EP05
.
.
.
"เชี้ย!" ต้นน้ำมันอุทานออกมาด้วยความตกใจแล้วดึงกระดาษจากมือฉันไปขยํ้าทิ้ง
"นี้มันเรื่องบ้าอะไร"
"มันเล่นมึงแล้วว่ะ คราวนี้มึงได้เป็นเมียมันสมใจอยากแน่" คำพูดของต้นน้ำทำให้ฉันวิตกกังวลมากกว่าเดิม ไม่ใช่แค่ฉันต้องมาคอยหวาดระแวงแต่มันมากกว่านั้น
"กูไม่รู้ต้องทำไงต่อแล้ว" ฉันได้แต่ตอบออกไปสติสัมปชัญญะเลื่อนลอย มือถูกยกขึ้นกุมขมับทั้งสองข้างเอาไว้อย่างคนเสียสติ
"มึงหยุดเรียนก่อนไหมอย่าพึ่งไปหาทางคิดก่อน กูไม่น่ายุมึงเลยว่ะ"
"กูไม่อยากอยู่คนเดียว ให้กูไปกับมึงนะนํ้า" ฉันหันไปหามันด้วยแววตาสั่นระริกมันเป็นเรื่องเดียวที่ฉันกลัวมากที่สุดในชีวิต ต้นน้ำมองหน้าฉันแล้วยื่นมือมาบีบเอาไว้เป็นเชิงให้กำลังใจพลันสมองมันก็นึกย้อนกลับไปเหตุการณ์เมื่อวานที่มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในลิฟต์พร้อมกับฉันหรือบางทีผู้ชายคนนั้นคือดีตั้งแต่แรก เขารู้แม้กระทั่งที่อยู่ของฉันงั้นหรอ ยิ่งคิดความหวาดกลัวก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
"งั้นก็ไปเรียน อยู่กับกูไว้ก่อนอย่าไปไหนคนเดียว"
"กูจะทำยังไงดี…" ในหัวมันมีแต่คำถามเดิมซํ้่าวนไปวนมาเรียนมหาลัยเดียวกันอยู่ในกลุ่มของนักศึกษาที่ต่างมีครอบครัวมากอิทธิพลแบบนั้นฉันจะไปทำอะไรได้
"มึงอย่าพึ่งคิด เดี๋ยวไปมอกับกูก่อนอย่างๆน้อยก็ดีอยู่นั่งอยู่ในห้อง"
"…" ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปปล่อยให้ต้นน้ำจูงแขนเดินออกจากห้องพร้อมกับล็อกประตู แล้วเราก็มาเรียนตามปกติของทุกวันจะไม่ปกติก็ตรงที่สายตาของทุกคนโดยเฉพาะนักศึกษาผู้หญิง ฉันเลือกที่จะมองข้ามแล้วเดินเข้าไปยังในตึก
"นํ้า กูไปเข้าห้องน้ำนะ เพลียๆว่ะ"
"กูไปเป็นเพื่อนเอง"
"มันสายแล้วมึงเข้าเรียนก่อนเถอะ ถ้ามึงสายอีกคาบเดียวติดเอฟแน่นอน"
"มึงโอเคนะ"
"คงไม่มีอะไรหรอก" มันแตะแขนฉันแล้วส่งยิ้มมาให้พร้อมกับเดินหายเข้าไปในตึกเรียน ฉันจึงเดินเลี่ยงมาเข้าห้องน้ำเพราะรู้สึกไม่สดชื่นแถมร่างกายยังอ่อนล้าบวกกับสภาพจิตใจ พอเดินเข้ามาในห้องน้ำก็จัดการล้างหน้าสายตาจ้องมองตัวเองผ่านกระจกกลับมีสายตาของกลุ่มผู้หญิงนักศึกษากลุ่มหนึ่งมองมาไม่ต่างจากตอนอยู่หน้าคณะ พวกเธอซุบซิบอะไรบางอย่างจนฉันแอบรำคาญ
