Chapter .3 คุมขัง...

1613 Words
“เหอะ!! ขอให้จริงเถอะ... ฉันถือว่าที่แล้วไปมันแค่หมาบ้าตัวหนึ่งและฉันแค่ฝันไป เป็นฝันร้ายที่ฉันโคตรขยะแขยง” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้น เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่มีทางสู้หรอก หากชายหนุ่มจะตะบึงใช้กำลัง ทางที่ดีคือทำให้เขารู้สึกถูกเหยียบย้ำศักดิ์ศรี จนไม่อาจฝืนใจทำเลวร้ายซ้ำได้อีก          “หยุด-นะ!!” ฟาเบียนกระซิบเสียงเครียด เขาเค้นเสียงออกมาจากภายในที่กำลังเดือดจัด          “ทำไมคะ? หรือที่ฉันพูดไปมันไม่จริง” ศินาราลอยหน้าตอบ เธอเตรียมกระโจนหนีหากชายหนุ่มขาดสติและย้อนกลับมาบนเตียงอีกครั้ง          “โอ-เคๆ...นอนให้สบายเลยแม่ขยะเปียก เนื้อตัวเน่าเหม็น ฉันคงอยากยุ่งด้วยอย่างนั่นสิ เธอละเมอไปเองล่ะมั้ง คนอย่างฟาเบียน โดโรธีย์ ไม่นิยมเสพอาจม” ชายหนุ่มตวัดสายตาร้อนแรงใส่ เขาข่มกลั้นความปรารถนา และกระแทกใส่หน้าแม่จอมยิ่งให้หน้าหงาย ให้รู้ไปสิว่าคนอย่างเขาจะไม่สามารถ!! วันใดที่ทำสำเร็จ พ่อจะสะบึมหล่อนทั้งคืน ให้หมดเรี่ยวหมดแรงเลยทีเดียว ชายหนุ่มถอยหลังกลับ... เขาพกพาความไม่พอใจไปด้วยเต็มเปี่ยม และไม่มีวันที่เขาจะยอมเสียเชิง ครั้งหน้าเขาจะเอาคืนให้สาสม          ศินาราถอนลมหายใจพรั่งพรู เธอตะเกียกตะกายลงจากเตียงนอน รีบคว้าเสื้อผ้าชุดเดิมๆ ขึ้นมาสวมใส่ พรางเบ้ปาก และพูดเสียงแดกดัน “ขยะเปียก อาจม เชอะ!! ถ้าฉันไม่ห้าม ไม่สู้ คุณคงฟัดฉันน่วมแล้วล่ะคนบ้า ยี๋!! นมฉันเปียกน้ำลายเยิ้มไปหมด ยังจะบอกว่าขยะแขยง”          เนินถันอวบอิ่มเปียกเยิ้มคราบน้ำลายเหนียวๆ จนศินาราทนสวมเสื้อตัวเดิมกลับลงไปบนตัวไม่ไหว เธอต้องล้างคราบสกปรกนี่ออกไปเสียก่อน          สายน้ำอุ่นซ่านรินรดลงมาจากฝักบัวกระบอกโต หญิงสาวแหงนเงยใบหน้ารับสายน้ำนั้น เธอขยี้ผมยาวสลวยจนฟองเต็มศีรษะ พริ้มเปลือกตาหลุบลงไม่ให้ฟองฟูๆ ไหลเข้าในนัยน์ตา เป็นการอาบน้ำที่มีความสุข หากตัดเรื่องแย่ๆ ที่ตัวเองเจอออกไป เธอพยายามไม่สนใจคนป่วนที่คอยก่อกวนวิถีชีวิตของเธอ ก็คงต้องพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจให้ได้ในสักวันหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องติดแหงกอยู่แบบนี้ ...มันไม่ใช่เรื่องสนุก...          ในขณะเดียวกัน ฟาเบียนกำลังโกรธ... โกรธที่ตัวเองหลงใหลยัยนั่น ยัยผู้หญิงสกปรกที่แค่สลัดผ้าออกจนหมด แล้วสวย...ถูกใจ...          “ยัยบ้า” เขาพึมพำก่นด่าศินารา มือแข็งแรงยกแก้วบรั่นดีกระดกใส่ปากไม่หยุด เพื่อให้ความรุ่มร้อนในกายลดทอนลง เขาไม่อยากกลายเป็นไอ้โจรบ้ากาม ให้ยัยนั่นกระทบกระเทียบเอาให้เจ็บใจ          “ชึ้ย!! เห็นตัวบางๆ นึกว่าผอมเป็นไม้เสียบผี ที่ไหนได้” ชายหนุ่มก่นด่าตัวเอง เขาคาดการณ์ผิดเป็นครั้งแรก หลงดูแคลนหล่อนอยู่เป็นนาน ไม่น่าเชื่อว่าหลังอาภรณ์สกปรก ศินารากลับซ่อนความอวบอิ่มที่แสนเย้ายวนเอาไว้ “ใหญ่ไม่ใช่เล่น ต้องเปลี่ยนคำเรียกใหม่...