ตอนที่ 7 เลขานุการจำเป็น/3

2760 Words
บริเวณหน้าลิฟต์โดยสาร  “ลิฟต์ตัวขวาสุดเป็นของท่านประธาน พนักงานที่ได้รับอนุญาตจึงจะใช้บัตรชนิดพิเศษที่ไม่เหมือนกับลิฟต์อีก สามตัวที่เหลือ จึงจะสามารถใช้ลิฟต์ตัวขวาสุดนี้ได้ เมื่อใช้เสร็จแล้วต้องนำกลับมาคืนทุกคนที่ห้องรักษาความปลอดภัย เพราะในทุกๆ วันจะมีการเบิกและตรวจเช็คทุกวันว่ามีใครได้รับอนุญาตนำออกไปใช้บ้าง” “เอาบัตรแตะเครื่องสแกน ลิฟต์ก็จะถูกเรียกมาที่ชั้นนี้ทันที เชิญทดลองได้เลย” หญิงสาวทำตามคำกล่าวของหัวหน้าฝ่ายบุคคลทันที เธอนำบัตรที่เพิ่งได้รับแตะเคิรองสแกนที่อยู่ด้านหน้าลิฟต์ เพียงครู่ลิฟต์ก็วิ่งลงจากชั้นที่ 80 ลงมาที่ชั้น 35 อย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดออกกว้างเพื่อต้อนรับเธอและหัวหน้าฝ่ายบุคคลเข้าไปเข้าไปข้างใน “แล้วดิฉันต้องนำบัตรกลับไปคืนที่ห้องรักษาความปลอดภัยทุกวันด้วยหรือเปล่าค่ะ คือเบิกทุกเช้าและส่งคืนตอนเย็นฉันเข้าใจถูกต้องไหม”หญิงสาวเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจครั้นเข้ามาอยู่ในลิฟต์เรียบร้อยแล้วกำลังขึ้นไปยังชั้นที่ 79 ซึ่งเป็นห้องทำงานของเธอ “ผิดแล้วแอนนี่ บัตรของคุณถูกทำมาเป็นกรณีพิเศษซึ่งท่านประธานอนุญาตให้พกติดตัวได้ตลอดเวลา เพราะมันเป็นบัตรที่ครอบคลุมการใช้อย่างอเนกประสงค์ ทั้งเป็นบัตรพนักงาน สแกนเข้าออกทุกช่องทางในตึกนี้ สแกนคำสั่งขึ้นลิฟต์หรือแม้กระทั่งสแกนจ่ายค่าอาหารที่โรงอาหารของบริษัทโดยที่คุณไม่ต้องชำระเงินเลย ระบบจะจัดเก็บยอดบิลค่าใช้จ่ายและไปหักกับเงินเดือนของพนักงาน ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับพนักงานของเราทั้งหมด” คำกล่าวของหัวหน้าฝ่ายบุคคลทำเอาหญิงสาวถึงกับอึ้งในประสิทธิภาพของบัตรที่เธอถืออยู่ในมือ “ว้าวถ้าไม่บอกไม่รู้นะเนี่ยดีจังเลย ดีนะที่ไม่ใช่บัตรไปรูดซื้อสินค้าตามห้างหรือร้านค้าอื่นๆ ทั่วไป ถ้าทำได้ละก็เชื่อเลย”หญิงสาวเอ่ยออกมาเบาๆ “ทำไมจะไม่ได้ละแอนนี่ ที่คุณพูดเมื่อกี้บัตรของคุณสามารถทำได้หมดแต่จะเป็นร้านค้าที่อยู่ในอาคารรอสโซ่เท่านั้นนะ ร้านค้าด้านนอกใช้ไม่ได้หรอกแต่ว่าวันมะรืนจะมีบัตรเครดิตจากธนาคารส่งมา ซึ่งคุณสามารถมารับได้ที่ห้องฝ่ายบุคคล วงเงินในบัตรที่จะได้รับธนาคารจะพิจารณาจากฐานเงินเดือนของคุณแต่ก็จะไม่เกิน 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ” “หา! ฉันมีบัตรเครดิตด้วยอย่างนั้นเหรอคะ ทำไมฉันถึงต้องมีด้วย ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มทำงานเลยแต่มีบัตรเครดิตใช้ให้ก่อนแล้ว