5ปีผ่านไป
ณ บริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ เคพี โปรดักส์
ปัง!! เสียงตบโต๊ะทำงานดังลั่นห้องชายหนุ่มหน้าคมผิวขาว ขมวดคิ้วดกดำเข้าหากัน พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้ง ก่อนจะโพล่งเสียงใส่ลูกน้อง
"ว่าไงนะ งานทำไม่ทัน ลูกค้าขอยกเลิก..เหี้ย!เอ่ย มึงทำงานกันยังไงวะ!"
ผมขึ้นเสียงใส่ลูกน้อง ที่เข้ามารายงานว่างานที่ลูกค้าสั่งนั้นทำไม่ทัน ตั้งแต่ผมเรียนจบมา ทางบ้านก็ให้เงินมาทำบริษัทส่วนตัว ออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยมีเพื่อนทั้งหมดของผมมาร่วมด้วย
"คุณขุนพลครับ ลูกค้าขอแก้แบบไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ พอครบวันสัญญา งานออกมาล่าช้า ลูกค้ากลับไม่เห็นใจเรา หาว่าเราช้าเอง แถมจะให้เราจ่ายค่าปรับอีก"
ผมที่ได้ยินลูกน้องบอกแบบนั้นถึงกับกุมขมับเลยทีเดียว จะไม่ให้ผมเครียดได้ยังไง ตั้งแต่เปิดบริษัทมาก็พึ่งเคยเจอ ไหนจะทำงานเสียเปล่า ไหนจะค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ลูกค้ายังจะมาขอค่าปรับล่าช้าอีก นี่มันเหี้ยชัดๆ
"ขุน กูว่า ลองคุยกับเขาก่อนดีไหมวะ เผื่อเขาจะเห็นใจเรา" ไอ้ ออกัสเสนอขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อน พร้อมกับคิดตาม
"มึงเสนอมาสิ" ผมถามมัน
"กูว่าลองเสนอดูว่า ถ้าหากเราทำเสร็จ แล้ว ลูกค้ารับ เรามีส่วนลดให้ เผื่อเขาจะรับข้อเสนอ ถึงมันจะขาดทุนอยู่บ้าง แต่มันก็ดีกว่าที่เราเสียเปล่านะเว้ย" สิ่งที่เพื่อนผมเสนอมานั้นมันก็น่าคิด พอมันเสนอมาแบบนั้นผมก็ยกเรื่องให้มันไปจัดการ เพราะตอนนี้ ผมสั่งงานไอ้ แก๊ปเปอร์ และ ไอ้แม็กส์ ออกไปพบลูกค้านอกสถานที่ ส่วนตัวผมก็นั่งเคลียร์งานส่วนที่เหลือ บริษัทของผมไม่เพียงแค่รับออกแบบเท่านั้นเรายังรับผลิตโปรดักส์ต่างๆ ตามออเดอร์ลูกค้าสั่ง งานออกแบบผลิตภัณฑ์ โลโก้ ที่ลูกค้าจากหลากหลายแบรนด์ออเดอร์มา พวกผมก็รับทำ แต่ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้จะเจอปัญหา เพราะเราเป็นตัวกลางสั่งโรงงานผลิตอีกที
ตกเย็น
"พี่ขุนคะ" เสียงหวานอีกคนเรียกผม ขณะที่ตัวผมนั้น ยังนั่งเคลียร์เอกสารในอ๊อฟฟิต
"ครับ" ผมเงยหน้าขึ้นตอบ เรยาเธอเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อผม แต่น้องยังเรียนอยู่และตอนนี้กำลังฝึกงาน ดังนั้น พ่อของเธอเลยฝากผมช่วยดูแล
"เลิกงานแล้วพี่ขุนไม่กลับบ้านหรือคะ"
"พอดีพี่มีเอกสารต้องเคลียร์ ทำไมเราไม่กลับละ"
"ก็ เรยา รอพี่ขุนไปส่ง" ผมที่นั่งมองหน้าน้อง ก็พอดูออกว่าเธออยากสานสัมพันธ์กับผมแบบไหน แต่ผมไม่อยากจะเล่นคนใกล้ตัวผมมองเธอเป็นแค่น้องสาว อีกอย่าง ตอนนี้กับสมัยก่อนผมก็เบาลงเยอะ คงเป็นเพราะอายุที่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง บทเรียนในอดีต กับรุ่นน้องคนนั้นทำให้ผมรู้สึกผิดละมั้ง ถ้าหากจะย้อนกลับไป ผมไม่เจอเธอมาตั้งห้าหกปีแล้ว ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอหายออกจากมหาลัย จากนั้นผมก็ไม่เจอเธออีก ส่วนเพื่อนๆ ของเธอไม่มีใครพูดถึง ผมเคยให้เพื่อนของผมไปแอบถามไม่มีใครบอก แถมยังถูกด่ามาอีก ผมไม่รู้ว่าที่เธอหายไปนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมหรือเปล่า ถ้าจริง ผมอยากรู้ว่าทำไม เธอถึงตัดสินใจแบบนั้น แต่..ก็นั้นแหละครับ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผมไม่ได้ข่าวเธออีกเลย
"พี่ขุนคะ...พี่ขุนพล"
"ครับ!"
"ใจลอยถึงไหนกันคะ พี่ขุนได้ยินที่เรยาคุยหรือเปล่า"
"อ๋อ.ได้ยิน แต่พี่คงไม่ว่างนะสิ เรยาให้ทางบ้านมารับได้ไหม พี่อยากเคลียร์งานให้เสร็จ"
ผมต้องปฏิเสธน้องไปแบบนั้น เพราะผมอยากเคลียร์งานจริงๆ อีกทั้ง ผมไม่อยากให้ความหวังเรยา ยิ่งพ่อผมกับพ่อเธอเป็นเพื่อนกัน ผมรู้ว่าผู้ใหญ่อยากให้เราสานสัมพันธ์กันอยู่ แต่ผมเห็นเธอเป็นแค่น้อง คนนึงเท่านั้น
"ก็ได้ค่ะ!" เรยาหน้าบึ้งลงทันที ที่ผมบอกแบบนั้นพร้อมกับมองผมอยู่หลายครั้งก่อนจะ เดินออกจากห้องผมไป เมื่อเธอออกไปแล้วผมเลยเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับถอนหายใจ ก่อนจะงุดหน้าลงตามเดิม ไม่นานเท่าไหร่นักพวกไอ้แก๊ปก็เดินเข้ามา
"ไอ้ขุน น้องเรยาเป็นอะไรวะ ถึงได้หน้าบูดขนาดนั้น เมื่อกี้พึ่งเดินสวนกับกู"
"นั้นนะสิ"
ไอ้แก๊ปและไอ้แม็กส์ถามเพราะความอยากรู้แต่ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไง เลยตัดบทถามพวกมันเรื่องอื่น
"เลิกงานแล้วนิ พวกมึงกลับมาทำไม"
"ก็แวะมาดูท่านประธานนี่แหละครับ กลัวตายคาอ๊อฟฟิตซะก่อน"
"เหอะ! คนอย่างขุนพลไม่ตายง่ายๆ หรอกเว้ย ชีวิตยังมีอะไรน่าตื่นเต้นอีกเยอะ"
พอผมพูดไปแบบนั้นพวกเพื่อนสองคนของผมที่นั่งอยู่มันถึงกับยกยิ้มพลางส่ายหัว
"แล้ว..เรื่องตื่นเต้นของมึง กับน้องคนไหนวะ" ไอ้แก๊ป ถามผม
"น้องคนไหนอะไรของมึง แม่ง! ขอให้กูเป็นคนดีบ้างสักวันเหอะ"
"จ้า..ไอ้พ่อคนดี กูจะรอดู มึงจะดีได้กี่วัน ปะ! แม็กส์กลับเถอะ อยู่ไปมันก็ไม่ให้ค่าล่วงเวลาเรา"
ไอ้แก๊ปพูดแล้วก็สะกิดแม็กส์ให้ลุก ก่อนที่พวกมันทั้งสองจะเดินออกจากห้องทำงานผม ส่วนผมก็ยิ้มให้กับคำพูดมันพลางส่ายหัว จะให้ทำไงได้ มีลูกน้องเป็นเพื่อนสนิท มันอยากว่าอะไรมันก็ว่าตามอำเภอใจนิครับ
เริ่มแล้วนะ พ่อคนรูปหล่อ