เรียกยัยแห้งไม่ได้แล้ว ต้องเรียกยัยอึ๋มแทน” เขาหัวเราะคิกคักอารมณ์ดีขึ้นกว่าเก่าเป็นกอง เมื่อในสมองพิมพ์ภาพของศินาราเปลือยเปล่าเอาไว้ เขาจำได้แม่น!! จำให้ถึงแก่นใจ...ทุกซอกทุกมุม ทุกกลิ่นและทุกรูขุมขน ยัยนั่นต้องเป็นของเขาโทษฐานที่หล่อนทำให้เขาเสียหน้า          “ศินารา...”          “ชิ้ว!!” มือเรียวบางยกปิดปากแทบไม่ทัน จู่ๆ เธอก็จามออกมาสุดแรง เหมือนมีใครบางคนบ่นถึง หวังว่าคงไม่ใช่หมอนั่นน่ะ          เธอย่นจมูกบิดๆ เบี้ยวๆ ชุดเก่าเหม็นเปรี้ยวจนเกินจะทนไหวจริงๆ ต่อให้อาบน้ำชำระร่างกายจนสะอาด แต่กลับต้องสวมใส่เสื้อผ้าตัวเดิม...มันก็มีค่าเท่ากัน... เธอรีบเดินสำรวจห้องชุดนี่เป็นครั้งแรก เมื่อไม่มีทางหนี... ก็คงต้องหาทางเอาตัวรอด เธอต้องอยู่กับมันให้ได้ อยู่ให้ถึงวันที่เป็นอิสระ...ผู้ชายคนนั้นจะมากักกั้นเธอไว้ตลอดชีพไม่ได้          “ยี้!! มีแต่ชุดโป้ๆ โรคจิตหรือไงนะ ชอบให้ผู้หญิงใส่เสื้อโชว์นมต้ม” หญิงสาวเบ้ปาก เธอเบือนหน้าหนี เมื่อเปิดประตูตู้เสื้อผ้า ในนั้นมีแต่ชุดบางเบา เว้าแหว่ง มันชี้ให้เห็นว่ารสนิยมของฟาเบียนเหลือรับ เธอไม่นิยมโชว์ของสงวนของตัวเองให้ใครดูฟรีๆ แต่ศินาราก็ยังไม่ละความพยายาม เธอจำเป็นต้องมีเสื้อผ้าพลัดเปลี่ยน ไม่อย่างนั้นคงคันเนื้อตัวคะเยอ และแล้วเธอก็ประสบความสำเร็จ มุมตู้มีเสื้อผ้าผู้ชายซุกอยู่ ตัวมันใหญ่โคร่งและมันน่าจะพอใช้ได้ เพราะมันไม่บางเบาจนน่าเกลียด เธอคว้าเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ยักษ์ กับกางเกงขาสามส่วน แต่เมื่อสวมบนร่างกายตัวเอง ต้องขมวดปมและม้วนขึ้นมาเยอะพอดู          “ค่อยยังชั่ว นึกว่าต้องทนดมกลิ่นเหม็นๆ ไปอีกนาน คนบ้านั่นจะกักเราไว้จนถึงเมื่อไรนะ”          เมื่อจัดการเรื่องเสื้อผ้าจบ หญิงสาวเริ่มเดินพล่านอีกครั้ง ครั้งนี้เพื่อหาอะไรใส่ปากใส่ท้อง เพราะท้องไส้เธอร้องเตือน มันเลยเวลารับประทานอาหารมาหลายชั่วโมงแล้วน่ะซี          หลังเดินวนภายในห้องมาหลายนาที สิ่งที่เธอต้องการก็หามาจนได้ ในตู้เย็นหลังโต หลบซ่อนอยู่มุมหนึ่งในครัวทรงโมเดิร์นที่แทบจะไม่เคยมีใครใช้สอย...เธอทำแซนวิชง่ายๆ จากวัตถุดิบที่มี ได้แซนวิชอันโตๆ มาสี่ชิ้น และคงพอทำให้เธออิ่มท้องได้จนถึงเช้า...          “ทำครัวเสียสวยเลิศ แต่แทบจะไม่อะไรให้ทำกินได้ ไม่รู้จะสร้างไว้ให้เปลืองสตางค์ทำไม” เธอกัดแซนวิชชิ้นโตๆกร้วมๆ เมื่อมันหิวจัดจนแทบจะตาลาย และหากเธอไม่มีแรง หากเขาคนนั้นย้อนกลับมา เธออาจจะพลาดท่า เสียทีให้กับเขา เพราะฉะนั้นเธอต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม          ฟาเบียนเกือบจะเดินถอยหลัง เขาสู้อุตส่าห์เป็นห่วง เพราะรู้ว่าเจ้าหล่อนยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง แถมเจ้าหล่อนยังใช้พลังงานเสียมากมาย ในการชวนเขาทะเลาะและดิ้นต่อสู้ จึงแบกอาหารถาดโตมาให้ แต่ความหวังดีของเขาเป็นหมัน เมื่อมาเจอศินารากำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารในจาน หล่อนไปเอามาจากไหนหว่า?          ความจริงเขาก็ไม่ใช่คนเจ้าอารมณ์เท่าไร? แต่รู้สึกว่าไอ้ต่อมหงุดหงิดของเขาทำงานดีเสียจริง นับตั้งแต่พบเจอกับผู้หญิงคนนี้ หล่อนช่างทำอะไรให้เขาโกรธได้ง่ายๆ และมักจะหงุดหงิดบ่อย ยามที่ถูกขัดใจ เขารู้สึกว่าครั้งนี้ความหวังดีของเขา เจ้าหล่อนจะไม่ต้องการ เมื่อเขาเห็นจะๆ ตาว่าหล่อนกำลังเจริญอาหาร ซึ่งไปค้นมาจากไหนไม่รู้          “พึ่งรู้ว่าเธอชอบคุ้ยขยะกินด้วย แค่ตัวกลิ่นเหมือนขยะอย่างเดียวไม่พอหรือ?”          เขาพูดเสียงเคร่ง ทิ้งตัวลงนั่งและกระแทกถาดในมือวางลงตรงหน้าตัวเอง ปลายตามองจานอาหารตรงหน้าหล่อนหมิ่นๆ แค่ขนมปังกับไข่ดาว มันจะอร่อยอะไรหนักหนา สู้อาหารเหลาในมือเขาได้หรือไง? ฟาเบียนคิดเพลียๆ เขาเหนื่อยที่จะต้องคอยเป็นห่วง!! ไม่!! ไม่มีทาง เขาไม่รู้สึกอะไรเลยกับยัยหนูสกปรกคนนี้ ไม่มีวัน          ศินาราขยับตัวเตรียมพร้อม เธอกัดขนมปังในมือพรางเหลือบมองถาดใบใหญ่ที่มีจานอาหารวางอยู่ แต่มันถูกปิดด้วยฝาครอบ จึงได้แต่รีรอ เพราะผู้ชายตรงหน้า หน้างี้หงิกเป็นม้าในกระดานหมากรุกเลย          “มันไม่ใช่ขยะค่ะ ศิริน เอ๋ย!! ฉันเห็นว่าวันหมดอายุยังไม่หมด แล้วฉันกินได้” เธอเถียงเสียงขุ่น รีบยัดขนมปังใส่ปากแล้วฉวยน้ำในแก้วขึ้นมาดื่มอักๆ เพราะความรีบร้อนทำให้ขนมปังก้อนใหญ่ติดคอ          “ศิริน...แบบนี้ก็ดี ดีกว่าฉัน!! เยอะแยะ เป็นผู้หญิงประสาอะไร ไม่มีความอ่อนหวานสู้...แคทเทอรีนก็ไม่ได้ รายนั้นนะหวานจวนจะหยด” ชายหนุ่มพูดเปรยๆ เขาเองก็หิว เลยเปิดฝาครอบเพื่อลงมือรับประทาน แม้จะต้องกินคนเดียว!!          ชิ!! เปรียบเธอกับผู้หญิงสวยฉ่ำอย่างแคทเทอรีน แล้วเธอจะไปสู้เจ้าหล่อนได้ยังไง ก็ตัวเองนะยังกับม้าดีดกะโหลก...ห่างไกลเรื่องความอ่อนหวานหลายกิโล...กลิ่นหอมๆ ของอาหารปรุงสุกใหม่โชยฟุ้ง ศินารากลืนน้ำลายเอือกๆ เธอมองจานใส่อาหาร ถ้าเดาไม่ผิด มันน่าจะเป็นผักโขมอบชีส อาหารสุดโปรดของตัวเอง กลิ่นผักโขม กลิ่นชีสลอยฟุ้ง จนต่อมน้ำลายของเธอแทบแตกพุ่ง มันสอจ่อรออยู่ในปาก แหมๆ อีกจานนั่นน่าจะลาซานญ่า ตามด้วยมันฝรั่งอบชีสเบคอน เขาจะขุนตัวเองให้อ้วนในคราวเดียวหรือยังไงกัน ถึงได้เน้นเมนูชีสเหลือเกิน ศินาราค้อนประหลับประเหลือก เธอแค่นกินขนมปังชืดๆ ที่ก่อนหน้านี่อร่อยสุดๆ ลงไปในลำคออย่างกระแทกกระทั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD