EP06
.
.
.
หลังจากที่คุยโทรศัพท์กับผู้ชายคนนั้นเสร็จก็ตัดสินใจออกมาเจอตามโลเคชั่นที่ถูกส่งมา พอมาถึงสถานที่นัดพบสายตาก็กวาดมองหาร่างของเขาก่อนที่จะไปสะดุดกับเงาของใครบางคนเดินออกมาจากมุมมืด พลันอัตราการเต้นของหัวใจมันก็รุนแรงมากขึ้นมันไม่ได้เกิดจากอาการหลงรักหรือกำลังตื่นเต้นแต่มันคืออาการหวาดกลัวจนควบคุมสติตัวเองแทบไม่อยู่
"นายจะเอายังไง พูดมาสิ" ฉันควบคุมตัวเองไม่ให้สั่น ใช่…ฉันกำลังกลบเกลื่อนอาการของตัวเอง ผู้ชายตรงหน้าตอนนี้ยังคงยืนนิ่งห่างอยู่พอสมควรเขาสวมฮูดอย่างที่ชอบทำชุดทั้งตัวเป็นสีดำ สถานที่ตรงนี้คือตรอกของตึกร้างที่ขนานคู่กันหลายชั้นพอสมควรสภาพทรุดโทรมบวกกับบรรยากาศตอนนี้มันชวนขนบุกสิ้นดีไหนจะพื้นที่เปียกแฉะจากนํ้าอะไรบางอย่างที่หยดลงมาจากด้านบน
"…" ดีค่อยๆเงยหน้าขึ้นเราสบตากันสักพักก็ฉันเองที่เป็นฝ่ายหลบสายตาก่อน ร่างหนาย่างกรายเข้ามาหาฉันทีละก้าวด้วยความใจเย็นมือล้วงถุงกางเกงแล้วหยิบกุญแจออกมาโยนเล่น เขาพกกุญแจมือมาด้วยทำไมนั้นคือคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว
"นะ นายจะทำอะไร"
"…"
"ก็พูดมาสิว่าต้องการอะไร พูดมาดิว่ะ" ตอนคุยโทรศัพท์ผ่านสายสติฉันก็แทบจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวพอมาเจอตัวจริงสมองมันก็อื้ออึงไปหมด รอบตัวเขาเหมือนมีรังสีอะไรแผ่ซ่านรอบกายให้ควรถอยห่างมากที่สุด ถามว่าตอนนี้สภาพจิตใจฉันเป็นยังไงบอกเลยว่ามันย้ำแย่อีกทั้งแถวนี้มันก็ลับตาคนและไม่มีใครผ่าน
ตึก ตึก ตึก ตึก
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเราเพียงครูเสียงฝีเท้าหนักก็กระทบกับพื้นร่างของเราอยู่ไกล้กันแค่เอื้อม มือหนายื่นขึ้นลูบลงที่แก้มลงมาตามลำคอและหยุดตรงหน้าอกสายตาเรียบนิ่งแต่ฉันก็สัมผัสได้จากปลายนิ้วแกร่งว่ามันคงซ่อนไปด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่าง
"เจอสักที" เป็นคำแรกที่ดีพูดขึ้น เปลือกตาจึงหลับลงแล้วเบือนหน้าแนบกับผนังตึกเนื้อตัวเริ่มสั่นเทาเขาพูดเหมือนไม่เคยเจอฉันยังไงยังงั้นทั้งที่ผู้ชายคนนี้มันตามติดฉันตลอดยิ่งกว่าเงา
"อยากได้หรอ อยากได้ฉันมากเลยใช่ไหม ถ้าอยากได้ก็เอาให้มันจบๆ"
"เคยได้แล้ว…"
"แล้วต้องการอะไรอีก ได้แล้วต้องการอะไรอีก" ฉันถามกลับไปเปลือกตายังคงปิดอยู่ ลมหายใจอุ่นร้อนจึงเป่ารดลำคอทำให้ร่างกายมันขนลุกซุ่ ปลายจมูกคมไล่สูดดมตามเนื้อตัวฉันด้วยความหลงไหล
"มาอยู่ด้วยกัน"
"…"
"สองคน" คำตอบของดีทำเอาลมหายใจติดขัดฉันเปิดตามองเข้าไปที่แววตาดำขลับคู่นั้น อยู่ด้วยกันงั้นหรอ เขาบ้าไปแล้ว…
"แล้วถ้าฉันไม่อยู่นายจะทำอะไร"
"ขัง"
"ไอ้เวรเอ้ย!" ฉันสบถออกมาอย่างหมดความอดทนแล้วผลักอกแกร่งออกราวกับคนสติแตกมือฟาดลงที่แก้มใสเข้าเต็มแรงจนเลือดกลบปากแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สะทกสะท้านอะไรใบหน้าค่อยๆเบือนหันกลับมามองพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปาก "ผู้ชายอย่างนายแม่งไม่ควรเกิดมา ไปตายซะยังจะดีกว่า"
"ชอบรุนแรง?"
หมับ!
"กรี๊ดดดดดดดดด…!" ฉันกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อร่างกายถูกจับตวัดแล้วล็อกคอจากด้านหลังในวินาทีต่อมาก็เหมือนมีของแข็งทุบเข้าที่ท้ายทอยจนความมืดเข้ามาครอบงำ…
อายแคร์หมดเรี่ยวแรงลงหลังจากที่โดนดีไวน์ทุบท้ายทอยจนเสียสติชายหนุ่มจัดการล็อกข้อมือเล็กแล้วอุ้มเธอขึ้นพาดบ่าเดินออกมายังหลังตึกแล้วโยนใส่หลังกระบะพร้อมกับเอาผ้าขนาดใหญ่คลุ่มร่างเอาไว้ รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมผุดขึ้นบนใบหน้าอายแคร์ติดกับดักจนได้คราวนี้แหละจะได้อยู่ด้วยกันอย่างสมใจอยาก ผ่านไปไม่กี่นาทีดีไวน์ก็พาหญิงสาวกลับมาบ้านของตนเองที่เคยซื้อไว้แล้วไม่ได้มาอยู่
พรึบ!
พอไขกุญแจเข้ามาในห้องสีดำชายหนุ่มก็วางร่างไร้สติลงบนเตียงจัดการถอดกุญแจมือออกแล้วโน้มตัวเข้าไปพรหมจูบเรือนร่างขาวผ่องด้วยแววตาโหยหา ปลายนิ้วแกร่งไล่ไต่ตามเนินอกอวบสองเต้าแล้วดึงเสื้อออกจากตัวบีบเคล้นทุกสัดส่วนครอบครองทุกบริเวณบนร่างกายจนผ่านไปหลายนาทีอายแคร์ก็รู้สึกตัว ดวงตาคู่สวยปรือมองบริเวณรอบข้างแล้วเรียบเรียงเหตุการณ์
"บัดซบ" เธอจำทุกอย่างได้เป็นอย่างดีแล้วลุกขึ้นจากเตียงแววตามองห้องประหลาดด้วยความแปลกใจเพราะตามผนังห้องมีรูปของตนเองแปะอยู่เป็นจำนวนมาก คนตัวเล็กลุกขึ้นแล้วเข้าไปมองใกล้ๆมือยกขึ้นจับท้ายทอยตัวเองด้วยความเจ็บ พอเห็นแบบนั้นยิ่งทำให้อายแคร์รู้ว่าเขายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่คาดไม่ถึงคิดได้แบบนั้นก็รีบหยิบเสื้อผ้าตัวเองขึ้นมาสวมพร้อมกับมองหาโทรศัพท์มือถือของตนเองแต่ก็ไม่พบ
"หาไร" เสียงของดีไวน์พูดขึ้นพร้อมกับแสงสว่างจากไฟแช็กมุมห้องเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ดีไวน์กำลังเติมยา แววตาของเขาว่างเปล่าซ่อนไปด้วยรอยยิ้มขอบตาเริ่มคลํ้าเกิดรอยยิ้มเลื่อนลอยบนใบหน้า ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นแล้วอัดควันเข้าปอดอย่างมีความสุข
"เอามือถือฉันคืนมา"
"ไม่"
"อย่ามากวนประสาท ไอ้โรคจิต"
"โรคจิต?" ดีไวน์หรี่ตามองเชิงคำถามแล้วทิ้งสารเสพติดลงข้างกาย ร่างหนาลุกโซซัดโซเซมาคว้าร่างอายแคร์เข้ามาหาตัวเองแล้วยื่นหน้าเข้าไปกระซบ "คงใช่…"
"อ๊ะ!?" ดีไวน์ใช้กุญแจมือล็อกเรียวแขนคู่สวยเอาไว้ข้างหลังแล้วดันตัวเล็กนั่งลงระหว่างขาตัวเองที่เดิม โดยมีร่างหนานั่งเหยียดขาแล้วมีร่างของอายแคร์นอนอยู่ระหว่างกลาง "ปล่อยนะ มันเจ็บ"
"…" ดีไวน์ยกยิ้มไม่สนใจคำพูดของอายแคร์เขาจัดการเสพของตรงหน้าต่อสลับกับก้มหน้าละเรงลิ้นลงบนอุ้งปากเล็ก มือหนาบีบคางมนบังคับให้เธออ้าปาก ลิ้นสากที่มาพร้อมกลิ่นยาเสพติดทำให้อายแคร์แทบอาเจียนออกมาเธอถูกบังคับให้อ้าปากอยู่แบบนั้นด้วยความทรมาน
"นะ นายทำบ้าอะไร" ใบหน้าแดงซ่านถามออกไปหลังจากที่ถูกมอบสัมผัสป่าเถื่อนแบบนั้นมาเนิ่นนาน สายตาริบรี่ไล่มองการกระทำของดีไวน์ที่เริ่มน่ากลัวขึ้นไปทุกที
"เอาเมีย" ตอบแค่นั้นก็จับร่างอายแคร์นอนราบบนพื้นแล้วตวัดขาขึ้นคร่อม ชายหนุ่มจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออกทุกชิ้นแล้วก้มลงดูดหน้าอกอวบ มืออีกข้างชักแก่นกายตัวเองไปมาก่อนจะจ่อมันเข้าที่ร่องแคบ
"อย่า…" อายแคร์ที่สติรวยรินจากผลกระทบของสารเสพติดเอ่ยขอร้องทว่ามันกลับเปล่าประโยชน์เอวสอบดันแก่นกายกดลงมาสุดโคนแล้วออกแรงกระแทกอารมณ์เคลิบเคลิ้มยิ่งทำให้ความดิบเถื่อนในกายชายมันทวีคูณขึ้น
-อายแคร์-
ฉันปล่อยให้นํ้าตามันไหลอาบพวงแก้มออกมาร่างกายกอดตัวเองเอาไว้ เมื่อคืนมันเหมือนฝันร้ายที่ฉันไม่อยากจำอีกต่อไปมันทรมานแทบขาดใจ เขาทารุณร่างกายฉันเหมือนคนอดอยาก ฉันโดนสารพัดทั้งกุญแจมือ โซ่ แส่ เขาทำมันลงร่างกายฉันทุกอย่างมันเป็นเวลาคืนเดียวที่เจ็บปวดและเสียนํ้าตามากที่สุด ผู้ชายคนนั้นเขาบอกชอบ บอกโหยหาฉันมาตลอดและโมโหทุกครั้งเวลาเห็นฉันกำลังควงใครหรือมีผู้ชายคนอื่น นั้นเป็นสาเหตุที่ดีระบายความอึดอัดความโกรธออกมา…
"โอ๊ย!" ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บแล้วขดร่างกายเข้าหาตนเอง ตอนนี้ได้แต่นอนเปลือยเปล่าบนเตียงแผ่นเต็มไปด้วยรอยเล็บขูดลากยาว รอยของแส่ แค่พลิกกายนิดเดียวร่างกายมันก็ดิ้นพล่านขึ้นมา "นํ้า มะ…มึงอยู่ไหนวะ"
ฉันพึมพำกับตนเองถึงคนเดียวที่คอยช่วยตลอดแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือฉันก็ไม่สามารถติดต่อหาใครได้ แรงแทบจะลุกเดินก็แทบจะไม่มีความรู้สึกของฉันมันไม่พร้อมทำอะไรอีกต่อไปที่คิดได้คืออยากไปให้พ้นจากผู้ชายคนนี้ไปไหนก็ได้ที่ไม่มีเขา ไปให้หลุดพ้นสักที…
ใช่…ฉันต้องหนี หนีไปให้ไกลจากไอ้บัดซบนี้
.
.
.
ปัจจุบัน
นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันหนีไปอังกฤษแต่แล้วก็ต้องกลับมาพบเขาอีกครั้ง
ดีไวน์…
"ไง ทำไมกลับมาก่อนถ่ายงานเสร็จวะ" ต้นน้ำมันถามในตอนที่มารับฉันอยู่สนามบิน ฉันตัดสินใจบินกลับจากภูเก็ตในเช้าของอีกวันพร้อมกับยกเลิกงานถ่ายแบบแล้วคินเงินให้ ขืนทนอยู่อีกต่อไปฉันคงไม่รอด
"เดี๋ยวกูเล่า รถของโรงแรมจอดอยู่ไหน"
"คันนี้นะ จอดอยู่ทางฝั่งนู้น" ต้นน้ำมันยกหน้าจอมือถือขึ้นให้ฉันดูเป็นรถตู้คันสีดำของทางคอนโดที่ส่งมารับ
"อือ แล้วมึงไม่ไปด้วยกันหรอ"
"พี่นพเเฟนกูมันยากอ่ะดิ กูต้องรีบกลับไปหามัน"
"เออ ไว้เจอกัน กูไปก่อนนะ"
"มีไรโทรมา" ฉันโบกมือให้มันแล้วหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวมเพราะต้องข้ามถนนฝ่าแดดไปอีกฝั่ง ลืมบอกไปต้นน้ำมันมีแฟนแล้วคบกันมาได้ปีกว่าในช่วงที่ฉันไปอังกฤษ ฉันไปตอนปีสี่แล้วดรอปเรียนเอาไว้พอกลับมาก็น่าจะไปเรียนต่อแบบเงียบๆ
"รถจากทางโรงแรมใช่ไหมคะ" พอเดินมาถึงรถตู้คันสีดำที่ต้นน้ำบอกฉันก็เอ่ยถามแล้วยกกระเป๋าขึ้นไปไว้บนรถแล้วผู้ชายคนขับที่ฉันไม่ได้ใส่ใจมองก็พยักหน้าตอบพอเห็นแบบนั้นจึงเดินขึ้นไปนั่งเบาะหลังแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่น
ครืด~ ครืด~
แล้วสายของต้นน้ำก็เรียกเข้าด้วยความแปลกใจฉันเลยกดรับ โทรมาทำไมกันนะทั้งที่พึ่งเจอกันเมื่อกี้
"มีไรป่าว"
(มึงยังไม่ขึ้นรถหรอวะ กูลืมเอาเอกสารการเรียนให้มึงอ่ะ)
"ขึ้นแล้ว"
(อีตอแหล กูยังยืนอยู่รถอยู่เลยมึงไปขึ้นรถใครวะ) ฉันชักสีหน้าแปลกใจแล้วมองออกไปนอกกระจกก็เห็นรถตู้อีกคันที่มีต้นน้ำยืนคุยโทรศัพท์อยู่มันทำให้ฉันมองกระจกหน้ารถก็เห็นแววตาเรียบนิ่งพร้อมกับรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม พลันสายก็ตัดไปโทรศัพท์ล่วงหล่นจากมือ…
"ดะ ดีไวน์…"
.
.
.
ไม่รอดอ่ะนางเอกฉัน555555555555555555555555
อีกตอนดีไหมน้า~