อะไรจะสวัสดิการดีขนาดนั้น”หญิงสาวเอ่ยด้วยความแปลกใจและสงสัยอย่างยิ่งยวด “แต่นี่มันคือเรื่องจริงแอนนี่ บริษัทของเราให้ความสำคัญกับสวัสดิการของพนักงานเป็นหลักเพื่อเลี้ยงคนดีมีความสามารถและที่สำคัญป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ทุจริตต่อหน้าที่เพียงเพราะขัดสนเรื่องเงินทอง ท่านประธานจึงมีนโยบายในเรื่องสวัสดิการของพนักงานนี้และอัดฉีดทุกปี พนักงานของรอสโซ่ไม่มีใครลาออกเลย นอกเสียจากตายหรือถึงวัยที่จะต้องปลดเกษียณ แต่ละคนทำงานมาอย่างยาวนานทั้งนั้น ในเมื่อสวัสดิการดีขนาดนี้ใครจะอยากลาออก จริงไหม” หญิงสาวยืนฟังหัวหน้าฝ่ายบุคคลบอกรายละเอียดเกี่ยวกับสวัสดิการที่แสนจะเหลือเชื่อให้เธอฟัง ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริงจากที่ฟังคนอื่นเล่าๆ ต่อๆ กันมา ว่าหนึ่งในห้าบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐมีสวัสดิการที่ดีเป็นเลิศจนพนักงานไม่อยากลาออกหรือเปลี่ยนงานเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อมาได้ยินกับตัวเองแล้ววันนี้ทุกสิ่งที่ได้ยินมาเป็นจริงตามคำร่ำลือ ชั้นที่ 79 “ขอต้อนรับสู่ชั้นที่ 79”เสียงตามสายดังขึ้นพร้อมประตูลิฟต์ถูกเปิดออก หัวหน้าฝ่ายบุคคลเดินนำหน้าหญิงสาวออกมาจากลิฟต์ โดยมีร่างระหงเดินตามมาติดๆ ซึ่งประตูทางด้านขวามือนั้นเธอเคยเข้าไปแล้ว ตอนเข้ารับการสัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ก่อน เหลือประตูทางซ้ายมือที่เธอยังไม่รู้ว่านั้นคือห้องทำงานส่วนตัวของเธอนั้นเอง ครั้นมาหยุดยืนตรงหน้าประตู เสียงหัวหน้าฝ่ายบุคคลเอ่ยบอกเธอทันที “นี่คือห้องทำงานของคุณแอนนี่ ใช้บัตรของคุณสแกนเข้าออกพร้อมต้องใช้ลายนิ้วมือของคุณเพื่อปลดระบบความปลอดภัยเข้าห้องทำงาน วางมือลงบนเครื่องสแกนหน้าประตูได้เลย มุมสุดซ้ายมือเดี๋ยวเครื่องจะบันทึกลายพิมพ์นิ้วมือของคุณทันที” หญิงสาวทำตามคำกล่าวของหัวหน้าฝ่ายบุคคลอย่างรวดเร็ว นิ้วชี้เรียวสวยถูกวางลงบนเครื่องสแกนพร้อมระบบคำสั่งเริ่มทำงาน “สแกนลายนิ้วมือเรียบร้อยระบบกำลังบันทึกภาพลายพิมพ์นิ้วมือ กรุณาวางนิ้วมือลงบนเครื่องสแกนอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน”ระบบขึ้นข้อความอย่างรวดเร็วซึ่งหญิงสาวก็ทำตามขั้นตอนอย่างคล่องแคล่ว จนกระทั่งระบบได้ทำการปลดล๊อกประตูห้องพร้อมเปิดออกเองโดยอัตโนมัติ” “ว้าวให้มันได้อย่างนี้สิ...