"ขอโทษนะ มีปัญหาอะไรรึป่าวเห็นมองแล้วซุบซิบมานาน"
"เปล่า พวกเราก็แค่คุยกัน" หนึ่งในนั้นตอบแล้วบิดปากใส่อย่างมีจริต
"แต่ดูเหมือนว่าจะมีประเด็นหลักเป็นฉัน อยากถามอะไรพูดมาสิจะได้ไม่ต้องเก็บไปสงสัยแล้วถามกันเอง"
"นอกจากจะมั่วผู้ชายไปทั่วแล้วยังปากดีอีกนะ"
"ปากไม่ได้ดีอย่างเดียว มือกับตีนก็ดีด้วยอยากลองไหม?" ฉันกอดอกหมดความอดทนแล้วย่างกรายเข้าไปหาพวกเธอด้วยแววตาแน่วแน่ ไอ้พวกที่เห็นอะไรแล้วคิดไปเองมันหน้าตบให้ฟันร่วงถ้าให้ฉันทายคงเรื่องโพสต์เมื่อเช้าที่กำลังกลายเป็นกระแสในมอถามว่าอายไหมก็ไม่ ฉันชินชากับเรื่องพวกข่าวแบบนี้ไปแล้วแต่ที่ไม่พอใจก็คือทำไมนายนั้นต้องทำตัววุ่นวายกับชีวิตฉันขนาดนี้ด้วย
"แค่นี้ยังเป็นกระแสไม่พอรึไง อยากมีข่าวอีกว่างั้น"
"ฉันก็มีข่าวเสียหายประจำ แต่พวกเธอนี้สิเป็นข่าวขึ้นมาแล้วความตอแหลที่เหยียบไว้คงไม่มิดนะ" ไม่พูดเปล่าฉันยังเอียงคอล้อเลียนปลายนิ้วเกี่ยวปลายผมเล่นปั่นประสาทนางบ้าพวกนี้ให้หัวเสีย
"ยัย!"
"เอาสิ แก้มว่างพอดีตบมาเลยคนมองอยู่ด้วยถ่ายคลิปไว้สิคะ รออะไร" ฉันหันไปบอกกับทุกคนแล้วหันมายกยิ้มให้พวกนางที่กำลังยืนหายใจฟึดฟัดใหญ่ "ไม่กล้าหรอ"
"…" มีเพียงความเงียบตอบกลับมาทั้งสามคนเดินชนไหล่ฉันออกไปจากห้องน้ำอย่างคนหัวเสีย ฉันจึงตะโกนตามหลังตามไป
"ทีหลังถ้าไม่กล้าตบก็อย่าเก่งแต่ปาก" พูดจบก็หันมาตวัดสายตามองนักศึกษาคนอื่นที่ต่างพากันรีบปิดโทรศัพท์ในตอนยกขึ้นถ่ายคลิป หลังจากที่จัดการกับธุระส่วนตัวของตัวเองเสร็จก็เดินออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เกิดเป็นฉันถ้าไม่ร้ายก็เอาตัวไม่รอดใครร้ายมาก็ร้ายกลับใครดีมาก็ดีกลับแค่นั้น จุดเริ่มต้นของความซวยทั้งหมดก็เป็นเพราะฝีมือของดีที่ทำให้ภาพลักษณ์ของฉันมันแย่ลงกว่าเดิมจนคนเริ่มหมั่นไส้และคอยแอนตี้บวกกับพวกผู้ชายบางกลุ่มที่เขาเป็นแฟนคลับคอยชื่นชมผลงานทัศนคติของฉันไม่ได้สนใจเรื่องส่วนตัวหรือเสพข่าวจากดีซึ่งคนพวกนี้ควรมีอยู่ในสังคมซะมากกว่า
"ไปนานจังเลยว่ะ มีเรื่องอะไรรึป่าว"
"เรื่องไร้สาระ" ฉันตอบต้นน้ำที่กำลังเตรียมชีทเรียนแล้วหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ช่วงหลังสุด
"มีคนมาหาเรื่องมึงไม่เว้นแต่ละวันเลยหรอ น่ารำคาญชะมัด"
"ปล่อยแม่งไปเฮอะ ทำอะไรกูมากกว่านี้ไม่ได้หรอก" อย่างมากมันก็แค่ได้หาเรื่องตบมาตบกลับแค่นั้นแหละ ต้นน้ำมันมองฉันแล้วถอนหายใจออกมาคงเหนื่อยกับชีวิตแต่ละวันของฉันมั้ง นางเป็นคนเดียวที่ยอมทิ้งเพื่อนจอมปลอมทุกคนที่เข้าหาเพราะฐานะเพื่อมาคบกับฉันที่มีพวกผู้หญิงเกลียดเกือบครึ่งมหาลัยทั้งที่รู้ความบรรลัยของชีวิตฉันมาตั้งแต่เริ่ม
"พวกขยะอย่าไปใส่ใจเรียนเถอะมึง" อาจเป็นเราสไตล์คล้ายกันด้วยแหละเลยไปด้วยกันได้ดีในทุกเรื่อง…
…
หลายวันผ่านไป
"คุณอายคลับ มีแฟนคลับส่งของขวัญมาให้คุณอายครับ" ในตอนที่อายแคร์กำลังเดินออกมาจากคอนโดหลังจากถ่ายแบบในคอนเซ็ปท์ช่วงกลางคืนเสร็จเธอก็เดินออกมาจากคอนโดหรูพร้อมกับต่อสายหาเพื่อนสนิทแต่กลับมีพนักงานของคอนโดมาดักเอาไว้แล้วหอบของขวัญกล่องโตยื่นให้
อายแคร์หลุบมองแล้วหยุดเดินสายตามองกล่องของขวัญก่อนจะตัดสินใจกดตัดสายของต้นน้ำไปก่อน เธอเอื้อมมือรับมันมาด้วยความแปลกใจแล้วฉีกยิ้มกลับไปให้พนักงานขาย
"ขอบคุณนะคะ ว่าแต่พอจะรู้ไหมคะว่าเขามีลักษณะท่าทางยังไง"
"เป็นผู้ชายตัวสูงสวมฮูดและแมสสีดำครับผมหน้ายาวเกือบปิดตาผมมองหน้าไม่ค่อยชัดแต่มองออกว่าหน้าตาดีมาก" พนักงานตอบทำให้อายแคร์คิดตาม ซึ่งลักษณะแบบนี้มันคุ้น แต่มันจะเป็นได้ยังไงกันในเมื่อเขาหายไปหลายวันแล้วแถมยังไม่ได้มีข้อความหรือของส่งมาตั้งแต่วันนั้น
"ขอบคุณนะคะ" อายแคร์ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็เดินออกมาจากคอนโดหยุดอยู่ที่รถของตนเอง เธอสอดตัวเข้าไปนั่งข้างในแล้ววางกล่องของขวัญเอาไว้เบาะข้างกันสายตาเหลือบมองด้วยความอยากรู้แต่ก็เลือกที่จะกลับไปดูที่ห้องแล้วขับกลับคอนโดใหม่ซึ่งย้ายมาได้ไม่กี่วัน เวลาผ่านไปไม่นานอายแคร์ก็กลับมาถึงคอนโดเธอทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเขี่ยเล่นพลันสายตาก็ต้องหยุดอยู่ที่โพสต์หนึ่งเป็นของดี…
Twitter
'คึดถึงจึงส่งไปให้'
#D
อายแคร์โยนมือถือทิ้งด้วยความหงุดหงิดเธอสูดหายใจเข้าปอดแล้วตัดสินใจหยิบกล่องของขวัญสีดำขึ้นมาเธอจ้องมองมันสักพักก่อนจะแกะมันออกมาสิ่งที่พบคือรูปของเธอตอนเปลือยกายนอนหลับในห้องของดีไวน์ มือเรียวหยิบดูทีละรูปด้วยใบหน้าเจื่อนเธอพูดอะไรไม่ออกภาพตัวเองตอนเปลือยถูกเขาถ่ายเอาไว้หลายรูปและรูปพวกนี้เขาสามารถเผยแพร่มันลงตอนไหนก็ได้ เธอไม่อาจรู้
"กรี๊ดดดดดดดดดด!" เธอกรีดร้องออกมาด้วยความอึดอัดใจ ทั้งที่คิดว่าจะพ้นจากผู้ชายคนนี้แล้วทำไมเขาต้องกลับมาอีกไม่สิดีไวน์ไม่ได้กลับมาเขาไม่ได้ไปไหนด้วยซั้ายังคงวนเวียนอยู่รอบตัวเธอโดยที่อายแคร์ไม่รู้ตัว
กลีบปากบางสั่นระริกสายตากวาดมองรอบห้องด้วยอาการหวาดระแวงคนตัวเล็กยกขาตัวเองชันขึ้นบนโซฟาแล้วกอดเอาไว้ มือควานหาโทรศัพท์มือถือพัลวันต้องการโทรไลน์ไปเคลียร์กับชายหนุ่มให้รู้เรื่องและไม่นานปลายสายก็กดรับ…
"ต้องการอะไร พอทีได้ไหม ขอร้องแหละ…อึก" เอ่ยบอกออกไปนํ้าเสียงก็สั่นเครือโซนประสาทได้ยินเพียงเสียงลมหายใจผ่านปลายสายออกมา
(…) ดีไวน์ฟังเสียงสั่นของคนตัวเล็กที่เขาตั้งใจส่งของขวัญไปให้เธอดูแล้วเหยียดยิ้มออกมาอย่างพอใจแผนที่วางไว้มันใกล้จะสำเร็จแล้ว
"ได้ยินไหม ฉันถามว่านายต้องการอะไร" อายแคร์สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความกล้าให้ตัวเองจะสู้กับคนแบบนี้เธอไม่ควรอ่อนแอร์
(…)
"ฉันรู้แล้วว่านายเป็นใคร แล้วก็รู้ด้วยว่านายคิดจะทำอะไรอยู่ ฉันจะไม่แจ้งตำรวจแต่ขอได้ไหมอย่าปล่อยรูปแค่นี้ชีวิตฉันมันก็เฮงซวยเพราะนายมามากพอแล้ว นายทำแบบนี้มันไม่ได้มีอะไรขึ้นหรอกฉันไม่ได้สนใจหรือชอบนายมีแต่จะเกลียดมากขึ้นกว่าเดิมเพราะวิธีบ้าบอแบบนี้ หยุดเถอะ หยุดทำแบบนี้ ฉันทนไม่ไหวแล้ว" อายแคร์ร่ายยาวออกมาแล้วยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดออกมาหยาดนํ้าตาสีใสมันทะลักออกมาคลอเบ้า
(…) ดีไวน์ได้แต่ฟังแล้วเค้นหัวเราะในลำคอ ไม่ได้สนใจ ไม่ได้ชอบงั้นหรอ ใครสนเมื่อเขาชอบแล้วก็ต้องได้มาครอบครองด้วย จองไว้ตั้งนานจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง…
"ได้ยินที่ฉันพูดบ้างไหม หรือนายต้องเห็นฉันอึดอัดจนฆ่าตัวตายก่อนถึงจะพอได้…" อายแคร์ตัดพ้อออกมาแล้วยกมือขึ้นปาดนํ้าตาออก
"ออกมาเจอกันสิ…"
.
.
.
เป็นฉันก็เสียสติไปเหมือนอายแคร์555555555555555555
ขึ้นชื่อว่าพระเอกไรท์ผีบ้าทุกคนค่ะะะ