หลังจากที่ชวิศขับรถออกไปแล้วบ้านก็กลับมาเงียบเสียงอีกครั้ง เธอไม่รู้จะคุยอะไรกับเขาต่อจนกระทั่งหนุ่มน้อยทำให้บรรยากาศกลับมาเป็นปกติด้วยการขอให้เธอพาไปเข้าห้องน้ำ ชรัณแยกไปอาบน้ำอีกครั้งเพราะการออกไปตรวจความเรียบร้อยของไร่แต่ละทีก็ทำเอาเขาเหงื่อตกตัวเปียกชื้น
ชายหนุ่มเดินผ่านห้องของลูกชายก็ได้ยินหญิงสาวกำลังอ่านนิทานให้หนุ่มน้อยฟัง น้องชลนอนซบอยู่ที่อกอุ่นของหญิงสาวที่ตั้งใจอ่านนิทานโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีคนตัวโตกำลังแอบมอง ภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกมีความสุขและเศร้าใจในเวลาเดียวกัน หากว่าภรรยาของเขายังมีชีวิตอยู่เธอก็คงจะนอนกอดลูกน้อยแบบนี้เหมือนกัน เขาและนีราภาแต่งงานกันเพราะพลาดพลั้งมีอะไรกันแล้วหญิงสาวก็เกิดตั้งท้อง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเขาก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ผู้ใหญ่สองฝ่ายจึงจับให้เขาและเธอแต่งงานกันและประกาศให้คนอื่นๆรับทราบ เขาและเธอใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเหมือนเพื่อนรักที่เข้าใจและหวังดีต่อกันเสมอ จนกระทั่งเธอจากไปเขารู้สึกเสียใจมากที่สูญเสียคนที่รักไปอีกครั้ง เขามองออกไปยังท้องฟ้ากว้างไกลแล้วก็พูดถึงนีราภาน้ำเสียงแผ่วเบาว่า
“ผมขอให้คุณไปอยู่ในภพภูมิที่ดีนะครับนี ส่วนลูกคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะผมจะดูแลเขาเอง” จบประโยคชายหนุ่มก็หลับตาลง เป็นจังหวะที่ปรียาดาเปิดประตูออกมาพอดี
“ว๊าย คุณมายืนทำอะไรตรงนี้คะปรีตกใจหมด”
“ขอโทษที่ทำให้ตกใจครับผมแค่จะมาดูว่าตาชลนอนกลางวันหรือยัง”
“นอนแล้วค่ะ นิทานยังไม่ทันจบเรื่องก็หลับแล้ว”
“คุณเลี้ยงเด็กเก่งเหมือนกันนะ ปกติกว่ากุลกับกานต์จะเอาน้องชลนอนได้ก็แทบแย่”
“จริงหรอคะแต่กับปรีแกไม่ดื้อเลยนะคะ คุณใส่ร้ายแกหรือเปล่าคะเนี่ย”
“ผมไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกนะครับ ผมจะเข้าไปในเมืองคุณอยากจะไปด้วยไหมผมจะแวะห้างให้เผื่อคุณอยากซื้อของใช้ส่วนตัว”
“ไปค่ะไป คุณรอปรีแปบนึงนะคะ”
“ครับ”
หลังจากที่ฝากให้กุลกับกานต์ดูแลหนุ่มน้อยแล้วเธอก็ออกไปข้างนอกกับชายหนุ่มทันที นอกจากเขาจะพาเธอมาซื้อของแล้วเขายังนำผลไม้มาส่งร้านค้าสองแห่งด้วย
“วันนี้มาเองเลยหรอคะนายหัว”
“พอดีผมมาทำธุระอย่างอื่นด้วยน่ะครับ”
“โอ๊ะ! นั่นใครมาด้วยคะสวยเชียว”
“พี่เลี้ยงของตาชลน่ะครับ”
“พี่เลี้ยงนี่คัดจากอะไรคะหน้าตาหรือเปล่าเอ่ย”
“ผมไม่ได้หาเองหรอกครับ พี่ชายผมเขารู้จักกันเลยแนะนำมา”
“อย่างนี้นี่เอง น่ารักออกอย่างนั้นนายหัวก็จีบเลยสิคะ หนูคนนี้เขาโสดไหมคะ”
“ไม่ทราบเลยครับ ผมยังไม่ค่อยได้คุยเรื่องส่วนตัวกันสักเท่าไร”
“ถ้านายหัวไม่สนขอมาเป็นลูกสะใภ้ป้าก็แล้วกันนะคะ”
“ฮ่าๆ ขออย่างนี้เลยหรอครับ เรื่องอย่างนี้มันอยู่ที่เจ้าตัวเขาด้วยนะครับ”
“ป้าแซวเล่นค่ะ เรียบร้อยแล้วนายหัวไปทำธุระต่อเถอะค่ะเดี๋ยวจะช้า”
“ครับ ผมไปก่อนนะครับ” ปรียาดาไม่ได้ลงจากรเลยไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกันแต่หลายครั้งที่มองมายังเธอ
“คุณดูสนิทกับป้าเขาจังเลยนะคะ”
“ก็ค้าขายกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแล้วน่ะครับ”
“ดีจังมรดกตกทอดใช่ไหมคะ”
“ก็คงงั้นครับ คุณลงไปซื้อนะครับผมขอรออยู่ที่รถ” เมื่อรถมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าเขาก็ให้เธอลงไปซื้อของ
“คุณจะมานั่งรอร้อนๆทำไมละคะลงไปพร้อมกันนั่นแหละดีแล้ว”
“…”
“นะคะ ความจริงฉันกลัวหลงค่ะ”
“ก็ได้ครับ” เขายอมลงไปซื้อของกับเธอแต่โดยดีเพราะคนข้างกายทำท่าเหมือนกับจะร้องห้าเขาไม่ลงไปพร้อมกับเธอ เธอทำเหมือนเธอเป็นเด็กสามขวบอย่างไงอย่างงั้น เสื้อผ้าที่หญิงสาวมีมันใช้ไม่ได้กับที่ไร่ เธอเลยตั้งใจซื้อเสื้อผ้าใหม่ยกเซ็ต ชายหนุ่มนั่งรอเธอเลือกเสื้อผ้าจนรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำและเป็นจังหวะที่เธอเข้าไปลองชุด เขาเลยขอตัวออกไปทำธุระส่วนตัวบ้าง หญิงสาวพอเลือกเสื้อผ้าเสร็จก็นำไปคิดเงินที่เคาน์เตอร์ เมื่อเดินออกจากร้านก็นึกได้ว่าเธอไม่ได้มาคนเดียว แต่พอหันซ้ายแลขวาแล้วก็ไม่พบกับชายหนุ่ม เมื่อเดินเข้าไปถามพนักงานพนักงานก็บอกว่าเขาเดินออกไปสักพักแล้ว หญิงสาวเหงื่อชื้นมือขึ้นมาดื้อๆหรือว่าเขาจะเอาเธอมาปล่อยทิ้งไว้ที่นี่นะ
“ฮึก คนใจร้ายแค่นี้ทำไมต้องหนีกลับก่อนด้วยเล่า” เธอร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่ได้แล้วก็ทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้น ชายหนุ่มหลังจากที่ทำธุระเรียบร้อยก็วนกลับมาหาหญิงสาว
“คุณ! เกิดอะไรขึ้นคุณร้องไห้ทำไม”
“ฮือ ฮึกๆ คุณไปไหนมาฉันคิดว่าคุณจะทิ้งฉันซะแล้ว”
“ไม่ทิ้งๆผมจะทิ้งคุณได้ยังไงหยุดร้องก่อนเร็วเข้า คนมองใหญ่แล้ว”
“ฮือ ก็คนมันตกใจนี่” นอกจากจะไม่หยุดร้องเธอยังโผเข้ากอดเขาแนบแน่น ชายหนุ่มทำอะไรไม่ถูกได้แต่อยู่นิ่งๆ กลิ่นหอมจากกายของเธอทำให้เขารู้สึกว่าหัวใจที่มันด้านชากับเต้นระรัว รอจนเธอเริ่มสงบนิ่งเธอจึงค่อยๆคลายอ้อมกอดออก
“โอเคหรือยังครับผมแค่ไปเข้าห้องน้ำเอง”
“ดะ ดีแล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่เผลอกอดคุณ”
“ครับ ก็คุณไม่ได้ตั้งใจนี่” พฤติกรรมแปลกๆของเธอทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าเธอเคยเจอเรื่องร้ายแรงอะไรมาในอดีต มีโอกาสเขาคงต้องถามจากพี่ชายให้รู้เรื่องเพราะลูกชายของเขายังไม่งอแงเท่าเธอเลย
"จะไปเดินดูอะไรอีกไหมครับ"
"ขอเป็นในซุปเปอร์ก็แล้วกันค่ะ ปรีอยากได้ของสดนิดหน่อย"
"โอเคครับ" จากนั้นชายหนุ่มก็พาเธอไปเลือกซื้อของตามที่หญิงสาวต้องการ เธอหยิบจับสิ่งต่างๆอย่างคล่องแคล่ว เวลาได้มองเธอนั้นดูเพลิดเพลินไม่น้อย เขานั้นขอเป็นคนจ่ายเงินเองทั้งหมด และกว่าเธอจะยอมให้เขาจ่ายก็ต้องหาเหตุผลมาอธิบายร้อยแปด
"ขอบคุณนะคะ"
"จะต้องขอบคุณทำไมละครับในเมื่อคุณจะทำกับข้าวให้ผมกับลูกทาน"
"อะ เอ่อใช่ค่ะ" เธอรู้สึกเขินอายกับคำพูดของชายหนุ่มขึ้นมาดื้อๆเหมือนว่าเธอกับเขาเป็นสามีภรรยากันอย่างนั้นแหละ
"คุณปรีร้อนหรอครับผมเร่งแอร์ให้ดีกว่า"
"อะ เอ่อค่ะ" เธอรีบพยักหน้าหงึกๆเพื่อไม่ให้เขาจับสังเกตถึงสิ่งผิดปกติได้
"ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าคุณจะทำกับข้าวได้"
"อย่าเพิ่งดูถูกกันสิคะ เห็นอย่างนี้ปรีก็เป็นคนสู้ชีวิตมากนะคะ อะไรที่ผู้หญิงคนอื่นทำได้ปรีเองก็ทำได้เหมือนกันค่ะ" เธอตอบกลับอีกฝ่ายด้วยความมั่นอกมั่นใจ
"ครับๆ ผมเชื่อแล้ว"
"เชื่อไหมละคะว่าปรีทำงานหาเงินปิดหนี้ให้ที่บ้านได้ภายในสองปี ปรีทำทุกอย่างเพื่อความสบายใจของคุณแม่ หลังจากคุณพ่อเสียปรีเหลือท่านแค่คนเดียวปรีก็ต้องดูแลท่านให้ดี"
"แล้วมาอยู่ที่ไร่แบบนี้ท่านไม่ว่าอะไรหรอครับ"
"คุณแม่ท่านเสียแล้วค่ะ ไม่นานมานี้เองแต่ปรีพอจะทำใจได้แล้วนะคะดีที่มีเจ๊ เอ้ย! พี่ชวิศของคุณชรัณคอยให้กำลังใจปรีตลอด"
"คุณเป็นผู้หญิงที่น่าทึ้งมากเลยครับ" เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ชายถึงเลือกปรียาดามาดูแลลูกชายของเขา