คิมหันต์ที่ตอนนี้ตื่นแล้วกำลังยืนมองที่ระเบียงของห้อง สระน้ำด้านล่างติดกับเรือนหลังเล็กพอดี นึกถึงเหตุการณ์ที่เขาฝันว่าเขากับเด็กนั้นเร่าร้อนดันเมื่อคืนก็หงุดหงิด
กำลังจะเดินเข้าห้องก็เห็นร่างเล็กๆออกจากบ้านมา เหมือนเตรียมตัวจะไปข้างนอก เช้าขนาดนี่จะไปไหน คงไม่ได้ไปทำเรื่องคาวๆนะ ปิดเทอมวันเดียวทนคิดถึงไอ้หน้าอ่อนนั่นไม่ได้เลยหรือ จึงเดินลงจากตึกใหญ่มาดักรอ
เพียงขวัญซื้อถังสังฆทานไว้เมื่อวานนี้ มือข้างหนึ่งหิ้วถัง อีกมือกำลังจะเปิดประตูรั้วก็มีลมหายใจเขาอยู่ข้างหู นี่เพิ่งตีห้ากว่าแต่ยังไม่เช้าเลย เพียงขวัญหลับตาปี๋ก่อนจะละล่ำละลัก
"ฮือๆๆ พี่ผีจ๋าอย่าๆมาหลอกหนูเลยนะ หนูๆๆกำลังจะไปใส่บาตรให้ปู่ เดี๋ยวๆหนูกรวดน้ำไปให้นะจ๊ะ "
คิมหันต์จะขำก็ขำไม่ออก เช้ามืดขนาดนี้คงคิดว่าเขาเป็นผี
"นี่ฉันเอง ผีอะไรแล้วตื่นแต่เช้าจะไปไหน" เพียงขวัญหับขวับทันที ใบหน้าเธอชนแค่หน้าอกเขาเอง คนอะไรตัวสูงชะมัด
"คุณอา อื้อเจ็บ คุณอามาได้ยังไงคะ คือหนูจะไปใส่บาตรค่ะ มันยังมืดอยู่หนูเลยนึกว่าผี ขอโทษค่ะ"
"อ้อ แต่ไม่เช้าเกินไปหน่อยหรือเพียงขวัญ"
"เอ่อ ป้าแก้วบอกว่ามีร้านขายอาหารอยู่ หนูไม่รู้ว่าเขาเปิดกี่โมง หนูเพิ่งจะมาอยู่ ว่าพรุ่งนี้จะทำอาหารไปใส่บาตรเองค่ะ"
"อ้อ เธอรออยู่นี่แหละเดี๋ยวฉันพาไปตลาด ที่นั่นมีพระเยอะ ฉันจะได้ทำให้ปู่เธอด้วย"
เพียงขวัญรอไม่นาน คิมหันต์ก็ขับรถมาเทียบ เธอกำลังจะเปิดประตูหลังก็ถูกดุ
"นี่แม่หนู ฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอนะ มานั่งหน้า"
เพียงขวัญก้าวขึ้นไปนั่งคู่เขา ไม่นานคิมหันต์ก็พาเธอมาถึงตลาด จากนั้นก็หาซื้ออาหารหวานคาวและดอกไม้ เด็กคนนี้คล่องแคล่วดูท่าคงใส่บาตรประจำ ในยุคสมัยนี้หาเด็กที่จะยึดถือธรรมยากแล้ว ดูท่าปู่ของเธอคงสั่งสอนมาดี
ไม่นานก็มีพระรูปแรกเดินผ่านมา ทั้งสองคนยกถาดใส่ของถวายพระขึ้นมาอธิษฐานและตั้งจิตพร้อมกันช่วยกันหยิบข้าวของใส่บาตรพระ เสร็จแล้วก็กรวดน้ำ แต่คิมหันต์ทำไม่เป็น เด็กสาวคอยสอนเขาให้เขาท่องตาม
คิมหันต์ก็ไม่ได้แสดงทีท่าอะไร ทุกอย่างบนโลกนี้ใช่ว่าเขาจะรู้ไปทั้งหมด แม้แต่บทกรวดน้ำสั้นๆยังต้องให้เด็กอายุ16มานั่งสอนเลย จากนั้นก็ให้เงินเธอพันนึงบอกอยากกินอะไรก็ไปซื้อ
"มื้อเช้าฉันไม่กินที่บ้าน เธอไปหาซื้อเถอะอยากกินอะไรก็ตามใจ ป้าแก้วจะทำอาหารสาย เรือนเล็กมีห้องครัวหากอยากกินก็ทำเอง"
เพียงขวัญพยักหน้า ก่อนจะซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋สองชุดไปฝากป้าแก้วหนึ่งชุด เธอซื้อผักสดนิดหน่อยซื้อปลากับกุ้งและหมูมาอย่างละโลหนึ่ง เสร็จแล้วถึงนึกขึ้นได้ว่ามารถเขา
"เอ่อ คุณอาหนูกลับเองก็ได้ค่ะ พอดีปลากับกุ้งมันคาว อาจจะเลอะรถคุณอาได้หนูลืมไปขอโทษค่ะ"
"กลับเถอะ วันนี้ฉันมีงานเช้า" ทั้งคู่กลับถึงบ้าน เพียงขวัญยกมือขอบคุณเขาก่อนจะกลับไปเรือนเล็ก จัดการต้มข้าวต้มกุ้งที่แสนอร่อย กลิ่นกระเทียมเจียมหอมยั่วน้ำลายเหลือเกิน
ป้าแก้วตื่นแล้ว ลุงก้านกำลังเช็ดรถรอคุณท่านไปทำงาน บางวันคิมหันต์ก็ขับเอง เช่นวันที่เกิดเรื่องเขาไม่ได้ขับรถในเมืองไทยบ่อยนัก หลักๆใช้ชีวิตตบนเรือหรือไม่ก็มีลุงก้านขับให้ เพียงขวัญถือถาดข้าวต้มมาวางก่อนจะยกมือไหว้ทั้งสองคน
"ป้าแก้วกับลุงก้านคะ ขวัญทำข้าวต้มกุ้งมาให้ตอนเช้า ขวัญแยกน้ำซุปไว้ให้หิวตอนไหนก็อุ่นทานนะคะ"
"โอ๊ย ขอบใจมากลูกหนูขวัญ กะว่าจะต้มข้าวต้มพอดีเลย ลุงเขาไม่ค่อยสบายน่ะ " ทั้งสามคนหัวเราะให้กัน คิมหันต์ที่เพิ่งเดินลงมามองไปก็แปลกใจ เขาไม่ได้ยินเสียงหัวเราะจริงใจจากคนรอบข้างมานานเท่าไหร่แล้ว ตั้งแต่รับช่วงต่อกิจการคุณพ่อเขาก็ทำแต่งาน เดินมาถึงโต๊ะอาหารได้กลิ่นหอมของอาหารก็เลยรู้สึกหิว
"ป้าแก้ววันนี้ตื่นมาทำอาหารแต่เช้าเชียวครับ อืมหอมจังมีให้สักถ้วยไหม"
"เอ่อ ป้าไม่ได้ทำค่ะคุณท่าน เป็นหนูขวัญแกมีน้ำใจกับคนแก่น่ะค่ะแต่เดี๋ยวป้าเอาไปใส่ถ้วยให้ค่ะ"
"อ้อ ถ้าเช่นนั้นป้าอย่าลำบากเลย ผมไปก่อนนะครับ วันนี้ลุงก้านยังไม่หายดีเดี๋ยวผมขับเอง" คิมหันต์เอ่ยจบกำลังจะเดินเข้าบ้านเพียงขวัญจึงเอ่ยขึ้น
"เอ่อ คุณอาหนูทำเอาไว้เยอะถ้าคุณอาไม่รังเกียจฝีมือหนู"
"ไปเอามาถ้วยหนึ่ง เร็วๆด้วยฉันหิว"
เพียงขวัญพยักหน้าก่อนจะรีบวิ่งซอยเท้ากลับเรือนหลังเล็ก ไม่นานข้าวต้มก็ถูกวางบนโต๊ะอาหาร คิมหันต์นั่งลงกินข้าวต้มพอตักคำแรกก็ประหลาดใจ เด็กคนนี้ฝีมือใช้ได้ จากนั้นก็กินต่อไถมือถือไปด้วย เพียงขวัญเห็นเขากินจนหมดก็โล่งใจ อย่างน้อยเธอก็มั่นใจฝีมือตนเอง คิมหัตน์ลุกขึ้นก่อนจะเอ่ยสั้นๆ
"คุณธามจะมารับตอนสิบโมง ทำอะไรอย่าให้ผู้ใหญ่ต้องรอ อยู่บ้านฉันต้องตรงเวลา มารยาทสำคัญ ฉันไม่ชอบเด็กพูดไม่รู้เรื่อง"
จากนั้นเขาก็ไปทำงาน เพียงขวัญเลยกลับเรือนเล็ก ส่งไฟล์งานให้ลูกค้า ค่าตอบแทนหนึ่งหมื่นไม่ใช่เงินน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้มีมาบ่อยนัก วันนี้ต้องไปซื้อเสื้อผ้าและตัดชุดนักเรียนใหม่ จึงรีบส่งงานให้เสร็จ นั่งรอธนดลมารับเธอจะขอเขาไปหาเพื่อนก่อนเพราะตอนนี้เพื่อนมีปัญหา