เจ๋งสุดๆ”หญิงสาวรำพึงอยู่ภายในใจกับเทคโนโลยีความปลอดภัยในตัวตึก “นี่คือห้องทำงานของคุณแอนนี่ ผมส่งคุณเข้าห้องทำงานเรียบร้อยหมดหน้าที่ของผมแล้ว และไม่ต้องกังวลเรื่องสแกนเวลาเข้าออกงาน เพราะเครื่องสแกนหน้าประตูจะบันทึกเวลาเข้าออกการทำงานของคุณโดยอัตโนมัติแล้วจะส่งผลการบันทึกเข้าออกไปที่ศูนย์ระบบความปลอดภัย ทางฝ่ายบุคคลจะเรียกระบบขึ้นหน้าจอเองเมื่อถึงเวลาต้องทำเงินเดือน รอสโซ่ยินดีต้อนรับ สงสัยอะไรก็ปรึกษากันได้ตลอดเวลา หวังว่าคุณจะอยู่กับเราจนถึงวัยเกษียณนะ” เกเกอรี่กล่าวพร้อมส่งยิ้มให้บางๆ ก่อนจะเดินหันหลังกลับพร้อมใช้บัตรแตะเครื่องสแกน เพื่อเปิดประตูและกดลิฟต์เพื่อลงไปชั้นที่ตนทำงานอยู่ ท่ามกลางสายตาของดาริกาที่ยืนมองการทำงานของระบบตัวตึกด้วยความชื่นชมในเทคโนโลยีอันทันสมัยซึ่งถูกนำมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและมีระบบเซฟตี้อย่างสุดยอดและเข้มงวดมากเลยทีเดียว “สมกับเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่จริงๆ เลย โชคดีเป็นบ้าเลยเรา ที่ได้มีโอกาสทำงานที่นี่”หญิงสาวพูดเบาๆ กับตัวเอง ร่างระหงค่อยๆ ก้าวเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวของเธอก่อนจะตาโตเมื่อเห็นการตกแต่งอย่างมีสไตล์ลงตัว เรียบหรูแต่เก๋มีเสน่ห์แฝงความเป็นโมเดรินเอาไว้ในตัวผสมผสานได้เป็นอย่างดี “โอโห่! ทุกอย่างในห้องนี้เป็นสีขาวทั้งหมดเลย แม้กระทั่งดอกไม้ก็เป็นสีขาวด้วยแฮะ”หญิงสาวพูดพร้อมก้มลงชื่นชมดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ที่ถูกนำมาจัดไว้ในแจกันตั้งอยู่ด้านหลังเก้าอี้ทำงานของเธอ ดอกลิลลี่สีขาวเป็นดอกไม้ซึ่งเธอชอบมากที่สุด ไม่คิดว่าคนจัดห้องทำงานเหมือนจะรู้ใจเธอก็เลยเล่นจัดห้องทำงานได้ถูกใจและลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ห้องทำงานขนาดกำลังพอดีไม่กว้างมากจนทำให้เธอรู้สึกว่ากำลังนั่งในที่โล่งๆ ทั่วทั้งห้องติดด้วยวอล์เปเปอร์สีขาวนวลละมุนตาด้านหลังโต๊ะทำงานลงบิวท์อิน ยกระดับให้เกิดเบ้าลอยเพื่อฝังภาพแผนที่สาขาที่กระจัดกระจายไปอยู่ทั่วทุกมุมโลก ทางด้านหลัง โต๊ะทำงานขนาดใหญ่สีขาวสะอาดตาสไตล์โมเดรินวางอยู่กึ่งกลางห้องพร้อมเก้าอี้ทำงานตัวเขื่องสไตล์โมเดรินเช่นกัน แม้จะใหญ่แต่เพรียวอยู่ในระดับกำลังพอดี พร้อมเก้าอี้สีขาวขนาดกลางสไตล์เดียวกันของแขกที่มาเข้าพบวางอยู่ด้านหน้า ฝั่งตรงกันข้ามซึ่งชิดกระจกผืนใหญ่ทั้งแถบของตัวตึก วางเก้าอี้ยาวขนาดใหญ่สีขาวสไตล์โมเดรินวินเทจ พร้อมโต๊ะกลางสำหรับรองรับแขกหากมากันหลายคนไว้อย่างลงตัว อ้อมไปทางด้านหลังของมุมห้องฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำส่วนตัวที่อยู่ภายในห้อง ด้านนอกก่อนถึงมุมเข้าประตูห้องน้ำเป็นมุมกาแฟและของว่างระหว่างวัน มีโต๊ะสำหรับสองที่นั่งสำหรับนั่งทานกาแฟและของว่างจัดเตรียมเอาไว้ มือเรียวเอื้อมมือเปิดตู้เย็นขนาด 12.9 คิวออกเพื่อสำรวจก่อนจะตาโตเมื่อเห็นของกินสารพัดอัดแน่นอยู่เต็มตู้ ไม่รวมกับของแห้งและของว่างระหว่างพักเบรกระหว่างวัน อยู่ในตู้เก็บของซึ่งวางไว้ติดกัน “โอโห่อะไรเนี่ย ทำไมถึงมีของกินอะไรตั้งมากมายอยู่ภายในนี้มีเอาไว้ให้ใครกันนะ”ดาริกาสงสัยอยู่ภายในใจก่อนจะสังเกตเห็นประตูที่อยู่ผนังฝั่งตรงขวามือกับโต๊ะทำงานของเธอ “มีห้องอะไรอยู่หลังประตูนี้นะ หญิงสาวพูดพร้อมเอื้อมมือหมายจะเปิดประตูบานดังกล่าว หากแต่ยังมิทันเปิดออก ประตูก็ถูกเปิดจากด้านในเข้ามาพอดีเผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ของบุรุษชาวต่างชาติกำลังยืนคร่อมเธออยู่ในขณะนี้ “ยินดีต้อนรับดาริกา”บุคคลเบื้องหน้าเอ่ยต้อนรับทักทายเธอ หญิงสาวยืนนิ่งงันไปชั่วขณะจิต ใบหน้าสวยแหงนหน้ามองผู้ชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่คาดไม่ถึงว่าจะเห็นเขาในห้องนี้ก่อนจะพลั้งปากเอ่ยถามกลับไป “คุณเข้ามาในห้องนี้ได้อย่างไง!”หญิงสาวเอ่ยถามเสียงเข้ม ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าผู้ชายตัวโตเท่าตึกตรงหน้าคือประธานบริษัทรอซโซ่ เจ้านายของเธอ “เออ...ขอประทานโทษค่ะ คือดิฉันเผลอตัวแสดงกิริยาที่ไม่งามออกมา แท้จริงแล้วควรจะพูดว่า ท่านประธานเข้ามาได้อย่างไงค่ะ”หญิงสาวเอ่ยถามออกไป ดวงตาสีเขียวมรกตมองใบหน้าสวยคมตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ พร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ ดังอยู่ภายในลำคอ “ไม่ต้องมากพิธีกับผมหรอก แล้วก็ไม่ต้องเรียกผมว่าท่านประธานด้วย เพราะว่าไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมาจากไหนเลย ผมอนุญาตให้เรียกชื่อแล้วต่อไปก็เรียกว่า อเล็กซ์ไม่ต้องเรียกว่าท่านประธาน เข้าใจไหม” “ดิฉันไม่เข้าใจค่ะและมีความเห็นว่ามันไม่สมควรอย่างมาก ที่ลูกจ้างเช่นดิฉันจะมาเรียกเจ้านายเพียงแค่ชื่อต้นนำหน้าเท่านั้นแม้ว่าท่านจะอนุญาตก็ตามแต่ดิฉันจะไม่ทำตาม ต้องขอโทษด้วยนะคะ”หญิงสาวกล่าวออกไปด้วยความทระนงและถือดี อเล็กซ์หรี่ตามองเด็กสาวตรงหน้าไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำพูดจองหองและถือดีในตัวเองอย่างยิ่งยวด เธอเป็นคนแรกที่ปฏิเสธเขาซึ่งยื่นขอเสนอให้เพียงแค่เรียกชื่อเพื่อมิทำให้รู้สึกมีช่องว่างระหว่างชนชั้นแต่เจ้าหล่อนไม่รับไมตรีจากเขาเอาเสียเลย “ตามใจก็แล้วกันอยากเรียกอะไรก็เรียกเถอะ แต่คุณห้ามผมไม่ให้เรียกคุณไม่ได้หรอกนะ...เพราะฉะนั้นในฐานะเลขาไปชงกาแฟอร่อยๆ แก้วใหญ่ๆมาให้ผมสักถ้วยหน่อยแล้วก็เอาไปที่ห้องของผม...และที่ถามว่าเข้ามาได้อย่างไงประตูนี้เป็นประตูที่เชื่อมต่อห้องทำงานผม เมื่อก่อนไม่มีเลขาห้องนี้เป็นห้องนอนเอาไว้สำหรับงีบหลับเวลาที่ต้องทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำแต่ตอนนี้รีโนเวทใหม่กลายเป็นห้องทำงานของน้องดา” ประโยคสุดท้ายเขาพูดพร้อมทิ้งรอยแย้มเยือนให้กับเธอพร้อมหันหลังกลับเดินออกจากประตูไปตามเดิม ท่ามกลางสายตาของหญิงสาวที่ยืนมองร่างใหญ่เดินกลับไปห้องทำงานของเขาตามเดิม “น้องดาอย่างนั้นเหรอ...เขารู้ได้อย่างไงว่าใครๆ พากันเรียกเราแบบนี้”สาวเจ้าพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะสอดส่ายสายตามองหาแก้วกาแฟและชงไปให้ตามคำสั่งของเจ้านายคนใหม่ของเธอ เพียงครู่ดาริกาก้าวเข้ามาในห้องทำงานของท่านประธานหนุ่มใหญ่ ร่างสูงยังคงก้มหน้าก้มตาลงนามในแฟ้มตรงหน้าที่ตั้งอยู่มากมายอย่างเคร่งเครียด กลิ่นหอมของกาแฟหอมกรุ่นพวยพุ่งออกจากถ้วยนำมาวางไว้ตรงหน้าพร้อมน้ำเปล่า “เดี๋ยววันมะรืนเตรียมตัวไปประชุมที่ชิคาโกช่วงเช้า และพอช่วงบ่ายจะมีงานเลี้ยงคุณต้องไปกับผม งานจะมีขึ้นเวลา 2 ทุ่ม เพราะฉะนั้นช่วงบ่ายจะมีช่างมาแต่งหน้าทำผมให้กับคุณ”อเล็กซ์พูดพร้อมคว้าแก้วกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นยกขึ้นดื่มก่อนจะหยุดชะงักเมื่อรสชาติกาแฟช่างกลมกล่อมถูกใจเข้าเป็นยิ่งนัก “ฝีมือชงกาแฟไม่ใช่เล่นเลยนะเรา อร่อยมากใครบอกสูตรชงกาแฟให้อย่างนั้นเหรอ”หนุ่มใหญ่เอ่ยถามเด็กสาวโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเจ้าหล่อน “สูตรของคุณแม่ดิฉัน เพราะท่านเป็นแม่ค้าขายกาแฟอยู่ในตลาดค่ะ”หญิงสาวตอบกลับไปสั้นๆ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่ห้องของเธอ หากแต่เหมือนมีสิ่งใดที่ติดค้างอยู่ภายในใจ ร่างระหงหันกลับมาเอ่ยกับเจ้านายหนุ่มอีกครั้ง “เรื่องวันมะรืนที่ท่านบอกดิฉันไม่มีปัญหานะคะสำหรับช่วงเช้าเพราะนั้นคืองาน แต่สำหรับงานเลี้ยงกลางคืนที่ท่านจะให้ไปด้วยดิฉันต้องขออภัยที่ไม่สามารถไปกับท่านได้ เพราะไม่เคยออกงานแบบนั้นมาก่อนเกรงว่าจะเกะกะและขวางหูขวางตาท่านเปล่าๆ”หญิงสาวกล่าวจบเดินหันหลังกลับห้องทันที “เดี๋ยวดาริกา!!!”เสียงใหญ่เรียกรั้งร่างเอาไว้ให้รอ “คะท่านประธาน”หญิงสาวขานรับพร้อมหันกลับมามองเจ้านายหนุ่มตรงหน้า ซึ่งเขากำลังนั่งไขว่ห้างสองมือกำลังหมุนปากกาไปมา ดวงตาสีเขียวมรกตกำลังมองตรงมาที่เธอเขม็ง “คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า งานเลี้ยงที่จะไปไม่ใช่เลี้ยงสังสรรค์หรือเลี้ยงส่วนตัวแต่เป็นงานเลี้ยงระดับประเทศร่วมกับนักธุรกิจชั้นแนวหน้าในสหรัฐ ผมมีคุณเป็นเลขาดังนั้นงานเลี้ยงแบบนี้คุณในฐานะเลขาของผมและอยู่ฝ่ายต่างประเทศด้วยก็ต้องไป คิดอะไรมากไปหรือเปล่า ทำตัวเป็นมืออาชีพหน่อยอย่าทำตัวเป็นเด็กๆ คุณไม่ใช่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยแล้วนะแต่เป็นผู้ใหญ่ก้าวเข้าสู่วัยทำงานแล้ว” อเล็กซ์กล่าวสั่งสอนเด็กสาวเสียงดุเมื่อเขาจับความรู้สึกได้ว่าเจ้าหล่อนหวาดระแวงที่จะไปไหนกับเขาเพียงลำพัง ดาริกาเกิดอาการหน้าเสียขึ้นมาทันทีเมื่อถูกเจ้านายหนุ่มสั่งสอนเธอด้วยน้ำเสียงเข้มและดุดัน ยิ่งเขากล่าวว่าเธอไม่มีความเป็นมืออาชีพและมีนิสัยเหมือนเด็กทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียหน้าอย่างบอกไม่ถูก “ขอประทานโทษคะท่าน ดิฉันคิดน้อยไปหน่อยเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าไม่ใช่เด็กมาเล่นขายของแต่พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ ต่อไปนี้ดิฉันไม่มีปัญหาค่ะที่จะไปที่ไหนถ้ามันเกี่ยวกับงาน”หญิงสาวไม่วายเน้นเรื่องงานเป็นหลัก ใบหน้าสวยก้มคำนับให้เจ้านายหนุ่มเพียงเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับห้องของตัวเองอย่างเงียบๆ โดยมีสายตาของอเล็กซ์มองตามหลังจนลับสายตา หนุ่มใหญ่คลี่ยิ้มออกมาบางๆ ความรู้สึกของเขาบอกออกมาทันทีว่าดาริกาเล่นยาก และเขาชอบถ้าผู้หญิงทั้งพยศและถือดีแบบนี้ นั้นหมายความว่าความทระนงและหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง ไม่ทำให้ตัวเองด้อยค่าไร้สิ้นราคาเพราะเงินแต่อย่างใด และที่สำคัญดาริกามีหลายอย่างที่คล้ายเอเดรียน่า อดีตคู่หมั้นสาวของเขาที่จากไปมาก ทั้งนิสัยใจคอและบุคลิกส่วนตัวช่างคล้ายคลึงเสียนี่กระไร แม่สาวน้อยดาริกาก้าวเข้ามาอยู่ในหัวใจของเขานับตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเห็น “ฉันดีใจนะที่เธอเป็นแบบนี้ดาริกา...และหวังว่าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป”หนุ่มใหญ่พึมพำออกมาเบาๆ ดวงตาสีเขียวมรกตยังคงจ้องอยู่หน้าประตูซึ่งเชื่อมต่อกับประตูห้องทำงานของสาวเจ้าอยู่เช่นนั้นนิ่งนาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD