“ก็ว่าจะกลับ แล้ววันนี้มีใครมารับหรือเปล่า หรือว่าต้องนั่งแท็กซี่กลับเองเหมือนอย่างทุกวัน”
“นุ่นก็นั่งแท็กซี่กลับเป็นปกติอยู่แล้วนะ แล้วบุรินทร์ล่ะ นี่หมดเวลาทำงานแล้วนะอย่าบอกนะว่ายังต้องทำงานต่ออีกน่ะขยันจริงๆเลยนะ”
นันทินีกล่าวกับบุรินทร์เพื่อนชายซึ่งอายุไล่เลี่ยกันกับเธอเขาเป็นพนักงานของบริษัทในตำแหน่งผู้จัดการควบคุมการสั่งซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ของบริษัท เป็นคนที่คอยดูแลผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าระดับไฮแบรนด์ในโรงแรมหรู
บุรินทร์ยิ้มให้เธอและเอ่ยว่า
“เปล่าหรอกวันนี้ผมไม่ได้ทำงานล่วงเวลาหรอก นี่ก็กำลังจะกลับบ้านแล้วด้วยถ้ายังไงเดี๋ยวผมไปส่งนุ่นนะ”
“ไม่ต้องลำบากก็ได้นะบุรินทร์เพราะบ้านของนุ่นไปคนละทางกลับบ้านของบุรินทร์ มันจะทำให้เสียเวลาเปล่า ๆ นะ”
“ไม่เป็นไรหรอกผมอยากไปส่งนุ่นน่ะ เห็นนุ่นกับแท็กซี่ทุกวันก็อยากจะพานุ่นไปส่งที่บ้านบ้างก็จะได้ไปทำความรู้จักบ้านของนุ่นด้วยไงว่าอยู่ที่ไหน”
“นุ่นอยู่หอพักน่ะเป็นหอพักเล็กๆ เองก็ไม่ไกลจากที่ทำงานนี่หรอก ว่าแต่บุรินทร์ถ้าไปส่งนุ่นก็จะเสียเวลาแล้วกว่าจะขับรถกลับไปที่บ้านอีกในเมืองตอนเย็นๆ รถติดจะตายไป”
“ก็ไม่เห็นเป็นไรเวลารถติดผมก็นั่งฟังเพลง ได้ฟังเพลงเพลินๆ ฟังข่าวแป๊บเดียวก็ถึงบ้านละ”
“แต่นุ่นก็เกรงใจบุรินทร์นะ ทำงานเหนื่อยๆ แล้วยังจะต้องขับรถที่ตอนเย็นในเมืองการจราจรคับคั่งอีกรุ่นว่าไม่รบกวนดีกว่า”
“ไม่เป็นการรบกวนอะไรเลยนุ่นผมอยากไปส่งนุ่นก็อยากจะรู้เหมือนกันว่านุ่นพักอยู่ที่ไหนเผื่อว่าวันไหนอยากจะชวนนุ่นออกไปกินข้าวกลางวันหรือกินกาแฟช่วงวันหยุดก็จะได้ไปรับได้สะดวกไง”
คำพูดของบุรินทร์ทำให้นันทินีหยุดคิดชั่วครู่แล้วในที่สุดฟล่อนก็พยักหน้ารับไม่ตรีจากเพื่อนร่วมงานซึ่งหล่อนก็รู้จักเขานับตั้งแต่เข้ามาทำงาน บุรินทร์เป็นผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษหน้าตาของเขาก็จัดได้ว่าเข้าขั้นหล่อเหลาทีเดียว แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับเจตต์ ท่านประธานบริหารสูงสุดของบริษัทแต่ก็ถือได้ว่าบุรินทร์เป็นคนหนุ่มที่มีความตั้งใจทำงานบุคลิกท่าทางของเขาก็เป็นที่ดึงดูดใจสาวๆในบริษัทเช่นเดียวกัน หล่อนพยักหน้าและตอบว่า
“จ้ะ...ก็ได้แต่ว่านุ่นคงจะไม่รบกวนบุรินทร์บ่อยๆ หรอกนะ ก็แค่วันนี้ที่จะให้บุรินทร์ไปส่ง”
“จะให้ผมไปส่งทุกวันก็ได้นะ ไม่เป็นการรบกวนอะไรเลยเพราะถึงยังไงผมก็เป็นคนโสด กลับบ้านตอนไหนก็ไก้ ไปถึงก็แค่กินข้าวค่ำแล้วก็นอน อย่างน้อยตอนเย็นๆ ก็จะได้มีกิจกรรมอะไรให้ทำแก้เหงาบ้างยังไงล่ะ”
พูดจบทั้งสองก็เดินออกไปพร้อมกัน นันทินียอมให้บุรินทร์พาหล่อนไปส่งยังที่พักด้วยรถของเขาซึ่งก็เป็นรถเก๋งเหมาะสมกับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขัดซื้อผลิตภัณฑ์ของโรงแรมหรู ท่าทางของเขาไม่ได้บ่งบอกว่าเบื่อหน่ายกับการที่จะต้องพาหล่อนไปส่งซึ่งเส้นทางของหอพักที่นันทินีพักอยู่นั้นอยู่อีกฝั่ง ไม่ได้เป็นเส้นทางเดียวกับที่ไปบ้านของเขาและตลอดทางเขาก็ชวนหล่อนพูดคุยเรื่องต่างๆ นานาโดยเฉพาะเรื่องการทำงานในบริษัทและหล่อนก็เห็นว่าจริงๆ แล้วเขาก็เป็นคนที่มีอัธยาศัยดีซึ่งมันก็เป็นอย่างที่เธอเห็นเขาในบริษัทอยู่เป็นปกติ บุรินทร์ถือได้ว่าเป็นพนักงานที่ทั้งหน้าตาดีหล่อเหลาและที่สำคัญเขามีความเป็นสุภาพบุรุษมากๆจนเธอมีความรู้สึกว่าแอบชื่นชมเขาอยู่ลึกๆแต่มันไม่ใช่ความรู้สึกชอบเหมือนที่ผู้หญิงคนนึงจะชอบผู้ชายด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้งเธอรู้สึกกับเขาในแบบของความเป็นเพื่อนมากกว่า
“นี่นะเหรอหอพักของนุ่น น่าสบายจังเลยนะ”
บุรินทร์กล่าวขึ้นเมื่อเขาขับรถเข้ามาจอดที่หน้าหอพักซึ่งอยู่ย่านชานเมืองและเส้นทางก็ไม่ไกลจากบริษัทซึ่งเป็นที่ทำงานของทั้งสองด้วย นันทินียิ้มกับเขาและเอ่ยว่า
“ใช่...มันเป็นหอพักเล็กๆที่สบายมากเลยล่ะ แต่ที่ดีมากกว่าอะไรทั้งหมดก็คือราคาหอพักก็ไม่แพงด้วย”
“นุ่นไม่คิดอยากจะซื้อคอนโดเอาไว้เป็นที่พักส่วนตัวสักห้องเหรอ นุ่นเป็นถึงเลขาของท่านประธานผู้บริหารระดับสูงผมคิดว่าเงินเดือนระดับนุ่นก็คงจะซื้อคอนโดสักห้องได้อย่างสบายๆเลยล่ะ”
“นุ่นเงินเดือนไม่เยอะหรอกนะบุรินทร์ ก็นู่นจบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงเท่านั้นเอง ไม่ได้จบระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโทนะ เพราะฉะนั้นเงินเดือนที่นู่นได้รับมันก็เป็นไปตามวุฒิการศึกษาของนุ่นนั่นแหละ”
“แต่งงานเอกชนแตกต่างจากงานข้าราชการนะ งานของเอกชนเราวัดกันที่ความรู้และความสามารถเราไม่ได้วัดกันที่วุฒิการศึกษาอย่างเดียวเท่านั้น ผมว่านี่ถ้านุ่นทำงานกับท่านประธานต่อไปอีกสักปีสองปีถ้าได้รับความไว้วางใจมากๆเงินเดือนของนุ่นก็จะเพิ่มตามไปด้วยนะ”
“ขอบใจมากนะบุรินทร์ แล้วก็ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจที่อุตส่าห์พานุ่นกลับมาที่พักแบบนี้นุ่นน่ะเกรงใจบุรินทร์มากเลยรู้ไหม”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก...ผมเต็มใจเสมอสำหรับนุ่น”
เขาเอ่ยและมองผู้หญิงที่นั่งข้างๆ ด้วยประกายตาหวานฉ่ำซึ่งมันก็แสดงให้นันทินีเห็นว่าจริงๆ แล้วตอนนี้บุรินทร์รู้สึกกับเธอเช่นไรและจริงๆ แล้วก็ใช่ว่าเธอจะไม่รู้เลยว่าเขาคิดกับเธอยังไงเพราะตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำงานใหม่ๆก็จะเป็นคนที่ชอบเข้ามาพูดคุยกับเธอสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีแต่เขาเป็นคนสุภาพไม่เคยปากว่ามือถึง ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกคุกคามหรือไม่ปลอดภัย ยังคงรักษาความเป็นสุภาพบุรุษของเขาเอาไว้เสมอทว่าท่าทีของเขากลับทำให้เธอคิดถึงใครอีกคนอย่างช่วยไม่ได้