูกค้า ไม่นานนักจึงปรากฏร่างที่คุ้นตาแม้เพียงครู่เดียวเขาก็จำได้
นางเดินเข้ามาเก็บถ้วยน้ำชา กาเหล้าหรือแม้แต่ทำความสะอาดโต๊ะให้สะอาด นางทำไปเรื่อยๆ ด้วยความกระฉับกระเฉงหาได้สนใจพื้นที่อีกฟากหนึ่งว่าจะมีใครยังนั่งดื่มกินอยู่จวบจนนางเก็บขยะ ถ้วยชามฟากที่ตนดูแลจนเสร็จแล้ว นางจึงเดินเข้ามาใกล้ๆ พวกของฉีเทียนเหล่ย นางไม่ได้ใส่ชุดสีชมพูลายดอกเหมยเพียงสวมชุดธรรมดาทั่วไปซึ่งค่อนไปทางเก่า
“นี่พวกท่าน ร้านปิดแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่แล้วกัน” นางเอ่ยเสียงเรียบไม่มีจริตของสตรีนางโลม แม้แต่ใบหน้ายังมิเงยขึ้นมองคู่สนทนาอย่างกลุ่มของฉีเทียนเหล่ย นั่นเป็นนางกำลังง่วนอยู่กับการเก็บขยะ ถ้วยชามรวมไปถึงยกเก้าอี้ขึ้นเพื่อจัดเรียงให้เข้าที่ กลุ่มของฉีเทียนเหล่ยนั่นก็มิได้สนใจนางทั้งยังแสร้งไม่ได้ยินคำพูดของสตรีกุลีผู้นี้
“นี่หูหนวกหรือไง ข้าจะทำความสะอาด หรือพวกท่านจะช่วย ถ้าไม่ช่วยก็ออกไปได้แล้ว” โคว่เอ๋อเห็นว่าคนกลุ่มนี้ไม่มีทีท่าจะลุกขึ้น นางจึงเริ่มใช้น้ำเสียงหงุดหงิดเปล่งออกมา แต่ดูท่าหูหนวกของคนกลุ่มนี้นางจึงตัดสินใจเดินไปหยิบกาเหล้า ถ้วยชาที่วางอยู่บนโต๊ะของกลุ่มฉีเทียนเหล่ยไปเก็บเพื่อเป็นการไล่แขกไปโดยปริยาย
โคว่เอ๋อไม่คิดจะรักษามารยาทใด ๆ กับคนพวกนี้เพราะคิดว่าคนที่มาเที่ยวหอนางโลมนั้นล้วนเป็นพวกมากราคะด้วยกันทั้งนั้น ไยต้องพูดดีด้วยเล่า แต่นางก็ต้องหยุดการกระทำนั้นลงเพราะเสียงของจูชุนลี่มาหยุดการกระทำของนางเอาไว้เสียก่อน
“นี่เจ้าคิดจะทำอะไร ห๊า!” เสียงนั้นทำให้โคว่เอ๋อสะดุ้งโหยงพร้อมกับเหลียวกายหันไปสบสายตาที่นางมิอยากจะเห็น
“อ๋อ! ข้าแค่จะไปช่วยเติมน้ำจัณฑ์ให้พวกเขาเท่านั้น ข้าเห็นว่าใกล้จะหมดน่ะ” คำตอบนั้นชี้ชัดว่านางกำลังหาทางรอดให้กับตัวนางเอง
“อย่างนั้นหรือ ดีรีบ ๆ ไป อย่าทำให้แขกของข้ารอนาน” เมื่อได้ยินคำของจูชุนลี่แล้ว โคว่เอ๋อรีบหมุนตัวไปที่โต๊ะตัวเดิมพร้อมกับเอื้อมมือคว้ากาเหล้าเพื่อจะนำไปเติมดังคำตอบเมื่อครู่นี้ นางไม่ลืมที่จะสบถออกมาในใจทั้งสีหน้าและท่าทางแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้งว่าไม่พอใจอย่างยิ่ง
โคว่เอ๋อเดินไปเติมสุราพร้อมนำอาหารมาเพิ่มให้อีกจำนวนหนึ่ง ด้วยรู้ว่าต้องเป็นแขกเงินหนาของจูชุนลี่แน่ ๆ มิเช่นนั้นจูชุนลี่มีหรือจะต้อนรับขับสู้เสียดิบดี